วันที่ 13 ก.พ. 2551 แฟนโบโร่เฮมิโด้ใกล้รีเทิร์น มัลคอล์ม ครอสบี้ ผู้ช่วยผู้จัดการทีม โบโร่ มิดเดิลสโบรห์ เผยมิโด้ ดาวยิงชาวอียิปต์ ใกล้จะสลัดอาการบาดเจ็บ และกลับมาช่วยทีมได้ในเร็ววันนี้ หลังหายหน้าหายตาไปรักษาอาการบาดเจ็บตั้งแต่เดือนตุลาคม ปีที่แล้ว โดยมิโด้ มีอาการบาดเจ็บบริเวณขาหนีบ มาตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาล และล่าสุดอดีตหัวหอกของสเปอร์ส ก็เริ่มกลับมามีชื่อในเกมสำรองแล้ว แม้ว่าจะยังไม่ฟิตเต็มร้อยก็ตาม ซึ่งทางฝั่งของครอสบี้ มั่นใจว่า หากกองหน้าวัย 24 ปี ยังคงมุ่งมั่นอย่างหนักในการซ้อมต่อไป ก็น่าจะกลับมามีชื่อในทีมชุดใหญ่ภายในไม่กี่สัปดาห์นี้อย่างแน่นอน มิโด้ ซ้อมหนักมาก ผมคิดว่าใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ ความฟิตของเขาดูดีขึ้นมากเลย ครอสบี้เผย ถ้าเขายังคงก้มหน้าก้มตา ฝึกซ้อมอย่างหนักต่อไป ผมคิดว่า เขาคงกลับมาลงสนามให้เรา ได้ภายในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้อย่างแน่นอน ซึ่งผมหวังว่า มันคงจะไม่เกิน 1 เดือนนับจากนี้ เราอยากให้ผู้เล่นของเราทุกคนอยู่ในสภาพที่ฟิตสมบูรณ์ เพราะมันจะเป็นการดีอย่างมากที่ผู้เล่นจะได้แข่งขันกันแย่งชิงตำแหน่งตัวจริง ปอมปีย์มึนได้ดิสแต็งแต่เสียปามาโร่ต์ เดอะ ปอมปีย์ ปอร์ทสมัธ ต้องพบกับข่าวดีและข่าวร้ายพร้อมๆ กัน เมื่อทีมอาจจะได้ใช้บริการซิลแว็ง ดิสแต็ง ปราการหลังจอมแกร่ง ที่ลุ้นทำความฟิตกลับมาลงเล่นเกมเอฟเอ คัพ วันอาทิตย์นี้ แต่ในขณะเดียวกันเกมดังกล่าว ทีมจะไม่มีโนเอ้ ปามาโร่ต์ ซึ่งมีอาการบาดเจ็บรบกวน โดย 2 เกมล่าสุด ปอร์ทสมัธต้องลงสนามโดยปราศจากเงาของดิสแต็ง เนื่องจากกองหลังเลือดน้ำหอมได้รับบาดเจ็บบริเวณเอ็นร้อยหวาย ในเกมที่ทีมบุกไปแมนฯ ยูไนเต็ด 0 2 แต่อย่างไรก็ตาม ในเกมเอฟเอ คัพ รอบห้ากับเปรสตัน นอร์ธเอนด์ วันอาทิตย์นี้ แกรี่ แซดเลอร์ แพทย์ประจำทีม เผยว่า ทีมอาจจะได้แนวรับวัย 30 กลับมาคุมแผงหลังอีกครั้ง หากผลการซ้อมไม่มีปัญหา ซิลแว็งฟิตสมบูรณ์ดีแล้ว และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาก็เริ่มกลับมาวิ่งได้แล้ว ดังนั้น เราจะลองให้เขาลงซ้อม เพื่อดูว่าเขาพร้อมที่จะลงสนามหรือไม่ แซดเลอร์กล่าว นอกจากนั้น แซดเลอร์ ยังเผยถึงอาการของปามาโร่ต์ ที่ได้รับบาดเจ็บในเกมที่ปอร์ทสมัธบุกไปชนะโบลตัน 1 0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า ผลการสแกนของโนเอ้ ปรากฎว่าเขามีอาการเอ็นยึด ซึ่งตอนนี้มันยังเร็วเกินไปที่จะบอกได้ว่าเขาต้องพักนานเท่าไหร่ ดิดี้ฝังรากเรือใบอีกปี ดีทมาร์ ฮามันน์ กองกลางตัวเก๋าของแมนฯ ซิตี้ ตัดสินใจจรดปากกาเซ็นสัญญากับทีมต่อไปอีก 1 ปี หลังฤดูกาลนี้โชว์ฟอร์มสุดยอด ช่วยทำให้ทีมลุ้นโควต้าบอลยุโรปอยู่ในขณะนี้ ล่าสุด ฮามันน์ เพิ่งจะได้รับเลือกให้แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในเกมแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ แมตช์ ที่ทีมแมนฯ ซิตี้ บุกไปชนะแมนฯ ยูไนเต็ด 2 1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา และด้วยฟอร์มอันยอดเยี่ยมมาต่อเนื่องทั้งฤดูกาล ทำให้ทีม เรือใบสีฟ้า ตัดสินใจยืดสัญญาของกองกลางชาวเยอรมันไปอีก 1 ปี แทนที่สัญญาฉบับเดิมซึ่งจะหมดลงหลังจบฤดูกาลนี้ โดยฮามันน์ วัย 34 ปี ถือเป็นนักเตะประสบการณ์สูงคนหนึ่ง ในเวทีฟุตบอลพรีเมียร์ลีก เคยคว้าแชมป์รายการยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ร่วมกับลิเวอร์พูล ในปี 2005 มาแล้ว รวมถึงเป็นหนึ่งในขุนพลทีมชาติเยอรมัน ชุดที่ได้รองชนะเลิศฟุตบอลโลกปี 2002 ที่เอเชียอีกด้วย ฟ้าขาวยังรั้งผู้นำฟีฟ่าเวิลด์แรงกิ้ง ฟ้าขาว อาร์เจนติน่า ยังคงรั้งอันดับ 1 ของฟีฟ่า เวิลด์ แรงกิ้ง เป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน จากการประกาศของทางฟีฟ่า ในวันพุธที่ผ่านมา ส่วนทีม สิงโตคำราม อังกฤษ ขวัญใจคนไทยหล่นไปอยู่อันดับ 11 จากการประกาศอันดับของทีมชาติ หรือฟีฟ่า เวิล์ด แรงกิ้ง โดยสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า ผลปรากฎว่า อันดับ 1 ยังคงเป็นแชมป์เก่า อาร์เจนติน่า ที่ครองตำแหน่งติดต่อเป็นเดือนที่ 5 เข้าให้แล้ว โดยอันดับ 2 เป็นบราซิล ส่วนชาติมหาอำนาจฟุตบอลอื่นๆ อย่างอิตาลี, สเปน และเยอรมัน ได้อันดับ 3, 4 และ 5 รองลงไปตามลำดับ โดยอันดับ 6 10 รองลงมานั้นประกอบไปด้วยเช็ก, ฝรั่งเศส, โปตุเกส, ฮอลแลนด์ และกรีซ ตามลำดับ ส่วนทีมผู้ดี อังกฤษ ซึ่งตกรอบคัดเลือกฟุตบอลยูโร 2008 อันดับหล่นไปอยูที่ 11 ด้าน อียิปต์ แชมป์สดๆ ร้อนๆ ของรายการแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ อันดับพุ่งขึ้นมาอยู่ในอันดับ 29 จากเดิม 35 และรองแชมป์ แคเมอรูน อยู่ในอันดับ 17 ส่วนทีมอื่นๆ ในแอฟริกา อย่างเช่นไอวอรี่ โคสต์ อยู่ที่อันดับ 24 และกานา เจ้าภาพ กลายเป็นทีมที่ข้ามขั้นมากที่สุดในการจัดอันดับครั้งนี้ โดยข้ามถึง 29 อันดับ ขึ้นมารั้งอันดับ 14 ในขณะนี้ ทางฝั่งคอนคาเคฟ เม็กซิโก ยังคงรั้งอันดับ 1 ของทวีป และอยู่ที่ 16 ในตารางรวม ส่วนทีมชาติสหรัฐอเมริกา คู่ปรับรายสำคัญ หล่นไปอยู่ในอันดับ 22 โดยการเปิดเผยฟีฟ่า เวิลด์ แรงกิ้งในครั้งนี้ มีเพียงอาร์เจนติน่า, บราซิล และเม็กซิโก เท่านั้นที่เป็นชาติซึ่งไม่ได้อยู่ในทวีปยุโรป ที่สามารถทะลุขึ้นมาอยู่ 20 อันดับแรก ส่วนอีก 17 ทีมที่เหลือล้วนแล้วแต่เป็นทีมในทวีปยุโรปทั้งสิ้น ราชันรั้งอันดับหนึ่งสโมสรวยสุด ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งวงการฟุตบอลยุโรป ยังคงรั้งอันดับ 1 ในการจัดอันดับสโมสรที่สถานะการเงินรวยที่สุด ขณะที่ ปิศาจแดง แมนฯ ยูไนเต็ด ตัวแทนจากอังกฤษ ไต่ขึ้นมาอยู่ในอันดับ 2 จากการจัดอันดับโดยเดล็อตต์ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา จากการจัดอันดับทีมสโมสรที่รวยที่สุดในโลก หรือ ฟุตบอล มันนี่ ลีก โดยเดล็อตต์ บริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน เผยว่า เรอัล มาดริด เป็นทีมที่สถานะทางการเงินร่ำรวยที่สุดในโลก ซึ่งมีผลประกอบการอยู่ที่ 351 ล้านยูโร ส่วนแมนฯ ยูไนเต็ดที่ครั้งที่แล้วอยู่ในอันดับ 4 ข้ามมาอยู่อันดับ 2 มีผลประกอบการ 315 ล้านยูโร