ฝากรักไว้ที่ปรายฝน


เป็นเล่มที่ 4 แล้ว สำหรับผลงานของ "เนียรปาตี"

ฝากรักไว้ที่ปรายฝน...เป็นเรื่องของความผูกพัน ความทรงจำ ของเพื่อนในวัยเรียน ทุกคนมีความฝันกันทั้งนั้น แต่จะมีสักกี่คนที่จะก้าวไปถึงฝั่งฝันที่ตัวเองมุ่งมาดปรารถนาไว้ เพราะในโลกแห่งความจริงกับโลกแห่งความฝัน สำหรับบางคนมันก็ห่างไกลกันราวเป็นคนละเรื่อง แต่สำหรับบางคนมันก็แทบจะเป็นสิ่งเดียวกัน

หากจะเปรียบอุปสรรคในชีวิตเป็นอะไรสักอย่าง มันก็เหมือนกับเวลาที่ฝนตก เราไม่เคยรู้ว่าฝนจะตกเมื่อไหร่ แต่เราก็รู้ว่าฝนจะหยุดตกในสักวันหนึ่ง ปัญหาที่รุมเร้าเข้ามาก็ต้องมีวันหมดสิ้นไปได้เช่นกัน

หลายคนสงสัย ทำไมต้องเป็น "ปรายฝน" แทนที่จะเป็น "ปลายฝน" ผู้เขียนจะตอบว่า...ปราย...แปลว่า ละออง เคยสังเกตไหมยามที่ฝนฌปรยปรายละอองเบาๆ เราอยากเดินเล่น เพราะมันจะชุ่มชื่น เย็นๆ แต่ไม่ถึงกับทำให้เราเปียก สบายดีเหมือนกัน แล้วตอนที่มีปรายฝนนั่นแหละ ที่สายรุ้งจะทาบทา

ขอฝากความรัก ความผูกพันของเพื่อน ปาณัสม์-ชมภู ไว้ในหัวใจของผู้อ่านทุกท่าน เป็นกำลังใจให้ บรรพต-ปาริฉัตร ก้าวผ่านความอ่อนแอของหัวใจ และหากจะมีใครไม่ชอบใจ พศิน ผู้เขียนก็คงขอไว้ว่า อย่าไปโทษเขาเลย เขาก็มีเหตุผลของเขาที่ต้องเป็นอย่างนั้น

ฝนตกครั้งต่อไป ลองนั่งมองสายฝนนิ่งๆ บางทีเราปัญหาอะไรที่มีอยู่ในตอนนั้นอาจจะมีทางออกให้เราก็ได้



Create Date : 28 มกราคม 2552
Last Update : 28 มกราคม 2552 9:27:16 น.
Counter : 1772 Pageviews.

32 comments
Medea! O Medea!... Solo un pianto from Medea by Luigi Cherubini ปรศุราม
(29 มิ.ย. 2568 11:12:32 น.)
ณ สี่แยก อยากบอกว่าหลง
(27 มิ.ย. 2568 13:51:30 น.)
Oh!! my sassy boss ตอนที่ 44 หน้า 5 unitan
(24 มิ.ย. 2568 06:53:53 น.)
ขั้นตอนต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชัน DLT ต้องทำอย่างไร สมาชิกหมายเลข 8394963
(23 มิ.ย. 2568 18:02:23 น.)
  
คุณเนียรฯ คะ ... เพิ่งอ่านถึงหน้า 112 กำลังคิดว่าชมภูเป็นพระเอก ปาณัสม์เป็นนางเอกรึเปล่าคะเนี่ย !!
โดย: พิงค์กี้ IP: 58.9.138.13 วันที่: 28 มกราคม 2552 เวลา:13:18:27 น.
  
ต้องติดตามอ่านต่อๆ ไปครับ ว่าทำไมช่วงแรกๆ เป็นอย่างนั้น แล้วต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น
ชมภู...อดทน เข้มแข็ง เก่งไปหมดทุกเรื่อง
ปาณัสม์...เหยาะแหยะ ไม่มั่นใจในตัวเอง ไว้ใจคนง่าย
แต่สถานการณ์หลายอย่างจะพลิกกลับครับ ลองอ่านแล้วมาคุยกันนะครับ

ปล. เรื่องนี้ ตัวละครหลายตัวมีตัวตนอยู่จริง และ 80% ของเรื่องราวที่เล่ามานั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงครับ
โดย: เนียรปาตี IP: 124.120.70.167 วันที่: 28 มกราคม 2552 เวลา:16:37:46 น.
  
เอ! แล้วแอบบอกได้มั๊ยว่าคุณเนียรฯ เป็นตัวละครไหนในเรื่องนี้คะ ???
แต่เรื่องนี้เขียนไว้นานแล้วรึเปล่าคะก่อนตีพิมพ์ เพราะเห็นมีเอ่ยถึงเรื่องไททานิค (เรื่องโปรดเหมือนกัน) แล้วก็ตัวละครยังใช้วีดีโอ ใช้เครื่องพิมพ์ดีดอยู่ หรือว่าคุณเนียรฯ ตั้งใจให้เนื้อเรื่องเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงนั้นก็ไม่รู้เนอะ (เอ๊ะ! แล้วเราไปยุ่งอะไรด้วยเนี่ย)
โดย: พี่พิงค์กี้ IP: 58.9.229.141 วันที่: 29 มกราคม 2552 เวลา:13:20:58 น.
  
เรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้น ช่วงมัธยมปลาย เป็นช่วงที่ผมเรียนอยู่ตอนนั้นเลยครับ แล้วก็จริงอย่างที่คุณพิงค์กี้สังเกต ว่ามีวีดีโอ พิมพ์ดีด ซึ่งตอนนั้นแผ่นซีดียังไม่มีเข้ามาครับ และกำลังเป็นยุคแรกๆ ของคอมพิวเตอร์

แต่เรื่องราวในตอนปลายก็เป็นสมัยปัจจุบันนี่แหละครับ ที่เข้าสู่ยุคดิจิตอลแล้ว ส่วนตัวละครในเรื่องเป็นเพื่อนๆ น่ะครับ เอาคาแรคเตอร์หลักๆ มาใช้ แต่เหตุการณ์ร้ายๆ ที่เกิดในเรื่องนั้นผมแต่งเองนะครับ จะมีจริงๆ ก็เพื่อนฝูงทะเลาะกันธรรมดาน่ะครับ

สรุปก็คือ ผมเขียนเรื่องนี้หลังจาก 3 เรื่องก่อนหน้านี้ แล้วตั้งใจให้เป็นเหตุการณ์ในช่วงนั้นครับ
โดย: จอมยุทธเนียร วันที่: 29 มกราคม 2552 เวลา:16:42:56 น.
  
คุณเนียรปาตี

เนี่ยอ่านใกล้จบเต็มแก่แล้วนะจ๊ะ ขาดอีก 20 หน้าได้มั๊ง คืนนี้คงอ่านจบ แต่ตอนนี้บอกให้ดีใจก่อนว่าสนุกนะคะ แล้วก็อย่างอนกันล่ะถ้าบอกว่าชอบบรรพตกับปาริฉัตรมากกว่าคู่พระนางซะอีก
โดย: พิงค์กี้ IP: 58.9.136.49 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:18:58:15 น.
  
ดีใจที่ชอบครับ
บรรพต - ปาริฉัตร เป็นคู่ที่น่ารักครับ เพราะว่าคู่พระเอกนางเอกเนื้อหาจะค่อนข้างหนัก เน้นอารมณ์ค่อนข้างเยอะ ส่วนคู่รองจะผ่อนคลายมากกว่าครับ

ไม่รู้ว่าคุณพิงค์กี้ชอบอ่านแนวลิเกฝรั่งไหมครับ ประเภทเจ้าชาย-เจ้าหญิง เพราะจะเป็นเล่มต่อไปครับ
โดย: เนียรปาตี IP: 202.28.245.151 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:19:15:29 น.
  
เพิ่งทราบนะคะว่าเค้าเรียกลิเกฝรั่ง แล้วเป็นเจ้าชายเจ้าหญิงไทยหรือฝรั่งคะ

ถ้าตอบแบบไม่เอาใจคนถามก็คงต้องบอกว่าไม่ถนัดอ่านแนวนี้เท่าไหร่น่ะค่ะ แต่ถ้าเป็นผลงานของคุณเนียรฯ ยังไงก็ติดตามแน่นอนค่ะ แต่ว่ายังไงตอนนี้ก็ยังตามเก็บงานคุณไม่หมดเลยค่ะ ไม่รู้ว่าไปซื้อในงานหนังสือฯ ดีมั๊ย คุณจะได้เซ็นให้ไงเนอะ แต่อีกใจก็อยากอ่านก่อนอยู่เหมือนกัน

(อย่าเคืองกันนะคะที่ตอบตามตรง ไม่อยากพูดอะไรที่ทำให้ดีใจ แต่ว่าไม่จริงน่ะค่ะ) แล้วคุยกันใหม่นะคะ

โดย: พิงค์กี้ IP: 58.9.137.137 วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:0:30:15 น.
  
ไม่เคืองหรอกครับ ดีเสียอีกที่พูดความจริง จะได้ทราบความคิดเห็นที่แท้จริงสำหรับพัฒนาตนเองต่อไปครับ

ไพรัชนิยาย หรือ ลิเกฝรั่ง ก็เป็นแนวที่เป็นฉากต่างประเทศ ประเภทสมมุติเอาน่ะครับ ยกตัวอย่างเรื่องที่ดังๆ ก็เช่น ดั่งดวงหฤทัย ฟ้าจรดทราย อะไรทำนองนี้ล่ะครับ

ถ้าคุณพิงค์กี้จะไปซื้อที่งานสัปดาห์หนังสือก็ได้ครับ แต่คงต้องนัดวันเวลากันดีๆ ไม่งั้นอาจคลาดเคลื่อนกันได้ (แต่ผมก็ยังอยากเจอคุณพิงค์กี้อยู่ดี) เอาเป็นว่าถ้าทราบเวลาของตัวเองแน่นอนแล้วจะมาบอกในนี้อีกทีครับ
โดย: เนียรปาตี IP: 202.28.27.3 วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:13:28:31 น.
  
คุณเนียรปาตีคะ

อ่านจบแล้วนะคะ ชอบค่ะ ถึงเนื้อเรื่องจะยาวแต่อ่านแล้วไม่เบื่อค่ะ แต่ที่รู้สึกต่างจากเรื่องแป้งร่ำ คือ เรื่องนี้จะมีการผูกเรื่องแล้วก็ลำดับเหตุการณ์ได้ซับซ้อนกว่ากันนะคะ ส่วนเรื่องความโรแมนติคยังติดใจเรื่องแป้งร่ำมากกว่าน่ะค่ะ (พอดีก็ไม่ได้รู้อะไรมากมาย เป็นแค่ความเห็นส่วนตัวนะคะ)

ว่าแต่ตอนเขียนไม่สงสารตัวเอกบ้างเหรอคะ รักทรหดจริงๆ มีอุปสรรคตลอดเลย (จนจบเลยค่ะ)

อืม ++ ขอบคุณนะคะที่อยากเจอตัวจริง แต่ไม่รับประกันความผิดหวังนะคะ ต้องเตือนไว้ก่อนเนอะ คุณอาจต้องเตรียมยาลมยาหม่องมาด้วยนะจ๊ะ

ว่าแต่ตอนนี้ต้องไปทำอย่างอื่นก่อนแล้ว เดี๋ยวถ้าว่างค่อยคุยใหม่นะคะ




โดย: พิงค์กี้ IP: 58.9.135.247 วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:20:00:19 น.
  
