โครงการตะพาบ ครั้งที่103 :สงกรานต์ (ในความเงียบ) "เดินทางกับความเงียบ" เมื่อฤดูร้อนอันอบอ้าวมาถึง คงไม่มีใครที่ไหนไม่คิดถึงเทศกาลสงกรานต์อันเป็นเหมือนสัญลักษณ์ แห่งความสนุกสนานและปลอบประโลมจิตใจอันเหนื่อยล้าของหลายคนที่ทนทำงานกลางแดดร้อน จัดมาหลายวัน ภาพของการสาดน้ำ ปะแป้งดูจะกลายเป็นประเพณีที่กลมกลืนไปแล้วในสังคมไทย และสายตาของชาวต่างประเทศ หากแบ่งผู้คนในช่วงวันสงกรานต์อย่างหยาบๆคงจะแบ่งได้เป็นสองแบบ แบบหนึ่งคืออยากเปียก ส่วนอีกแบบหนึ่งคือไม่อยากเปียก ผมเองเป็นคนประเภทหลังมาตั้งแต่แรกเริ่มรู้จักคำว่า สงกรานต์ แต่กระนั้นจะสงกรานต์หรือไม่ก็ตาม ผมก็ไม่อาจปลีวิเวกตัวเองออกจากสังคมได้ตลอด ผมยังคงต้อง ใช้ชีวิตและออกเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆตามความจำเป็น โชคดีที่ผมมีรถยนต์ที่พออาศัยเป็น เกราะกำบังจากสายน้ำที่รุนแรงจากกระบอกปืนฉีดน้ำที่พร้อมจะพุ่งเข้าใส่ตัวผมได้ตลอดเวลา สงสาร ก็แต่คนประเภทเดียวกันบางคนที่ไม่อยากจะเปียกหรือจำเป็นต้องไม่เปียกในวันนั้น แต่พวกเขาก็ไม่มี สิทธิ์ปฏิเสธหรือร้องขอความเห็นใจเพราะนี่คือ สงกรานต์ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบทความนี้จะเอนเอียงมาทางผู้ไม่อยากเปียกอยู่บ้าง แต่ก็ใช่ว่าผมเขียนบทความ นี้ขึ้นเพื่อต่อว่าคนที่อยากเปียกแต่อย่างไร ต่างคนต่างวาระ ความคิดเห็นย่อมแตกต่างกันป็นธรรมดา ขอแค่มอบความเคารพให้แก่กันในทุกแง่มุม สังคมคงไม่วุ่นวายหรือขัดแย้ง สิ่งที่ผมอยากนำเสนอในแง่มุมของคนที่ไม่อยากเปียกก็คือ การเดินทางกับความเงียบ หลายครั้ง ผมอดสังเกตผู้คนรอบตัวไม่ได้ว่าพวกเขามีความแปลกอยู่ไม่น้อย บางคนขณะทำงานพูดน้อย สุภาพ เรียบร้อย แต่พอถึงแต่เทศกาลหรือต้องออกเดินทางไปไหนกับเพื่อนฝูง กลับหัวเราะขำขันไม่มีหยุด ไปตลอดเส้นทาง บางคนกลายเป็นนักร้องมืออาชีพตลอดการเดินทาง หรือบางคนก็กลายเป็นนักเล่า เรื่องต่างๆจนคิดไม่ออกว่าเขาเอาเวลาที่ไหนหายใจ ทั้งนี้ไม่นับนักเต้นรำและไอ้หนุ่มมัดเมาที่เกิดขึ้น มาได้อย่างไรก็ไม่ทราบ
เป็นไปได้หรือไม่ว่า หลายคนเหล่านี้ทุกบีบคั้นด้วยสภาพสังคมที่ทำให้พวกเขาต้องอยู่ในกฏระเบียบ จนมากเกินพอดี ต้องเรียบร้อยสำรวมเกินกว่าที่พวกเขาเป็น เมื่อถึงเวลาปลดปล่อยจึงระเบิดออกมา แบบไม่ต้องคิดมาก พวกเขาแปรเปลี่ยนการเดินทางและงานรื่นเริงให้มีชีวิตชีวา ครึกครื้นสนุกสนาน และตื่นเต้น แต่พวกเขากลับลืมปัจจัยบางอย่างที่มีคุณค่าที่ควรพกพาไปด้วยขณะเดินทางอย่างสิ้นเชิง ใช่หรือไม่ว่า การเดินทางกับความเงียบ อาจทำให้การมองโลกรอบตัวเปลี่ยนแปลงไป เมื่ออยู่ในความเงียบสงบเราอาจมองเห็นต้นไม้ออกดอกเหลืองแดงบานสะพั่ง