โลมาที่-`๏’-บางปะกง-`๏’-
เอามาเล่าสู่กันฟัง...เพื่อเป็นไอเดีย ให้เพื่อนๆ BP หาที่คลายเครียด
ไม่ไกลจากกรุงเทพนัก


วิ่งเส้นบางนาตราดครับ....ถนนข้างล่างไม่ดีเลย รถรับส่งพนง. ช่วงเช้าเยอะไปหมด
วิ่งมาจากข้างบนสะดวกกว่า ก็ลงที่ด่านที่บอกไปชลบุรีสายใหม่....

พอลงมาแล้วก็เข้าข้างใน (เลนขวา) วิ่งข้ามสะพานข้าแม่น้ำบางปะกงไป
ให้ผ่านหน้า รฟ.บางปะกงก่อนนะครับ สัก 500 ม. จะมียูเทริน์ *ตรงนี้รถวิ่งเร็วกัน ระวังหน่อย

แล้วจะมีทางเข้าเล็ก ซ้ายมือครับ เลี้ยวซ้ายเข้าไปเรื่อยๆ จะไปเจอแยกศูนย์ฝึกอบรมของ กฟผ.

ทางซ้ายไปดูโลมาที่ หมู่ 8 ทางขวาไปหมู่ 1 เมื่อเช้าผมเลือกไปหมู่ 1 เลี้ยวขวามือครับ
วิ่งไปเรื่อยๆ ป้ายหายากสักหน่อย....สักไม่ถึง 10 นาทีก็จะมาถึงท่าเรือของชาวบ้านครับ





ดีแฮะ..มีบริการอุ้มลงเรือด้วยหล่ะ




ท่าเรือเล็กไปหน่อย แต่ผมรู้สึกชอบนะเนี่ย




ออกเรือมาได้หน่อยนึง เจ้าเด็กคนนี้..ไม่รู้หัวเราะอะไรนักหนา...

คงเพราะมากับเพื่อนๆ รุ่นเดียวกันหลายคน




ตัวเล็กที่สุดในทริปนี้...10 เดือนเอง





นั่งมาสักพัก..เจอปะภาคารเล็กๆ ครับ
มีนักท่องเที่ยวเหมาเรือไปยืนตกปลาอยู่พอดี





เลยประภาคารไปสัก 15 นาทีเองครับ....

ได้ยินกัปตันเบาเครื่อง...สักครู่เดียวเครื่องก็ดับลง.....


แล้วเราก็เจอกับ โลมาอิรวดี




วันนี้ลมเย็นจังเลยครับ....เย็นแบบหนาวเลยหล่ะ.....




มาซ้ายที ขวาที

บนเรือลำน้อยเรื่มปั่นป่วน





ถ่ายยากนะครับ..เพราะไม่รู้ว่าเขาจะมาทางไหน...

แล้วก็มีเล็นซ์เเค่ 17-50 ตัวเดียว
ใครมีเทเลฯ ลองไปเก็บภาพสวยๆ นะครับ




เราลอยลำกันซักเกือบชม....

มีโลมาอิระวดี โฉบมารอบๆ เรือตลอดเวลาครับ
วันนี้มีเรือออกช่วงที่ผมไป สองลำเอง





อยู่ในที่แคบ....กับเด็ก 8 คนนี่....หุ หุ
ชักจะเริ่มตีกันแล้ว....แย่งของเล่นกันก็มี

เข้าฝั่งดีกว่า




เรือลำที่เหมาไปไม่มีห้องน้ำนะครับ....เด็กๆ เริ่มปวดฉี่กัน

เราก็ไม่ได้บอกให้เข้าฝั่งเลย
กัปตันเค้าหวังดี พาวนรอบเกาะนกอีก 1 รอบ


นี่ระหว่างรอเข้าห้องน้ำกัน...ใต้ถุนบ้านคุณป้าเจ้าของเรือฯ
มีปลา Teen ให้ชมด้วยจ้า
แกอนุรักษ์ไว้




เสร็จแล้วผมพาไปซื้อฝอยทองเจ้าดัง ที่ อ.บางปะกง ร้านป้านงค์

แล้วก็เลยหาก๋วยเตี๋ยวทานแถวนั้นเพราะว่าใกล้จะเที่ยงแล้ว
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
เราไปต่อที่วัดโพธิ บางคล้า..พาเด็กไปดูค้างคาวแม่ไก่กัน......

ตัวใหญ่....แต่เราไม่มีซูมนะ




เด็กๆ วัยขนาดนี้....ให้อาหารปลาเป็นมือวางกันทั้งนั้นครับ...