ดีใจที่คุณพิงค์ชอบเรื่องนี้ครับ ส่วนเรื่องความโรแมนติก ไว้ผมจะลองไปทบทวนดูในแป้งร่ำสารภีว่าทำไมถึงหวานกว่า แต่ถ้าให้ตอบตรงนี้ก็คงเป็นเพราะว่าเรื่องฝากรักไว้ที่ปรายฝนนี้ ชีวิตของคู่หลักค่อนข้างจะเจอปัญหาน้อยปัญหาใหญ่เข้ามารุมเร้าอยู่เรื่อยๆ นั่นแหละครับ แล้วทั้งปาณัสม์และชมภูก็ไม่ค่อยจะยอมพูดจากันสักเท่าไหร่ มันก็เลยดูคล้ายกับว่าความโรแมนติกจะหายไปบ้าง

แต่สุดท้ายเรื่องนี้ก็ Happy Ending ทำให้ยิ้มได้ตอนสุดท้ายใช่ไหมครับ

เรื่องอยากพบกัน** คงไม่ผิดหวังอะไรครับ เพราะอยากรู้จักคนที่อ่านหนังสือของตัวเองให้มากที่สุด ทุกๆ งานสัปดาห์หนังสือก็จะไปตลอด เพราะมีคนที่จำได้ ติดตามผลงานแวะมาหาที่บูธ มาพูด มาคุย สักนาทีสองนาที คนเขียนก็ชื่นใจแล้วครับ ยิ้มแป้นเลย เพราะคนที่ชอบมีตั้งแต่วัยรุ่นยันด๊อกเตอร์แน่ะ แค่นี้ก็ปลื้มแล้วครับ

โดย: เนียรปาตี IP: 202.28.245.88 วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:9:18:22 น.
  
555 ดีค่ะที่มีคนอ่านหลายๆ รุ่น พี่จะได้ไม่ต้องเป็นแกะดำๆ เนอะคะ

ปกติก็ไม่ค่อยได้ไปงานหนังสือฯ เท่าไหร่ ก็คนมันเยอะมากๆ นี่นา แต่ตอนที่ไปก็เพราะอยากเจอตัวจริงๆ ของนักเขียนที่เราชอบน่ะค่ะ ได้เจอนักเขียนหลายๆ คนของบูธพิมพ์คำ ก็เอาหนังสือให้เซ็นหมดเลย ก็แหมเจอตัวจริงแล้วนี่เนอะ โดยเฉพาะคุณดวงตะวัน หนึ่งในนักเขียนที่ชอบที่สุดเลยค่ะ

แล้วเรื่องใหม่ของคุณเนียรจะออกทันงานหนังสือนี้มั๊ยคะ ? มีชื่อเรื่องแล้วรึยังเอ่ย เรื่องคงเปลี่ยนแนวไปจากที่คุณเคยเขียนแน่ๆ เลยใช่มั๊ยคะ

โดย: พิงค์กี้ IP: 58.9.142.247 วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:12:41:06 น.
  
เปลี่ยนแนวครับ เพราะเป็นเรื่องที่สมมุติเอาหมดเลย ทั้งเจ้าหญิง ทั้งประเทศ และอื่นๆ สำหรับเรื่องที่ว่านี้ ตอนนี้ส่งไปที่สำนักพิมพ์เรียบร้อยแล้วครับ แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะออกทันงานหนังสือไหม หรือถ้าออกทัน จะออกในช่วงเวลาใด ซึ่งถ้าทราบรายละเอียดที่แน่นอนแล้วจะคอนเฟิร์มที่นี่อีกทีครับ

เรื่องใหม่ที่ว่านี้ ชื่อเรื่อง เวิ้งราตรี ครับ
โดย: เนียรปาตี IP: 202.28.245.115 วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:15:35:47 น.
  
ตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ จาก...เวิ้งราตรี...

ศิขรินยกมือตนเองขึ้นมาทาบกับหัตถ์ขาวบนใบหน้า แล้วจึงค่อยสอดนิ้วกุมช้าๆ ลงมาที่หน้าอกแข็งแรงเบื้องซ้ายของตนเอง
“ฝ่าบาทจะอยู่ที่ตรงนี้ตลอดไป”สัมผัสถึงจังหวะเต้นของหัวใจทำให้เจ้าหญิงอาทิตยาต้องกลืนก้อนแข็งลงพระศออีกครั้งก่อนรับสั่งด้วยสุรเสียงสั่นเครือ
“ในตำแหน่งเดียวกันของร่างกายนี้” หัตถ์ขาวดึงมือใหญ่มากุมเหนือพระอุระแห่งองค์เอง “เธอก็จะอยู่ที่นี่เช่นกัน แต่ถ้าหากฉันเลือกได้ ฉันอยากมีเธอทั้งร่างกาย ลมหายใจ และความรู้สึก”
ความเงียบเข้าครอบคลุมภายในห้องนั้นอีกครั้ง จนแม้แต่เสียงฝนที่ตกหนักภายนอกยังลอดผ่านกำแพงหนาของคุกหลวงดังก้องราวเปิดหน้าต่างเสียด้วยซ้ำ
โดย: เนียรปาตี IP: 202.28.245.115 วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:15:39:10 น.
  
ตอนนี้คนเขียนก็คงโล่งใจแล้วเนอะ ที่ส่งสำนักพิมพ์เรียบร้อยแล้ว ยังไงก็ช่วยเชียร์ให้พิมพ์ทันงานหนังสือนี้นะคะ จะได้เห็นคนหน้าบานเป็นจานเลย

อืม.. ตัวอย่างท่าทางจะหวานมากๆ นะคะ
โดย: พิงค์กี้ IP: 58.9.211.78 วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:18:53:14 น.
  
อยากคุยเรื่องแป้งร่ำเทียบกับเก็บรักฯ ที่คุณพูดมา เห็นด้วยเลยค่ะ ปาณัสม์กับชมภูเป็นคนที่เก็บทุกอย่างไว้ในใจ จนมีปัญหาเยอะแยะที่ตามมา แต่จะว่าไปปัญหามันก็ทำให้ชวนติดตามนะคะ

ส่วนเรื่องแป้งร่ำเนี่ยไม่รู้คุณคิดเหมือนกันมั๊ยว่าตอนที่ 9 น่ะโรแมนติกมากๆ เลยค่ะ ทั้งหวาน ทั้งเศร้า ท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นขุนเขา มีดอกไม้ มันอบอุ่น แล้วก็ซาบซึ้ง แต่ที่ชอบมากก็ตอนที่ธนาวุฒิไม่ยอมเช็ดน้ำตาให้แป้งร่ำเพราะต้องการให้รู้จักดูแลตัวเอง เศร้าเลย ไม่พูดแล้วดีกว่า

โดย: พิงค์กี้ IP: 58.9.211.78 วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:19:15:05 น.
  
สงสัยตอนนั้นบรรยากาศเป็นใจด้วยครับ ท้องฟ้า ขุนเขา ดอกไม้ และเหตุการณ์ ธนาวุฒิอยากเป็นดูแลแป้งร่ำครับ ฉะนั้นตอนที่เขาไม่อยู่ เขาเลยอยากให้เธอดูแลตัวเองให้ได้ สำหรับแป้งร่ำ เธอก็อ่อนไหวเกินไป จนภายหลังเรื่องวุ่นวายจึงเกิดขึ้น

ผู้เขียนต้องสารภาพเสียตรงนี้ว่า ระหว่างที่เขียนไม่ว่าเรื่องใดๆ มันก็เป็นไปตามเหตุการณ์และอารมณ์ที่วางโครงเรื่องเอาไว้ ไม่ค่อยจะรู้ตัวเลยว่าโรแมนติก หรือว่าที่กำลังเขียนอยู่เข้าข่ายโรแมนติก เล่มต่อๆ ไปก็จะลองดูตรงนี้อีกที ว่าหวานพอไหมน๊า
โดย: เนียรปาตี IP: 202.28.245.205 วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:9:33:19 น.
  
ยังไงก็เป็นกำลังใจให้คนเขียนด้วยแล้วกันนะคะ เพราะกว่าจะเขียนได้แต่ละเล่มก็คงต้องใช้พยายามไม่ใช่น้อย แล้วงานของคุณมันก็ไม่ใช่หวานแหววธรรมดา มันแทรกศิลปวัฒนธรรมเยอะ ต้องใช้ข้อมูลเยอะ

เพิ่งทราบว่าคุณเป็นคนเชียงใหม่นะคะ แต่ก็สงสัยอยู่เหมือนกันจากที่ได้อ่านงานของคุณมา อยากให้คุณยังเขียนงานแนวนี้ออกมาเรื่อยๆ มันเรียบๆ ง่ายๆ อ่านแล้วสบายใจดีค่ะ
โดย: พิงค์กี้ IP: 58.9.147.49 วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:17:59:16 น.
  
ผู้เขียนเองเป็นคนชอบบเรื่องศิลปะวัฒนธรรมเป็นพื้นฐานอยู่แล้วครับ ก็เลยอาศัยความชอบตรงนี้มาใส่ในผลงานด้วย เพื่อว่าจะได้ถ่ายทอดสิ่งที่เรารู้เล็กๆ น้อยๆ แทรกไปในเนื้อเรื่องด้วย นอกจากความบันเทิงแล้วก็ยังได้เกร็กเล็กเกร็ดน้อยไปในคราวเดียวกัน

อากาศเชียงใหม่เริ่มแย่ครับ แต่ก็ยังมีหลาบที่ที่อากาศยังดี สดชชื่น และสงบ ทำให้บรรยากาศแวดล้อมเป็นใจสำหรับเวลาที่เขียนหนังสือครับ ส่วนเรื่องในแนวๆ เดียวกันกับ แป้งร่ำสารภี และ ฝากรักไว้ที่ปรายฝน ก็คงมีมาเรื่อยๆ สลับกับเรื่องที่แหวกแนวออกไป อย่างเช่นแนวย้อนยุค แฟนตาซี หรือไพรัชนิยาย ซึ่งน่าจะเขียนสลับกัน เพื่อผู้เขียนจะได้เปลี่ยนอารมณ์บ้าง แล้วผู้อ่านไม่เบื่อเสียก่อน ว่านักเขียนคนนี้เขียนได้อยู่แบบเดียว

ติดตามกันต่อไปนะครับ
โดย: จอมยุทธเนียร วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:19:30:03 น.
  