เมื่ออยู่ในความเงียบเรา อาจมีเวลาเพ่งพินิจอาคารบ้านเรือนที่บรรจงสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงาม เมื่ออยู่ในความ เงียบเราอาจมองเห็นรอยยิ้มของเด็กน้อยขายพวงมาลัยข้างทาง และที่สำคัญเราอาจได้มีเวลาพูดคุย ทบทวนตัวของเราเองอย่างเต็มที่ สิ่งเหล่านี้นำมาซึ่งความสงบสุขที่ยั่งยืน ไม่ฉาบฉวยชั่วคราวมิใช่หรือ นอกจากนี้ความเงียบยังทำให้เรามองเห็น หรืออาจมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมรอบตัวและคนแปลก หน้าผ่านรอยยิ้ม ทำให้เรารับรู้และรับเอาความสุขของผู้คนหรือสิ่งสวยงามที่พยายามแสดงออกให้พบ เห็นมาเก็บไว้เป็นความทรงจำ หรือบางทีเราก็กลับกลมกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับภาพจำแห่ง ความสุขเหล่านั้น จนหลายครั้งอดไม่ได้ที่จะยกกล้องขึ้นมาเก็บภาพแห่งความสุขเหล่านั้นไว้ แทนที่จะที่จะยกกล้องขึ้นเพื่อถ่ายภาพของตัวเองแต่เพียงอย่างเดียว
แต่อย่างไรก็ตาม หากกล่าวถึงผู้ที่มีตะกอนแห่งความทุกข์ตกค้างอยู่ภายในใจและมุ่งหวังว่าการ เดินทางในเทศกาลพักผ่อนหยุดยาว ความสนุกสนาน เรื่องเล่าขำขันหรือแม้แต่สิ่งที่เสมือนเสียง เพลงจะช่วยปลอบประโลมใจจากความเจ็บปวดหรือทำให้ตะกอนเหล่านั้นนอนก้นลงได้บ้าง การทำลายความเงียบก็นับว่ามีประโยชน์อยู่ไม่น้อย ดีกว่าปล่อยตัวจมอยู่กับความเงียบในขณะที่ จิตใจตัวเองยังไม่เงียบพอที่จะสังเกตหรือเปิดรับสิ่งสวยงามเรียบง่ายรอบตัว เพราะความเงียบนั้น อาจทำให้เขาดิ่งลึกอยู่กับความเหงาจนไม่อาจถอนตัวขึ้นได้ทัน
ผมรู้สึกปลอดภัยในรถยนต์ที่ขับอยู่ ขณะที่ต้องเดินทางผ่านม่านฝนเทียมจากปลายกระบอกฉีดน้ำ แม้มีเด็กน้อยวิ่งมาสาดน้ำใส่รถยนต์บ้าง ผมก็ไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนหรือโกรธเคืองอะไร ทั้งยังชะลอให้ สาดเพราะกลัวจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นด้วยหากผมเร่งขับหนี สิ่งที่ได้รับจากการยอมให้สาดน้ำคือการมอง เห็นรอยยิ้มจากความสนุกสนานของบรรดาเด็กน้อยเหล่านั้นอยู่ภายในห้องโดยสารที่เงียบสงบ นึกไม่ออกว่าพวกเขาจะทันสังเกตเห็นรอยยิ้มของผมบ้างหรือไม่ เป็นไปได้หรือไม่ว่า การสาดน้ำปะแป้ง ร้องเพลงสังสรรค์ดื่มสุราเมามายที่มากขึ้นทุกๆปี อาจเป็นตัว ชี้วัดว่าพวกเรามีตะกอนแห่งความทุกข์ตกค้างมากขึ้นทุกๆปีด้วยเช่นกัน? ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ตครับ สงกรานต์ในอดีต กับแจจุบัน เปลี่ยนไป
ทั้งใน ตจว.และในเมืองหลวง เหมือนย้ายผับ thequeมาอยู่บนถนน หนทาง โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 14 เมษายน 2557 เวลา:19:40:54 น.
