:: หิมะครั้งแรก..และครั้งแรกที่เกาหลี ตอนที่ 1 วันแรก ::
สถานที่ท่องเที่ยว : เกาหลี, Korea, South
พิกัด GPS : 37° 33' 43.19" N 126° 58' 47.93" E



วันนี้วามีทราเวลไดอารี่แรกแห่งปี 2556 มานำเสนอ เป็นทริปสุดท้ายของปีที่แล้ว
ที่วาได้มีโอกาสแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวมาก่อน มีติดต่อมาให้วาไปเที่ยวเกาหลี กับบริษัททัวร์ของเค้า
วาก็ตอบตกลงแบบไม่คิดเลยค่ะ ลางานและมีเวลาเตรียมตัวราวๆ 3 วันถ้วน ในการหาเสื้อผ้า
คือ วาไม่รู้ด้วยซ้ำ ที่เกาหลี หน้าอะไร เป็นยังไง ไม่เคยไป รู้แต่ว่าอยากไป เลยตกลงทันที

วาได้ไปกับทัวร์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดใด โปรแกรมมีที่พัก ที่กิน ทุกอย่างเหมือนกับลูกทัวร์คนอื่นๆ 
แต่ไม่ได้รับพอคเกตมันนี่ใดใดค่ะ ||| ค่าสกี ค่าชอปปิ้ง ค่าอื่นๆนอกเหนือจากทัวร์ ออกเองหมดจ้า |||

หลังจากรู้แล้วว่า ณ ตอนนั้น เกาหลี อุณหภูมิ -5 วาก็แบบ เอ่อ เกิดมาไม่เคยพบเคยเจอ เลขติดลบ
นึกไม่ออกเลยว่า มันจะหนาวขนาดไหน แต่เคยได้ยินมาว่า Heattech ของ Uniqlo กันหนาวได้ดี
วาก็เลยพุ่งตัวไปที่ร้านทันที โกยมาจำนวนนึง Heattech ล้วนๆ มีไม่มาก แต่ลองจอนบางๆ
เสื้อคอเต่า ผ้าพันคอ ถุงมือ ถุงน่อง ถุงเท้า โชคดีได้รับความช่วยเหลือจากพี่ๆใน BP ให้ยืมเสื้อโค้ดมา
วาก็เลยเตรียมตัว พร้อมเดินทาง ใช้เวลาแค่ 3 วัน กับอากาศหนาวขนาดนั้น ลองซักตั้งค่ะ
ด้วยความที่ไม่เคยไป ไม่เคยเจอ เลยไม่มีอะไรต้องกังวล ไปหาเอาดาบหน้า มีขายเยอะแยะ เค้าบอกมา 5555
ถ้าเป็นหน้าอื่นๆไม่หนาวขนาดนี้ วาว่าวันเดียวก็เตรียมตัวทัน พาสปอตเล่มเดียวไปเล้ย ก้ากกกกกกกก 
ส่วนเงินวอน วาก็วิ่งข้ามจากออฟฟิสไปแลกที่ Super rich ประตูน้ำ แลกติดตัวไปราวๆ 5000 บาทไทย
กะว่าจะไปซื้อสาหร่ายเกาหลี อย่างเดียว ไม่ชอปอย่างอื่น ไม่ ไม่ ม่ายยยยยย .... (ตั้งปณิธานไว้เยี่ยงนั้น)

อ่าน Blog จัดกระเป๋าไปเกาหลี แบบหิมะตก อุณหภูมิติดลบ >> Click

พร้อมแล้ว วาก็ออกเดินทาง ในวันที่ 12-16 ธันวาคม ที่ผ่านมา ทริปวาก็รู้คร่าวๆ ตามโปรแกรมของเค้า
รู้แต่ว่าไปกับทัวร์ สบาย ไม่ต้องคิดเยอะ แค่ของเราพร้อมก็ออกเดินทางได้เลย จึงเกิดมาเป็นทริปนี้ค่ะ
Winter Love Seoul...My first snow @ KOREA ทริปนี้จะเป็นยังไงบ้างนั้น มามะ วาจะเล่าให้ฟัง






















