อ่านจบแล้ว รู้สึกเหมือนได้กลับไปมัธยมอีก เพราะมีเหตุการณ์ต่างๆ คล้ายกับในเรื่องเลย ไม่ว่าการจัดกิจกรรมไหว้ครู การจัดงานปฐมนิเทศน์ แต่ไม่ได้เข้าไปร่วมหรอก เพราะไม่ได้เป็นกรรมการนักเรียน ได้แต่สงสารเพราะกรรมการทำงานหนักมากเหมือนเป็นกรรมกร แต่ตอนนั้นสงสัยมากว่า ทำไมกรรมการนักเรียนถึงได้เรียนเก่งนัก เอาเวลาที่ไหนมาอ่านหนังสือ แต่สามีบอกว่าเพราะคนมันเก่งนะซิ ก็สามีเราเรียนโรงเรียนชายล้วน ได้ทำกิจกรรมต่างๆ มากมาย แหมยอตัวเองน่าดู
ต่อมาเหตุการณ์ช่วงมหาวิทยาลัยมองภาพไม่ค่อยออก เพราะไม่ได้เรียนมหาวิทยาลัย แต่สามีจบมหาวิทยาลัยและเผอิญน้องชายจบจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เคยเล่าให้ฟังถึงบรรยากาศต่างๆ เช่นอ่างเก็บน้ำ หอพัก การไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ ก็เลยพอจะมองภาพออก ส่วนช่วงที่ทำงานแล้ว ก็มองเห็นภาพได้ สรุปได้ว่าเนื้อหาดี คล้ายชีวิตจริงที่เกิดขึ้น ชอบทุกตัวละคร ไม่ว่าดีหรือเลว เพราะทุกคนก็จะมีเหตุผลของแต่ละคน ถ้าคุณเนียรปาตีไม่บอกว่าตอนจบไม่เศร้าละก็ ต้องคิดว่าปาณัสม์ตายแน่ๆ เพราะให้หัวใจแก่บรรพตไป เพื่อจะให้ชมภูและปาริฉัตรมีความสุข และหัวใจก็จะอยู่กับเขาตลอดไป ถ้าจบแบบนั้นต้องร้องไห้แน่ๆ เลย แต่ถึงจบแบบไหนก็อ่านได้ค่ะ
อ้อลืมบอกไปหนังสือที่ซื้อมา มีอยู่ช่วงหนึ่งคือ หน้า 477ถึง492 จะเย็บเล่มกลับหัว แต่ก็อ่านได้ แถมคนอื่นยังเห็นว่าเรามีความสามารถพิเศษ อ่านหนังสือกลับหัวได้ ไม่ทราบว่าเล่มอื่นๆเป็นหรือเปล่า

โดย: เพ็ญพิศ IP: 124.121.130.149 วันที่: 17 เมษายน 2552 เวลา:21:20:10 น.
  
ขอบคุณพี่เพ็ญพิศสำหรับความคิดเห็นครับ
ก่อนอื่นคงต้องบอกว่าดีใจมาก ที่เนื้อเรื่องทำให้หวนนึกไปถึงภาพวันวานเก่าๆ สมัยวัยเรียนกันได้ เพราะนั่นก็เป็นส่วนหนึ่งที่ผมเองตั้งใจจะถ่ายทอด ผมคคิดว่าช่วงชีวิตวัยเรียนเป็นวัยที่สดใส สนุกสนาน และมีอะไรดีๆ (และไม่ดี) ให้เราได้กลับไปทบทวนเสมอ เมื่อเราโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น แล้วมองย้อนกลับไปช่วงเวลานั้น มันก็เป็นอะไรที่ยากจะลืมจริงๆ

ช่วงท้ายของเรื่อง ทีแรกก็คิดอยู่เหมือนกันว่า จะให้ปาณัสม์ตาย แต่ก็คงจะโหดร้ายเกินไปสำหรับผู้อ่าน ที่อาจจะรรักตัวละครตัวนี้แล้ว ทั้งๆ ที่หากจะมองเปรียบเทียบกัน ระหว่างปาณัสม์ กับ บรรพต ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่า บรรพตดูน่ารักกว่าปาณัสม์ แต่ช่วงที่ปาณัสม์ผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ เป็นสิ่งที่ผู้เขียนถ่ายทอดผ่านตัวละครว่า แม้แต่คนที่ไม่เคยทำอะไรสำเร็จในชีวิตเลย ก็ขอมีโอกาสสักครั้งได้ทำอะไรสักอย่างให้กับคนที่เรารัก...และสุดท้าย เมื่อปาณัสม์ต้องพิการ เขาก็มิได้ท้อแท้ที่จะตามความฝันต่อไป...สำหรับผู้เขียน เรื่องนี้จึงมิใช่นิยายที่จบแบบแฮปปี้เอนดิ้งชนิดพาฝัน ที่ทั้งพระเอก นางเอก และตัวละครอื่นๆ มีความสมบูรณ์อย่างที่สุดชชนิดที่ว่าจากนี้ต่อไปจะไม่พบพานกับความโชคร้ายของชีวิตอีกเลย

เรื่องต่อมาคือต้องขออภัยที่หนังสือเย็บเล่มกลับหน้า...อาจเเป็นว่าพี่เพ็ญพิศแจ๊คพอตเจอเล่มนี้เข้าพอดี ซึ่งสามารถขอเปลี่ยนได้ครับ แต่ถ้าจจะเปลี่ยน ผมแนะนำให้เปลี่ยนเวลาที่จัดงานแล้วมีออกบูธครับ ถือไปเปลี่ยนเล่มใหม่ที่บูธได้เลย เพราะหาส่งไปที่สำนักพิมพ์อาจล่าช้าครับ

ถัดมาคือเรื่องเบาๆ ว่า ท้ายบทที่ 18 หลายคน (ส่วนมากจะเป็นเพื่อนๆ) จะทักว่า...เอ๊ะ จบแล้วเหรอ...อ้าว...ที่อ่านมานี่ นิยายซ้อนนิยายหรอกเหรอ...อะไรทำนนองนี้น่ะครับ ไม่รู้ว่าพี่เพ็ญพิศเป็นเหมือนกันไหม

และสุดท้าย ไม่ทราบว่าพี่ชายพี่เพ็ญพิศเรียน มช.คณะอะไรครับ รหัสไหน ส่วนผมเอง คณะการสื่อสารมวลชชน รหัส 42 ครับ
โดย: เนียรปาตี IP: 202.28.245.51 วันที่: 18 เมษายน 2552 เวลา:19:39:01 น.
  