สวัสดีค่า คุณหมอ^^
มาอ่านตะพาบค่ะ นุ่นเป็นอย่างแรกตอนเด็กๆ คืออยากเปียก ชอบมากๆเลยค่ะ มีงานกี่วันไปซะทุกวัน แต่พอโตมา กลัีบกลายเป็นอย่างหลัง ไม่อยากเปียก อยากอยู่บ้านมากกว่า ไม่ไปไหนด้วยคะ่ เบื่อรถติด คนเยอะ แย่งกันทุกๆอย่าง ไม่สนุกเลย ทำไมเมื่อก่อนสนุกจังก็ไม่รู้ อาจจะเพราะโตขึ้นด้วยนะคะ การเดินทางกับความเงียบของคุณหมอ ดีมากๆ ได้ข้อคิดเยอะเลยค่ะ ขอบคุณมากๆนะคะ สุขสันต์วันครอบครัว สวัสดีปีใหม่ไทย มีความสุขมากๆค่ะ เดินทางปลอดภัยนะคะ ^^ โดย: lovereason วันที่: 14 เมษายน 2557 เวลา:22:39:35 น.
อยากบอกว่าอยู่ในกลุ่มอยากเปียก(บ้าง)น่ะค่ะ
ประมาณว่า เปียกได้ แต่ห้ามปะแป้ง จริงๆ แล้วเราก็ประเภท เงียบก็ได้ เสียงดังก็ได้แหละค่า.. เพียงแต่ว่ามันขึ้นอยู่ว่าตัวเองอยู่ในโหมดไหนเนี่ยแหละ โดย: rommunee วันที่: 14 เมษายน 2557 เวลา:23:04:42 น.
วิเคราะห์ยากครับ ว่าเขาเล่นสงกรานต์ เพื่อปลดปล่อยจาก
ระเบียบ ที่บีบคั้น แต่คงจะมีบ้างครับ แต่ส่วนใหญ่น่าจะ ทำชีวิตให้สนุก มี ความสุข ท่ามกลางเสียงดัง แต่ก็มีบางคน มีความสุขจากการ สงบ แต่น้อยคนที่จะเข้าใจ ครับ นอกจากคนที่ ทำสมาธิบ่อย ๆ โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 15 เมษายน 2557 เวลา:13:48:28 น.
เคยคิดแบบคุณหมอครับ ^^
ในกทม.คนที่เล่นกันน่าจะเป็นคน ตจว.ที่มาทำงานในกรุงแล้วไม่ได้กลับบ้านก็เลยเล่นเพื่อชดเชยความรู้สึกกันนะครับ ยิ่งเครียดก็ยิ่งอยากปลดปล่อยเป็นไปได้ครับ สุขในใจถ้าหาไม่พบ หาสุขภายนอกก็ออกมารูปแบบนี้นะครับ แหะๆ ผมชอบมองแล้วก็คิดมองความสัมพันธ์ของสิ่งรอบๆตัว สงสัยอาชีพจะใกล้กันนะครับเลยรู้สึกคล้ายๆกัน อิอิ ^^ แต่ผมก็ชอบมองรอยยิ้มของคนที่เล่นสงกรานต์นะครับมีความสุขดีจังเลยแม้ว่าจะเป็นสุขแบบร้อนๆอยู่ลึกในใจก็ตาม แหะๆ ขอบคุณที่แวะมาทักทายให้กำลังใจนะครับ ผลงานคุณหมอก็ให้แง่คิดที่ดีทุกๆครั้งที่ได้เข้ามาอ่าน นับถือๆนะครับ อยากให้คุณหมอเขียนบ่อยๆครับ ^^ โดย: วนารักษ์ วันที่: 15 เมษายน 2557 เวลา:20:05:46 น.
คงใช่แบบที่หมอหง่องว่านะคะ
สังคมทุกวันนี้มันเครียด เครียดหลายเครียด ก็ต้องปลดปล่อยไปบ้าง อยู่ที่ว่าจะปลดปล่อยออกมามากแค่ไหน แม่ซองฯตอนเด็กก็ชอบเล่นสาดน้ำแบบนี้ ตอนนี้ไม่มีอารมณ์ร่วมเลย อาจเพราะอายุที่มากขึ้น เห็นเขายืนคอยสาดน้ำรถยนต์ ก็นั่งขำว่าสาดรถยนต์ สาดไปทำไม โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 15 เมษายน 2557 เวลา:23:14:50 น.
