:: ไหว้พระ 9 วัดกับ บ.เรือด่วนเจ้าพระยา :: สถานที่ท่องเที่ยว : ไหว้พระ 9 วัดกับเรือด่วนเจ้าพระยา, กรุงเทพมหานคร Thailand พิกัด GPS : 13° 45' 16.26" N 100° 29' 18.64" E สำหรับวันนี้วาจะพาไปไหว้พระกันแบบ ชิลๆ(เหรอ?) โดยการล่องเรือแม่น้ำเจ้าพระยากันนะคะ ซึ่งวาได้ซื้อ Deal นี้มาจากเว็บดีลที่ดังที่สุดในประเทศไทย ( คิดว่าน่าจะเรียกแบบนี้ได้นะ ) ซึ่งเค้ามีบ่อยมากๆ เป็นช่วงๆ วาซื้อเอาไว้ซักพักละคะ ปลายปีที่แล้ว หรือช่วงปีใหม่นี่แหล่ะ แล้วก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ซักที เพราะต้องใช้วันอาทิตย์เท่านั้น ใกล้ๆจะหมดอายุ โทรไปก็เต็มตลอด ซึ่งว่างอยู่วันเดียว คือวันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน ซึ่งเป็นวันหมดอายุ ของคูปองนี้พอดี ซึ่งวาติดทริป ภูเก็ต เกาะมะพร้าว ถ้าไม่ไปก็ต้องทิ้งล่ะนะ เลยมานั่งประเมินดูว่า ไฟลท์กลับมาถึง ภูเก็ต - กทม. ราวๆเที่ยงคืนครึ่ง กว่าจะถึงที่ซุกหัวนอน ก็ตี 2 เห็นจะได้ แล้วเช้าตรู่ 7-8 โมง ก็ออกเดินทางไปไหว้พระต่อเลย มีเวลานอน ราวๆ 3-4 ชม. ไหวไหม? คำตอบคือ ไหวล่ะม๊าง ต้องลอง... เลยจองไปค่ะ สู้สุดตัวเลยละกัน ในที่สุด ทริปนี้ก็เกิดขึ้นด้วยความทุลักทุเล ..... เป็นยังไงบ้างนั้น มามะ วาจะเล่าให้ฟัง ![]() สำหรับทริปนี้นะคะ มีขายทัวร์ตามปกติ ที่ท่าเรือด่วนเจ้าพระยา สาทร (สะพานตากสิน) และท่าเรือมหาราช ซึ่งสามารถเลือกขึ้นเรือได้ทั้ง 2 ท่านะคะ ออกทัวร์ทุกวันอาทิตย์ ค่าทัวร์คนละ 450 บาท (รวมค่าเรือตลอดเส้นทาง, น้ำดื่ม, อาหารว่างเช้า, มัคคุเทศก์ , ประกันการเดินทาง) ซึ่งวาได้มาในราคาลด 50% จากการซื้อดีล เหลือคนละ 225 บาท คุ้มมาก วาเลือกขึ้นเรือที่ ท่าเรือมหาราช โดยทางลงเรือก็อยู่ใกล้ๆสนามหลวงล่ะค่ะ ใกล้ๆท่ารถเมล์ 203 ซึ่งไปถึงตามนัดคือลงทะเบียน 8.30 น. ก็พบเจอผู้คนมหาศาล ผู้ซึ่งมาใช้ดีลวันสุดท้าย เหมือนๆกับวานั่นเอง ตรงท่าเรือมีที่จอดรถได้หลายคัน แต่คนเยอะมากจริงๆ ที่จอดรถเต็มเอี๊ยดดดด ![]() .. ก็เอาวอเชอร์ไปยื่น ลงทะเบียน แจ้งชื่อที่จองไว้ เค้าก็เอาตั๋วมาให้ค่ะ ตั๋วนี้จะมีเลขที่นั่งของเราอยู่ และมีเลขเรือว่าเราอยู่เรือลำที่เท่าไหร่ เรือที่ใช้พาทัวร์นี้ ลักษณะเหมือน เรือด่วนพิเศษธงเหลือง ขนาดใหญ่สุด ถ้าใครเคยขึ้นเรือ คงจะพอนึกออก ไกด์บอกว่าทุกทีจะออกวันละ 2 ลำ แต่วันนี้ เป็นวันหมดอายุวอเชอร์ เลยออกทั้งหมด 8 ลำ อ่ะโห แอบคิดในใจ วัดไม่แตกหรอเนี่ย ลำนึงผู้โดยสาร ราวๆ 200 คนได้ค่ะ คนเยอะมากจริงๆ บางคนก็ปริ๊นมาผิด บางคนก็ไม่ได้โทรจอง บางคนก็มาสาย สรุปเลทมากกกกกก ถ้ามีโอกาสได้มาอีก จะไม่นิ่งนอนใจ มาใช้วอเชอร์วันสุดท้ายแบบนี้แน่นอน เซร็งงงง วาได้เรือหมายเลข 210 ค่ะ พร้อมแล้วออกเดินทาง ![]() กว่าจะออกเดินทาง ก็ปาเข้าไป เกือบ 10 โมง จากกำหนดการเดิม 9 โมง ซึ่งโชคดีมากกกกก ไกด์ลำที่พาวาไปนี้ ค่อนข้าง " เป็นงาน " เลยหักหัวเรือไปวัดอื่นก่อนเลย ไม่ได้เรียงลำดับตามปกติ ไม่ไปตามเรือลำอื่น จะได้ไม่ไปสุมๆกัน ออกเดินทางจากท่าเรือมหาราช มุ่งหน้าสู่วัดที่ 1 ไกด์บอกเราบนเรือก่อนจะถึง ว่า เราจะทำพิธีรับศีลกันที่วัดแรกนี้ นั่นก็คือ จะร่วมกันทำบุญ ถวายผ้าฯ ถวายสังฆทาน มีรับศีล รับพรกันที่วัดแรกวัดเดียว ให้ตั้งใจ แล้วก็อย่าลืมนะครับว่า " เลขท้ายเงินทำบุญ ออกทุกงวด ไม่แนะนำให้เล่นการพนัน มอมเมานะครับ แต่ออกทุกงวด " คืออะไร ไกด์ฮาได้อีก 555555 ไม่นานนักเรือก็จอดเทียบท่า มองเห็นป้ายว่า วัดเทวราชกุญชร วรวิหาร ![]() เดินเข้าวัดผ่านตรอกๆ บ้านคนเล็กน้อย ก็เดินไปถึงวัดค่ะ เป็นวัดไม่ใหญ่มากมาย เงียบๆ มีพิพิธภันณ์ไม้สักทองอยู่ในวัดด้วย สวยงาม ไกด์บอกว่า อยากให้เข้าชม เสียค่าเข้า 15 บาท (ถ้าไม่ได้มากับทัวร์นี้ ค่าเข้า 45 บาท) ![]() เข้าไปด้านใน กราบองค์พระประธานกันค่ะ ![]() เค้าไปพร้อมหน้ากันในโบสถ์แล้ว ก็เริ่มทำพิธีรับศีลกัน โดยใครจะทำบุญเท่าไหร่ ก็ให้เอารวมใส่พาน แล้วถวายวัด ทำบุญร่วมกัน พอถวายเสร็จ ไกด์ก็ถามว่า " นับไหม " เสียงประสานเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเลยว่า " นับ " แล้วตามด้วยเสียงหัวเราะอีก 1 ครืนใหญ่ สุดท้าย ยอดเงินทำบุญเลขที่ออก 2,529 บาท ![]() กราบพระเสร็จเรียบร้อย ก็ออกไปชมพิพิธภัณฑ์บ้านไม้สักทองกันค่ะ ซึ่งเป็นบ้านไม้สักทองทั้งหลังมี 2 ชั้น สวยมากๆ สีไม้เหลืองทองเลย เดินดูรอบๆ มีให้ความรู้เกี่ยวกับวงปี ของต้นสักทอง ซึ่งเวลาเค้าอธิบายอะไรเข้าไม่ถึงเลย เพราะมัวแต่ไปถ่ายรูปจุดอื่นๆ ก็เดินไปถ่ายรูปไปค่ะ ไม่ได้ตามไปฟังอะไรเลยคนเยอะ ![]() ![]() ![]() อันนี้ วงปี ต้นสักทองค่ะ ต้องรอให้คนอื่นไปหมดก่อนถึงจะเห็น ด้านล่างมีพระสยามเทวาธิราช เป็นเทวดาปกป้องประเทศของเราค่ะ ก็ไปกราบไหว้ขอพรกัน แล้วก็เดินขึ้นไปชมข้างบน ![]() ![]() บริเวณรอบๆ สามารถ เดินอ่านประวัติ และถ่ายรูปได้นะคะ เก้าอี้แบบนี้ ดูคลาสสิคมาก สามารถนั่งเล่นถ่ายรูปได้เช่นกันค่ะ ![]() ขึ้นไปชั้น 2 ก็จะเจอห้องโถงใหญ่ 2 ห้อง ห้องด้านขวา ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ที่อัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา เพื่อให้ประชาชนได้สักการบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคล และมีหุ่นขี้ผึ้ง พระภิกษุ ที่คุ้นชื่อ และคุ้นหน้าตาอยู่หลายรูป และอีกห้องนึงด้านซ้าย จัดแสดง เป็นหุ่นขี้ผึ้งของสมเด็จพระสังฆราช เท่าองค์จริงทั้ง 18 พระองค์ ![]() มีองค์เทพ เภสัช (ขออภัยถ้าจำชื่อผิด) ไกด์แนะนำให้ไหว้ ขอพรให้หายเจ็บป่วย จากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ วารีบปรี่ไปไหว้ทันทีค่ะ ![]() และก่อนกลับ ไปไหว้องค์เทพประจำวัดค่ะ องค์เทพเทวราชเนรมิต ประกาศิตดลใจ ปกเกล้าคุ้มภัย อธิษฐานดั่งใจ สำเร็จสมปารถนา วิธีการไหว้ก็คือ 1. ใช้ธนบัตร 2 ใบ ม้วนเป็นหลอดๆ ใส่ลงไปในมือของรูปปั้นองค์เทพฯ 2. เอาหน้าผากไปแตะกับนิ้วชิ้วชี้ของ รูปปั้นองค์เทพฯ 3. ท่องคาถาบูชา (จะมี จนท. มายื่นให้ ตอนเราต่อแถว) แล้วอธิษฐานขอพร 4. เอาธนบัตรออกมา ใบนึงใส่ตู้บริจาค อีกใบ จนท. จะประทับตราหมึกให้ แล้วเก็บใบนี้เอาไว้เป็นขวัญถุงค่ะ ![]() ออกมาก็ให้อาหารปลากัน กระป๋องละ 20 บาท เพลินๆ แล้วก็ขึ้นเรือ เดินทางต่อไปยังวัดที่ 2 ลืมบอกไปว่า จะมีเจ้าหน้าที่เดินมาแจก ของว่าง ได้รับมาทั้งหมดเท่านี้ค่ะ ซึ่ง ท้ายเรือ มีน้ำเปล่าแบบแก้วๆเล็กๆ เย็นเฉียบ ใส่ตูแช่น้ำแข็ง ให้หยิบฟรีได้ตลอดเวลา ![]() ![]() น้ำแบบนี้นะคะ เย็นเจี๊ยบ หยิบได้ไม่อั้น เรือพาเราลอดใต้สะพานพระราม 8 กลับมาแล้วเลี้ยวเข้าไปในคลองบางกอกน้อย ระหว่างทาง ไกด์ได้บอกเล่าว่า อาคารบ้านเรือนต่างๆ คืออะไร ยังไง สอดแทรกเล็กๆน้อย บางอย่างที่เห็นอยู่ทุกวัน ตอนนั่งเรือ ก็เพิ่งได้รู้ข้อมูลวันนี้นี่เอง ![]() ![]() ก่อนจะถึงวัดที่ 2 เรือจอดให้เราแอบชม " เรือพระที่นั่ง " ที่จอดอยู่ในพิพิธภัณฑ์อยู่ไกลๆ พร้อมเล่าให้ฟัง ว่าเรือแต่ละลำเรียกว่าอะไร นับเป็นความรู้เล็กๆน้อยๆ ที่เพลิดเพลินมาก ![]() และก็มาถึงวัดที่ 2 ค่ะ วัดอมรินทรารามวรวิหาร หรือ วัดหลวงพ่อโบสถ์น้อย เป็นวัดที่มีความเชื่อกันว่า ศักดิ์สิทธิ์มาก เขาเล่าว่า ตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศไทยโดนระเบิดลง โดยเฉพาะตรง สถานีรถไฟริมคลองบางกอกน้อย ที่อยู่ใกล้วัดนี้ ซึ่งบริเวณโดยรอบเสียหายทั้งหมด แต่วิหารหลวงพ่อโบสถ์น้อย ไม่เป็นอะไรเลย ผู้คนแถวนี้จึงนับถือกันมาก ![]() เข้ามาเห็นก็ใช่เลย โบสถ์น้อยจริงๆค่ะ เล็กมากๆ ในโบสถ์นั่งไหว้พระแทบจะไม่ได้ ![]() ด้านนอกจะมีให้ทำบุญไหว้พระ ทำบุญโลงศพ สร้างหลังคา ว่ากันไป ก็ทำบุญกันแล้วแต่ศรัทธาค่ะ ที่ทัวร์ให้เวลาค่อนข้างน้อย ราวๆ 30 นาทีก็ไปรวมตัวกัน ขึ้นเรือ มุ่งหน้าวัดที่ 3 ต่อไป วัดที่ 3 คือ วัดระฆังโฆสิตารามฯ วัดนี้คนเยอะมากกกกกกกกก เพราะเป็นวัดที่ผู้คนนิยมมาทำบุญกันอยู่แล้ว อีกทั้งเป็นวัดที่เป็น 1 ใน 3 วัด ที่เค้ามีขายตั๋วเรือให้ ชาวต่างชาติ และชาวไทยมาไหว้พระทำบุญกัน ตรงท่าเรือมีของขายมากมาย ทั้งมีให้ปล่อยนกปล่อยปลา ให้อาหารปลา เลยทำให้มีนกเยอะมาก (มาแย่งอาหารปลา) ![]() ในวัดค่อนข้างเนืองแน่นไปด้วยผู้คน ไกด์บอกว่า ให้เวลา 30 นาที นัดเวลาให้มาพร้อมกันที่ท่าเรือ แล้วเรือจะกลับมารับอีกครั้ง เพราะท่าเรือนี้ จอดรอรับไม่ได้ ขอให้ทุกคนตรงเวลา เราก็เลยรีบเข้าไปกราบพระในโบสถ์ ![]() เซี่ยงเซียมซีเล็กน้อย เพราะเค้าว่าแม่น แล้วก็รีบออกไปยืนรอที่ท่าเรือเลย กลัวตกเรือ พอเรือมาก็ไปกันต่อที่วัดต่อไป ตอนนี้ เริ่มร้อนแดดออกจัดๆ และใกล้จะเที่ยงแล้วค่ะ ไม่นานนักก็มาถึงวัดที่ 4 วัดอรุณราชวรารามฯ หรือ วัดแจ้ง ซึ่งเป็นวัดที่วาอยากมามากๆ มานานแล้ว แต่ไม่มีโอกาสซักที ใฝ่ฝันว่า จะขึ้นไปชมวิวบนยอดพระปรางค์ให้ได้ซักครั้ง วัดนี้ ไกด์บอกว่า มีโบสถ์เล็กๆอยู่ข้างหน้า ประดิษฐานรูปปั้น พระเจ้าตากสินมหาราช ใครที่เป็นปีชงปีนี้ ไกด์บอกว่า จะพาไปลอดใต้ที่นั่งของพระเจ้าตากฯ เพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งอยู่ในโบสถ์นั่นเอง ซึ่งเค้าบอกว่าไกด์ลำอื่น อาจจะไม่รู้ตรงนี้ เดี๋ยวแอบส่องถ้าโบสถ์ว่าง ก็พุ่งตัวไปเลย ![]() สรุปก็ลงจากเรือค่ะ แล้วเดินตามไกด์ไปทันที วิธีไหว้ในโบสถ์นี้ คือ เข้าไปไหว้พระประธานด้านในก่อน ![]() แล้วมาไหว้ พระเจ้าตากฯ แล้วก็ไปลอดใต้ที่นั่งค่ะ ใครปีชงแนะนำให้ลอด ใครไม่ชง อยากลอดก็ลอดเลย โอกาสไม่มีง่ายๆ เลยลอดตามๆเค้าไปด้วยค่ะ ลำบากได้อีกกกกกกก แต่ก็รู้สึกดีนะ แปลกดี ![]() ไกด์เล่าว่า องค์พระเจ้าตากองค์นี้ ที่เห็นถือดาบอยู่ เป้นดาบจริงของท่านเลย ได้ยินก็ขนลุก มีการมาอัญเชิญขอพรกันมากมาย แต่ต้องมีการขออนุญาตก่อน ![]() ไหว้เสร็จวารีบออกมาด้านนอก มุ่งตรงสู่พระปรางค์ค่ะ ไปถึงก็แบกกล้องขึ้นไปคนเดียวเลย ทางขึ้นชันมากกกกกกก ลำบากสุดๆ แต่ก็ไม่ท้อค่ะ สะพายกล้องไปไว้ข้างหลังแล้ว ปีนๆขึ้นไป ![]() ![]() บันไดขั้นต่อไป อยู่แทบจะชนหน้าเราเลย ขึ้นแล้วให้มองบนๆ ห้ามมองลงข้างล่าง เข่าจะอ่อน ![]() มองลงไปที่บันได ที่เราปีนขึ้นมา น่าหวาดเสียวมากกกกกกกกกกก >[]< ![]() พอขึ้นไปถึงก็ดีใจ วิวสวยมากกกกกกกกกก แอบมองไปที่เรือ ก็โอเค จอดอยู่ เดินวนรอบนึง ถ่ายรูปรอบๆก่อน วิวดี อากาศดี ชอบจังเลย ที่เคยใฝ่ฝันว่าจะขึ้นมาก็เป็นจริงแล้ว ข้างบนมีผืนผ้าพันรอบๆ และมีเขียนชื่อกันด้วยค่ะ แต่ไม่ได้ไปเขียนกับเค้า ![]() ![]() ![]() อยู่ได้แปปเดียวก็ปีนลงค่ะ ทางลงชันมาก ต้องเกาะแล้วไต่ถอยหลัง ค่อยลงมา เค้าบอกเวลามา 12.30 ประมาณนั้น ให้กลับไปที่เรือ เราก็เดินมาเรื่อยๆ ประมาณ 12.25 ก็เดินชมนกชมไม้มาเรื่อยๆ พอใกล้จะถึงท่าเรือ ก็เห็นเรือที่เรานั่ง ออกจากท่าไปต่อหน้าต่อตา ............ คะ คะ คือ อะไร เรือเรานี่ ไปไหนหว่า ... ? เอ๊ะ ทำไมมีคนบนเรือเต็มเลย ยังไม่ถึงเวลานี่นา แล้วเค้าไปไหนอ่ะ หลบเรืออื่นรึเปล่า ยืนมองอยู่ซักพัก เอ๊ะทำไมเรือไปไกลเลย ไม่กลับมาเลยล่ะ .... แล้วเรือก็ลับตาไปค่ะ เพิ่งจะสำเนียกได้ว่า เอ่อ.....ข้าพเจ้า ตกเรืออออออออออออออ งง เบลอ ยังไง ยังไง 4 วัดเอง ยังไม่ครบเลย ทำไงดี ร้อนนะเฟร้ย เหนื่อยนะเฟร้ย ทำไงดี ตกใจ งง โมโห เรามาตามนัด ทำไมเรืออกไปก่อน ยังไง ไง ไง ไงงงง หันไปหันมา เจออีก 2 คน ชะตาเดียวกัน ตกเรืออออ เค้าเป้นแฟนกัน มีเหวี่ยงๆกันเองเล็กน้อย สรุป นึกได้ว่า ในกระเป๋า ปริ๊นใบวอเชอร์มาเกิน เลยเอาขึ้นมาดู มีเบอร์โทรพอดี วาเลยโทรเข้าบริษัท เค้ารับสาย ก็บอกเค้าว่า ตกเรือค่ะ (-.-) เค้าก็ถามเลขเรือ ก็บอกไป ไกด์คงไปถึงพอดี จนท. ในโทรศัพท์ เลยหันไปพูดกับคนนั้น ได้ยินมาตามสายว่า " ทิ้งลูกค้าอีกแล้วนะพี่ 4 คน ที่วัดอรุณ " เค้าบอกว่าตอนนี้ เป็นช่วงพักเที่ยงพอดีค่ะ เรือจอดให้ลงไปทานข้าว 1 ชม. เดี๋ยวยังไง จะประสานให้ขึ้นเรือลำอื่นแทน เดี่ยวโทรกลับ ทีนี้อีก 2 คนนั้นก็พยายาม ขึ้นเรือข้ามฝากแล้วกลับไปกันเอง แต่วาไม่รู้ทางไม่เคยมา เลยนั่งรอโทรศัพท์ดีกว่า .. อุปสรรคมักจะมีมาทดสอบชีวิตเสมอ การทำบุญมันยากแบบนี้เองนะ คนแถวๆนั้นเค้าบอกว่า เมื่อกี้เค้าตะโกนเรียกแล้ว เห็นไม่มีใครมาแล้ว เรือเลยออกไป แต่เราก็นิ่งนอนใจไง มาตามเวลา แต่เป๊ะเกิน เลยแบบ คลาดกันแค่ไม่กี่วินาที แอบนั่งคิดเล่นๆว่า เรือลำที่เรานั่งมา อินดี้จัด คือไปสวนทางคนอื่นหมด สมมุติคนอื่นไปตามลำดับ 1 ถึง 10 เรือลำเราไป 10 ย้อนกลับมา 1 ถ้าช่วงบ่าย ต้องขึ้นลำอื่น หมายถึงเรา ก็จะไปวัดซ้ำกับช่วงเช้าแน่นอน แง... นึกได้ดังนั้นเลยคิดได้ว่า " กลับบ้านดีกว่า ง่วงมาก และร้อนมากกกกกกก " ก็มองซ้าย ขวา หาทาง จะกลับบ้าน แต่ ทันใดนั้นเอง ดวงก็ยังพอมีอยู่บ้าง