เที่ยวสวีเดน-เดนมาร์ก 1.4 หลังจากได้หลับพักผ่อนแต่ก็เหมือนไม่เต็มที่น่ะค่ะเพราะเวลามันต่างกันประมาณ6ชั่วโมงและที่ยิ่งไปกว่านั้นคือเที่ยงคืนยังไม่มีวี่แววว่าจะมืด 555+++แต่เจ้าของประเทศเขาชินกันน่ะค่ะ แต่พอเวลาตี2มืดเลยเหมือนดึกสงัด พอตี4 สว่างอีกแล้ว สรุปมืดประมาณ2ชั่วโมงกว่าๆค่ะ เอาน่ะเดี๋ยวก็ชิน มาหลายวันอยู่ค่ะ น้องน้ำยกบ้านให้พวกเราพัก1หลังเลย โชคดีนะคะถ้าเช่าโรงแรมทุกคืนคงจะงบบานปลายมากเลย แถมตอนเช้าเจ้าของบ้านทำอาหารเช้าเลี้ยงอีก จัดกันในสวนเลยค่ะ บรรยากาศสุดยอดมากๆเลยเสียดายที่ปีนี้สวีเดนค่อนข้างแล้ง รัฐบาลรณรงค์ให้ประหยัดน้ำ เลยไม่มีดอกไม้สวยๆยามเช้าในสวนให้เชยชมเลย แต่ไม่เป็นไรจุดสำคัญคืออาหารเช้าตรงหน้าคริคริ ลุยยยยยย ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() พอจัดการกับอาหารเช้าแล้วพวกเราก็เตรียมตัวไปในเมือง Helsingbrog กันค่ะน้องน้ำต้องทำงานสรุปนางพาเราไปปล่อยไว้ใจกลางเมืองให้เดินเที่ยว วันนี้บริเวณกลางเมืองมีเทศกาลอาหารนานาชาติด้วยอ่ะค่ะเลยเดินกันเพลินเลย ก่อนที่น้องน้ำจะไปทำงาน ก็พาเราไปเข้าเฟรมกันที่ริมทะเลบอลติก โอยดีใจมากเมื่อปีที่แล้วเราก็อยู่ริมทะเลบอลติกแต่อยู่ฝั่งประเทศรัสเซีย มาปีนี้ขยับมาฝั่งประเทศสวีเดน 555++เหมือนเป็นคอลเลคชั่นยังไงก็ไม่รู้เนาะ เฮลซิงบอร์ก(Helsingborg)เป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของสวีเดน และมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี สถาปัตยกรรมยุคกลางริมทะเล และบ้านเรือนที่เก่าแก่ ไปตามแนวชายฝั่งทะเล เมืองนี้เป็นเมืองใหญ่อันดับ ๘ ของสวีเดน เป็นเมืองบนแผ่นดินใหญ่ของสวีเดนที่ตั้งอยู่ใกล้กับเดนมาร์กมากที่สุด โดยห่างจากเมืองเฮลซิงเออร์ (Helsingør) ของเดนมาร์กซึ่งถูกคั่นด้วยช่องแคบเออเรซุนด์ห่างออกไปเพียง ๔ กม. สามารถเดินทางข้ามไปมาได้ด้วยเรือข้ามฟาก เมืองนี้เป็นเมืองเก่าแก่ที่สุดเมืองหนึ่งของสวีเดน เชื่อว่าก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 1085 โดยเป็นส่วนหนึ่งของเดนมาร์ก และได้ตกเป็นของสวีเดนตั้งแต่ปี 1658 หลังสนธิสัญญารอสกิล ภายในเมืองนี้เต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างเก่าแก่มากมาย หากมองดูตัวเมืองนี้จากทะเลจะเห็นทิวทัศน์ที่สวยงาม นักท่องเที่ยวที่มาเมืองนี้นิยมนั่งเรือข้ามไปยังเมืองเฮลซิงเออร์ซึ่งก็เป็นเมืองที่มองจากทะเลแล้วสวยงามมากเช่นกัน ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() อนุสาวรีย์ผู้กล้า Magnus Stenbock ไบันทึกหน้านี้จึงต้องเป็นเรื่องของบุคคลสำคัญท่านนั้นซึ่งก็คือเท่านเคาน์ Magnus Stenbock ท่านเป็นชาวสวีเดน เกิดที่กรุงสตอร์คโฮม เป็นบุตรของ Gustaf Otto Stenbock กับ Christina Catharine de la Gardie ท่านมักนัสเป็นบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ในสมัยมหาสงครามเหนือ ซึ่งเป็นสงครามที่ยืดเยื้อยาวนานถึง 21 ปี โดยเริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1700 ไปจนถึงเดือนกันยายน ค.ศ. 1721 มหาสงครามเหนือเป็นสงครามระหว่างฝ่ายพันธมิตรนำโดยจักรวรรดิรัสเซีย กับจักวรรดิสวีเดน ซึ่งท่านมักนัสได้เข้ารับราชการทหาร เป็นผู้นำที่กล้าหาญมีไหวพริบปฏิภาณในการรบจนสามารถนำกองทัพไปสู่ชัยชนะได้หลายครั้ง และในศึกครั้งสำคัญที่ทำให้ท่านถูกกล่าวขานถึงมากที่สุดก็คือ ศึกเฮลซิงบอย ปี ค.