สวัสดีค่ะคุณหมอ พี่กิ่งมาช้าไปหน่อยเพราะมัวยุ่งๆกับการต้อนรับขับสู้เพื่อนๆบ้านและญาติพี่น้องที่มาดำหัวแม่ค่ะ ก็เลยมาซะดึกเลย
ขอบคุณทีไปอ่านงานตะพาบพี่กิ่งค่ะ พี่กิ่งถือซะว่าฟาดเคราะห์ไปค่ะคุณหมอ อิอิ ตามมาอ่านงานเขียนของคุณหมอ เเห็นด้วยนะคะ เด็กๆที่เตรียมน้ำและปืนฉีดน้ำรอที่จะสาดเราพี่กิ่งก็ชะลอให้เค้าสาดค่ะ อิอิ พอได้สาดแล้วดีใจใหญ่ เด็กๆก็อยากเล่นน้ำบ้างตามประสานะคะ พี่กิ่งกดไลท์ให้แล้วแค่ทำไมไม่ลงก็ไม่รูืค่ะ เดี๋ยวมาไลท์ให้ใหม่นะคะ หลับฝันดีค่ะ โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 15 เมษายน 2557 เวลา:23:19:17 น.
แวะมาอ่านตะพาบค่ะ
กิจกรรมการสาดน้ำวันสงกรานต์ทุกคนที่เล่นน้ำมีความสุขกันมาก สำหรับผู้ใหญ๋ ส่วนมากก็แค่เอาน้ำพรมๆกันนิดหน่อย จิตใจเบิกบาน สนุกกันเหมือนกันค่ะ ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต เป็ดสวรรค์ Photo Blog ดู Blog lovereason Literature Blog ดู Blog โดย: newyorknurse วันที่: 16 เมษายน 2557 เวลา:0:38:22 น.
สวัสดียามเช้าครับคุณหมอ
ผมยังไม่ได้เขียนหมื่นตาเลยครับในปีนี้ 555 กำลังว่าจะเขียนเกี่ยวกับเรื่องความตายหรือการมรณานุสติ กำลังคิดอยู่ครับ หรือไม่ก็อาจจะเอาคำสอนของพระป่ามาเขียนในรูปแบบหมื่นตาครับ กำลังคิดๆอยู่ครับ โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 เมษายน 2557 เวลา:6:23:37 น.
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตนะครับคุณหมอ
งานเขียนของท่านเชอเกียม ตรุงปะ ผมได้อ่านบ้างบางเล่มครับ เล่มนี้ก็ได้อ่านครับ พูดถึงงานด้านมรณานุสติ พระไพศาลท่านเขียนเอาไว้ได้ดีหลายๆเล่มเลยครับ โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 เมษายน 2557 เวลา:23:29:34 น.
สวัสดีค่ะคุณหมอ
เขียนในเชิงให้แง่คิดดีค่ะ มองกว่า เทศกาลก็เหมือนวาระเเห่งการปลดปล่อย หลายคนจึงเต็มที่กับความสนุกสนาน เหนื่อยงาน ได้พัก ได้พบครอบครัวเพื่อนฝูง ก็อยากให้มีแต่เรื่องดีๆ ส่วนตัวชอบไม่เปียกค่ะ หลีกเลี่ยงเท่าที่ทำได้ ^^ โดย: NENE77 วันที่: 17 เมษายน 2557 เวลา:8:43:52 น.
ตามตะภาพมาอ่านเรื่องราวดีๆ ค่ะ ^^
โดย: มี๊เก๋+ป๊าโอ๋=ซีทะเล (kae+aoe ) วันที่: 17 เมษายน 2557 เวลา:12:49:18 น.
ขอขอบคุณสำหรับคำอวยพรวันเกิด
พรใดอันแสนประเสริฐที่ผมได้รับในครั้งนี้ ขอพรนั้นจงย้อนกลับคืนสู่คุณหมอด้วย เป็นร้อยเท่าพันทวีครับ โดย: **mp5** วันที่: 17 เมษายน 2557 เวลา:21:04:33 น.
สวัสดีค่ะคุณหมอ
หากเดินทางคนเดียวหรือสองคน ความเงียบก็เกิดได้ง่าย ทำให้ละเลียดกับสิ่งแวดล้อมรอบตัวได้มากกว่านะคะ แต่หากเดินทางเป็นหมู่คณะ การพูดคุยหรือกิจกรรมของส่วนรวม อาจทำให้สมาธิที่จะชื่นชมสิ่งแวดล้อมรายทางลดลงไป การเดินทางทั้งสองแบบมีข้อดีต่างกัน แต่ระยะหลังๆนี้ต๋ามักได้เดินทางแบบไปน้อยคนน่ะค่ะ ................. คุณหมอหยิบยกบุคลิกภาพที่เปลี่ยนไปของคน กับตะกอนความทุกข์ที่ตกค้างได้อย่างน่าสนใจค่ะ บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้ ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต หมอหว่อง Literature Blog ดู Blog ...................... นอนหลับฝันดีคืนนี้นะคะ โดย: Sweet_pills วันที่: 18 เมษายน 2557 เวลา:0:34:04 น.
