2009-11-30 Leather bound diary - สมุดบันทึกหนังอย่างง่าย
เมื่อสามวันก่อนออกไปซื้อของ แวะร้านดวงกมล (ร้านขายหนังสือในเชียงใหม่) หาหนังสือเกี่ยวกับ India ที่จริงอยากได้ข้อมูลเกี่ยวกับ Rajasthan , Delhi และ Agra แต่ก็หาไม่เจอ เลยไปเดินแถวมุมเครื่องเขียน... อยากได้สมุดบันทึกเอาไว้จดบันทึกการเดินทาง นี่ก็อีกเดือนกว่าๆแล้วหิ... โอ๊วคุณพระคุณเจ้า สมุดบันทึกสวยๆ แต่ละเล่ม สองสามร้อยอัพ สุดยอดแห่งราคา เดินไปเดินมาผ่าน "สมุดฉีก"... 14 บาท เกิดความคิดว่าเราทำปกสมุดฉีกเก๋ๆ เศษหนังก็ไม่กี่ตังค์... ตกลง เราจะยอมจ่ายเงิน 14 บาทแล้วทำปกให้สมุดฉีกเล่มน้อย เก๋ไก๋ อย่าบอกใคร

ด้วยความขี้เกียจ เราไม่ได้สร้างแบบ (pattern) แค่กะให้ปกใหญ่กว่าสมุดฉีกเล็กน้อย ในระหว่างทำก็ลืมนั่น ต่อเติมนี่ตามแต่ใจเรา เพราะเราทำเองใช้เอง... เริ่มลงมือกันเลยดีกว่า


ตัดกระดาษแข็งให้ใหญ่กว่าสมุดฉีกเล็กน้อย สมุดฉีกของเรา 13x19ซม. เราตัดกระดาษแข็ง 14x20ซม. กระดาษแข็งที่ใช้ทำปกหลังเราใช้แบบหนากว่าปกหน้า 2 เท่า ทั้งนี้เพราะเวลาไม่มีอะไรรองเขียนจะได้ใช้มือซ้ายประคองเขียนได้ (อื้ม หลักแหลม... หลักแหลม... ) ส่วนสันปก เราตัดกระดาษแข็งขนาด 13x1ซม. สรุปมีกระดาษแข็ง 3 ชิ้น ตามภาพ


วัสดุชิ้นถัดมาเป็นฟองน้ำทำซับ ที่เชียงใหม่เราไปซื้อที่กาดหลวง หรือหาซื้อได้ที่ร้านขายวัสดุทำรองเท้า หรือร้านขายฟองน้ำ เราใช้กระดาษแข็งทาบฟองน้ำแล้วใช้ดินสอขีดให้รอบ แล้วใช้กาวยางทาทั้งกระดาษแข็งและฟองน้ำ จากนั้นก็นำกระดาษแข็งไปทาบฟองน้ำที่ทากาวไว้ ทำอย่างนี้กับกระดาษแข็งทั้งสามชิ้น


ตัดเศษฟองน้ำที่เกินออกไป


ถ้าใครพอมีฐานะ จะใช้หนังเป็นผืนใหญ่ก็ได้ แต่เรามีเศษหนังอยู่แล้ว จึงนำมาต่อกัน แล้วดีไซน์แบบเอง ทั้งประหยัด สวยไม่หรู แต่สวยเก๋ อิ..อิ..


หนังที่ใช้ทำปก มีขนาดเท่ากับ 15 (14+1) x 43 (20+20+1+2) ซม. ความกว้าง 15 ซม. เพราะปกไดอะรี่กว้าง 14 ซม. เผื่อหนังไปข้างละ 0.5 ซม. ส่วนความยาว 43 ซม. เพราะ ปกหน้ายาว 20 ซม. ปกหลัง ยาว 20 ซม. สันอีก 1 ซม. และเผื่อขอบ บนล่างของหน้าปกอย่างละ 0.5 ซม. ในรูปแสดงให้เห็นชิ้นหนัง (ที่ต่อเสร็จแล้วทั้งผืน) และกระดาษแข็งที่ติดฟองน้ำแล้ว กระดาษแข็งด้านซ้ายมือ เราหงายด้านฟองน้ำให้ดู ซึ่งเป็นด้านที่จะติดกาว


ทากาวยางที่ชิ้นหนังปกไดอะรี่ และกระดาษแข็งด้านฟองน้ำ


นำกระดาษแข็งด้านฟองน้ำที่ทากาวยางแล้วไปติดบนแผ่นหนังที่ทากาวไว้แล้วเช่นกัน ในรูป เราติดกระดาษแข็งชิ้นหน้าปก และ ชิ้นสันปก


