กระเป๋าพยาบาลสำหรับแมวเหมียว หน้า blog นี้มาจากส่วนหนึ่งของกระทู้ ===== กระเป๋าพยาบาลสำหรับแมวเหมียว ===== //topicstock.pantip.com/jatujak/topicstock/2007/03/J5244333/J5244333.html ในคลังกระทู้เก่า เนื่องจากไม่รู้ว่า กระทู้ในคลังจะโดนลบทิ้งเมื่อไหร่ จึงได้ทำการเก็บกระทู้ความรู้ที่น่าจะมีประโยชน์เอาไว้ใน blog แทน จากกระทู้ ##.. มาตั้งกระทู้เนื่องจากความเศร้าใจ ..ขอนำเรื่องการป้องกันอุบัติเหตุเบื้องต้นสำหรับลูกรัก มาฝากค่ะ## ที่ //topicstock.pantip.com/jatujak/topicstock/2007/03/J5240868/J5240868.html อย่างที่บอกนะครับว่าเรื่องการเจ็บไข้ได้ป่วย การให้ยาแมวควรปรึกษาหมอหรือพาไปหาหมอเป็นวิธีการที่ดีที่สุด แต่ในกรณีเกิดอุบัติเหตุ อันไม่สามารถไปหาหมอได้ในทันท่วงนี้ ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้า สิ่งที่ควรมีไว้ในกระเป๋าพยาบาลของแมวเหมียว ควรมีดังนี้ ปล.เพื่อนๆมีอะไรแนะนำเพิ่มเติมก็โพสลงมาเพิ่มได้เลยนะครับ ปล2. กระทู้นี้ไม่ใช้กระทู้วิชาการนะครับ แต่เป็นการเล่าให้เพื่อนๆห้องแมวฟังมากกว่า ดังนั้นไม่มีศัพท์วิชาการอะไรทั้งสิ้นครับ 1. น้ำเกลือล้างแผล ใช้ NSS (Normal Saline Solution) ใช้ล้างทำความสะอาดแผลกรณีที่แผลสกปรกมีฝุ่นหรือดินติดมากๆ ที่ใช้ NSS เนื่องจากใช้แล้วไม่ค่อยแสบครับ ปล.น้ำเกลือมีหลายประเถทครับ แต่ที่ใช้ล้างแผลคือ NSS นะครับ ![]() 2. ปลอกคอ (collar) ควรมีขนาดที่พอดีกับเจ้านายที่บ้านไว้สัก 1 อัน เวลาเกิดแผลขึ้นมา ใส่ไว้ก่อน ป้องกันการทำร้ายตัวเอง (การเกาบริเวณใบหน้า และการเลียแผลบริเวณส่วนท้ายลำตัว) อันนี้สำคัญนะครับ บางครั้งเจ้านายที่บ้านเริ่มเป็นแค่แผลเพียงเล็กๆ แต่ถ้าเลียหรือเกามากๆแผลจะอักเสบติดเชื้อและแผลใหญ่ขึ้นมากกว่าเดิมมากเลยครับ ![]() 3.กลุ่มยาล้างทำความสะอาดแผล 3.1 แอลกอฮอล์ ใช้เช็ดรอบๆแผลนะครับ ไม่ใช้เช็ดที่แผลโดยตรง เพราะแอลกอฮอล์มีฤทธิ์กัดเนื้อเยื่ออ่อน สังเกตุง่ายๆครับ เวลาเราเป็นแผลแล้วเช็ดแอลกอฮอล์ที่แผลเราจะแสบครับ เจ้านายที่บ้านก็แสบเหมือนกัน ปล. สินค้าหรือยามันมีหลากหลายยี่ห้อนะครับเลือกใช้ตามความสะดวกของทาสแมวครับ รูปที่มาโพสแค่ถ่ายของที่อยู่ใกล้ๆตัวมาให้ดูก่อนเท่านั้นเองครับ ![]() 3.2 ไฮโดรเจน เพอร์ออกไซด์ ยาล้างแผลตัวนี้ เวลาใช้ทาไปที่แผลจะเป็นฟองขาวๆฟู่ๆ ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ ที่ขายกันมีอยู่ 2 ความเข้มข้นครับ คือ 3% และ 6% ดูที่ข้างขวด (ตัวอย่างในรูป คำว่า 3% จะอยู่เหนือราคา 30 บาทที่ขวดน่ะครับ) 3% นำมาล้างแผลได้เลย 6% ต้องเจือจางผสมน้ำ ในอัตราส่วน 1:1 ก่อน ไฮโดรเจน เพอร์ออกไซด์ ใช้ล้างแผลที่มีคราบเลือดคราบหนองมากๆ ครับ จะช่วยล้างเลือดและหนองที่แห้งกรังบนแผลได้ดีทีเดียว ล้างแผลให้สะอาดก่อนแล้วค่อยแต้มยาตัวอื่นต่อไป ปล.