เครื่องปรับอากาศเตรียมขึ้นราคา เครื่องปรับอากาศเตรียมขึ้นราคา ตลาดป่วนหลังสรรพสามิตเล็งเก็บภาษีรอบใหม่![]() สรรพสามิตกำลังพิจารณากลับมาจัดเก็บภาษีสรรพสามิตเครื่องปรับอากาศ จากเดิมที่เคยจัดเก็บ15% แต่ได้ยกเว้นไปตามนโยบายรัฐบาลเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เพื่อต้องการทำให้ราคาขายปลีกเครื่องปรับอากาศปรับลดลง แต่ความเคลื่อนไหวล่าสุดกรมสรรพสามิตและหน่วยงานภาครัฐได้ตั้งข้อสังเกตว่าราคาขายปลีกเครื่องปรับอากาศในปัจจุบันไม่ได้ปรับลดลงแต่อย่างใดนำไปสู่การทบทวนนโยบายการปรับลดภาษีดังกล่าวอีกครั้ง
ที่มา...ประชาชาติธุรกิจ //www.prachachat.net ____________________________________________________ มุมมองของผู้จัดทำ weblog KanichiKoong ต่อข่าวดังกล่าว ถ้ามองย้อนกลับไปในช่วงปลายปี 2552 รัฐบาลในขณะนั้น ได้มีมติที่ประชุมให้ยกเว้นการเก็บภาษีสรรพสามิต ในเครื่องปรับอากาศที่มีขนาดทำความเย็นไม่เกิน 72,000 BTU/ชั่วโมง ซึ่งจะมีผลครอบคลุมเครื่องปรับอากาศที่ใช้กันภายในภาคครัวเรื่อน และเครื่องปรับอากาศที่ใช้ในอาคารสำนักงานขนาดเล็กจนถึงขนาดกลาง โดยที่จากเดิมมีการเก็บภาษี 15 % ตามมูลค่า และภายหลังจากมติดังกล่าวได้รับการบังคับใช้ มีผลให้เครื่องปรับอากาศในขณะนั้นมีราคาถูกลงประมาณ 10 - 15 % จากการที่ผู้จัดทำ weblog KanichiKoon มีโอกาสได้คลุกคลีอยู่ในแวดวงธุรกิจเครื่องปรับอากาศอย่างเต็มรูปแบบ ก็สังเกตุเห็นการเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่างในแวดวงเครื่องปรับอากาศ ในช่วงแรกๆ ปัญหาที่มาเป็นอันดับต้นๆ คือร้านตัวแทนจำหน่ายเครื่องปรับอากาศขนาดกลางถึงใหญ่ ที่ได้มีการสต็อกสินค้าไว้เป็นจำนวนมาก ก็ต่างเริ่มเจอปัญหากับสินค้าล็อตก่อนที่จะมีการประกาศงดเก็บภาษีสรรสามิต เครื่องปรับอากาศที่ผลิตออกมาก่อนการประกาศงดเก็บภาษีสรรพสามิต จะยังคงมีสติ๊กเกอร์แสดงการชำระภาษีสรรพสามิตติดอยู่ ซึ่งก็แสดงว่าเครื่องปรับอากาศเครื่องนี้ ยังขายราคาเดิมที่รวมภาษีสรรพสามิตไว้แล้ว ในขณะที่เครื่องปรับอากาศที่ผลิตภายหลังจากที่มาตรการงดเก็บภาษีมีผลบังคับใช้ จะไม่มีการติดฉลากเสียภาษีสรรพสามิต(เว้นแต่ขนาดทำความเย็นเกินกว่า 72,000 BTU ยังต้องเสียภาษีสรรพสามิตตามปกติ) ![]() ภายหลังจากที่ร้านค้าผู้จำหน่ายเครื่องปรับอากาศ ได้จัดการเรื่องปัญหาของสินค้าล็อตก่อนหน้าเป็นที่เรียบร้อย เครื่องปรับอากาศที่ได้รับการงดเว้นภาษีสรรพสามิตก็เริ่มทะยอยเข้าสู่ตลาดจนเต็มพื้นที่ ราคาเครื่องปรับอากาศในช่วงนั้น ได้ถูกเคาะราคาค่าตัวออกมาใหม่ มีราคาขายที่ถูกลงอย่างเห็นได้ชัด(ราคาถูกลงโดยเฉลี่ยที่ 1,800 - 2,500 บาท) แต่...เมื่อช่วงปีที่แล้ว(พ.ศ. 2555) สรรพสามิตก็ได้มีการทบทวนเกี่ยวกับการกลับมาเรียกเก็บภาษีสรรพสามิตในเครื่องปรับอากาศอีกครั้ง โดยอ้างว่าราคาสินค้าไม่ลดลงตามภาษี ซึ่งเรื่องนี้เป็นประเด็นที่ผู้ผลิตและห้างร้านที่เป็นตัวแทนจำหน่ายให้ความสนใจและจับตามองท่าทีของสรรพสามิต ส่วนตัวผู้เขียนเอง ในฐานะที่อยู่ในวงการธุรกิจจำหน่ายและให้บริการด้านเครื่องปรับอากาศ รู้สึกไม่เห็นด้วยหากจะมีการกลับมาเก็บภาษีสรรพสามิตในเครื่องปรับอากาศขนาดเล็ก ที่ส่วนใหญ่มีใช้ในภาคครัวเรือน เพราะปัจจุบันอากาศในบ้านเมืองเรามีแนวโน้มที่จะร้อนขึ้นทุกวัน รวมทั้งการขยายตัวของเมืองที่ทำให้อากาศมีมลพิษเพิ่มขึ่น และการจะหวังพึ่งลมธรรมชาติคงจะเป็นเรื่องยากในสังคมเมืองยุคปัจจุบัน เครื่องปรับอากาศในภาคครัวเรือน จึงจัดว่าเป็นสินค้าที่เริ่มมีความจำเป็นมากขึ้นทุกวัน ไม่ใช่สินค้าฟุ่มเฟือยเหมือนในอดีต ที่สำคัญคือ จะต้องมีราคาถูกลงในระดับที่ซื้อหามาเป็นเจ้าของได้ไม่ยาก รัฐบาลและกรมสรรพสามิต ควรจะเอาเวลาไปพิจารณาและให้ความสนใจสินค้าฟุ่มเฟือยชนิดอื่นๆ มากกว่าจะมาสนใจเรื่องการเก็บภาษีสรรพสามิตในเครื่องปรับอากาศขนาดเล็ก |
บทความทั้งหมด |