คราวหน้าจะซื้อติดรถไว้สักกระสอบนึง





ใกล้ๆ กับวัดโพธิ์ บางคล้า มีตลาดน้ำบางคล้า
ก็แวะไปเดินเล่น แล้วก็กลับกรุงเทพฯ กันครับ
############################################
ขอปิดท้ายทริปนี้ ด้วยภาพที่ท่าน้ำวัดโพธิ์ บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรานะครับ
############################################

ลิงค์กระทู้ในห้อง Blueplanet อยู่นี่ครับ
//www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7266372/E7266372.html











Create Date : 09 ธันวาคม 2551
Last Update : 11 ธันวาคม 2551 8:35:04 น.
Counter : 1599 Pageviews.

6 comments
การบินไทยประกาศพร้อมกางปีกบินอย่างยั่งยืนมุ่งสู่ขอบฟ้าใหม่แห่งความภูมิใจ "Fly for The New Pride” อุ้มสี
(3 ต.ค. 2567 17:39:20 น.)
เรื่องเล่า "ท้าวเวสสุวรรณ" วัดไผ่จระเข้ นครปฐม นายแว่นขยันเที่ยว
(30 ก.ย. 2567 00:36:28 น.)
เทศกาลกินเจ 2567 อิ่มกาย อิ่มใจ ได้บุญ DigitalMarketing
(28 ก.ย. 2567 14:28:12 น.)
ธรรมสถาน ชยันโต โพธิ ธรรมรังสี ดาวริมทะเล
(26 ก.ย. 2567 15:48:13 น.)
  
โลมาอิรวดี
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
//th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%B5
โลมาอิรวดี หรือ โลมาหัวบาตร (Irrawaddy Dolphin หรือ Ayeyarwaddy Dolphin) เป็นโลมาชนิดหนึ่ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Orcaella brevirostris อยู่ในวงศ์โลมา (Delphinidae) รูปร่างหน้าตาคล้ายโลมาทั่วไป แต่มีลักษณะเด่นคือ หัวที่มนกลมคล้ายบาตรพระ ลำตัวสีเทาเข้ม แต่บางตัวอาจมีสีอ่อนกว่า ตามีขนาดเล็ก ปากอยู่ด้านล่าง ครีบข้างลำตัวแผ่กว้างเป็นรูปสามเหลี่ยม ครีบบนมีขนาดเล็กมาก มีรูปทรงแบนและบางคล้ายเคียว มีขนาดประมาณ 180 - 275 ซ.ม. น้ำหนักไม่มีรายงาน

มีการกระจายอย่างกว้างขวางในมหาสมุทรแปซิฟิก มหาสมุทรอินเดีย อ่าวไทย มักพบเข้ามาอยู่ในแหล่งน้ำกร่อยและทะเลสาบ เช่น บริเวณปากแม่น้ำ โลมาอิระวดีบางกลุ่มอาจเข้ามาอาศัยอยู่ในแม่น้ำสายใหญ่ ๆ ด้วย เช่น แม่น้ำโขง และทะเลสาบเขมร ในปี พ.ศ. 2459 พบว่ามีอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย

ถูกค้นพบครั้งแรกที่แม่น้ำอิระวดีในประเทศพม่า จึงเป็นที่มาของชื่อ ปัจจุบัน สามารถพบได้ที่ ทะเลสาบชิลก้า ประเทศอินเดีย แม่น้ำโขง ทะเลสาบสงขลาและปากแม่น้ำบางปะกง เป็นต้น

มีพฤติกรรมพบได้บริเวณที่มีน้ำขุ่น สามารถอยู่ใต้ผิวน้ำได้นานถึง 70-150 วินาที แล้วจะโผล่ขึ้นมาหายใจสลับกัน ออกลูกครั้งละ 1 ตัว ตั้งท้องนาน 9 เดือน ลูกที่เกิดมามีขนาด 40 % ของตัวโตเต็มวัย อาหาร ได้แก่ กุ้ง ปลา และหอยที่อยู่บนผิวน้ำและใต้โคลนตม สถานภาพปัจจุบันใกล้สูญพันธุ์ (Endangered) จัดอยู่ในบัญชีประเภทที่ 1 ของไซเตส (Appendix I) คือ ห้ามซื้อขาย ยกเว้นมีไว้ในการศึกษาและขยายพันธุ์

โลมาอิระวดีมีชื่อเรียกอื่น ๆ อีก เช่น "โลมาหัวบาตรมีครีบหลัง", "โลมาน้ำจืด", "โลมาหัวหมอน" ในภาษาใต้ และ "ปลาข่า" ในภาษาลาว เป็นต้น
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

