งานเก่า Ma now: . . . ก็เธอน่ารัก เมื่อวานซืนนี้ไม่ต้องไปเวิร์คช็อป การประชุมสิ้นสุดก่อนกำหนด ทุกคนจึงมีเวลาว่างก่อนจะกลับ "ฉัน"คิดจะไปเดินเที่ยวชมเมือง เนื่องจากโรงแรมที่พักอยู่ไม่ไกลจากเส้นทางไปดอยสุเทพ "ฉัน"จึงตัดสินใจว่าเป็นโอกาสดีที่จะได้ไปชมสวนสัตว์เชียงใหม่ ปรกติทางไปสวนสัตว์เชียงใหม่ เข้าได้สองทางคือทางหลังมช.และทางขึ้นไปดอยสุเทพ การไปครั้งนี้จุดประสงค์ไปดูหมีแพนด้าโดยเฉพาะ จะว่าเห่อก็คงไม่มีข้อโต้แย้ง "ฉัน"เรียกรถแดงไปยังที่หมาย มองดูแล้วการคมนาคมแบบเมืองนี้ก็มีทั้งข้อดีข้อเสีย ข้อดีคือนึกอยากจะไปเมื่อไรก็ได้ ข้อเสียคือบางครั้งอาจถูกขูดรีดราคาเกินสมควร "ฉัน"เคยทราบมาเมื่อเกือบสิบปีก่อนมีการจะสังคยนาระบบการขนส่งแบบนี้มาก่อน ถ้าเราดูแผนที่ของตัวเมืองจะเห็นว่าค่อนข้างมีระเบียบ เส้นทางถนนหนทางตัดกันคล้ายเป็นตาราง ซึ่งอาจทำการเดินรถแบ่งเป็นลูป ๆได้แบบต่างประเทศ ถ้าทำอย่างนั้นก็จะเป็นระเบียบขึ้น แต่รู้สึกว่ามีการประท้วงของพวกรถแดง อะไรทำนองนั้น คงเป็นเรื่องการเมือง มีผู้ได้ประโยชน์ ก็ย่อมมีผู้เสียประโยชน์ ผลเลยเป็นเหมือนเช่นเดิมอย่างนี้กระมัง สวนสัตว์เชียงใหม่มีทำเลเกาะอยู่บนเนินเขา มีต้นไม้สูงใหญ่มากมาย และมีส่วนหนึ่งของสถานนีช่องเจ็ดตามที่เห็นในแผนที่ตรงบริเวณทางขึ่น เมื่อไปถึงก็ได้ทราบว่าต้องเสียค่าเข้าชมสวนสัตว์และค่าเข้าชมแพนด้าอีกต่างหาก สัตว์คู่นี้เป็นสิ่งที่ประเทศจีนให้ยืมมา เพราะเป็นสัตว์ที่กำลังเหลือน้อย จึงมีการวิจัยเพื่อหาทางรักษาให้สัตว์ประเภทนี้เหลือรอดคงอยู่ได้ในอนาคต จึงต้องมีค่าใช้จ่ายดำเนินการ และค่าเข้าชมนี้ก็จะได้นำไปใช้จ่ายในการดังกล่าว ระหว่างทางไปชมก็ผ่านบริเวณสัตว์ทวีปแอฟริกา มียีราฟ นกกระจอกเทศเท่าที่เห็น นกกระจอกเทศบางตัวก็ขนร่วงในส่วนบั้นท้ายจนน่ากลัว "ฉัน"อดคิดไปไม่ได้ว่ามันจะเป็นโรคแบบเดียวกันกับหมาหนังกลับหรือเปล่า แต่ไม่น่าจะใช่ "ฉัน"ก็หวังว่าคงไม่เป็นเช่นนั้น ถึงบริเวณอาคารส่วนแสดงหมีแพนด้า มีป้ายบอกข้อมูลส่วนตัวของหมีน้อยทั้งสอง "ฉัน"รู้สึกสะดุดตาว่ามีตัวหนึ่งเกิดวันเดือนเดียวกับฉัน นี่ถ้าเป็นโบราณจะเรียกว่ามันเป็น"สหชาติ" (คือเกิดร่วมวันเวลเดียวกัน)ได้ไหม เมื่อชำระเงินแล้ว ก็เดินไปตามทาง เราต้องจุ่มรองเท้าให้ผ่านน้ำยาฆ่าเชื้อ. . . กลิ่นเหมือนเด็ตตอล . . . ก่อนจะเข้าอาคาร เมื่อเข้าไปก็เห็นหมีแพนด้าตัวหนึ่งนั่งนอนจุมปุ๊กคาบนโครงไม้สูง ทีแรก"ฉัน"นึกว่าเป็นของปลอมแต่ภายหลังจึงรู้ว่าเป็นของจริง ตัวนั้น ชื่อ ช่วงช่วง หรือเทวัญนอนอุตุอยู่ ถึงมีขยับใบหน้าที่พาดบนคบไม้บ้าง บางครั้ง แต่เพียงชั่วไม่ถุงนาที อีกตัวคือหลินฮุ้ย หรือเทวีกำลังขบ กัด กิน แทะไม้ไผ่อยู่ ไม้ไผ่ที่มันกินนี้เป็นกิ่งต้นไผ่ทีทจัดเตรียมไว้ กับไม้ไผ่ผ่าเป็นซีกกว้างประมาณสองนิ้วที่เจ้าหน้าที่โยนให้ "ฉัน"มาจังหวะไม่ดี คือตอนที่มันกินอาหารและนอน ซึ่งเป็นปรกติวิสัยของสัตว์คู่นี้ ตามที่เจ้าหน้าที่ว่า ถ้ามาสบโอกาส ก็อาจจะเห็นมันเล่นหยอกล้อกัน แต่นี่มาตอนเกือบสิบเอ็ดโมง จึงไม่มีโอกาสเห็นภาพดกล่าวเพราะตัวหนึ่งงีบไปเสียแล้ว แต่ไม่เป็นไร ถึงยังไงก็ยังได้เห็นอีกตัว เทวี หมีแพนด้านี้ ตัวออกหมอง ๆ เพราาะคลุกขึ้ดินตามพื้น และเพราะไม่ได้อาบน้ำ มีแต่เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดโดยการเช็ด ลำตัวก็ไม่อ้วนอุ้ยอ้ายอย่างที่คาด ตัวออกยาวๆ เสียด้วยซ้ำ หรือเป็นเพราะเทวียังเด็กอยู่ อายุแค่ไม่กี่ปี เจ้าหน้าที่บอกเมื่ออายุสักห้าปีก็จะสามารถสืบพันธุ์ได้ แต่อาจเป็นไปได้ยาก เพราะสัตว์ประเภทนี้ติดลูกยาก อีกทั้ง ตั้งท้องครั้งหนึ่ง จะคลอดออกมาเพียงหนึ่งถึงสามตัว แต่แม่หมีจะเลือกเลี้ยงเฉพาะตัวที่แน่ใจว่าจะอยู่รอดเพียงตัวดียว ดังนั้น จึงไม่แปลกว่าทำไมสัตว์อย่างนี้จึงมีเหลือน้อย "ฉัน"คิดในใจว่าเราอาจจะได้เห็นลูกของเทวีเพราะหมีแพนด้าทั้งคู่จะอยู่เมืองไทยประมาณสิบปี แอบหวังลึก ๆ ว่า ทั้งคู่อาจมีทายาทตัวน้อยในปีที่ฉลองเจ็ดรอบของนายหลวง และภาวนาอยากให้เป็นเช่นนั้น มันคงดีไม่น้อยเลย ไม่แน่นะว่าอาจจะเกิดปาฏิหาริย์เช่นนั้นได้ เพราะบุญบารมีของพระองค์ท่าน "ฉัน" มองดูเทวีแล้วก็อดเอ็นดูไม่ได้ในท่าทาง นั่งบ้าง นอนบ้าง ขบเคี้ยวกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย กินไปกินมา เทวีก็ลุกขึ้นยืนไปตามเนินเทียมด้านหลังเพื่อทำกิจตามธรรมชาติ เมื่อกินของใหม่เข้าไป ของเก่าก็ถูกปล่อยออกมา มูลของมันสีเขียว เจ้าหน้าที่บอกว่าคงเพราะกินส่วนที่เป็นใบมาก ถ้ากินลำต้น มูลจะออกเหลือง ผู้ชมคนหนึ่งพูดติดตลกว่าไม่มีทางเป็นมะเร็งแน่เพราะระบบขับถ่ายดี