จากนั้นก็นำกระดาษแข็งชิ้นปกหลังมาทากาวยางด้านฟองน้ำแล้วติดลงบนแผ่นหนัง จะได้ออกมาตามรูป (พอดีทำเพลินลืมถ่ายรูปก่อนติดกระดุม) จากนั้นก็ติดกระดุม โดยกระดุมตัวผู้ให้ตอกรูที่ปกหลังสูงจากขอบประมาณ 2 ซม. วัดให้ได้กึ่งกลางจากด้านข้าง และให้ติดตั้งกระดุมโดยให้หัวกระดุมหันออกมาด้านนอก (รูปถัดไปจะขยายให้เห็นชัดกว่านี้อ่ะ) ส่วนกระดุมตัวเมีย ให้ตัดหนังทาประกบหนังหมู (ที่ทำเป็นซับ) ทำเป็นเดือยยาวออกมาประมาณ 6 ซม. เจาะรูตรงปลาย ติดตังกระดุมตัวเมียให้เรียบร้อย... ถ้าใครงง อะไรคือตัวผู้อะไรคือตัวเมียสามารถย้อนไปดูได้ที่ //www.bloggang.com/viewblog.php?id=annopwichai&date=23-11-2009&group=5&gblog=2 ซึ่งเป็นการทำ พวงกุญแจหนังอย่างง่าย ที่เขียนเมื่อวันที่ 2009-11-23
สรุป ด้านที่มีเดือยติดกระดุมตัวเมียเป็นปกหน้านะ เด๋วจางง


เราถ่ายเข้ามาใกล้อีกนิดให้เห็นกันชัดชัด โดยพับหนังแล้วพลิกด้านหลัง จะได้เห็นหัวกระดุมตัวผู้ซึ่งโผล่มาด้านหลังของไดอะรี่ ส่วนกระดุมตัวเมียทำเดือยหนังมาติดไว้กับหน้าปก มะรู้จะอธิบายยังงัยแล้วอ่ะนะ เด๋วดูรูปต่อๆไป ก็อาจจะเก็ดไอเดียหิ


นำหนังหมูมาทำซับ โดยนำหนังที่ติดกระดาษแข็งและฟองน้ำแล้วมาทาบแล้ววาดแบบ อย่าตัดหนังหมูให้เท่ากับหนังชิ้นงานแล้วนำมาแปะเพราะยังงัยก็ไม่พอดีกัน เพราะหนังมันยืดหยุ่น... เด๋วจะหาว่ามะบอกอ่ะนะ


ทากาวยางที่ซับใน (หนังหมู) และ ที่ปกในส่วนที่เป็นกระดาษ ที่จริงในส่วนที่เป็นด้านหลังของปกไดอะรี่จะเป็นส่วนที่เราสอดสมุดฉีกเข้าไป ดังนั้นไม่ต้องทากาว ให้ทาเฉพาะขอบ ตามรูปจะเป็นพื้นที่ด้านซ้ายมือ แต่ตอนทากาวเราลืมนึกไป ดังนั้นเราจึงเอาผ้าบางสีดำขนาดเท่ากับสมุดฉีกมาวางทับไว้ เพื่อเวลานำซับและหนังมาติดกัน ส่วนนี้จะได้ไม่ติดกัน ทำให้มีพื้นที่ในการสอดสมุดฉีก อาจจะฟังแล้วงง แต่ถ้าลองทำเองจริงๆ ก็จะรู้ว่าต้องทำงัยอ่ะ


หลังจากนำหนังมาติดกับซับแล้ว ให้ตัดซับส่วนเกินออก เนื่องจากเราใช้มือซ้ายถ่ายรูป และปุ่มชัตเตอร์ก็อยู่ด้านขวาของกล้อง ภาพเลยมะชัดหิ


จากนั้นให้ใช้เหล็กตอกนำ (ของเรามี 4 ซี่ งานนี้ถ้าใครมีแบบ 6 ซี่ก็จะไวหน่อยเพราะตอกแบบตรง ไม่มีโค้งอ่ะ)


เทคนิคใคร เทคนิคมัน เราใช้เหรียญ 25 สตางค์ช่วยตัดมุม เพื่อไม่ให้งานออกมาดูทื่อเกินไป


จากนั้นก็สอยจนรอบ เราสอยแบบใช้สองเข็มเหมือนเดิม ใครจะสอยแบบด้นถอยหลัง หรือสอยถักขอบเป็นก็สวยดีเหมือนกันนะ


