เป็นนาย ... ใช่ว่าจะง่ายกว่าเป็นลูกน้อง ...
.... หวัดดีค่ะพี่ๆเพื่อนๆ ...เอริหายหน้าไปนานทีเดียว .. ยังจำกันได้ไหมเนี่ย...


หลังจากทำงานเป็นทาสมาได้ 3 อาทิตย์กับอีก 3 วัน ... เอริก็ได้เรียนรู้โลกในมุมใหม่ๆมาอีกเยอะทีเดียว .... หนึ่งในนั้นที่ได้เรียนรู้โดยไม่ตั้งใจและตั้งตัวไม่ติด ก็คือ หัวอกนาย ....


เอริไม่เคยมีลูกน้องมาก่อนเลยในชีวิต ... งานนี้เป็นครั้งแรกที่ตัวเองมีลูกน้องในมือ ... ความจริง จะว่าในมือก็ไม่ถูกซะทีเดียว เรียกว่า มีลูกน้องในทีมรวม 4 คน ให้ซีเนียร์แบบเอริ ซึ่งมีกัน 3 คน เรียกใช้ได้มากกว่า ....


เมื่อก่อน ตอนเราเป็นลูกน้อง เราก็คิดว่า ทำไมหนอ ...นายของเราช่างดุ ด่าแรง และพูดตรง ซะเหลือเกิน ... แต่นายทุกคนรักเอรินะ ... เอริไม่เคยเจอนายไม่รัก .... และเอริก็รักนายมากๆด้วย (ส่วนตัวเป็นคนอ่อนไหวง่ายน่ะ ถ้าต้องทำงานให้กับคนที่เราไม่รัก ไม่ศรัทธา ไม่เคารพนับถือเลย เอริก็ทนทำไม่ได้นาน)


เอริเป็นลูกน้องที่คิดเสมอว่านายคือลูกค้าคนหนึ่ง ... นายที่น่ารัก ก็เหมือนลูกค้าที่ดี ถ้าเราเจอลูกค้าดีๆ เราก็ยินดีทำงานให้เต็มที่ใช่ไหมคะ ทุ่มกายถวายหัวเลยก็ได้ ดึกดื่นแค่ไหนก็จะไม่บ่น(ให้ได้ยิน) .... ไม่ทำอะไรให้เซอร์ไพรส์ตาค้าง หรือทำให้นายขายหน้า ...


แต่ว่า ... บุญที่เราสั่งสมมาขณะที่เป็นลูกน้อง คงยังไม่มากพอ ....


เพราะมาวันนี้ ... เอริเจอลูกทีมที่เก่งเรื่องเซอร์ไพร้ส์ สั่งอย่างหนึ่งได้อีกอย่างมาเสมอ งานอะไรที่ให้ไป ทำไม่ได้ก็ไม่มาปรึกษา แต่ตัดสินใจทำต่อไปเอง ซึ่งพอมันมีปัญหา คนที่ต้องมารับหน้าก็คือเอริ .... แถมยังชอบงัดข้อ โดยเฉพาะต่อหน้าที่สาธารณะ


ใช่ว่าน้องคนนี้จะไม่เหลือข้อดี ... ข้อดีของเค้ามันก็มี ... คือ ช่างเจ๊าะแจ๊ะ ขยันพูด .. ซึ่งมันก็เอื้อต่อหน้าที่การงานเค้า (เพราะเราเกิดมาเป็นพีอาร์) ... ถ้างานไหน เจอนักข่าว และเราไม่อยากเจ๊าะแจ๊ะ เราก็ส่งน้องเค้าไปแจ๊ะแทนได้ (เอริเจ๊าะกับคนแปลกหน้าไม่เก่งค่ะ ทำหน้าที่ Host ที่ดีได้ แต่ไม่สามารถถึงกับสนิทสนมกับใครได้ในเวลาอันสั้น)


อาทิตย์ที่ผ่านมา ยอมรับว่าค่อนข้างหนักใจกับการจัดการลูกน้อง .... ถ้าเราว่าเค้าไปตรงๆเลย คนที่มักจะมานั่งเสียใจทีหลัง มันก็คือเอริ ... เพราะเอริคิดมาก ไม่ชอบว่าคนอื่น .. ชูจังยังบอกเลยว่า เอริประนีประนอมมากเกินไป ใจดีเกินไป .... ก็พอว่าไปแล้วเรามักจะกลับมาคิดนี่นา ว่าเราไม่น่าทำเลย เหมือนสร้างช่องว่าง

หรือว่า นายกับลูกน้อง ต้องมีช่องว่าง?


มีคำแนะนำในการจัดการลูกน้องชอบงัดข้อยังไง บอกกันมั่งนะคะ ... ตอนนี้หมดแรงเหลือเกิน ขี้เกียจคอยวิ่ง คอยตาม ขี้เกียจเหนื่อยในส่วนที่เราไม่จำเป็นต้องเหนื่อยอ่ะค่ะ













Create Date : 25 พฤศจิกายน 2549
Last Update : 25 พฤศจิกายน 2549 14:04:52 น.
Counter : 804 Pageviews.

6 comments
สวัสดีปีใหม่ ๒๕๖๗ มาช้ายังดีกว่าไม่มา
(2 ม.ค. 2567 07:30:30 น.)
BUDDY คู่หู คู่ฮา multiple
(3 ม.ค. 2567 04:49:04 น.)
ทนายอ้วนจัดดอกไม้ - จัดดอกไม้ง่ายๆ – แจกันสวัสดีปีใหม่ 2567 - กุหลาบพวงสีชมพู - ขาว ทนายอ้วน
(2 ม.ค. 2567 15:16:32 น.)
สวัสดีปีใหม่ Rain_sk
(1 ม.ค. 2567 21:38:33 น.)
  
เฮ้อ น่าเห็นใจครับ ลองไปหาหนังสือมาอ่านครับ น่าจะมีวิธีรับมืออยู่บ้าง
โดย: PutterZ (ToppuT ) วันที่: 25 พฤศจิกายน 2549 เวลา:15:13:55 น.
  
เจ้านายกับลูกน้องมีมุมมองต่างกัน

สำหรับคนที่เป็นหัวหน้าคน

สิ่งที่ควรมี

1.เมตตา รู้สึกสงสารผู้อื่น เอ็นดูผู้อื่นอยู่เสมอ

2.กรุณา ยื่นมือช่วยเหลือผู้ประสบทุกข์

3.มุทิตา ยินดีในสิ่งที่ผู้อื่นมี ยินดีในสิ่งที่ผู้อื่นเป็น

4.อุเบกขา ระลึกเสมอว่า ไม่มีอะไรเป็นตัวเป็นตนอย่างแท้จริง เขาก็มีสิทธิ์ที่จะเลวหรือดี เขาก็ยังเวียนว่ายตายเกิดเหมือนเรา เขาทำอะไรมา ท่านก็วางเฉย อย่าไปเอามาเก็บจนปั่นป่วนใจ

แล้วอะไรก็จะดีอ่ะ


อาเมน
โดย: บ้านโคกโจด (my_oom ) วันที่: 25 พฤศจิกายน 2549 เวลา:15:15:14 น.
  
ทีนี้ก็รู้แล้วใช่ไหมค่ะว่าหัวหน้าเราเค้ารู้สึกยังไงเวลาที่มีลูกน้องอย่างนี้ ฮิๆๆๆๆๆ เค้าบอกว่าเวรกรรมมีจริงนา
โดย: ฝนริน...เดือนหก (fonrin ) วันที่: 25 พฤศจิกายน 2549 เวลา:15:22:44 น.
  
แวะเข้ามาทักทายค่ะ
โดย: opleee วันที่: 25 พฤศจิกายน 2549 เวลา:16:21:46 น.
  
ดีใจจังกลับบ้านมาวันนี้ได้เห็นข้อความเอริในบล๊อกพี่ซะทีหลังจากที่คิดถึงอยู่ซะนาน

ก่อนอื่นขอออกความเห็นเกี่ยวกับการเป็นเจ้านายหน่อยก่อนนะว่า พี่โตสเห็นด้วยกับอู๋ที่ว่า เอริใจอ่อนเกินไป ซึ่งพี่โตสว่าการเป็นเจ้านายคน ถ้าเรามีข้อเสียตรงนี้ มันจะเสียไม่ใช่แค่งานที่เราต้องรับผิดชอบ แต่มันหมายถึงทั้งบริษัทเลยนะพี่ว่า แล้วใครล่ะที่ต้องเป็นคนรับผิดชอบถ้างานออกมาไม่ดี คุณสุภาวดี แน่นอน

การตักเตือนไม่จำเป็นต้องเป็นการพูดที่เป็นการต่อว่าเสมอไป พี่ว่าถ้าพูดกับเค้าดี ๆ ด้วยเหตุผล และต้องคิดว่าเราทำเพื่อให้ได้งานออกมาดีที่สุด เราทำเพื่อบริษัท และถ้าน้องมันทำออกมาได้ดีกว่าเก่าก็ถึอว่าเป็นการดีกับตัวเค้าเองด้วย ที่สำคัญอย่าพูดต่อหน้าคนอื่น หาที่คุยกับเค้ากันตัวต่อตัวแค่สองคน ตอนที่พี่โตสทำงาน Exhibition มี staff เยอะแยะทุกครั้งที่มีงาน แล้วงานหลักก็คือต้องทนกับไอ้พวกแขกมาชมงานที่งี่เง่า กับเรื่องปัญญาอ่อน พี่มีคำพูด ๆนึงที่จะบอกพวกน้อง ๆ staff เสมอว่า Be Polite but Firm !! แต่ถ้าพูดแล้วมันไม่เก็ต หรือไม่พอใจ ก็คงต้องแปลงร่างเป็น bitch กันล่ะ (อย่างพี่โตส) ท่องไว้ว่าเราทำเพื่องาน เพื่อบริษัท เพื่อการพัฒนาของน้องมัน และแน่นอนเพื่อตัวเราเองด้วย

อ่านข้อความหนักใจของลูกเกตุแล้ว ไม่อยากบอกเลยว่าลูกเกตุไปทำหน้าแตกไว้ในบล๊อกพี่แหละ
บล๊อกแรกที่ลูกเกตุเจอในบล๊อกพี่โตสเป็นรูปของบ้านที่ตกแต่งแบบโบราณบ้านหนึ่งใช่ไม๊ นั่นไม่ใช่บ้านพี่โตส... (ถ้าใช่ก็ดีดิ เก๋สวยยังงั้น) อิ อิ เข้าใจว่าเกตุไม่มีเวลาอ่านนอกจากดูรูปใช่ม๊า.... มันเป็นบ้านเก่าแก่อยู่นอกตัวเมืองของ Buenos Aires ที่เค้าทำเป็นพิพิธภัณฑ์จ๊ะ
โดย: Chini (Chini ) วันที่: 26 พฤศจิกายน 2549 เวลา:6:24:14 น.
  
EriChan is back to work again !

Good night Ja LookKate.
โดย: chini (Chini ) วันที่: 28 พฤศจิกายน 2549 เวลา:13:32:39 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Cleokate.BlogGang.com

เอริ...จัง
Location :
Massachusetts,  United States

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]

บทความทั้งหมด