เห็นด้วยที่ชีวิตวัยเรียนเป็นชีวิตที่จำได้แม่น บางทีก็เคยฝันเห็นสภาพโรงเรียน เพื่อนๆ และครูในสมัยเรียนด้วย ทั้งที่เวลาก็ผ่านมาเป็น10ปี
หนังสือที่เย็บเล่มกลับหน้าไม่เปลี่ยนหรอก เพราะการเย็บกลับหน้าไม่ได้ทำให้การซึมซับความรู้สึกดีๆ ที่ได้จากการอ่านลดน้อยลง และที่สำคัญมีขอความที่ผู้แต่งเขียนให้ด้วยความเต็มใจ แต่ถ้าหน้าหนังสือขาดหายไป ก็จะซื้อเล่มใหม่เลย เสียดายเล่มเก่า อ้อลืมบอกไป รูปคุณเนียรปาตีที่ลูกสาวถ่ายไว้ เก็บไว้ในฮาร์ดดิสแล้ว(สามีเป็นคนบอก พี่ไม่รู้จักหรอก) แล้วจะให้พิมพ์ภาพเพื่อใส่ไว้ในหนังสือด้วย ดีใจไหมล่ะค่ะ
ส่วนน้องชายที่จบมช. น้องเค้าจบคณะวิศวกรรม แก่กว่าคุณเนียรปาตีหลายปี แสดงว่าพี่ก็แก่กว่าคุณเนียรปาตีเป็นหลาย10ปีทีเดียว(อายุตอนนี้ก็41แล้ว) น้องเค้ายังบอกอีกว่า ในสมัยเค้าไม่มีคณะสื่อสารมวลชน มีแต่คณะมนุษยศาสตร์ ภาควิชาสื่อสารมวลชน แล้วยังฝากถามว่า เรียนโทที่มช.หรือไม่ เพราะเค้าเรียนโทที่จุฬา(จบแล้ว) น้องชายแนะนำว่าน่าจะมาเรียนโทที่จุฬาอีก จะได้เป็นน้องกันอีก
อยากจะบอกว่า ไม่เคยชอบอ่านนิยายที่พระเอก หรือนางเอกตายตอนจบ เช่นเรื่องคู่กรรม เพราะไม่อยากร้องไห้ แต่บังเอิญมาอ่านเรื่องแป้งร่ำสารภี เนื่องจากไม่รู้ว่านางเอกตาย ก็เลยเปลี่ยนความคิดที่ว่า ในตอนจบไม่ว่าพระเอกหรือนางเอกตาย ก็ไม่สามารถทำให้ความสนุกของนิยายลดน้อยลง
สรุปถึงอย่างไรก็ไม่ชอบอยู่ดีที่พระเอกหรือนางเอกตาย แต่ก็อ่านได้
โดย: เพ็ญพิศ IP: 124.122.209.36 วันที่: 18 เมษายน 2552 เวลา:21:25:34 น.
  
แหม...อ่านแล้วปลื้มใจ...นิยายของตัวเอง จะมีรูปตัวเองแปะอยู่ในนั้น ขอบคุณพี่เพ็ญพิศและครอบครัวจริงๆ ครับ

เรื่องเรียน อันที่จริงผมก็เรียนคณะมนุษยศาสตร์ ภาควิชาการสื่อสารมวลชนครับ แตต่ว่าตอนนี้แยกตัวออกมาเป็นคณะแล้ว ซึ่งผมเองก็เป็นนักศึกษา ป.โท รุ่นแรก ของคณะใหม่แต่บ้านเดิมของตัวเองนี่แหละครับผม

เรื่องตัวละครตายตอนจบ ถือว่าเป็นเรื่องนานาจิตตังครับ แต่ส่วนใหญ่แล้ว นักเขียนก็จะให้จบแบบมีความสุข และนักอ่านก็อยากอ่านนิยายที่จบอย่างมีความสุข ด้วยเหตุผลว่า (จากที่ได้คุยกับผู้อ่านหลายๆ คน) ชีวิตจริงก็ย่ำแย่พออยู่แล้ว เลยอยากผ่อนคลายแบบไม่ต้องรันทดใจตอนจบ ซึ่งตรงนี้ผมเองก็เห็นด้วยเป็นอย่างมาก และจะเห็นในงานเล่มต่อๆ ไป ซึ่งตอนจบจะเป็นอย่างไรนั้น คงอยยู่กับโครงเรื่อง และแก่นของเรื่องที่ได้ตั้งไว้ตั้งแต่ตอนแรก

สำหรับนิยายที่มีตัวละครตายตอนจบ โดยส่วนตัวแล้ว ผู้เขียนถือว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ยากพอสมควร เพราะหากผู้อ่านไม่รักตัวละครตัวนั้นๆ แล้ว คงจะไม่สะเทือนใจไปกับความเป็นไปของตัวละครตัวนั้น ซึ่งอาจรุนแรงถึงขั้นด่าผู้เขียนเอาเลยทีเดียว

แต่อย่างไรก็ดี หลายเรื่องที่อยู่ลำดับต่อๆ มา ยังไม่มีเรื่องไหนที่จบแบบรันทดครับ
โดย: เนียรปาตี IP: 202.28.245.146 วันที่: 19 เมษายน 2552 เวลา:18:41:49 น.
  