ต่อจากนั้นเทวีก็ปีนป่ายเนินเทียมขึ้นไปนอนอีกตัว กว่ามันจะลุกขึ้นมากินอาหารอีกทีก็ราวเที่ยงและอีกรอบตอนสองโมงตามที่เจ้าหน้ที่บอก "ฉัน"เห็นว่าคงไม่ไมีอะไรดูแล้วจึงเดินออกมาแวะเข้าไปอาคารที่ขายของที่ระลึกข้าง ๆ เลือกซื้อได้โพสการ์ด สองสามใบ เพราของอื่นดูไม่ค่อยน่าซื้อ น่าจะมีใครออกแบบอะไรที่สวย ๆ และน่าสนใจมาขายมากกว่าสิ่งที่เป็นอยู่ "ฉัน"ออกจากส่วนแสดงหมีแพนด้าอย่างอารมณ์ดี . . . ก็เธอน่ารัก นี่ ออกจากส่วนี้แล้ว"ฉัน"ก็เตร็ดเตร่ต่อไป เดินไปดู กรงหมีขอ ที่มีสองตัว ตัวใหญ่นอนอยู่ ตัวเล็กหน้าตาบ้องแบ๊วเหมือนแร็คคูนแต่ไม่มีลาย แล้วเจอะส่วนกรงนก "ฉัน" เลยเดินเข้าไปสำรวจ เมื่อเข้าไปจะเจอม่านโซ่เหล็กที่มีคนบอกว่ามีไว้เพื่อกันนกหนี มีคนบอกว่า ความงามจะสัมผัสได้ต่อเมื่อเราพินิจพิจาณณาอย่าใกล้ชิด เห็นถ้าว่าจะจริง นี่เป็นครั้งแรกที่"ฉัน" มีโอกาสได้เห็นนกในระยะใกล้ ๆ นกชาปีไหน นกยูง และนกอื่น ๆที่"ฉัน"ไม่รู้จักชื่อ ดูแล้วล้วนเพลินตาเพลินใจนัก นกยูงที่เห็นมีทั้งลำตัวสีเขียวและสีน้ำเงิน โดยเฉพาะสีน้ำเงินนั้นสะดุดตามากเพราะจำไม่ได้ว่ามีนกสีนี้มาก่อน สีน้ำเงินของมันอธิบายยากนักว่าจะเรียกสีอะไรดี มันเข้มแต่สว่างตา "ฉัน"เพิ่งเข้าใจว่านกยูงมันสง่าอย่างไรเมื่อเห็นนกยูงทั้งตัวทอดแววหางยาวงามตายิ่งนัก ออกจากกรงนก ก็เดินผ่านไปเรื่อย ๆ เห็นหมีดำที่เหมือนหมีในการ์ตูนและหมีควายที่มีลายรูปตัววีสีขาวช่วงอก เล่นน้ำ กอดฟัดกันคู่หนึ่ง "ฉัน" ว่าท่าทางกอดรัดฟัดกันอย่างที่เห็นคงเป็นที่มาของคำว่า"แบร์ฮัก" ของมวยปล้ำ ออกจากกรงหมี เจอกรงสิงโต นกอะไรสักอย่าง (ยังนึกชื่อไม่ออก) ที่มันขายาว ตัวสีชมพูเรื่อ ๆ ก่อนจะกลับลงมาเห็นนกอีมูของออสเตรเลีย ที่คล้ายนกกระจอกเทศแต่ตัวเล็กว่าและไม่หนังกลับ มันร้องเหมือนเครื่องหางยาวกำลังสตาร์ทเครื่องอะไรพรรค์นั้น กลับออกมาจากสวนสัตว์ประมาณเที่ยงเศษ เดินไปหวังจะดูศูนย์ธรรมชาติวิทยาหรือพิพิธภัณฑ์อะไรสักอย่างของมช. ที่อยู่ข้าง ทางเข้าสวนสัตว์ แต่ปรากฏว่ายังไม่เปิดทำการ จึงอดดู ต้องเหมารถแดงกลับเข้าเมืองไปตามระเบียบ การมาเชียงใหม่เที่ยวนี้ ได้ดูหมีแพนด้าคู่นี้ช่วงสั้น ๆ แต่แค่นั้นก็นับว่าคุ้มแล้ว จากคุณ : Ma now - [ 28 พ.ค. 47 02:15:09] ป.ล.ทั้งคู่กำลังจะแต่งงานกันแล้ว |