โลมาอิระวดี
Saturday, 15 March 2008
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ : Orcaella brevirostris
วงศ์ : DELPHINIDAE
รายละเอียด
มีลักษณะคล้ายกับ ปลาวาฬDelphinapterus leucas มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับปลาวาฬนักล่า Orcinus orca ลักษณะเด่นคือ หัวค่อนข้างกลม ไม่มีจะงอยปาก เช่น โลมาอีกหลายชนิด สีลำตัวแปรเปลี่ยนไปตั้งแต่สีน้ำเงิน เทาเข้มจนถึงน้ำเงินจาง โลมานี้จะรวมกลุ่มเช่นเดียวกับโลมาในมหาสมุทรแม้ว่าโลมาบางตัวสามารถอาศัยได้ในแม่น้ำที่จืดสนิทก็ตาม มักพบโลมาอาศัยอยู่บริเวณน้ำตื้นชายฝั่งในเขตร้อนและเขตกึ่งร้อนของมหาสมุทรอินเดียและแปซิฟิค รอบหมู่เกาะประเทศอินโดนีเซีย ตอนเหนือของประเทศออสเตรเลีย และทะเลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ใกล้ชายฝั่ง โดยเฉพาะบริเวณปากแม่น้ำได้แก่ บางปะกงทะเลสาบสงขลา เจ้าพระยา เป็นต้น
ลักษณะทั่วไปของโลมาอิระวดี คือ มีครีบหลังรูปทรงสามเหลี่ยมขนาดเล็กปลายมน พบในตำแหน่งที่ห่างจากจุดกึ่งกลางลำตัวค่อนไปทางหางนัก มีสีเทาดำ ถึงสีเทาสว่าง ลำตัวมีความยาวประมาณ 275 เซนติเมตร แต่เฉลี่ยแล้วมีความยาว 210 เซนติเมตร มีน้ำหนักประมาณ 115 – 130 กิโลกรัม เป็นโลมาขนาดเล็ก ว่ายน้ำโดยปกติค่อนข้างช้า และอยู่เป็นกลุ่มเล็ก ๆ เมื่อพิจารณาลักษณะภายนอก โลมาอิระวดีมีรูปร่าง ลักษณะคล้ายคลึงกับวาฬเบลูก้า (Beluga whale) หรือที่เรียกทั่วไปว่าวาฬมีฟัน (Toothed whale) และยังมีรูปทรงคล้ายคลึงกับโลมาหัวบาตร หรือโลมาไม่มีครับหลัง(Finless porpoise) ซึ่งมีหัวลมมนคล้ายกัน ทำให้บางครั้งมีความสับสนขึ้น แต่ที่จำง่าย ๆ ก็คือ โลมาอิระวดีมีครีบบนหลังหนึ่งอัน และมีฟันแหลมอยู่บนขากรรไกรบน จำนวนเต็มที่ 40 ซี่และจำนวน 36 ซี่ อยู่บนขากรรไกรล่าง
อุปนิสัยของโลมาอิระวดีมักอยู่รวมเป็นฝูงเล็ก แต่ละฝูงมีจำนวน 6 ตัว หรือน้อยกว่า ไม่ชอบปรากฏตัวให้เห็นตามผิวน้ำทะเล แต่ชอบโผล่หัวขึ้นมา ที่ระดับผิวน้ำ ค่อนข้างขี้อายและหลบซ่อนตัว ความยาวของโลมาเต็มวัย อยู่ระหว่าง 90 -150 กิโลกรัมและให้ลูกเกิดใหม่มีความยาวประมาณ 1 เมตร ที่มีน้ำหนักประมาณ 12 กิโลกรัมหรือมากกว่า อาหารอันโอชะของโลมาเหล่านี้คือปลากุ้งและปลาหมึก บางครั้งช่วยเหลือชาวประมง โลมามีตา หู จมูก และลิ้นเหมือนคนเรา มันจะเห็นได้ชัดเจนที่สุดในที่โล่ง และน้ำตื้น แต่เนื่องจากโลมาไม่มีตาอยู่ด้านหน้าจึงไม่สามารถกะระยะทางได้ดีนัก เมื่ออยู่ใต้น้ำ จมูกของโลมาจะปิด ดังนั้นมันจะไม่ได้กลิ่นอะไรเลย แต่ลิ้นสามารถรับรสจากสารเคมีในน้ำได้ดี การรับเสียงด้วยคลื่นสะท้อนแบบเรดาร์ของโลมา ใช้ล่าเหยื่อ และรู้วัตถุหรือลักษณะภูมิประเทศใต้น้ำได้เป็นอย่างดีทั้งยังส่งเสียงสื่อสารกับโลมาตัวอื่นได้ด้วย
โลมาอิรวดีได้รับการจัดให้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองลำดับที่ ๑๓๘ (สัตว์ป่าคุ้มครองเป็นสัตว์ป่าที่เกิดในธรรมชาติและมีรายชื่ออยู่ในประกาศคณะรัฐมนตรีให้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ห้ามล่า ห้ามครอบครอง หรือห้ามเพาะพันธุ์ เว้นแต่จะได้รับอนุญาต) สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถได้ทรงมีพระราชประสงค์ให้ช่วยกันอนุรักษ์โลมาอิรวดีซึ่งเป็นสัตว์หายาก พร้อมทั้งทรงรับไว้เป็นสัตว์ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ส่วนสหภาพสากลว่าด้วยการอนุรักษ์ (IUCN) ก็จัดให้โลมาอิรวดีอยู่ในบัญชีตัวแดง (Red List) โดยอยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์อย่างวิกฤต (Critically Endangered) โลมาอิรวดีถือเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองลำดับที่ ๑๓๘
//www.chachoengsao.most.go.th/index.php?option=com_content&task=view&id=98&Itemid=1
โดย: เพิ่มข้อมูลอีกนิดนึง (Art999. ) วันที่: 10 ธันวาคม 2551 เวลา:19:24:35 น.
  
