เช้าวันที่ 3 ที่ตื่นขึ้นมาในมาเลเซีย เราเริ่มรู้สึกถึงความอ่อนเพลียและความเหนื่อยจากการเดินทางและเที่ยวโดยอาศัยความอึดเป็นหลัก ดังนั้นวันนี้เราจึงตื่นสายพอสมควรและยังมี ท่าทีว่ายังอยากจะนอนต่อจนต้องเตือนสติตัวเองและหนุ่ยว่า มาเที่ยวไม่ใช่มานอน กลับไปประเทศไทยเมื่อไหร่ค่อยนอนให้จุใจ แต่ก็ต้องเตือนสติกันอยู่หลายครั้งเหมือนกันกว่าจะตื่น... เราซื้อตั๋วรถบัสพร้อมตั๋วรถกระเช้าไฟฟ้าทั้งขาไปและขากลับ ในราคา 25 RM โดยเราซื้อในสถานีขนส่ง Pudu ใกล้ที่พักของเรานั่นเอง เราใช้เวลาออกเดินทางจาก KL. เพื่อไปเก็นติ้งโดยนั่งรถบัสที่ลัดเลาะไปตามเนินเขาต่างๆ เป็นเวลาประมาณเกือบชั่วโมง แล้วจึงลงรถเพื่อขึ้นกระเช้าไฟฟ้าเพื่อที่จะเดินทางไปให้ถึงเก็นติ้งไฮแลนด์อีกที กระเช้าไฟฟ้าที่นี่มี ระยะทางที่ยาวมาก เส้นทางของกระเช้าไฟฟ้าจะพาดผ่านป่าเขียวชอุ่มขึ้นไปเรื่อยๆ สู่ยอดเขาที่สูงประมาณ 2,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เมื่อมองทิวทัศน์โดยรอบจากกระเช้าแล้วจะพบว่าเราสามารถมองเห็นเป็นทิวเขาใหญ่น้อยที่เต็มไปด้วยผืนป่าเขียวขจีได้ไกลสุดลูกหูลูกตาเลยทีเดียว โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที เราจึงขึ้นมาถึงยอดเขาอันเป็นที่ตั้งของเก็นติ้งไฮแลนด์ ก้าวแรกที่ลงมาจากกระเช้าลอยฟ้าเราก็สัมผัสได้ถึงความเย็นสบายของอากาศ เนื่องจากอยู่สูงกว่า 2,000 เมตร อุณภูมิข้างบนนี้จึงต่ำกว่าด้านล่างประมาณเกือบ 10 องศา พอลงจากกระเช้าแล้วเราก็เดินไปตามทางซึ่งอยู่ภายในโรงแรมขนาดใหญ่และเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารนานาชนิด ที่มีการตกแต่งภายในอย่างหรูหราและสวยงาม เราจึงเดินสำรวจไปเรื่อยๆ พบทั้งโรงหนังและโรงละครที่กำลังมีการจัดแสดง เรื่อง ปีเตอร์แพน และยังมีห้องสำหรับเข้าไปเล่นหิมะจำลองอีกต่างหาก ซึ่งคงจะสร้างความน่าสนใจไม่น้อยสำหรับชาวมาเลเซียและนักท่องเที่ยวที่มาจากต่างประเทศที่อยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรอย่างเรา เราเดินสำรวจไปเรื่อยๆ จนพบกับ Casino ซึ่งผู้ที่จะเข้าไปนั้นจะต้องใส่เสื้อคอปก กางเกงขายาว รองเท้าผ้าใบ เท่านั้น แต่เนื่องจากผมใส่เสื้อยืดมาเลยอดเข้าไปสำรวจ แต่ด้วยความอยากรู้จึงส่งหนุ่ยเข้าไปสำรวจแทน เพราะหนุ่ยแต่งตัวถูกกฎสามารถเข้าไปได้ส่วนผมต้องรออยู่ข้างนอกแต่ก็ได้ฝากเงินไปทดลองเสี่ยงโชคกับเค้าด้วยเหมือนกัน กะว่าเล่นเองไม่ได้ก็ให้ เพื่อนเสี่ยงให้ก็แล้วกันเผื่อจะมีโชคกับเค้าบ้างโดยบอกให้ไปเล่นเครื่องสลอตแมชชีนเท่านั้นเพราะดูแล้วว่าน่าจะเล่นง่ายที่สุด เวลาผ่านไปประมาณเกือบครึ่งชั่วโมงหนุ่ยก็กลับออกมา ผมก็รีบสอบถามถึงผลทันทีปรากฏว่า เราไม่ได้เงินและก็ไม่เสียเงินด้วยเพราะหนุ่ยบอกว่าเข้าไปข้างในคนเยอะมากและมันก็พยายามดูคนอื่นเขาเล่นก่อนแต่สุดท้ายก็สารภาพว่าไม่รู้เขาเล่นกันยังไงเพราะไอ้ตู้สลอตแมชชีนนั้นปุ่มมันเยอะเหลือเกิน เลยเป็นโชคดีของผมเพราะถ้าหนุ่ยเล่นเป็นยังไงก็คงจะเสียตังค์ฟรีเพราะเล่นการพนันทีไรผมก็ไม่เคยได้กับเค้าเสียที ออกจาก Casino เราก็ออกเดินต่อไปตามทางเดินภายในโรงแรม จนมาพบกับสวนสนุกกลางแจ้งที่มีเครื่องเล่นนานาชนิดให้เลือกเล่นกัน มีคนเข้าไปเล่นกันจำนวนมากพอสมควร และเมื่อดูราคาค่าผ่านประตูและค่าเครื่องเล่นแต่ละชนิดแล้ว ผมตัดสินได้ว่าขอดูอย่างเดียวดีกว่าถ้าอยากเล่นค่อยกับมาเล่นประเทศไทยก็แล้วกัน บนเก็นติ้งมีโรงแรมขนาดใหญ่อยู่ประมาณ 5 - 6 โรงแรม ซึ่งแต่ละโรงแรมก็จะมีราคาและระดับความหรูหราแตกต่างกันออกไป แต่จากที่มองด้วยสายตาแล้วผมสะดุดตากับโรงแรม First World มากที่สุดเนื่องจากตัวโรงแรมที่สูงหลาย 10 ชั้นนั้นได้มีการทาสีไว้อย่างสวยงามแถมยังทราบมาว่าราคาน่าจะถูกที่สุดอีกด้วย บนนี้นอกจากจะมี Casino อันเป็นแหล่งการพนันที่จัดไว้สำหรับผู้ใหญ่แล้ว ยังมีการเอาใจเด็กๆ ที่ไม่สามารถเข้าไปใน Casino อีกด้วย โดยมีการจัดเป็นโซนตู้เกมส์ต่างๆ ที่บางชนิดก็มีลักษณะคล้ายกับการเป็นการพนันโดยการเสี่ยงโชค จากการหยอดเหรียญครั้งละประมาณ 1 บาท เพื่อลุ้นคะแนนที่ออกมาเป็นบัตรสำหรับแลกของรางวัลต่างๆ อยากได้รางวัลมากก็ต้องหยอดมากเรียกได้ว่าเป็นที่ที่ครบเครื่องในเรื่องการดูดเงินจากทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่ ต้องการจะเสี่ยงโชคจริงๆ
ยังไงช่วยตอบกลับด้วยนะคะ