My Hard Days อาทิตย์ที่ผ่านมา รู้สึกว่าชีวิตการทำงานมันสุดขั้วเหลือเกิน ขอเอามาบันทึกไว้ซักหน่อย ![]() วันจันทร์ นั่งเคลียร์งานอยู่ออฟฟิศทั้งวัน โทรตามบิลโปรเจ็คที่ยังปิดไม่ลง ได้ความว่าแฟ้มเสนอเซ็นต์กองอยู่ที่โต๊ะคนข้างบนมาเป็นอาทิตย์แล้ว...เฮ้อ ![]() โต๊ะทำงาน เพิ่งทำ 5ส ไป ตอนนี้กลับมาสะสมอีกแล้ว เตรียมสอนได้นิดหน่อย อารมณ์มันไม่ต่อเนื่อง เหมือนขาดสมาธิยังไงไม่รู้ แถมต้นฉบับเปเปอร์ที่เราเขียนส่งไปตีพิมพ์ใน Journal อันหนึ่ง เจอส่งกลับมาให้แก้ไข เป็น major revision อ่านคอมเม้นท์แต่ละอันแล้วเหี่ยว ไม่อยากตอบเลย นี่ขนาดเลือกฉบับที่ Impact factor ไม่สูงแล้วนะ ![]() เซ็งหนัก แต่อย่างน้อยเราก็มีที่พักสายตา โต๊ะทำงานเรามีดีที่เห็นวิวนอกหน้าต่างแบบ panorama ไม่มีพวกเสาหรือคานอะไรมาขวาง วันอังคาร แบกแลปทอปขึ้นดอยวาวี นักศึกษาช่วยงานติดเรียนกันหมด เหลือตัวเองกับน้องเจ้าหน้าที่อีกคน ตะลุยเก็บข้อมูลเกษตรกรผู้ปลูกชา เพื่อขอใบรับรองสวนชาอินทรีย์ (โปรเจ็คเผือกร้อน คนโยนมาให้ ไม่อยากรับ แต่ต้องรับ) ![]() แต่งานนี้ไม่หนักเท่าไร เพราะสวนชาที่ไปถนนตัดถึง รถตู้เข้าได้ สบายๆ ชิลๆ...แต่ก็เหนื่อยนะ ![]() ![]() บ้านบนดอยในยุคที่แสงสีเข้าถึงแล้ว แต่ยังสงบ เรียบง่าย ใกล้ชิดธรรมชาติ ![]() คนบนดอยกับชีวิตประจำวัน ที่ผูกพันกับ ใบชา วันพุธ 8 โมงเช้า เลคเชอร์ 2 ชั่วโมงรวด พอใกล้ 10 โมง คอแห้ง รู้สึกพลังหายไปไหนหมดไม่รู้ แถมมีเรื่องเซ็งตอนเริ่มสอน ต้องเทศนานักศึกษาเรื่องความตรงต่อเวลากับมารยาทในห้องเรียนอีก ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องมาเคร่งครัดเรื่องอะไรแบบนี้ แต่นิ่งเฉยไม่ได้จริงๆ รับโทรศัพท์ คุยกัน ยกกระจกมาส่องหน้า ซับหน้า (เพื่อนอาจารย์เคยเจอหนักกว่านี้ นั่งเรียนไป ปัดมาสคาร่าไป) ไม่่อยากพูดแบบเหมารวม ว่า เด็กสมัยนี้ ![]() วันพฤหัส ขึ้นดอยวาวีอีกแล้ว แถมวันนี้ฝนตกปรอยๆ ต่อเนื่องมาตั้งแต่เมื่อวานที่เราให้น้องเจ้าหน้าที่ขึ้นดอยไปคนเดียว (ตัวเองติดสอน แลกชั่วโมงไม่ได้) ต้องเปลี่ยนรถเป็นโฟร์วีลกันรถติดหล่ม เตรียมเสื้อกันฝน และรองเท้าบู๊ต ![]() สวนชาที่ไปสำรวจวันนี้ รถยนต์เข้าถึงได้ประมาณหนึ่ง ที่เหลือต้องขี่มอเตอร์ไซค์หรือเดินเท้าเข้าไประยะทางเป็นร้อยเมตรหรือเป็นกิโลก็ว่ากันไป และเราต้องเตรียมการพิเศษอีกอย่างหนึ่งคือ ...กันทาก...ค่ะ เราอะ ทำใจไว้ตั้งแต่น้องเล่าให้ฟังแล้ว ตอนเจอจะได้ไม่กรี๊ด วิ่งหนีตกดอย แล้วก็เจอจริงๆ ค่ะ ![]() ![]() ![]() คนพื้นที่เค้าช่วยเราป้องกันตัว ด้วยการเอาผ้ามาชุบน้ำคั้นใบยาสูบมาผูกกับรองเท้าไว้ ทากได้กลิ่นจะไม่กล้าเกาะ ในขณะที่ชาวสวนคนอาข่า ลีซอ มูเซอ เค้าสบายๆ ค่ะ พาดูสวนไป เคี้ั้ี้ยวหมากไป ทากเกาะ เค้าก็ถ่มน้ำหมากปู๊ดใส่ ทากก็หลุด ![]() ![]() สวนชาบนดอย เป็นชาป่าหรือชาอัสสัม อายุเกือบร้อยปี ปลูกกันมาตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นย่า เหนื่อยมากค่ะวันนี้ ลุยน้ำ ปีนดอยกันจริงๆ หอบแฮก ชั่วขณะเราก็คิดนะ ทำไมต้องมาทำอะไรอย่างนี้ด้วยนะนี่? แต่คำตอบก็คือ มันเป็นงาน...ที่ต้องทำให้เสร็จ ![]() ![]() โรงตากชา หลังจากที่น้ำในใบชาระเหยบางส่วน แล้วจึงเอามาคั่ว ได้ใบชาเขียวแห้งส่งขาย เห็นบอกว่ามีส่งให้โรงงานโออิชิด้วยนะคะ ![]() ![]() กว่าจะลงมาจากดอยเกือบห้าโมง ชาวสวนเค้าให้ใบชาอบแห้งมา 2-3 ถุง ถึงไม่มีของฝากพวกนี้ เราก็ชื่นใจนะ ที่ได้เข้าไปทำอะไรที่น่าจะเกิดประโยชน์กับพวกเค้าได้บ้าง ![]() วันศุกร์ นัดนักศึกษาอินโดนีเซียที่มาแลกเปลี่ยนด้วย คุยสรุปโครงร่างงานวิจัย เพราะมี presentation วันจันทร์ จะมีอาจารย์จากมหาวิทยาลัยเค้า (Bogor university) มาฟังด้วย เลยต้องเตรียมให้ดีหน่อย เอ่อ ที่ต้องสอน 2 วิชา อาทิตย์หน้า มีแลปด้วย...ยังไม่ได้เตรียมเลยอะ ต้องแบกกลับไปทำบ้านวันเสาร์-อาทิตย์ อีกแล้ว ![]() ![]() โดย: นนนี่มาแล้ว
![]() เรียน เจ้าของกระทู้ พอดีว่าที่บ้านทำชาอัสสัมเหมือนกันเลยอยากทำความรู้จัก
ไม่ทราบว่าผมสามารถติดต่อคุณได้ยังไงบ้างครับ โดย: บรรณรักษ์ IP: 61.91.52.130 วันที่: 6 กรกฎาคม 2559 เวลา:15:54:43 น.
|
บทความทั้งหมด
|