แผลขอบทวารชนิดเรื้อรัง (chronic anal fissure) ตอน 1 แผลขอบทวารชนิดเรื้อรัง (chronic anal fissure) อย่างที่บอกค่ะ ปีนี้ มันโรคเข้าแทรกจริงๆ หลังจากชินไปกับโรคคอพอกแล้ว ในที่สุดก็ต้องไปหาคุณหมออีกแล้วค่ะ จริงอายเป็นโรคท้องผูก และอุจจาระแข็งมาตั้งแต่เด็ก ไม่ถึงกับเป็นริดสีดวงทวารค่ะ พอเหน็บยา proctosedyl ชนิดเม็ด หรือทาบัวหิมะ ก็จะหายไปเอง แต่มาหลังๆมันแย่ลงค่ะ เริ่มจากปีก่อนช่วงกลางปี ก็มีอาการเดิม คือพออุจจาระแข็ง ถ่ายแล้วมันก็บาดเป็นแผลที่ขอบทวาร หาข้อมูลจากในเน็ท แล้วกินยาเอง แหะๆ (ไม่ควรทำตามนะคะ - -! แต่อายเป็นโรคไม่ชอบไปหาหมอเท่าไหร่ เฮ้อ) Daflon 500 mg. กินตามวิธีใช้ข้างกล่อง พอครบโด๊ส มันก็หายค่ะ ปีนั้นไม่เป็นอีก ก็ผ่านไป เมื่อต้นปีนี้ หลังจากกินมังสวิรัติแก้บน ปรากฎว่ากลับมาเป็นอีกค่ะ และงวดนี้แย่กว่าเดิมคือ กินยาก็ไม่หายด้วย เป็นๆหายๆตลอดจนปลายเดือนกันยาทนไม่ไหวค่ะ พอเป็นแผลแล้วมันปวดมาก ถ่ายทีแทบจะลงไปทรุดกองอยู่ในห้องน้ำเลยค่ะ ก็เลยต้องไปหาหมอในที่สุด T^T ตอนไปก็กระดี๊กระด๊านะคะ คือก็ไม่ได้เครียดเท่าไหร่ แหะๆ นึกว่าเป็นริดสีดวง เพราะมีถ่ายเป็นเลือดด้วย - -" เสิร์ชข้อมูลไปมาว่าจะไปหาหมอคนไหนดีน้า ก็พบอยู่ 2 อาจารย์ค่ะ อาจารย์อรุณ ของจุฬา และอาจารย์วิรุณ บุญนุช ของศิริราช สำหรับอาจารย์อรุณ ท่านลงตรวจที่จุฬาจริง แต่เหมือนว่าท่านไม่ลงมือผ่าตัดให้แล้วค่ะ ถ้าต้องการผ่ากับท่านต้องไป รพ.เอกชน (ซึ่งอายเบิกกับที่ทำงานไม่ได้ค่ะ แป่ววววว) เพราะงั้นเลยเหลือตัวเลือกเดียวคือ อจ.วิรุณ ซึ่ง พอลองโทร.ไปนัดแล้วกับทางศิริราชปรากฎว่าทั้งนอกเวลาในเวลาเต็มยาวไปจนธันวาเลย มันก็...รอไม่ไหวนะคะ ทางศิริราชแนะนำให้ลองนัดที่ ศิริราชปิยมหาการุณย์ดูแทนค่ะ เป็น รพ. ในความดูแลของรัฐ ข้าราชการเบิกไม่ได้ แต่ที่ทำงานอายเบิกได้ค่ะ ค่อยยังชั่ว เลยไปที่นี่หละนะ  คนไข้ใหม่ต้องแวะทำบัตรคนไข้ที่ชั้น 2 ตรงประชาสัมพันธ์ก่อนนะคะ แล้วจากนั้นก็ค่อยไปยังชั้นตรวจ ของอายอยู่ที่ชั้น 4 ค่ะ ห้องระบบโรคทางเดินอาหารและตับ(อาจจะจำผิดขออภัยชื่อยาวอะค่ะ แหะๆ) อจ.