กรณีเลือดเลอะที่เสื้อผ้า ใช้ ไฮโดรเจน เพอร์ออกไซด์ แต้มบริเวณที่เลอะ และค่อยเอาไปซัก ก็ได้ครับ ![]() 3.3 โปรวิโดนไอโอดีน หรือที่ทาสแมวชาวไทยรู้จักกันในยี่ห้อ เบตาดีน เมื่อล้างแผลสะอาดแล้วเวลาแต้มยาก็ใช้ เบตาดีนแต้มนี่ล่ะครับ (เนื่องจากเบตาดีนออกฤทธิ์ได้ไม่ดีเมื่อมีคราบหนองหรือเลือดอยู่ ดังนั้นก่อนแต้มควรล้างแผลให้สะอาดก่อนนะครับ) นอกจากนี้ตัวเบตาดีน ก็นำมาใช้ล้างแผลได้ด้วยนะครับ ผสมเจอจางกับน้ำ อัตราส่วนคงประมาณ 1/10 ถึง 1/20 เอาว่าสีของน้ำที่ผสม สีออกมาเหมือนชาดำเย็นน่ะครับ---> ใช้ล้างแผลได้ด้วย ไม่แสบมากนัก ![]() 4. อุปกรณีที่ใช้ประกอบการล้างแผล ผ้ากอส ใช้เช็ด หรือขัดแผลได้ดีครับ เนื่องจากลักษณะของผ้าจะสากๆ ใช้ขัดแผลดีทีเดียว สำลี---> หลังจากทำความสะอาดแผลเสร็จเวลาแต้มยาก็ใช้สำลีชุบยาไปแต้มที่แผลครับ cotton bud หรือ ไม้สำลีแคะหู ---> ก็ใช้ในการล้างแผลได้ด้วยกรณีที่ปากแผลไม่กว้างแต่ ข้างในเป็นโพรง เอา cotton bud จุ่มน้ำยาทำความสะอาดแผลแล้วก็แยงเข้าไปเช็ดข้างในได้ครับ ![]() หลอดฉีดยา (syringe) มีติดตัวไว้ไม่เสียหาย นอกจากใช้ในการป้อนยา ฉีดยาแล้ว ใช้ในการล้างแผลได้ด้วย กรณีแผลโดนกัดที่แผลภายนอกเป็นรูเล็กๆแต่ข้างในเป็นโพรง ถ้าหมอไม่ได้กรีดขยายปากแผล---> ก็ใช้ syringe ดูดยาล้างแผล แล้วก็ฉีดเข้าไปทางปากแผล บีบให้ยาล้างแผลออกมา แล้วก็ทำซ้ำหลายๆรอบก็ เป็นการล้างแผลอีกวิธีนึงครับ ![]() เรื่องการถูกน้ำร้อนลวก หรือแผลไฟลวก ป้องกันไว้ดีที่สุดครับ แต่แมวบางตัวซนนะครับ กระโดดขึ้นไปเหยียบเตาไฟ บ้าง เอาหน้าไปดูใกล้ๆเตาอบบ้าง ฯลฯ กรณีปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนไปหาหมอ ก็เป็นพวกครีมรักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวกครับ + ควรใส่ collar ด้วยครับ ป้องกันการเลียแผลและป้องกันการเลียยาที่เราทาแผล ยาที่ใช้ทาภายนอกห้ามรับประทานครับ ![]() เรื่องบาดแผลในช่องปาก ยาสามัญประจำบ้านที่ใช้ได้ก็คือ Gentian Violet หรือยาม่วงที่เราเรียกๆกันนั้นเอง สามารถใช้ทาในปากได้ครับ แต่เจ้านายบางตัวเวลาโดนทาอาจจะทำน้ลายไหลย้อย หรือน้ำลายเป็นฟองก็ได้นะครับ คิดดูล่ะกันเมื่อเจ้านายสะบัดหัวเมื่อไหร่ ทาสแมวเตรียมหลบกันได้เลยครับ ![]() กรณีกินสารพิษเข้าไป อันนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของสารพิษครับ สารบางอย่างควรกระตุ้นให้อาเจียน สารบางอย่างห้ามทำให้อาเจียน