สวัสดีค่ะ
เป็นคนฉะเชิงเทราแท้ ๆ แต่ยังไม่เคยไปดูปลาโลมาเลยค่ะ อิๆๆ สงสัยวันไหนว่างต้องไปดูบ้างแล้วสิ
โดย: paerid วันที่: 11 ธันวาคม 2551 เวลา:14:45:07 น.
  
เจ๋งอะ

ขอจดไว้ จะได้พาลูกชายดูด้วยค่ะ
โดย: eyewitness วันที่: 11 ธันวาคม 2551 เวลา:19:03:55 น.
  
ถ่ายภาพเก่งมากๆ เลยค่ะ
ว่าจะ ว่าจะ แต่จนแล้วจนรอดก็ยังม่ะได้ไปดูโลมาธรรมชาติกันซักที ...
ขอบคุณสำหรับข้อมูลโลมาค่ะ
โดย: ืninabella IP: 58.9.227.139 วันที่: 15 ธันวาคม 2551 เวลา:13:36:10 น.
  
สวัสดีปีใหม่ค่ะ คุณ art999

คุ้นเคยกับที่นี่มาพอสมควร เพราะบ้านพ่ออยู่แถวๆนั้นเลย เคยไปๆ-มาๆ มาตั้งแต่เด็ก แต่ได้มีโอกาสดูปลาโลมาที่นี่ครั้งแรกก็ตอนโตเป็นวัวแล้ว อิอิ อาจจะเพราะ บรรยากาศมันชินตาเกินกว่าจะนั่งเรือออกไปดูอะไรๆมั้งคะ

เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้กลับไปแล้ว

ขอบคุณที่เข้าไปเยี่ยมบล็อกนะคะ ถามได้ไหมคะ ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกว่าคุณอาร์ทจะไปเชียงคานบ่อยหรือเปล่า เพราะเคยคุยกับป้าร้านทำผมที่ติดกับร้านผ้านวมนิยมไทย เยื้องบ้านคุณยายศรีพรรณ แกเคยพูดถึงไว้
โดย: ตัวเล็กแต่กินจุ วันที่: 4 มกราคม 2552 เวลา:20:53:48 น.
  
^^

^^
ตอบคุณตัวเล็กฯ ตรงนี้ได้เปล่าเนี่ย 55 5 5 55

ปีที่เเล้วไปมาหลายวันไปหน่อย
และปีนี้ (ที่เพิ่งผ่านมาไม่กี่วัน)

พาน้องพันไมล์ไปเที่ยว เหมือนไปเยี่ยมญาตเลยครับ


กลับมาก็โทรคุยกันในวาระสำคัญต่างๆ ครับ

คนที่นั่นน่ารักมากมาย

ที่คนตัวเล็กพูดถึงคุณป้าร้านทำผม ชื่อป้ารัศมี ร้านทำผมน้องเม
แฟนแกชื่อลุงเอิบ ทำไอสครีมกระทิ ทำเอง เจ้าเดียวในเชียงคาน

วันที่ผมไปลุงเอิบแกไม่สบาย ไม่ได้ออกไปขายไอสครีม

แกก็แบ่งมาให้ผมทานด้วยที่บ้านยายศรีพรรณด้วย



รั ก เ ชี ย ง ค า น ค รั บ
โดย: Art999. วันที่: 8 มกราคม 2552 เวลา:8:58:17 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Art999.BlogGang.com

Art999.
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]