"พรีเมียร์ชิพ มาร์เก็ตติ้ง" เก่งยังไงก็เป็นรอง "โบ๊เบ๊" ไปอ่านเจอบทความนึงจาก --มาร์เก็ตเธียร์ ฉบับที่ 16/มิถุนายน 2544-- บทความบางตอนได้กล่าวไว้ว่า ฟุตบอล นอกจากจะเป็นเกมการแข่งขันที่เรียกได้ว่าเป็นอันดับหนึ่งในเรื่องความนิยมแล้ว ยังเป็นกีฬาที่มีคนดูมากที่สุดอีกด้วย โดยเฉพาะฟุตบอลอังกฤษนั้น กลายเป็นลมหายใจเข้าออกของผู้ที่ชื่นชอบในศึกลูกหนังทั่วประเทศ โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกันทั้งในการนำทีมเข้ามาแข่งขัน การเปิดธุรกิจในไทย อย่างไรก็แล้ว แน่นอนแม้ทาง มร.ริค แพร์รี่ กรรมการผู้อำนวยการสโมสรลิเวอร์พูล กล่าวสั้นๆ ถึงเรื่องนี้ว่า "วันนี้เรามาเพื่อการแข่งขันเท่านั้น มิได้มาเพื่อการทำธุรกิจในประเทศไทย" แม้ว่าจะมีการปฏิเสธจากหนึ่งในคีย์แมนของสโมสรหงส์แดงว่า มาเพื่อการแข่งขันก็ตาม แต่สำหรับผู้ที่คร่ำหวอดในแวดวงกีฬาบ้านเรา กลับมิได้มองเช่นนั้น เทพพิทักษ์ จันทร์สุเทพ คอมเมนเตเตอร์รายการกีฬาหลายรายการ กล่าวว่า ถ้าพูดถึงจุดขายที่ทำให้ฟุตบอลอังกฤษโด่งดังก็คือ เนื่องจากอาศัยโปรดักชันที่ทำให้เกมน่าสนใจอย่างมาก "ฟุตบอลอังกฤษถ้าเปรียบเป็นหนังก็ประเภทแรมโบ้ ซึ่งดูได้จากเวลาที่มีการถ่ายทอดสด จะมีรูปแบบที่พัฒนาไม่ซ้ำแบบ ทำกันถึงขนาด ทำยังไงให้เหมือนดูหนังมีการแพนกล้อง เซ็ทกล้องในตำแหน่งต่างๆ ซึ่งทำให้มีความน่าสนใจ และทำให้มีแฟนบอลติดตามชมค่อนข้างมาก เทพพิทักษ์กล่าวอีกว่า ของที่ระลึกเกี่ยวกับสโมสรฟุตบอลต่างชาตินั้น สำหรับผู้ที่เป็นแฟนตัวจริงของสโมสรแล้ว เชื่อว่า มีราคาแพงเท่าใด ก็ยังคงหามาใส่ "กลุ่มเป้าหมายในบ้านเราอาจจะต่างกับในอังกฤษที่แฟนสโมสรเป็นกลุ่มคนทุกเพศทุกวัย แต่ในบ้านเรา ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น ยิ่งถ้าเป็นแฟนชนิดเข้าเลือดและมีเงินด้วยแล้วล่ะก็ ก็อาจจะซื้อโดยไม่คิดอะไรมาก เพราะนี่คือแฟชั่นของวัยรุ่นเหมือนซื้อเทป ซื้อเสื้อผ้า" ในขณะที่ความเห็นของสาธิต กรีกุล ผู้ประกาศข่าวกีฬาช่อง 3 และคอลัมนิสต์ในหนังสือพิมพ์กีฬากล่าวว่า ภาพรวมของการที่ทีมฟุตบอลต่างๆ เข้ามาในบ้านเรา สะท้อนในเรื่องของ ความเป็นจริงในเรื่องความนิยมของฟุตบอล ในเรื่องของโอกาสที่สโมสรเหล่านั้น จะมาตั้งร้านขายของที่ระลึกเกี่ยวกับสโมสร ก็มีความเป็นไปได้สูง ในแง่ของผลประโยชน์ของสโมสรที่จะเข้ามาตั้งเป็นสโตร์ต่างๆ ก็อาจจะเป็นไปได้ในอนาคต เพราะทางสโมสรก็ต้องดูก่อนว่า ประเทศไหนสนใจทีมของเขามากน้อยเพียงใด อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เทพพิทักษ์และสาธิตให้ความเห็นใกล้เคียงกันก็คือ เรื่องของการสินค้าปลอมหรือเลียนแบบ "ห่วงอยู่อย่างคือ กว่าที่สโตร์จะมาตั้ง ของปลอมก็ขยับตัวก่อนแล้ว แต่ก็ไม่แน่ เพราะของนอกกับของไทย ราคาต่างกันเยอะ และแฟนตัวจริงก็จะมีการแบ่งเกรดกันว่า ใส่ของจริง ซึ่งตรงนี้จะเป็นแบ่งกันในตัวเองอยู่แล้ว แต่สำหรับคนทั่วไป อาจคิดว่า ไม่จำเป็นที่ต้องใส่เสื้อทีมฟุตบอลตัวละ 3 พัน เอาแค่ตัวละ 200 ก็พอ "สรุปก็คือ จะซื้อของจริงหรือของปลอมนั้นอีกเรื่อง ถ้ามีตังค์ก็ของจริง ถ้าไม่มีตังค์ก็โบ๊เบ๊กวาดเรียบ" อะนะ บทความนี้แม้ว่าจะถูกพิมพ์ตั้งปี 44 แต่ 6 ปีผ่านไป ธุรกิจของเลียนแบบก็ยังคงอยู่ ตราบใดที่รายได้ของไทยมันยังเป็นเช่นนี้ หุหุหุ...ว่าแล้ว ก็ไปหาเสื้อของแท้..ตอนลดราคาดีก่า...ส่วนถ้าเป็นเสื้อฤดูกาลที่จะถึง สงสัยจะต้องพึ่งหลังสนามศุภ 5555+
จะซื้อของแท้มันก็แพงนะคับ ก็เลยซื้อแถวหลังสนามศุำภฯ
โดย: frank3119
 วันที่: 18 มิถุนายน 2550 เวลา:16:34:34 น. |
บทความทั้งหมด
|
|||||||||||||||||||||
 |
|
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [