[< REVIEW >] || Clinique Even Better Essence Lotion | เติมน้ำให้ผิวแบบไม่หนึบ สวัสดีค่า วันนี้ส้มขอมาอัพเดทบล็อคก่อนนอนกันนิดนึงเนอะ วันนี้เป็นคิวของตัวนี้เลย Clinique Even Better Essence Lotion อย่างที่เคยแจ้งไปนะคะ ว่าตัวนี้จะมี 2 สูตรด้วยกัน คือ 1. Clinique Even Better Essence Lotion 1,2 2. Clinique Even Better Essence Lotion 3,4 ข้อแตกต่างของ 2 ตัวนี้คือ Clinique Even Better Essence Lotion 1,2 = สำหรับผิวแห้ง Clinique Even Better Essence Lotion 3,4 = สำหรับผิวผสม - ผิวมัน ค่ะ โดยส่วนตัวแล้ว เราเป็นคนผิวมันแต่ขาดน้ำ ดังนั้นเราจะใช้ 1,2 (สีแบบน้ำนม) ในตอนกลางคืน และ 3,4 (สีเป็นน้ำใสๆ)ในตอนกลางวันค่ะ ทางแบรนด์เคลมไว้ว่า Even Better Essence Lotion ใหม่ ตัวนี้ มี NMF Complex ซึ่งเปลดล็อคศักยภาพความชุ่มชื่นของผิว เพื่อให้ผิวได้รับน้ำอย่างทันที และสามารถกักเก็บความชุ่มชื่นได้ในระยะยาว และยังมีส่วนผสมที่มอบความสว่างกระจ่างใสจะปลุกผิวให้แลดูมีความสว่างและเปล่งประกาย และ ส่วนผสมที่ช่วยปลอบประโลมผิวที่อาจนำไปสู่การเกิดความหมองคล้ำในอนาคตได้ ซึ่งเท่ากับว่า Even Better Essence Lotionให้ประโยชน์มากมายรวมทั้ง "การเติมความชุ่มชื่นและให้ความเปล่งประกายกับผิว ช่วยให้ผิวมีน้ำอย่างพอเพียง เนียนเรียบ และมีสุขภาพผิวดูดี" นั่นเอง ^^ ส่วนผสมหลักๆ ของเจ้าตัวนี้มีตามนี้เลยจ้า ด้านการเติมน้ำให้ผิว CitrullusVulgaris (Watermelon) Extract, PyrusMalusFruit (Apple) Extract, Lens Esculenta (Lentil) Extract and Sodium PCA: NMF Complex ช่วยให้ผิวสามารถกักเก็บน้ำไว้ได้ ทำให้ผิวดูชุ่มชื่น นุ่มเนียน CucumisSativus (Cucumber) FruitExtract ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื่นมากขึ้น Trehaloseและ HyaluronicAcid ช่วยเติมน้ำให้กับผิว ทำให้ผิวชุ่มชื่นและรู้สึกสบาย ด้านผิวรู้สึกสว่างใส PyrusMalus (Apple) Extract, ScutellariaBaicalensis (Root) Extract และ Cucumis Sativas (Cucumber) Extract การผสมผสานของพืชนานาพันธุ์ที่มีคุณสมบัติของสารแอนติออกซิแดนท์ ช่วยให้ผิวแลดูมีความกระจ่างใสยิ่งขึ้น Ergothioneine และ ArtemiaExtract มอบความรู้สึกสว่างใสให้ผิว Glucosamine ที่ทำงานร่วมกับส่วนผสมสำคัญ ช่วยทำให้ผิวดูสว่างใส พร้อมเสริมการผลัดเซลล์ผิวใหม่เผยผิวที่ดูเนียนเรียบ และสีผิวที่สว่างใสยิ่งขึ้น และที่สำคัญ ตัวนี้ปราศจากน้ำหอม 100% ด้วยนะคะ การเลือกให้เหมาะสมกับผิว Even Better Essence Lotionมี 2 สูตรอย่างที่เราได้แจ้งไปเลยค่ะ สูตรสำหรับผิวประเภทที่ 1 & 2 เนื้อโลชั่นสีคล้ายน้ำนม มีส่วนผสมที่ช่วยเติมน้ำให้แก่ผิวสำหรับผิวแห้ง เช่น Olive Squalane, BarleyExtract, WheatGermExtract และ Jojoba Estersซึ่งจะช่วยให้ผิวได้รับน้ำอย่างเพียงพอ สูตรสำหรับผิวประเภทที่ 3 & 4 เนื้อโลชั่นใสบางเบา มีเนื้อโลชั่นบางเบาที่ให้ความรู้สึกสดชื่น สำหรับผิวผสมและผิวมัน มีส่วนผสมของ Laminaria SaccharinaExtract ช่วยปรับสมดุลผิวและควบคุมความมัน ผลการทดลองใช้ จากการที่เราได้ทดลองใช้ทั้ง 2 สูตรเป็นเวลาเกือบ 3 สัปดาห์ ผลที่ได้คือ ผิวหน้าของเรามันน้อยลงค่ะ น่าจะเป็นเพราะผิวมีความชุ่มชื่นมากขึ้น จึงผลิตน้ำมันออกมาน้อยลงค่ะ และเราไม่มีอาการแพ้ใดๆ กับผลิตภัณฑ์ตัวนี้เลย สูตร 1,2 เนื้อจะเป็นสีออกน้ำนมนิดหน่อยค่ะ คือเป็นสีขุ่นๆ ไม่ใช่ขาวแบบนมขนาดนั้นนะคะ แต่เนื้อจะออกนุ่มๆ หยุ่นๆ บอกไม่ถูก ตอนเทต้องออกแรงนิดนึง ตบลงบนผิวเบาๆ แล้วรู้สึกโอเคนะ ไม่หนึบ ไม่รำคาญแต่อย่างใด ตัวนี้เราใช้ตอนก่อนนอนค่ะ สูตร 3,4 เนื้อจะออกใสเป็นน้ำเลย เททีเดียวออกมาพอดีเป๊ะเลย เนื้อบางเบา ตบลงบนผิวแล้วรู้สึกผิวชุ่มๆ สักพักก็ลงสกินแคร์ตัวต่อไปได้เลยค่ะ ไม่หนึบ ไม่รำคาญเช่นกัน ผลทางด้านการลดเลือนจุดด่างดำหรือผลทางด้านความกระจ่างใส สำหรับเรายังไม่เห็นผลชัดเจนนะคะ เพราะช่วงนี้เราตะลอนทัวร์เยอะมาก ทั้งไปทะเล ไปงานมีทติ้งรถ ท่ามกลางแสงแดดร้อนระอุ แต่ รู้สึกว่าผิวมีการผลัดเซลดีขึ้น พวกรอยสิวค่อนข้างเห็นผลว่าจางลงเล็กน้อย (ย้ำว่าเล็กน้อยนะคะ เพราะเวลาไม่นาน และเราใช้ผิวหนักมาก) สรุปแล้ว เป็นเหมือนตัวเริ่มต้นของสกินแคร์ที่ดีเลยค่ะ ใช้หลังการลงโทนเนอร์แล้วตามด้วยสกินแคร์ตัวอื่นๆ ได้เลยนะคะ ให้ความชุ่มชื่นแต่ไม่หนึบผิว สามารถลงเมคอัพทับได้โดยไม่เป็นคราบค่ะ ปริมาณ : 100 ml. ราคา : 1,700 บาท หาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป และ Clinique online shopping ค่ะ แนะนำให้ไปทดลองเนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์ก่อนตัดสินใจซื้อน้า ^^ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ หากมีข้อติติงใดๆ คอมเม้นท์ไว้ด้านล่างเลยนะคะ ขอบคุณอีกครั้งค่า จุ๊บๆ |
บทความทั้งหมด
|