จากนั้นก็ทาสีขอบ นอกจากจะสวยงามเป็นระเบียบแล้ว ยังทำให้แข็งแรงคงทนอีกด้วย เพราะคุณสมบัติของสีทาขอบหนังมีความยืดหยุ่นสูง ทำให้หนังและซับติดกัน ทำให้เกิดความคงทน


อ๊ะ!! ทำไปทำมา ลืมอีกละ... ที่เสียบปากกา ต่อเติมอย่างง่ายๆ โดยตัดเศษหนังให้มีขนาดพอเสียบปากกาได้ ทาสีขอบแล้ว ตอกนำ จากนั้นนำไปสอยติดกับปกไดอะรี่... ของเราติดด้านขวามือ เดี๋ยวดูรูปตอนสำเร็จก็จะมองออกเองอ่ะนะ


นำสมุดฉีกมาเสียบ ลืมบอกไปว่าต้องใช้คัตเตอร์กรีดเบาๆ ที่ซับ เพื่อเจาะเป็นช่องให้สามารถเสียบสมุดฉีกได้ โดยรอยกรีดอยู่ห่างจากขอบปกหลัง 18 ซม. เว้นขอบด้านข้างด้านละ 1 ซม. ถ้าไม่สามารถเสียบสมุดฉีกได้ ก็กรีดเพิ่มอีกเล็กน้อยให้พอยัดสมุดฉีกลงไปอ่ะนะ แบบว่างานไม่สร้างแพทเทิร์นก็อย่างนี้แหละ ขลุกขลักนิดหน่อย อร่อยดี อิ..อิ..
ปล. ที่จริงรูปนี้ถ่ายก่อนที่จะติดที่เสียบปากกาอ่ะ




ท๊าดา!!!! เส็ดแล้ว เห็นมะ.. ที่เสียบปากกาอยู่ด้านขวามือจิงๆนะ มะดัยโม๊!!


ด้านหน้า... ดีไซน์สวยเก๋ สวยมากๆ คนทำยังแอบปลื้มเองเลย อิ..อิ..


ด้านหลัง แบบว่าต่อหนังได้แนว สวยไม่แพ้ด้านหน้า อิ..อิ..


เสร็จแล้วก็เตรียมตัวไปอินเดีย (อีกตั้งเดือนกว่าแนะ อิ..อิ..) เพื่อนๆ ก็สามารถทำเป็นของขวัญปีใหม่ให้คนที่รัก คนที่ชอบได้นะ ถูกด้วยอ่ะ

ปล. อีกรอบ มะรืนนี้วันที่ 2 ธันวาคม ก็จะครบรอบวันเกิดของเราเอง อิ..อิ.. นี่จึงเป็นของขวัญวันเกิดให้ตัวเอง.... ขอให้สุขสันต์วันเกิด เงินทองไหลมาเทมา คิดสิ่งใดขอให้ตัวเองสมปรารถนาเทอญ... น่าน.. เอากันเข้าไป



Create Date : 29 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 26 พฤษภาคม 2556 14:28:10 น.
Counter : 10108 Pageviews.

17 comments
ดอกไม้ไหว : งานประดิษฐ์โลหะจากภูมิปัญญาพื้นบ้าน สมาชิกหมายเลข 7565667
(22 มิ.ย. 2568 12:50:56 น.)
quietly in a calm spirit delicate pudding
(18 เม.ย. 2568 12:36:12 น.)
งานปักช่อดอกทานตะวัน สมาชิกหมายเลข 4313444
(13 เม.ย. 2568 00:05:24 น.)
เหรียญแบบพื้นฐาน คุณก้อย22
(5 มี.ค. 2568 15:50:53 น.)
  
ตามมาดูคู่หูของ passport holder ค่ะ อธิบายละเอียดมากเลย เสียดายงานหนังคงยากเกินความสามารถ แต่มายืนยันว่าน่าใช้ค่ะ
โดย: อันธกาล วันที่: 3 ธันวาคม 2552 เวลา:7:59:17 น.
  
น้อมรับคำชมด้วยความปรีดา... คร้า อิ..อิ.. เราคงจาเปลี่ยนชื่อให้ถูโหงวเฮ้ง จาก นพภัคินัย เป็น นพมัลลินี ในมิช้า อิ..อิง..
โดย: นพ (annopwichai ) วันที่: 8 ธันวาคม 2552 เวลา:11:48:06 น.
  
สีที่ใช้ทาขอบ...ใช้สีอะไรคะ
โดย: แนน IP: 124.120.185.51 วันที่: 22 ธันวาคม 2552 เวลา:23:27:07 น.
  