เค้าโทรกลับมา บอกว่า จะใช้เรือลำเดิม ตีเรือเปล่ากลับมารับ อะโห ... ซึ้ง ซึ้งมากกกกก ![]() สุดท้ายเค้าก็ตเรือเปล่า สุดเอกคลูซีฟ มารับเราไปส่งที่ท่าเรือมหาราช มีเวลาไปหาข้าวกิน 40 นาที แล้วก็กลับมาที่นี่ ก็เลยบึ่งไปกินก๋วยเตี๋ยวแบบด่วนมาก แล้วกลับมานั่งรอที่ท่าเรือก่อนใครเลย กลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอย แล้วเค้าจะด่าผู้ปกครองเอา (-.-) แล้วก็ได้เวลาออกเดินทางต่อค่ะ วัดช่วงบ่ายจะไม่ค่อยมีอะไรมากนะ แบบไหว้พระ ขอพร กลับ อาจจะเป็นเพราะ พลังหมด แดดร้อน ขี้เกียจ ก็แล้วแต่ความสามารถเฉพาะบุคคล นาทีนั้น อิ่มปุ๊บ แดดแก่ๆ ง่วงได้อีก เพราะได้นอนไป 2 ชม. กว่าๆ แทบนอค แต่ก็ต้องทำภารกิจนี้ให้สำเร็จให้ได้ค่ะ เรือดูหลวมๆ ลงไปอีกหลายที่นั่ง มีแอบโดดกลับบ้านกันหลายคน ![]() วัดที่ 5 ที่เราจะไป ไกด์บอกว่าไปเริ่มที่ไกลก่อนเลยแล้วกัน แล้วมาจบที่ท่ามหาราชพอดี เราก็นั่งเรือเพลินๆไปหลายนาที แล้วก็ไปถึงค่ะ "วัดบุคคโล" วัดนี้ไกด์พาเข้าไปตรง...เค้าเรียกอะไรไม่ทราบค่ะ ชั้นล่างของ ตึกสูงๆที่เราเห็นนั่นล่ะ กุฏิพระหรือเปล่ามิอาจทราบได้ เข้าไป พระท่านก็กล่าวต้อนรับอย่างดี แล้วก็เทศก์ให้ฟังนิดๆหน่อยๆ ก็ร่วมกันฟังพระสวด ทำบุญกัน ![]() กราบพระแล้วก็กลับเลย ก็งงๆ ว่าทำไมไม่ไปโบสถ์หว่า สงสัยไม่มีอะไรมากมาย แต่วาก็พยายามเดินหาโบสถ์ แล้วเข้าไปกราบพระประธานก่อน แล้วค่อยเดินกลับไปที่เรือ ภาพฝาผนังสีสวย สดใสดีจัง ![]() วัดที่ 6 วัดราชสิงขร เป็นวัดเล็กๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เราจะได้ยินชื่อบ่อยๆ จากชื่อเรียก ท่านึงของเรือด่วนเจ้าพระยานั่นเอง (เรือธรรมดา จอดทุกป้าย จะไปหมดระยะที่ท่าเรือนี้) เดินเข้าไปก็เงียบๆค่ะ เห็นเป็นโบสถ์เก่าๆ เข้าไปกราบพระประธานด้านใน ![]() ![]() กราบบบบบ ... ดูเก่าแก่ ขลังๆ ดีนะคะ วัดนี้ วัดนี้ไม่มีอะไรมาก เลยได้แวะเข้าห้องน้ำ ซื้อขนมกันเล็กน้อย และยืนฟังไกด์เล่า นู้นนี่ให้ฟัง ได้ความรู้มากทีเดียว ![]() ตอนนี้วาสังเกตุเห็น คนที่ตกเรือพร้อมกับวา ที่วัดอรุณฯ ก็กลับมาอยู่ในทริปด้วยแล้ว เลยถามว่ากลับมายังไง เค้าบอกว่า ขึ้นเรือข้ามฝากตรงวัด แล้วเดินไปท่าเรือมหาราช แล้วก็มาเข้าทัวร์ต่อ เจ๋งเนอะ ตกเรือขนาดนั้น แล้วยังกลับมาต่อ ผิดกับหลายๆคน หายไปซะดื้อๆ ![]() ![]() วัดต่อมาเป็นวัดที่ 7 ค่ะ นั่นคือวัด วัดยานาวา เรามาถึงวัดนี้ประมาณ บ่าย 3 โมงเย็น แอบผ่านเอเชียทีค มาด้วย แอบมองแล้วสวยดีไม่เคยไป