ดีที่สุด เอาฉลากของสารพิษที่เราสงสัยไปด้วย และรีบพาไปหาหมอเร็วที่สุด ถ้าเป็นการปฐมพยาบาลแบบชาวบ้านก็เช่นการป้อนนม น้ำมันพืช หรือไข่ขาว เพื่อช่วยลดการดูดซึมของสารพิษ แต่ค่อนข้างอันตรายนะครับ ถ้าป้อนแล้วเค้าสำลัก อาจทำให้ถึงตายได้ครับ ยาที่คิดว่า OK และน่าจะมีติดกระเป๋าพยาบาลไว้ คือเม็ดคาร์บอนครับ ![]() เม็ดคาร์บอน จะเป็นเม็ดสีดำๆ (ที่เราใช้กินเวลาท้องเสียน่ะครับ) มีหลายยี่ห้อแตกต่างตามคุณภาพครับ เวลาซื้อปรึกษา เภสัชก่อนล่ะกันครับเอาชนิดที่คุณภาพดีๆหน่อย ที่แนะนำเม็ดคาร์บอนเพราะไม่ใช่ตัวยา หรือสารออกฤทธิ์ ครับ เม็คาร์บอนแค่ดูดซับสารพิษ แล้วให้สัตว์ขับออกทางอึเท่านั้น ดังนั้นกรณีสงสัยสัตว์กินสารพิษเข้าไป ป้อนเม็ดคาร์บอนเพื่อปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนได้ครับ แล้วรีบพาไปหาหมอให้เร็วที่สุด ![]() อีกอย่างนึงที่ควรมีติดกระเป๋าพยาบาลไว้ คือ ผงเกลือแร่ (ORS) ---> ที่เอาไว้ชงกินเวลาท้องเสียน่ะครับ กรณีเจ้านายถ่ายเหลว หรือท้องเสีย แล้วยังไม่สามารถพาไปหาหมอได้ ที่โดยมากหมอมักแนะนำให้ชงน้ำหวานผสมเกลือป้อนให้เจ้านายนั่นล่ะครับ เจ้าผง ORS เนี่ยส่วนผสมก็คือน้ำตาล และเกลือแร่นั่นเอง ![]() ก็ชงตามอัตราส่วนและค่อยๆป้อนเรื่อยๆนะครับ เพื่อป้องการการขาดน้ำรุนแรง จนเจ้านายที่บ้านช๊อค ย้ำเช่นเคยน่ะครับว่าสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเจ้านายคือการรีบพาไปหาหมอนะครับ แต่ถ้าเจ้านาย อาเจียนหนัก ป้อนน้ำเกลือแร่แล้วยังอาเจียน ให้หยุดป้อนนะครับ เพราะยิ่งป้อนจะยิ่งไปกระตุ้นการอาเจียน พออาเจียนมากๆเข้าจะยิ่งเพลียกว่าเดิมมากครับ กรณีนี้พาไปหาหมอด่วนที่สุด ต้องให้น้ำเกลือแทนครับ(เข้าเส้น หรือใต้ผิวหนัง แล้วแต่ความรุนแรงของอาการ) ![]() ปล.เน้นเรื่องยาพาราอีกที ยาพาราเซตามอล ไม่ใช้ยาลดไข้สำหรับแมวแต่เป็นยาพิษครับ ห้ามป้อนให้แมวโดยเด็ดขาด รูปข้างล่างเป็นแมวที่เจ้าของป้อนยาพาราให้กิน ผิวหนังและเหงือกกลายเป็นสีเหลืองเนื่องจากตับวาย + กับฉี่ออกมาเป็นเลือดเนื่องจากไตวาย ![]() เมื่อกี้เพิ่งใช้ยาม่วงกับเจ้าหมาที่บ้าน ผลปรากฎว่าน้ำลายยืดตลอดเวลา เลยรีบเข้ามาหาข้อมูลในเว็บ พอมาเจอเว็บนี้บอกว่าเป็นอาการปรกติ เพราะแมวก็เป็น ก็เลยโล่งใจ
ขอบคุณนะคะสำหรับข้อมูลดีๆ โดย: หมาเหมียว IP: 203.156.25.58, 203.130.159.3 วันที่: 30 มิถุนายน 2552 เวลา:20:42:45 น.
เจ้าเหมียวช่างน่าสงสาร
โดย: มายด์ค่ะ IP: 10.90.6.50, 202.28.181.7 วันที่: 26 ธันวาคม 2552 เวลา:15:28:32 น.
|
เพิ่งรู้นะคะเนี่ย ว่าอาการแพ้พาราของแมวเป็นแบบนี้นี่เอง โถๆ น่าสงสารจริงๆ