สวัสดีค่ะคุณเนียรปาตี
อ่านเรื่องฝากรักไว้ที่ปลายฝนแล้ว มีความสงสัยเล็กน้อยคือ ตอนเปิดเรื่องนางเอกใส่ชุดสีเหลือง มีร่มสีเหลือง นั่งอยู่ในร้าน แล้วหยิบกระดาษเปล่าปึกใหญ่ที่อยู่ในย่าม แต่ว่าพออ่านไปถึงตอนที่นางเอกออกจากร้านแล้วขึ้นไปบนดาดฟ้าเพื่อฆ่าตัวตาย แต่หยิบปึกกระดาษที่มีตัวอักษร เป็นคนละปึกกันหรือคนละเหตุการณ์กัน
ตอนที่นางเอกถูกกล่าวหาว่าขับรถชนคนแล้วไม่ถูกจับหรือค่ะ ยังเรียนต่อได้อีก
ส่วนเรื่องนิยายซ้อนนิยายก็รู้สึกแปลกใจเหมือนกันเพราะคิดว่า เป็นเรื่องของนิยายจริงๆ ไม่คิดว่าจะเป็นนิยายที่นางเอกเขียน แล้วพระเอกเก็บได้ และสุดท้ายชอบคำว่า ละอองฝุ่นในสายลมจังค่ะ ดูเหมือนไม่มีความสำคัญแต่ฝุ่นเข้าตาก็ทำให้เคืองตาได้ ส่วนกลอนก็ชอบมากเหมือนกัน คิดกลอนได้ยังไง
โดย: เพ็ญพิศ IP: 124.121.127.3 วันที่: 19 เมษายน 2552 เวลา:21:08:12 น.
  
ทั้งสองเหตุการณ์นั้น คือเหตุการณ์เดียวกันครับ ซึ่งผู้เขียนอาจจะหลงลืมในบางรายละเอียด และขาดความเชื่อมโยง จึงทำให้รู้สึกสับสนบ้างครับ อย่างไรก็ดี ก็ต้องขอบคุณพี่เพ็ญพิศมากครับ ที่ตั้งข้อสังกตและบอกล่าวกัน เพื่อเรื่องต่อๆ ไปจะได้ดูให้ละเอียดถี่ถ้วนขึ้นครับ

เรื่องกระดาษคนละปึก ตอนเปิดเรื่องคือกระดาษเปล่า ว่าจะเขียนเรื่องใหม่น่ะครับ แต่ปึกที่ร่วงลงมานั้น คือเรื่องที่เขียนจบแล้วน่ะครับ ซึ่งผู้เขขียนควรจะอธิบายให้ชัดเจนกว่านี้

ดีใจที่ชอบกลอนครับ ลองหาเพลง Dust in the Wind ของ Cansus มาฟังประกอบนะครับ เพราะมากเลย
โดย: เนียรปาตี IP: 202.28.245.158 วันที่: 20 เมษายน 2552 เวลา:10:46:33 น.
  
สวัสดีค่ะคุณเนียรปาตี
ให้ลูกสาวหาเพลง Dust in the Wind ใส่ไว้ในคอมแล้วจำได้ว่าเคยฟังในสมัยก่อนเพราะมากจริงๆขอบคุณค่ะที่แนะนำ
โดย: เพ็ญพิศ IP: 124.121.218.194 วันที่: 20 เมษายน 2552 เวลา:23:16:03 น.
  
เพลงนี้เพราะแบบเศร้าๆ น่ะครับ ตอนที่เขียนเรื่องนี้ เปิดฟังเพลงนี้หลายรอบเพื่อรวมสมาธิก่อนเขียนแต่ละตอนครับ
โดย: เนียรปาตี IP: 202.28.245.121 วันที่: 21 เมษายน 2552 เวลา:10:35:24 น.
  
กำลังจะซื้อหนังสือคุณอ่าน อยากบอกว่ามีสามเล่มแล้วค่ะ แต่ที่อ่านแล้วชอบมาก ๆ อ่านไปหลายรอบมาก ๆ คือ แป้งร่ำสารภี อ่านแล้วรู้สึกว่าคุณใจร้ายจังทำไมให้ นางเอกตาย ธนาวุติตาย น่าจะเป็นชนนวีร์มากกว่า ไม่ชอบชนนวีร์เลย นางเอกก็หลายใจไปน่ะ เออ เรื่องแป้งร่ำ เคยเป็นส่วนหนึ่งในวัยเรียนของคุณหรือเปล่า แต่อยากบอกว่าพออ่านแล้วนึกถึงสมัยมัธยมมากมายค่ะ
โดย: คุ๊กกี้ IP: 118.173.2.78 วันที่: 5 พฤษภาคม 2552 เวลา:23:14:29 น.
  
ยินดีต้อนรับคุณ คุ๊กกี้ ครับ

ดีใจจังที่มีหนังสือผลแล้วถึง 3 เล่ม (จากทั้งหมด 5 เล่ม)
แป้งร่ำสารภี เป็นนิยายเรื่องแรกที่เขียนครับ ยังจับทางอะไรไม่ค่อยถูก ประสบการณ์ในงานเขียนยังน้อย เรื่องราวส่วนใหญ่จึงเป็นเรื่องในวัยเรียนที่ผ่านมาครับ ประกอบกับเป็นเรื่องที่เขียนส่งประกวด เลยคิดว่าคงมีคนที่เขียนจบแบบแฮปปี้เอนดิ้งมาก เราก็เลยเลือกจบแบบนี้ ยิ่งช่วงที่เขียนนั้นเป็นช่วงละครเกาหลีกำลังบูม เหมือนกับว่าถ้าตัวเอกตายตอนจบจะเป็นเรื่องธรรมดา โจทย์นี้เลยถือว่าท้าทายสำหรับตัวเองครับ เพราะถ้าคนอ่านไม่รักตัวละครเสียแล้ว คงไม่รู้สึกสะเทือนใจในตอนท้ายเป็นแน่

แต่ถึงอย่างไร ก็ดีใจครับ ที่แป้งร่ำสารภี ทำให้คุณคุ๊กกี้ประทับใจ นึกถึงสมัยเรียนมัธยมได้...ฝากรักไว้ที่ปรายฝนนี้ก็ใกล้เคียงกันครับ ทำให้นึกถึงชีวิตมัธยมเหมือนกัน หวังว่าตอนจบจะไม่ขัดใจเหมือนแป้งร่ำสารภีนะครับ
โดย: เนียรปาตี IP: 125.24.188.255 วันที่: 14 พฤษภาคม 2552 เวลา:15:52:42 น.
  