ศ. 1710 ซึ่งการสู้รบในครั้งนี้เป็นการสู้รบระหว่างเดนมาร์กกับสวีเดน โดยกองทัพเดนมาร์กต้องการแย่งชิงดินแดนที่เคยสูญเสียไปให้กับสวีเดนเมื่อปี ค.ศ. 1658 กลับคืนมา แต่ด้วยความสามารถจากการนำทัพของท่านมักนัส ทำให้กองทัพเดนมาร์กต้องพ่ายแพ้และล่าถอยกลับไปโดยไม่กลับมารุกรานเฮลซิงบอยอีกเลย ชีวิตของท่านมักนัส ไม่ได้มีแค่การเป็นแม่ทัพที่เก่งกาจ แต่ท่านยังมีความสามารถในด้านการทูต ด้านศิลปะ เป็นนักกวี และมีพรสวรรค์ด้านการวาดภาพอีกด้วย ซึ่งพรสวรรค์เหล่านี้ช่วยให้ท่านใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเมื่อต้องถูกจองจำอยู่ที่กรุงโคเปนเฮเกนในฐานะเชลย หลังจากแพ้สงครามในปี 1712 สรุปว่าแม้บั้นปลายชีวิตท่านอาจจะขาดอิสระทางร่างกาย แต่ทางจิตใจท่านกลับมีอิสระ โดยได้ทำในสิ่งที่รักอีกหลายด้าน ที่สำคัญวีรกรรมและคุณงามความดีที่ท่านสั่งสมมาก็ได้ถูกบันทึกในหน้าประวัติศาสตร์ให้คนรุ่นหลังได้ระลึกถึงเสมอมา เพราะท่านคือ วีรบุรุษที่แท้จริงนั่นเอง ![]() ![]() Helsingborgs radhus ศาลาว่าการเมืองที่สวยสะกดตา หากใครที่ชื่นชอบศิลปะสไตล์นีโอโกธิค จะต้องชื่นชอบอาคารแห่งนี้แน่นอน จากประวัติการก่อสร้างได้บันทึกไว้ว่า เมื่อปี ค.ศ. 1889 ได้มีการจัดประกวดการออกแบบอาคารเพื่อสร้างศาลาว่าการเมืองเฮลซิงบอย สถาปนิกหนุ่มผู้มีนามว่า Alfred Hellerstrom ที่มีอายุเพียง 26 ปี และเพิ่งจบการศึกษามาจาก Royal Academy เป็นผู้ชนะการออกแบบ จากนั้นอาคารแห่งนี้ก็ได้เริ่มสร้างขึ้นและแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1897 โดยวิศวกรผู้ควบคุมการก่อสร้างก็คือ Frans Lundgren ตัวอาคารมี 4 ชั้น ล้อมรอบด้วยหอคอยสูง หลังคายอดแหลมทั้ง 4 มุม ส่วนจุดที่สูงที่สุดของอาคารได้แก่หอระฆัง ที่มีความสูงถึง 65 เมตร เราชื่นชอบสีแดงอิฐของตัวอาคารมันให้ความรู้สึกทรงพลัง แต่แฝงไว้ด้วยความอบอุ่น ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() เดินไปเดินมาจนเมื่อย ตั้งใจจะไปให้ถึงปราสาท Kärnan คงจะไม่ถึงแน่ๆ เห็นแต่ยอดลิบๆไกลๆนั่นล่ะค่ะ ไว้เอนทรี่หน้าแล้วกันนะคะจะพาไปสำรวจยอดปราสาทเลย อิอิอิ เอนทรี่นี้ขอจบไว้เพียงเท่านี้ก่อนนะคะ ขอบคุณที่ตามมาเที่ยวด้วยกันค่ะ ตามพี่ไปเที่ยวด้วยคนค่ะ
![]() โดย: โอน่าจอมซ่าส์
![]() โหวตครับครูเกศ
ตามมาเที่ยวด้วยคนครับ ขนมบ้านเค้าดูน่ากินทุกอย่างเลยครับ ![]() โดย: กะว่าก๋า
![]() ![]() อ๊ากกกก อยากไปๆ แบบนี้
ครูเกศไปเที่ยวไกลเลยนะค้า ชอบๆ ประเทศนี้น่าเที่ยวอีกประเทศหนึ่งด้วย เวลาต่างกัน รินก็เจ็ตแล็คค่า เป็นบ่อยๆ ปรับตัวกว่าจะได้ก็ปาไป 3-4 วันแล้ว แต่อยากไปช่วงอากาศหนาวาๆ เย็นๆ มันฟินมากกก ![]() ![]() ![]() โดย: Rinsa Yoyolive
![]() ![]() สวัสดีคะครูเกศ...
ตามครูเกศมาเที่ยวด้วยคะ... น่าสนุกจัง..อิจฉานิดๆล่ะ โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ
![]() ![]() ตามเที่ยวด้วยครับ ครูเกศ
ประหยัดน้ำ แต่ยังมีดอกไม้สวยๆให้ชม รอบบ้านก็เขียวขจี เมืองสวย สะอาด ขนมก็น่ารับประทานครับ ![]() โดย: สองแผ่นดิน
![]() ![]() บ้านเมืองเขาสวยงามน่าอยู่มากค่ะ
ชมภาพไม่อยากจะมีโอกาสไปเที่ยวบ้างจัง โดย: mambymam
![]() ![]() ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับครูเกศ
ขอให้ครูเกศหายเร็วๆนะครับ ช่วงนี้คนเป็นหวัดเยอะเลย ผมก็คนนึงครับที่เป็น 555 โดย: กะว่าก๋า
![]() ![]() |
บทความทั้งหมด
|