และอันดับรองลงมาเป็นบาร์เซโลน่า, เชลซี และอาร์ซนอล อยู่ในอันดับที่3, 4 และ 5 ตามอันดับ ทาง แดน โจนส์ หุ้นส่วนของสปอร์ต บิสซิเนส กรุ๊ป ของเดล็อตต์ เผยถึงการจัดอันดับดังกล่าวว่า นี่เป็นครั้งแรกที่มีทีมถึง 3 ทีมซึ่งมาจากชาติเดียว อยู่ในท็อปไฟว์ของมันนี่ ลีก และการที่อาร์เซนอลย้ายไปเล่นที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับพวกเขาได้อย่างมาก ส่วนทางเชลซี รายได้ของพวกเขาก็เพิ่มขึ้นมาเช่นกัน เลยทำให้พวกเขากลับมาอยู่ใน 5 อันดับแรกอีกครั้ง จากสัญญาโทรทัศน์ฉบับใหม่ของพรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2007/2008 ทำให้แมนฯ ยูไนเต็ดมีโอกาสดีอย่างมาก ที่จะลดช่องว่างของพวกเขา กับเรอัล มาดริด และถ้าหากพวกเขาประสบความสำเร็จในรายการยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก พวกเขาก็อาจจะแย่งอันดับ 1 มาจากเรอัลเลยก็เป็นได้ โดยทางฝั่งของ อลัน สวิตเซอร์ ผู้บริหารของผู้บริหารของสปอร์ต บิสซิเนส กรุ๊ป ได้ชี้ว่า สนาม ก็เป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญ ที่ส่งผลกระทบต่อรายได้ของสโมสร ผลงานของทีมจากเยอรมันในปีนี้เข้าตามาก และมันก็ช่วยเพิ่มรายได้ให้พวกเขาได้ดีเลยล่ะ รวมถึงการที่บางทีมสร้างสนามใหม่ หรือปรับปรุงสนามอีกด้วย สนามของทีมชั้นนำ ล้วนแต่ช่วยส่งผลให้พวกเขาเข้ามาอยู่ในมันนี่ ลีก ดังนั้นหลายๆ ทีมจึงพยายามหาทางที่จะปรับปรุงสนามของพวกเขา นอกจากนั้น พอล ลอว์นส์ลี่ย์ ผู้บริหารอีกรายของสปอร์ต บิสซิเนส กรุ๊ป ยังออกมาทำนายว่าในอนาคต ทีมจากลีกผู้ดี จะขึ้นมามีบทบาทสำคัญในมันนี่ ลีกอย่างแน่นอน สโมสรอย่างแอสตัน วิลล่า, เอฟเวอร์ตัน, แมนฯ ซิตี้ และเวส์ตแฮม แม้ว่าจะไม่ติดใน 20 อันดับแรก แต่ด้วยสัญญาลิขสิทธ์โทรทัศน์ฉบับใหม่ จะสร้างผลประโยชน์ให้พวกเขาได้มหาศาลอย่างแน่นอน ซึ่งผมมั่นใจว่า อีกไม่นานนี้ ทีมจากอังกฤษ จะต้องเข้ามีบทบาทสำคัญในมันนี่ ลีก อย่างแน่นอน ฮิดดิ้งค์เผยอยากเจอปูตินตัวเป็นๆ กุส ฮิดดิ้งค์ กุนซือทีม หมีขาว รัสเซีย เผยความต้องการว่า อยากที่จะได้เข้าพบกับวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของรัสเซีย และยืนยันว่าถ้าเป็นไปได้ ก็อยากจะนำเหรียญรางวัลไปเป็นของฝากให้กับผู้นำประเทศรายนี้อีกด้วย รัสเซียเป็นประเทศใหญ่ และก็มีบทบาทอย่างมากในเวทีโลก ผมคิดว่าทุกคนคงรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก ที่ได้พบกับผู้นำอย่างปูติน โดยเฉพาะ ถ้าเป็นคนต่างชาติอย่างผม ดังนั้น ถ้าเขาเชิญทีมเราเข้าไปพบเขา มันคงเป็นจะเป็นเรื่องที่ดีมาก แต่พวกเราเองก็ไม่อยากจะเข้าไปพบเขาแบบมือเปล่า เราต้องการที่จะนำเหรียญรางวัลไปกับเราด้วย แล้วก็พูดว่า เฮ้ ดูสิว่าเราทำผลงานได้ดีแค่ไหน เราทำชื่อเสียงให้ประเทศชาติด้วย นอกจากนั้น ฮิดดิ้งค์ ยังกล่าวตอบแบบยิ้มๆ เมื่อถูกถามว่า รู้สึกอย่างไรที่ไม่เคยผู้จัดการทีมชาติรัสเซียคนใด ที่เคยได้รับเกียรติให้เข้าพบกับปูตินมาก่อน งั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้นก็หมายว่าทีมของเราจะมีโอกาสเป็นครั้งแรกเลยน่ะสิ |