ต้องบอกว่าดีใจมากที่คุณตอบกลับข้อความค่ะ และต้องขอบอกว่า ยังไม่ได้ซื้อ ฝากรักไว้ที่ปรายฝนเลย เพราะยุ่งกับงานจนหนังสือที่สั่งหลุดลอยไปเป็นของคนอื่นแต่อย่างไรก็ตามในอนาคตอันใกล้ต้องหาหนังสือมาให้ได้ค่ะ เพราะชอบเจ้าของนามปากกานี้ อย่างที่บอก มีสามเล่มแล้ว ปรกติก็ซื้อหนังสือจากผู้ประพันธ์เป็นส่วนใหญ่ หรือหนังสือที่เคยอ่านในนิตยสารสมัยเรียน (แล้วอ่านไม่จบบ้างล่ะ) ยิ่งหนังสือที่อ่านแล้วทำให้หวนคิดถึงความทรงจำในวัยเรียนล่ะก็จะชอบค่ะ เพราะเราไม่สามารถหวนกลับไปใช้ชีวิตแบบนั้นอีกแล้ว (เพราะว่าเดินจากมาไกลมากแล้วค่ะ) อิจฉาคุณจังค่ะ มีเคล็ดลับอะไรคะ ที่เป็นนักเขียนได้ ดิฉันอยากเป็นมาก แต่ว่าเขียนได้แค่สามหน้าคือมากสุด เขียนไม่ออก หรือไม่ว่างทุกครั้ง แต่คุณเก่งจังทำได้ดีมาก รู้มั๊ยคะ มีเพื่อนยืมแป้งร่ำของคุณไปกับหนังสืออื่น ๆ ของผู้ประพันธ์มีชื่อไปอ่านเป็นสิบ ๆ เล่ม เค้ากลับชมว่าแป้งร่ำดีมาก กะทัดรัด และน่าติดตาม มีเหตุมีผล ที่มาที่ไป คุณต้องภูมิใจในตัวเองให้มาก ๆ นะคะ และสร้างสรรค์ผลงานดี ๆ เรื่อยไปยังงัยก็จะมีแฟนคลับคนนี้เสมอค่ะ
นิดหนึ่งนะคะ แอบเห็นด้วยกับคุณ พิงค์กี้ที่ชอบตอนที่ 9 ของแป้งร่ำเหมือนกัน หวังว่าคงได้คุยกันใหม่นะคะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ... คุ๊กกี้
โดย: คุ๊กกี้ IP: 118.173.15.178 วันที่: 19 พฤษภาคม 2552 เวลา:0:28:14 น.
  
ขอบคุณพี่คุ๊กี้และเพื่อนๆ มากครับ สำหรับกำลังใจ เพราะตัวผู้เขียนเอง...กับนวนิยายเรื่องแรก แป้งร่ำสารภี ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้อ่านนี้ถือว่าเกินความคาดหมายมากครับ เพราะยังจับต้นปลายไม่ถูก แต่อาศัยว่าจะต้องเขียนให้จบสักเรื่องให้ได้ ก็เลยหยิบจับเอาประสบการณ์ใกล้ตัวในวัยเรียนมาผูกเป็นเรื่องครับ

สำหรับการเขียนนิยาย ก็ต้องเริ่มต้นที่ใจรักครับ เวลาเอื้ออำนวย ที่พี่คุ๊กกี้เขียนได้ 3 หน้าแล้วไม่รู้จะต่อไปทางไหนอาจเป็นเพราะว่า ตอนที่เขียนได้นั้น เป็นตอนที่เรานึกภาพเหตุการณ์อะไรออกแล้ว พอเขียนหมดที่เรานึก ก็ไม่รู้ว่าตัวละครควรจะเป็นไปอย่างไร แก้ได้ด้วยการกำหนดโครงเรื่อง ความเป็นไปของตัวละครแต่ละตัวก่อน เรียบร้อยแล้วจะมองเห็นภาพง่ายขึ้นครับ ว่าตัวละครตัวไหนจะมาเกี่ยวเนื่องกันในเหตุการณ์ใดบ้างตั้งแต่ต้นจนจบครับ

วันนี้อาจจะยังเขียนไม่ค่อยได้ แต่ค่อยๆ ฝึกไปนะครับ เพราะผมเองก็ยังถือว่าเพิ่งเริ่มต้นเหมือนกัน ต้องฝึกปรือไปอีกเยอะ

ขอบคุณที่ติดตามงานเขียนทุกเล่ม แวะมาคุยกันบ่อยๆ นะครับ
โดย: เนียรปาตี IP: 202.28.245.34 วันที่: 20 พฤษภาคม 2552 เวลา:10:35:43 น.
  
ขอบคุณมากนะคะสำหรับกำลังใจ จะพยายามทำให้ได้ค่ะ คุณเพิ่งเริ่มต้น แต่ทำได้ดีมาก ๆ กลิ่นกาสะลองก็ดีนะคะ ชอบเหมือนกัน แปลกดี ยังงัยพี่คุ๊กกี้จะติดตามคุณต่อไปนะคะ ไว้อ่านฝากรักเมื่อไหร่จะเข้ามาคุย และ ก็ comment อีกครั้งค่ะ
โดย: คุ๊กกี้ IP: 118.173.11.170 วันที่: 20 พฤษภาคม 2552 เวลา:22:32:00 น.
  
ขอบคุณครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ สำเร็จแล้วจะได้อ่านงานเขียนของพี่คุ๊กกี้บ้าง
โดย: เนียรปาตี IP: 202.28.245.63 วันที่: 21 พฤษภาคม 2552 เวลา:9:20:03 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Jom-yuth-niar.BlogGang.com

จอมยุทธเนียร
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]