ลงตรวจเฉพาะวัน จ. 17.00 - 20.00 น. นะคะ  หลังพบและตรวจ อาจารย์ก็ต้องดูแผลที่ก้น (-/////-) อายอยู่เหมือนกัน แต่ ณ จุดนั้น ยังไงก็ต้องดูกันละ งี๊ดดดดดดดดด พอดูแผลแล้ว อาจารย์บอกเลยว่าไม่ใช่ริดสีดวง แต่เป็นแผลเรื้อรังที่ปากทวาร เพราะงั้นฟันธงว่าต้องผ่าตัดหูรูด เอิ้กกกกกก เหมือนฟ้าผ่าาาาาา และนัดผ่าเลยอาทิตย์ถัดไปด้วย เยี่ยมไหม๊ T^T ไม่ต้องเตรียมใจนานนะคะ ฮือๆ (ปล.ใครไปพบอาจารย์ต้องจิตแข็งหน่อยนะคะ คือ อาจารย์จะออกแนวติสต์ๆมันๆอะค่ะ อาจจะดูแข็งๆ แต่จริงๆแล้วใจดีมากๆค่ะ^^") ยาสำหรับอาทิตย์นี้ก่อนผ่าตัด  อันแรกคือยาสำหรับทำให้ถ่ายท้องในตอนเช้าของวันผ่าตัดค่ะ ส่วนอันที่ 2 เจ้าหลอดนี้  เป็นยาชาชนิดอ่อน สำหรับทาแผลที่รูทวารประทังอาการไปก่อน จริงๆพอทาแล้ววันที่ 2-3 เริ่มไม่เจ็บ แทบจะเปลี่ยนใจผ่าตัดเลยนะคะ แหะๆ แต่พอลองไม่ทาแล้วถ่าย TT^TT ค่ะ ไปผ่าซะ จบ. ราคาประเมิณการผ่าตัด ส่องกล้องลำไส้ และตัดติ่งเนื้อที่รูทวารส่งตรวจมะเร็ง อยู่ที่  ยังไม่รวมค่าห้องพักนะคะ ค่าห้องอยู่ที่  พอคิดเบ็ดเสร็จประเมิณขั้นต้นแล้ว แหะๆ ถ้าต้องจ่ายเองคงต้องอดอาหารเอา แทบจะเหยียบแสนเลยทีเดียว T^T ดีว่าเบิกกับทางที่ทำงานได้ค่ะ เรียกว่าตอนนี้ไม่กล้าออกจากงานเลยทีเดียว หึหึหึ หลังจากต้องทำใจละ มันยังไงก็ต้องผ่า เพราะอาจารย์บอกเลยว่ากินยาทายายังไงก็ไม่หาย ก่อนวันผ่า 2 วันต้องกินอาหารพิเศษค่ะ คือ อายผ่าวัน จ. เพราะงั้น ตั้งแต่วันเสาร์ จะเริ่มอาหารที่ต้องกินละ นั่นก็คือ ส. กินได้แต่อาหารอ่อนๆ โจ๊ก ข้าวต้ม ก๊วยเตี๋ยว และให้กินแต่ไข่ ไก่ ปลา ห้ามกินผักผลไม้เด็ดขาดค่ะ อายกินมังสวิรัติ เพราะงั้นมันก็เลยเหลือแค่โจ๊กกับไข่หละนะ กินไม่ไหวค่ะไม่ชอบอะไรเละๆเลยต้องจัดพริกป่นไปเยอะหน่อย   วันอาทิตย์ ทีนี้แย่กว่าเดิม กินได้แต่น้ำๆค่ะ น้ำผลไม้ไม่มีกาก น้ำเต้าหู้ นม อะไรใดๆ อายถือว่ากาแฟไม่มีกาก คงกินได้ ก็ต้องกินค่ะ ขาดกาแฟไม่ได้จริงๆ -*-   เช้าวันก่อนผ่าตัด ให้ดื่มแต่ผงละลายน้ำ ทำให้ถ่ายท้องค่ะ เรียกได้ว่าถ่ายจนแทบไม่มีอะไรเหลือเลยเอิงเอย  ใครสนใจอาการของโรคในระบบนี้ลองอ่านที่ลิ้งค์นี้ค่ะ //www.doctor.or.th/clinic/detail/8243 (วันผ่าตัดขอขึ้นต่อ ตอน 2 มันดูยาวไปละ ^^) |
บทความทั้งหมด |
 |
|
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [