ด้วยความตั้งใจที่หาข้อมูลการเที่ยวแม่กลองมานานแสนนาน มาวันนี้ได้เดินตามลอย ที่ใครหลายคนไปมา คือบ้านคุณเกล้า แต่พอไปถึงก็จะเรียกว่า ลุงเกล้า ...... วัชเองมี concept ว่าอยากไปสัมผัสกับชีวิตของชาวบ้านจริงๆ เพราะตั้งแต่หาข้อมูลในพันทิปทุกข้อความที่โพส ถึงลุงเกล้าทำให้อยากไปสัมผัสกับสิ่งต่างๆที่คนเหล่านั้นบอกเล่ามา ว่ามันจริงรึป่าว วัชตัดสินใจโทรไปบ้านลุงเกล้า เมื่อวันที่ 19 ธันวา แล้วถามข้อมูลเบ็ดเสร็จโอนเงินไปวันที่ 22 ธันวา จำนวน 600 บาท เราไปกับคุณสามี แค่ 2 คน แล้วเราก็เดินทางออกจาก กรุงเทพเช้าวันที่ 25 ธันวา ไปขึ้นรถตู้ที่อนุเสาวรีย์ชัย ค่ารถก็คนละ70 บาท รถใหม่นั่งสบาย แต่เราโชคร้ายได้นั่งหลังสุดเลยเมื่อยสุดๆ ใช่เวลาเดินทาง 1 ชม. พอดีไม่ขาดไม่เกิน ......เราว่าเหมาะมากกับการท่องเที่ยวที่ไม่ต้อง เดินทางใกล้แค่เปลี่ยนบรรยากาศให้ชีวตอีกนิดเท่านั้นเอง ถ้าใครไม่มีรถลุงเกล้ามีสามล้อที่ซี้กันอยู่ 2 คันพี่เป็ด 083-155-1401 , พี่บาส 087-792-8759 (ขอบอกบริการดีมากโทรเรียกได้ตลอด )ว่ากันต่อดีกว่า ---- เราไปถึงบ้านลุงเกล้าก็เกือบ 11โมง เอาของไปไว้ที่พัก แล้วก็ออกมาเที่ยวแต่ก่อนอื่นเราก็ ไปเติมกำลังที่ครัวอุไร (ดูจากคนที่เคยไปโพสเอาไว้ ) ซึ่งอยู่แถวๆบ้านคุณลุงเมนูที่สั่งไป คือ หอยหลอดผัดฉ่าเนื้อปูผัดผงกะหรี่ จานใหญ่มากน้ำพริกไข่ปู รสจัดจ่านขอบอกเยอะมากๆๆเพราะทานไม่หมดเลย แต่อร่อยสุดๆ ลองดูนะค่ะอาหารก็ไม่แพงมากสำหรับการกินที่เป็นรสชาด ของคนพื้นที่บรรยากาศติดแม่น้ำแม่กลองค่ะ ครัวแม่อุไร ค่ะ เป็นครัวเล็กๆแต่คุณภาพเกินขนาด๐๐๐๐เราลืมบอกไปว่า ตอนแรกกะว่าจะไปพักแค่คืนเดียว.....แต่พอคุณสามีไปเห็นบ้านลุงเกล้าแกบอกเราคำแรกว่า น่าอยู่ดีนะ อยากอยู่ต่ออีกคืนเนอะ ทั้งๆที่ยังไม่ได้นอนเลย แต่พอเราได้ยินก็เลยเดินไปบอกคุณลุงว่าถ้าวันศุกร์อยู่ต่ออีกคืนจะได้มั้ย โชคดีที่ยังว่างเลยได้พักอีกคืน.......จากนั้นพี่เป็ดสุดหล่อ ( หล่อจริงๆนะ ) ก็พาไปเที่ยวตามใจเราที่อยากไป พอดีคุณสามีอยากไปแต่วัดเราเองก็ไม่ขัดศัทธา งานนี้เลยไปแต่วัดอย่างเดียว เน้นทำบุญอย่างเดียว เอารูปที่เราไปแวะไหว้มาฝาก แล้วก็มาที่วัดบางกุ้ง ที่วัดนี้ก็จะมีโบสถ์ที่มีต้นโพธิ์ปรกคุ้มทั้งโบสถ์ คิดว่าหลายคนคงเคยแห็นเลยไม่ได้เอารูปมาลง แต่เราว่านี้เด็ดกว่า พี่เป็ดแนะนำให้เรากับแฟนกินไอติมลุงพร เป็นไอติมกะทิขอบอกกะทิแท้ๆหวานมันอร่อยมากคนเสื้อลายคือลูกชายคุณลุงค่ะ แกบอกว่าแยกกันขายเป็น 2 สองสาขา ช่วงตอน 5 โมงเย็นทุกวันเสาร์-อาทิตย์ จะขายที่หน้าวัดบางกุ้ง ค่ะ ถ้าใส่ถ้วยโฟมธรรมดา 10 บาท ใส่เรือ 20 บาทมีร่มให้ด้วย ได้เรือกลับบ้านไปเลย เอารูปเรือมาฝาก แต่ต้องรีบถ่ายเพราะละลายไวมาก ๆ เลยได้ภาพที่ไม่ชัดเท่าที่ควร ขอย้ำนะค่ะว่าของลุงแกอร่อยจริงๆ มีนามบัตรมาให้ด้วยถ้าใครไปแล้วไม่เจอลอง โทรถามแกก็ได้ค่ะว่า แกจอดขายแถวไหน อันนั้ต้องขอบคุณคนพื้นที่อย่างพี่เป็ดที่แนะนำให้เราได้ชิมของอร่อย แถมไอเดียถ้วยเรือมีร่มปักนี้ เป็นไอเดียที่แกกับลูกชายแกช่วยกันคิดเรื่องการขายแกบอกว่าทำหนีพวกที่ชอบเลียนแบบ วัชเลยถามแกว่า แล้วถ้าเขาทำตามอีกละ แกก็บอกว่าก็เปลี่ยนแบบอีกสิ เปลี่ยนไปเรื่อยๆ เรือสั่งทำเป็นโลโก้แกเลยนะ ๐๐๐ เออ ความคิดดียังไงช่วยอุดหนุนแกเยอะๆนะค่ะ หนับหนุน ๐๐๐วันแรกเราไปเที่ยวมาแค่ 4 วัด เพราะว่าไม่ได้ไปโบสถ์แม่พระ แล้วก็อุทยาน ร2 บ้านแมวไทย อีกเยอะเลย เพราไม่เน้นเที่ยวมากอย่างที่บอกกลับมาก็มานอนเล่นที่บ้านพัก ช่วงเย็นคุณลุงก็ให้พี่ตี๋ (ลูกเขย ) ทำกับข้าวให้เราสองคนกิน ก็ไม่มากไม่มาย ตั้ง 4-5 อย่าง แหนะแล้วน้องใบเฟริน์ก็มาสอนเราย่างหอยเชลล์กันหน้ามันไปเลย ก่อนเดินตลาด เราให้พี่เป็ดพาไปที่อัมพวา-ชัยพัฒนาที่สมเด็จพระเทพ ฯ ท่านไปเปิดงานเมื่อไม่กี่วันก่อนเราไป ร้านรวงก็น่าเข้าดี อนุรักษ์แบบไทยเดิมเป็นลานกว้างมีร้านขายของทั้งเป็นซุ้ม และเป็นห้อง ราคาของก็อย่างว่านักท่องพอจ่ายได้ พอดีเราไปแวะซื้อเข้มกลัดให้เพื่อนเราที่เป็นฝรั่ง .....เจอร้านพี่คนนี้เขานั่งเขียนงานอยุ๋ ก็แวะดูและอุดหนุนพี่เขามาหนึ่งชิ้น ร้านพี่เขาเป็นซุ้ม ถ้าเดินจากด้านหน้าเข้ามาก็จะอยู่ขวามือ อยู่หน้าร้านที่ขายของเหมือนของแกแต่เป็นห้อง ส่วนของพี่เขาเป็นซุ้มรถเข็นสาเหตุที่ต้องบอกระเอียดก็เพราะว่า พี่เขาเป็นคนน่ารักดี จริงใจถามอะไรตอบหมดไม่หวงวิชาอะไรทำยังไงบอกหมด แกบอกว่าแกเคยเป็นคนไม่รู้แล้วไปถามคนอื่นแล้วเจอคนงกวิชา แกเลยไม่ชอบ ตอนนี้มีวิชาแล้วเลยอยากบอกคนอื่นมั้ง ไงละเจ๋งมะละ ไงถ้าผ่านไปแวะไปคุยกับแกได้นะเราว่าไม่ซื้อแต่แค่สนใจในงานเขาก็ภูมิใจแล้ว ๐๐๐๐๐