ป้าเป็นอีกคนที่ไม่ไม่สนุกกับการเล่นให้ตัวเปียก จำได้ว่าตั้งแต่เล็กจนแก่ยังไม่เคยนั่งรถออกไปสาดน้ำเลย
ก็ไม่ได้มีอัคติกับเทศกาลแต่อย่างใดเพียงแต่ไม่สนุกที่จะเปียกเท่านั้น วิธีเลี่ยงง่ายๆคือซื้อของตุนเอาไว้ให้พอ แล้วก็มีความสุขอยู่กับบ้านค่ะ ถือโอกาสสวัสดีปีใหม่ไทยนะคะ ขอให้ เป็น........ ๙ แรกของปี ๙ แรกของความสุข ๙ แรกของความเจริญ ๙ แรกของความมั่งคั่ง ๙ แรกของความอุดมสมบูรณ์ ๙ แรกของความโชคดี และเป็นทุกก้าวเดินที่มั่นคงในชีวิต ตลอดไปค่ะ... โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 18 เมษายน 2557 เวลา:12:27:05 น.
ชอบประโยคสุดท้ายที่ไฮไลท์สีนำ้เงินนั่นมาก..มีความสุขมากๆนะครับ...
โดย: ShiroOgon วันที่: 20 เมษายน 2557 เวลา:19:31:42 น.
หวัดดีค่ะคุณหมอ
สงกรานต์ปีนี้ เป็นคนประเภทเดียวกับคุณหมอเลยค่ะ พวกไม่อยากเปียก สำหรับอิชั้น ความอยากเปียกมันแปรผกผันกับอายุที่เพิ่มเขึ้นค่ะ ฮ่าๆๆ แต่ดูหลานๆเล่นน้ำกัน เพราะดูจะเป็นวันเดียวที่พ่อแม่จะปล่อยให้ลูกเล่นสาดน้ำกันสนุกสนาน ถ้าวันอื่นๆ อาจจะโดนดุ กลัวไม่สบายได้ อิชั้นก็เป็นพวกชอบอยู่กับตัวเอง อยู่กับความเงียบเหมือนกันค่ะ มันไม่ใช่ความเหงา แต่มันเป็นการนั่งคุยกับใครซักคนที่ไม่มีเสียงน่ะค่ะ หลายครั้งที่ความเงียบบอกเล่าอะไรเราหลายอย่าง และช่วยเราคิดได้ในอีกหลายๆเรื่องเลยนะคะ ปล. เจอบ่อยค่ะ พวกที่นั่งทำงานเครียดๆ เงียบๆ เคร่งครัดกฏระเบียบองค์กร พอเวลาไปเที่ยวด้วย นี่อย่างกะคนละคนเลยค่ะ โดย: คนสวยที่ไม่เคยสวย วันที่: 21 เมษายน 2557 เวลา:14:10:03 น.
แวะมาอ่าน
แล้วก็รู้เลยว่า เราไม่ได้เข้ามาอ่านที่นี่นานมาก ขออำไพ ว่าแต่คุณหมอสบายดีนะคะ รออ่านเรื่องราวต่อค่ะ โดย: อุ้มสี วันที่: 26 มิถุนายน 2561 เวลา:9:08:38 น.
โดย: น้อยหน่ากะสาลี่ วันที่: 26 กรกฎาคม 2563 เวลา:21:11:02 น.
สวัสดีปีใหม่ 2564 คุณหมอ..
ปีใหม่ปีนี้..ขอให้คุณหมอและครอบครัวมีความสุขมากๆ ปราศจากโควิด เฮงๆรวยๆ ตลอดไป โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 3 มกราคม 2564 เวลา:8:41:26 น.
|
ไมไ่ด้เปียกน้ำมา 20 ปีแล้วมั้งครับ 555
พนักงานที่ร้านยังตกใจ
บอกว่าทำงานกับผมมา 16 ปี
เพิ่งเห็นเจ้านายเล่นน้ำปีนี้เองครับ
ต้องยกความดีวามชอบให้หมิงหมิงครับ 555