27 ปี ที่ได้รู้จัก และ รักษา... เขียนถึง "วันครบรอบ" บ้าง วันแรกที่ได้รู้จัก และ เริ่มเรียนรู้กันอย่างจริงจัง คือ 5 เมษายน 2530 เมื่อได้รู้คุณค่าแล้ว ก็รักษาไว้ ตลอดมา...27 ปีแล้ว สิ่งที่ได้รู้จักและได้รักษา นั้น คืออะไรเอ่ย? ...เฉลย... ...เฉลย... ...เฉลย... คือ...ศีล...ค่ะ ^^ อะไร? ทำให้ ผู้เขียน ตั้งใจรักษา ศีล ตลอดมา... ขอตอบว่า 1. ได้รู้ว่า ศีล คือ ปกติของมนุษย์ค่ะ ทุกชีวิต ล้วนรักตัว...กลัวตาย เราไม่ต้องการให้ใครมาฆ่าเรา เราก็จะไม่ฆ่าใครทั้งนั้น ทรัพย์ของใคร ๆ ก็รัก ก็หวง เราไม่ต้องการให้ใครมา "ลัก" ทรัพย์ เรา เราก็ไม่แย่งชิงทรัพย์ผู้อื่น ครอบครัวใคร ๆ ก็รัก เราต้องการครอบครัวที่อบอุ่น ไม่ต้องการให้ใครมาล่วงละเมิด คนรักของเรา เราก็จะไม่ล่วงละเมิด ประทุษร้าย คนรัก ของผู้อื่น การถูกหลอก ทำให้เสียใจ ช้ำใจ และ อาจทำให้เกิดการตัดสินใจผิด ๆ เสียทรัพย์สิน และ ชีวิต เราต้องการ อยู่ในสังคมที่ไว้เนื้อเชื่อใจได้ ไม่ต้องการถูกหลอกลวง เราจะไม่หลอกลวง พูดเท็จต่อผู้อื่น ความประมาท ขาดสติ ทำความชั่วได้ทุกอย่าง และผิดศีลได้ทุกข้อ ที่จะนำมาซึ่งความเสียใจ ทุกข์ใจ อย่างใหญ่หลวง เราต้องการมี สติปัญญา กลัวเกรงอันตรายจากคนเมา ขาดสติ เราก็จะไม่เป็นบุคคลอันตรายต่อผุ้อื่น ด้วยการไม่ดื่มน้ำเมา สิ่งเสพติด ทั้งหลาย ง่าย ๆ อย่างนี้แหละค่ะ นึกเทียบกับ สิ่งที่เราต้องการ และ ความทุกข์ที่จะเกิดขึ้น หากมีใครมา ทำผิดศีล กับเรา 2. ได้รู้ว่า หากเราไม่รักษาศีล จะมี ทุกข์อันใหญ่หลวง รออยู่ ตั้งแต่ ทุกข์จาก ศัตรู (ผู้ที่เราไปเบียดเบียน นั่นแหละค่ะ) ทุกข์จากโรคภัยเบียดเบียน เช่น โรคอัลไซเมอร์ (จากการโกหก ตัวเอง และ ผู้อื่น ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า จนหลงลืม) โรคพิษสุราเรื้อรัง และ ทุกข์ที่สุด คือ ทุกข์จากผลกรรม (ดังที่กล่าวไว้ ใน สัพพลหุสสูตร) ย่อ ๆ คือ โกหก นั้นตายตกนรกกกกกก (ประโยคนี้ มาจากบทเพลงฮิต ในอดีตค่ะ) มิใช่เพียง การโกหก เท่านั้น การฆ่าสัตว์ การลักขโมย การเป็นชู้ ล่วงละเมิดลูก สามี ภรรยา ของผู้อื่น การโกหก หลอกลวง และ การดื่มน้ำเมา ยาเสพติด ล้วนตายแล้วตกนรก กันทั้งนั้นค่ะ และ เมื่อได้โอกาสเกิดเป็นมนุษย์ ก็จะ มีลักษณะดังนี้ ผิดศีลข้อ 1 อายุสั้น ผิดศีลข้อ 2 เดือดร้อนจากการขาดแคลนทรัพย์ มีทรัพย์แล้ว ก็วิบัติ ในรูปแบบต่าง ๆ ผิดศีลข้อ 3 มีศัตรูมาก (เป็นที่รังเกียจ ใคร ๆ ก็ไม่รัก) ต้องเดือดร้อน จากการถูกกลั่นแกล้ง รุมรังแก สารพัด ผิดศีลข้อ 4 - ผลจากการพูดโกหก ก็จะถูกใส่ร้ายป้ายสี บางคนอาจทุกข์ จนฆ่าตัวตาย - ผลจากการพูดส่อเสียด ทำให้ต้องทะเลาะกับเพื่อน ถึงขั้นแตกหัก อยู่เนือง ๆ - ผลจากการพูดคำหยาบ ทำให้ต้องเกิดในสังคมที่มีแต่เสียงด่าทอ ทะเลาะวิวาท อยู่เสมอ - ผลจากการพูดเพ้อเจ้อ ทำให้ไม่น่าเชื่อถือ (ไม่มีเครดิต แม้จะถือบัตรเครดิต ^^) ทำอะไรก็ไม่ประสพความสำเร็จ ผิดศีลข้อ 5 ทำให้เป็นโรคจิต เลื่อนลอย ไม่มีสติ (บ้า ใบ้ ปัญญาอ่อน) 3. ได้รู้ว่า การรักษาศีล จะทำให้เราได้ สมบัติ มาอย่างง่าย ๆ (จริงนะ เพราะ "ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน" ค่ะ อันนี้ เป็นสุภาษิต ที่ท่านบิดา (เตี่ย นั่นแหละ) สอนผู้เขียนมาตั้งแต่เล็ก ๆ ทำการค้าต้องซื่อสัตย์ คนจีนจะรักษา ชื่อเสียง ป้ายร้าน ยี่ห้อร้าน ไว้อย่างเคร่งครัดทีเดียว เพราะทราบว่า เป็นทางมาแห่งรายได้) การรักษาศีล ทำให้ มีชื่อเสียงดี มีเครดิต (จริงอีกแหละ) การรักษาศีล ทำให้ มีความองอาจ เมื่อไปในที่ใด ก็ไม่เก้อเขิน (อันนี้จริงค่ะ หากเรารักษาศีล บริสุทธิ์ เราจะสบตาใคร ๆ ได้อย่างเต็มตา ไม่มีอาย ไม่มีเขิน ไม่ต้องหลบ กันเลยทีเดียว ) การรักษาศีล ทำให้มีสติบริบูรณ์ แม้ยามที่ต้องจากโลกนี้ไป (อันนี้ ยังมิได้พิสูจน์ค่ะ ) การรักษาศีล ทำให้มีสุคติ เป็นที่ไป (อันนี้ ก็ยังมิได้พิสูจน์ค่ะ ) ด้วยเหตุผล ทั้งสามข้อ นี้แหละค่ะ ทำให้ผู้เขียน รักษาศีล มาจนถึงปัจจุบัน ส่วนว่า รักษาแล้ว มีอันต้อง หลุดร่วง หล่นแตก บ้างมั้ย ขอตอบว่า "มี" ค่ะ แต่ขออุบ ไว้โอกาสหน้า นะคะ เพราะวันนี้ ก็ออกจะยาววววว มากแล้ว (สมกับเวลา 27 ปี กันเลยทีเดียว ) ขอบคุณ คุณขโมย (ศีลใหญ่ที่พลาดในปัญญาธรรม) ที่มาเยี่ยมกันค่ะ
ส่วนตัวยอมรับว่า ไม่มีภูมิปัญญา ที่จะเข้าใจ ได้เลยค่ะ ว่า สิ่งที่เป็นธรรมชาติ นั้น มี เจ้าของ ที่เล่าเรื่องการรักษาศีล เนื่องจาก ได้ยิน หลาย ๆ คน บ่นท้อใจ ว่า "สังคมทุกวันนี้ อยู่ยากขึ้นทุกวัน" หลายคนท้อ มาก ๆ เพราะไม่รู้จะไปอยู่ในสังคมใดดี ผู้เขียนจึงอยากจะให้กำลังใจ ทุกท่าน ว่าในเมืองไทยเรานี้ ยังมีผู้ที่ตั้งใจรักษาศีล อยู่เป็นหมื่น ๆ คนค่ะ และขอเชิญชวนให้มารักษาศีลกันค่ะ การเฝ้าระวังชีวิต และ ทรัพย์สิน ด้วยการ หาอาวุธ มาป้องกันตัว เป็นการป้องกันในลักษณะตั้งรับ โดยที่เราไม่รู้ว่า คนร้ายจะมาเมื่อไร รูปแบบไหน แต่การรักษาศีล เป็นการป้องกันในเชิงรุก กล่าวคือ เรารุก โดยการ สร้างสังคมใหม่ ให้มีความปลอดภัย ในชีวิต และ ทรัพย์สิน... เมื่อทุกคนในสังคมรักษาศีล เราก็ไม่ต้องกังวล ในความปลอดภัยของชีวิต และ ทรัพย์สิน อีกต่อไปค่ะ โดย: vlovethai วันที่: 15 เมษายน 2557 เวลา:18:10:32 น.
|
บทความทั้งหมด
|
หากเราต้องเสพของเขา โดยที่เราก็ไม่มีหลักฐานว่า เขาเป็นหนี้สิ่งที่เราเสพเมื่อไร ปริมาณเท่าใด เราคำนวนการใช้จ่ายสิ่งนั้น จ่ายมูลค่าไปก่อน ก็ไม่ได้ แต่ไม่เสพไม่ได้ตายแน่ ฉะนั้น เราก็ระลึก กตัญญูขอบคุณก่อนจ่ายได้นี่นา แต่หากเราไม่ทำเช่นนั้น "ขโมย"เขาเสพทุกนาทีก็ว่าไก้ ขโมยมานานเท่าไรแล้วล่ะ นี่คือศีลข้อขโมยที่พี่น้องไทยหลงหรือไม่
แล้วต่อจากนี้ เรายังเพิกเฉยต่อไปอีก ทั้งๆที่ได้รับข่าวสาร ได้รับการบอกกล่าวเรื่องอันตรายนี้แล้ว เราก็มุสา ศีลอีกข้อแล้วนะ
ฉะนั้น เตือนมายังผู้มุ่งปฎิบัติธรรมทั้งหลายในเรื่องศีลพื้นๆนี้เสมอๆครับ กตัญญูไปเถิด ปลอดภัยกว่า.