เป็นสีทาขอบหนังโดยตรงครับ มีคุณสมบัติยึดติดได้ทนทานและยืดหยุ่นเมื่อแห้ง หาซื้อได้ที่ร้านขายเครื่องหนัง ขวดละประมาณ 50.- มีหลายสีให้เลือก ซื้อมาสองปีแล้วยังใช้ไม่หมดเลยครับ
โดย: Nop (annopwichai ) วันที่: 23 ธันวาคม 2552 เวลา:10:10:43 น.
  
หาซื้อได้ที่ไหนค่ะ บ้านอยู่แถวบางกะปิอ่ะ ช่วยบอกหน่อยนะจร้า รบกวนหน่อยค่า
โดย: ชมพู IP: 58.8.98.180 วันที่: 20 เมษายน 2553 เวลา:15:23:17 น.
  
สอบถามหน่อยคะ จะทาสีขอบหนังยังไงให้ขอบมันเกาะกันนะคะ เพราะลองทาขอบไปกว่า 10 รอบม้นไม่เห็นเกาะกันเป็นขอบสวยๆแบบของคนอื่นเลย คืออยากได้ขอบแบบที่มันเหมือนเคลือบติดกันนะคะ รบกวนตอบหน่อยนะคะ
โดย: Amily IP: 203.170.236.194 วันที่: 17 กันยายน 2553 เวลา:8:15:34 น.
  
ตอบคุณ ชมพู
เพิ่งเข้ามาเช็คบล๊อก ขอโทษด้วยที่มาตอบช้าไปครึ่งปี อิ..อิ... ที่กรุงเทพฯ รู้สึกว่าร้านขายเครื่องหนังและอุปกรณ์อยู่แถวเสือป่า และวงเวียนใหญ่ แต่แหล่งตัวแม่คือวงเวียนใหญ่ เราก็ไม่รู้ว่าใกล้กับบางกะปิหรือเปล่า เพราะไปอยู่บางกอกสองเดือนแล้วหนีกลับบ้านนอกหิ...

ตอบคุณ Amily
การทาขอบหนังที่นำหนังสองชิ้นมาติดกันให้ดูเรียบเหมือนเป็นหนังชิ้นเดียวกัน, ตอนทากาวระหว่างหนังชิ้นในและนอก ต้องทาให้ทั่วและไม่เยิ้ม เพราะถ้าทาไม่ทั่วหนังก็จะไม่แนบกันในส่วนที่ไม่โดนกาว ในทางกลับกันถ้าทากาวมากเกินไปจนเยิ้ม ส่วนที่กาวมากเกินไปจะแห้งช้ากว่าส่วนอื่นทำให้งานไม่เรียบและหนังทั้งสองชิ้นก็ไม่แนบติดกันทำให้เวลาทาขอบก็จะเห็นว่าเป็นหนังสองชิ้นครับ

ส่วนวิธีแก้ชิ้นงานที่ทาขอบไปแล้วคือ ใช้กระดาษทรายเบอร์ 0 (ละเอียดที่สุด) มาขัดขอบก่อนทาสีขอบหนังครับ

ขอบคุณมั๊กๆ ที่เข้ามาอ่านฮาร์ฟฟฟฟ
โดย: Nop (annopwichai ) วันที่: 29 ตุลาคม 2553 เวลา:21:39:15 น.
  
Photobucket
โดย: panwat วันที่: 2 ธันวาคม 2553 เวลา:1:17:21 น.
  
ถ้าต้องการฟองน้ำ หรือ ฟองน้ำประกบหนัง ก็ติดต่อได้นะค่ะ ติดต่อ ไก่ 081-8403718 ราคาโรงงานค่ะ
โดย: ไก่ IP: 171.97.25.194 วันที่: 26 เมษายน 2555 เวลา:11:59:50 น.
  
OMG!! ไม่ได้เข้ามาเช็คบล๊อกนานมากมาย

@ คุณ panwat ขอบคุณสำหรับเค้กสตรอเบอรี่ครับ บทกลอนที่ให้มาก็ซึ่งตรึงใจ บุญกุศลใดที่ให้มาด้วยใจ ขอให้ส่งคืนให้ผู้ให้ด้วยเทอญ :) พยายามแต่งกลอนมั่งแต่มันไม่สัมผัสอ่ะครับ อิ..อิ..

@ คุณไก่ - โรงงานอยู่ที่ไหนครับ ผมอยู่เชียงใหม่ เผื่ออยู่ใกล้ๆ กันจะได้แนะนำให้ครูที่โรงเรียนสารพัดช่างเชียงใหม่ไปอุดหนุนครับ

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมบล๊อกของผมครับ
โดย: นพ (annopwichai ) วันที่: 31 พฤษภาคม 2555 เวลา:15:16:36 น.
  