โดยเค้าไปจอดเรือตรงท่าเรือสาทร แล้วเดินทะลุเข้าไปข้างๆ ตรอก ค่ะ เพราะท่าเรือของวัด พัง เข้าไปจอดไม่ได้ เลยแอบเดินไกลนิดนึง วัดนี้ไกด์บอกกับเราว่า คอยดูนะ วัดนี้เป็นวัดที่ ลูกทัวร์จะหายไปเยอะที่สุด เพราะใกล้รถไฟฟ้า ![]() เข้าไปที่วัด ก็เห็นว่าโบสถ์ของวัดนี้ เก่ามากกกกกกกกกกกกกกกกกก แถมสร้างหลังคา ครอบหลังคาโบสถ์เอาไว้อีกชั้นนึง ดูประหลาดมากมาย ไกด์เล่าให้ฟังว่า โบสถ์ของวัดนี้ ได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน เพราะเก่าแก่มาก หลังคาโบสถ์เริ่มทรุดโทรม และเริ่มพังแล้ว ซึ่งการที่เป็นโบราณสถาน จะไม่สามารถซ่อมเองได้ ต้องแจ้งให้ทาง กรมศิลป์มาทำการ บูรณะซ่อมแซมให้ แต่ก็ไม่ซ่อมซักที ![]() ทางวัดเลย ทำหลังคาครอบเอาไว้แบบนี้ซะเลย เพราะแตะต้อง บูรณะซ่อมแซมโบสถ์ไม่ได้ ประมาณประชดเล็กๆ ไม่ซ่อมเหรอ ทำเองเลย เราก็เลยได้เห็นโบสถ์มีหลังคา กันแบบนี้นั่นเองค่ะ ![]() ![]() ด้านในบ่งบอกความเก่าแก่ ของสถานที่ได้เป็นอย่างดีค่ะ ![]() ![]() ฝั่งตรงข้ามโบสถ์ จะมีเรือสำเภาพระเจดีย์ มีให้เดินขึ้นไปกราบพระด้านบน และ ชมวิวรอบๆได้ด้วยค่ะ เห้นว่าสร้างเป็นเรือขึ้น แทนการสร้างพระสถูปเจดีย์ทั่วๆไป ![]() กราบพระเสร็จ ก็เดินกลับไปที่เรือดีกว่าค่ะ ไปรอเค้าดีกว่าให้เค้ารอ ที่สำคัญกลัวตกเรืออีก และที่ไกด์บอกไว้ไม่มีผิดเลยค่ะ คนหายไปอีกเยอะเลย หนีกลับ BTS กันสะดวกสบายเลยล่ะ (^^") จริงๆวาก็เริ่มไม่สู้แล้วนะ เพราะเหนื่อยมากจริงๆ หมดแรง แต่กว่าจะมีโอกาส ไหว้พระ 9 วัด ดูเหมือนง่ายแต่ทำยากมาก ใกล้วันเกิดแล้ว ถือซะว่า อดทน ทำบุญไหว้พระ ทำบุญให้ตัวเองช่วงวันเกิดไปแล้วกัน แต่จะว่าไปก็อีกแค่ 2 วัดเอง เลิกกลางครันตอนนี้ ไม่โอเค ยังไงก็ต้องไปให้ครบ สร้างพลังให้ตัวเองแล้วก็ขึ้นเรือไปต่อกันที่วัดที่ 8 ค่ะ วัดประยูรวงศาวาสวรวิหาร วัดนี้จอดที่ท่าเรือแล้ว ต้องเดินต่อเข้าไปอีกนิดหน่อย ไปถึงก็เจองานศพพอดีเลยค่ะ ก็เดินอ้อมๆ เมรุ มุ่งหน้าสู่โบสถ์ของวัดนี้ ไปถึงก็เห็นโบสถ์ค่อนข้างใหญ่ และดูเก่าแก่พอสมควร เข้าไปจุดธูปไหว้พระ ทำบุญ แล้วก็ไปกราบพระด้านใน แล้วก็เดินออกมาด้านนอก ![]() ![]() เห็นเค้าขายลอตเตอรี่กันเยอะมากๆ แน่นอนว่า ลูกทัวร์ในเรือก็ไปยืนมุงเลขเด็ดกันทั้งนั้น เลขเด็ดที่ได้มาจากวัดที่ทำพิธีรับศีลวัดแรก ถึงกับเกลี้ยง หาซื้อไม่ได้เลย และที่มีคนมุงเยอะๆ ก็เพราะ มีนกเอี้ยงตัวนึง มาเลือกเลขเด็ดอยู่เหมือนกันค่ะ ขามุงเลย รุมกันใหญ่ มีคนซื้อเลข ที่น้องเอี้ยงเลือกให้ด้วยล่ะ ![]() เหนื่อยเนอะ กินติมซักแท่งดีกว่า ![]() ไม่นานนัก ก็กลับไปขึ้นเรือค่ะ แล้วก็มุ่งหน้าสู่วัดสุดท้าย วัดที่ 9 ![]() พอเรือจอดเทียบท่าน้ำปุ๊บ ก็นึกออกทันที ว่าวัดนี้เราเคยมากราบ ช่วงวันเกิดปีก่อน พี่สาวพามา วัดกัลยาณมิตรฯ จำได้ว่า พระประธานของวัดนี้ องค์ใหญ่มากกกกก คราวก่อนมากราบพระแล้วก็กลับ แต่คราวนี้ไกด์พาทำนู้นนี่มากมาย ได้ความรู้เยอะเลยค่ะ ![]() เข้าไปถึงก็จุดธูปแล้วเข้าไปกราบพระกันก่อน มีถวายสังฆทานกันเล็กน้อยด้วยค่ะ วัดสุดท้าย วาก็แอบเสี่ยงเซียมซีเล็กน้อย ที่วัดนี้ พอดีนั่งใกล้ป้ายใบเซียมซี แหะๆ ... ![]() ![]() แล้วก็ออกมาไหว้เทพเจ้าโชคลาภ เงินทองด้านนอก ซึ่งไกด์มาบอกวิธีไหว้ที่ถูกต้องให้ เลยได้ต่อแถวกันใหญ่เลย และก็ยังมีรอยพระพุทธบาท ให้เราเอาเหรียญไปตั้งให้ได้ เค้าให้ตั้ง ตรงพื้นที่เรียบๆนะคะ ถึงจะถือว่าตั้งได้ ถ้าไปลอคไว้ตามร่องตามสัน ไม่โอเคนะ ยืนตั้งอยู่ตั้งนาน ฝึกสมาธิ ในที่สุดก็ทำได้ เพราะแอบโกง ใช้เหรียญห้าตั้ง เหรียญใหญ่ดี (^^)/ ![]() น้ำตาจะไหลด้วยความยินดี ในที่สุดเราก็ทำสำเร็จ ภารกิจล่องเรือไหว้พระ 9 วัดของเราสำเร็จไปได้ด้วยดี ถึงจะมีอุปสรรคใหญ่หลวงมาก เพราะตกเรือ แต่ก็ยังกลับเข้ามาร่วมทริปต่อจนได้ วาเคยคิดว่าทริปนี้มันง่ายๆนะ แค่นั่งเรือแล้วไปไหว้พระ ง่ายกว่าขึ้นรถไปเองอีก แต่พอมาจริงๆก็ต้องยอมรับเลยว่า ปัจจัยอื่นๆ มันทำให้เราเขว อยากล้มเลิกกลางครันอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะแดดร้อน และเหนื่อยอ่อนมากๆเพราะ นอนน้อย ทริปต่อเนื่อง คือถ้าไม่ใช่กลับจากทริป แล้วมาเลย วาคงไม่งอแงอยากกลับบ้านตลอดเวลาขนาดนี้ 55555555 ![]() เค้ากลับมาส่งพวกเราที่ท่าเรือมหาราชค่ะ เราก็กลับบ้านกันอย่างอิ่มบุญแช่มชื่นเป็นที่สุด รู้สึกดีที่ได้ทำอะไรดีๆมีสาระ ตลอด 1 วันแบบนี้ " ชนะอะไรไม่ภูมิใจ เท่าชนะใจเราเอง " หลังจากไหว้พระไป สิ่งดีๆก็เข้ามาในชีวิตตลอดเวลาค่ะ ไม่เช่อย่าลบหลู่ ขอเรื่องงานไป งานก็มามากมาย และที่กรี๊ดมากกับทริปนี้ก็คือ วาถูกเลขท้าย 29 เต็มๆ ค่ะ เชื่อว่าคนที่ไปทัวร์ด้วยกัน ก็มีคนถูกกันถ้วนหน้าแน่นอน ไกด์เค้าย้ำนักหนา ว่า อย่าเล่นพนัน แต่ออกทุกงวด นะจ้ะ นะจ้ะ ไกด์ก็คงเอาไปเมาท์ได้อีกทริปว่า ถูกอีกแล้วจ้า -------------------------------------------------------------------------- จบไดอารี่หน้านี้เพียงเท่านี้ บ๊าย บาย ....ชุ๊บุ ชุ๊บุ (^_________________^) ![]() โดย: Kavanich96
![]() |
บทความทั้งหมด
|