สนใจทำรองเท้าหนังจิ๋วให้ตุ๊กตาคะ แต่ไม่เคยทำงานหนังเลยแม้แต่นิดเดียว บล๊อคนี้มีประโยชน์มากๆ จะลองทำงานใหญ่ๆดูก่อน แล้วค่อยคิดจับงานจิ๋วๆ ขอบคุณมากคะ
โดย: พิมพ์ IP: 60.56.229.9 วันที่: 28 สิงหาคม 2555 เวลา:15:42:47 น.
  
ขอบคุณคุณพิมพ์ที่เข้ามาอ่านครับ... ไม่ได้ทำงานหนังมานานมากแล้วครับ, ยังคิดอยู่ว่า ถ้าว่างๆ จะทำกระเป๋าตังค์ใบใหม่ครับ
โดย: นพ (annopwichai ) วันที่: 29 สิงหาคม 2555 เวลา:19:51:37 น.
  
เป็นข้อมูลที่ดีสำหรับคนรักเครื่องหนังเลยครับ
เขียนต่อเลยครับตามอ่าน
โดย: เบิืร์ด IP: 113.53.64.91 วันที่: 14 ตุลาคม 2555 เวลา:9:15:43 น.
  
คุณนพ ทำรองเท้าแตะหนังเป็นมั้ยคะ อุปกรณ์มีอะไรบ้าง ช่วยแนะนำหน่อย (สาธุขอให้เข้ามาอ่านเร็วๆทีเถ้อ เพี้ยง)
โดย: ฟรอยด์ IP: 125.24.193.45 วันที่: 6 ธันวาคม 2555 เวลา:21:27:21 น.
  
ตอบคุณ เบิร์ด - ขอบคุณครับ ช่วงสองปีหลังไม่ได้ทำเครื่องหนังเลยครับ มัวแต่เล่นหุ้น (เก็บตังค์ซื้อบ้านครับ) ส่วนทำเครื่องหนังเป็นงานอดิเรกครับ

ตบอคุณ ฟรอยด์ - ต้องขอโทษด้วยครับ, ทำรองเท้าหนังไม่เป็นครับ ตอนไปเรียนมีแต่กระเป๋าแบบต่างๆ และถักลายเข็มขัดครับ แนะนำให้ไปโรงเรียนสารพัดช่าง ผมอยู่เชียงใหม่ ไปเรียนสารพัดช่างสาขาห้วยแก้ว ขออาจารย์สอนเป็นพิเศษได้ครับ อาจารย์ใจดี (ไม่แน่ใจว่าสารพัดช่างที่จังหวัดอื่นอาจารย์จะใจดีเท่าที่เชียงใหม่หรือเปล่านะครับ.. อิ..อิ..)
โดย: นพ (annopwichai ) วันที่: 23 ธันวาคม 2555 เวลา:18:32:05 น.
  
ครูตามมาดูงานด้วยความคิดถึงค่ะ งานออกมาสวยมากทำบ่อย ๆ นะคะช่วยเผยแพร่งานหนังอย่างนี้ดีเลยค่ะขอชื่นชม เก่งจริง ๆ
โดย: พัชณีย์ พุ่มเฉลิม IP: 223.206.44.154 วันที่: 5 มกราคม 2558 เวลา:0:01:40 น.
  
ตอบ อาจารย์พัชณีย์ พุ่มเฉลิม...

ไม่ได้เข้ามาเช็คบล๊อกนานมากแล้วครับ, วันนี้อยู่ๆ ก็นึกสนุกเปิดดูซะหน่อย... ดีใจมากมายที่เห็นคอมเม้นท์หนึ่งเป็นของอาจารย์ เลยรีบเปิดอ่านและตอบคอมเม้นท์ของอาจารย์ครับ... คิดถึงอาจารย์เสมอ แม้ไม่ได้ทำงานหนังนานมากแล้วครับ แต่ยังมีอุปกรณ์เก็บไว้อยู่ บางทีเพื่อนมาเยี่ยมก็ทำเป็นของที่ระลึกให้ไปครับ ขอบพระคุณอาจารย์ที่มอบความรู้ให้ครับ

ปล. ไม่รู้จะติดต่ออาจารย์ได้อย่างไรครับ... ตอนนี้ไปเรียนวาดรูปที่สารพัดช่างเชียงใหม่อีกแล้วครับ :)
โดย: นพ (annopwichai ) วันที่: 31 มกราคม 2558 เวลา:20:19:57 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Annopwichai.BlogGang.com

annopwichai
Location :
เชียงใหม่  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 88 คน [?]