มีนัดที่สุวรรณภูมิ วันนี้ตามรอบของทัวร์ วาได้บินเป็น Eastar Jet สายการบินปรับบุคลิกภาพ
คือแคบ และปรับเบาะได้น้อย นั่งหลังตรงตลอดการเดินทาง คือ ปกติวาก็เคยนั่งแต่ แอร์เอเชียล่ะนะ เลยชิลล์ๆ 
และ ชิน เลยรู้สึกปกติ แค่เมื่อย และ นั่งนานกว่าเดิมหน่อย ไม่ใช่ปัญหา ค่ะ สบายมากกกก
หัวหน้าทัวร์มาแนะนำตัวและให้ไปเช็คอิน ยื่นซองมาอันนึง ในนั้นมีเอกสารจำเป็นสำหรับเรา
เปิดมาก็เจอใบต่างๆ ที่กรอกเอาไว้แล้ว เซ็นชื่ออย่างเดียว โห้ว เลิศอ่ะ เพิ่งเคยมากับทัวร์ครั้งแรก
ปกติต้องพกปากกา แล้ว ยืนเขียนใบผ่าน ตม. เก้ๆกังๆก่อน ตลอดเวลา 



ผ่านเข้าไปได้แล้วก็ไปหาที่นอนเล่นที่เลาจน์ King Power ก่อนเลย หาอะไรใส่ท้องให้อิ่มหนำสำราณ
ได้เวลาเครื่องออกแล้ว ดีเลย์เล็กน้อย ครึ่งชม. เพราะสภาพอากาศ แล้ววาก้ได้ออกเดินทางค่ะ



เกือบๆ 6 ชั่วโมงผ่าน

เครื่องก็แลนดิ้งที่ สนามบิน อินชอน ภาพแรกที่เห็นคือ หิมะ เต็มเลย เย้ยยยยยย
อารมณ์นั้น เพิ่งคิดได้ว่า อุณหภูมิติดลบ ถ้ามันเพิ่งตก เราก็จะได้เห็นหิมะพอดี กรี๊ดดดด หิมะแรกในชีวิต!
ลงจากเครื่อง อากาศมาปะทะเล็กๆ ตอนเดินอยู่ที่งวง บรึ๋ย เย็นนนนนนนนนนน
วายังไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเต็มเซตใดใด เพราะน้องที่ทัวร์บอกว่า ค่อยไปใส่ที่สนามบินที่โน่น
ก็จริงนะ ในสนามบินยังไม่หนาว ไม่รู้สึกอะไร ยังมีเวลาไปแต่งตัวข้างหน้า

ลงเครื่องหัวหน้าทัวร์ก็เรียกรวมกัน คราวนี้วาก็ได้เห็นลูกทัวร์ครบทั้ง 15 คนที่มาด้วยกัน 
ซึ่งเพิ่งรู้ว่า 13 คนนั้น มาด้วยกัน ยกออฟฟิสมากัน พร้อมด้วยญาติๆ และมีอีก 1 สาวมาเดี่ยว
และวาก็เป็นอีก 1 คนที่มาเดี่ยวๆ วันไปก็แอบเหงา เปล่าเปลี่ยวชีวิตมากมาย อยู่นะ

เค้าก็อธิบายถึงเรื่องการผ่าน ตม. คร่าวๆ ว่าไม่มีอะไรต้องกังวล บลา บลาๆๆ
ซึ่งวาก็เคยไปประเทศแถวบ้าน 3-4 ประเทศ Passport ไม่ถึงกับโล่ง ก็เย็นใจนิดๆ
แต่ก็เตรียมบัตรพนักงาน นามบัตร อะไรมาเหมือนกัน มั่นใจแต่ไม่ประมาท โย่ว!

พอถึงตม. แถวไม่ยาว รอ 3-4 คนก็ตาเราแล้วค่ะ ไปถึงก็ยิ้มสยามให้เค้าทีนึงแบบมั่นใจมาก
เค้ารับ Passport ไปก็เอาไปสแกน วื๊ดๆ แล้วในจอมีเขียนให้เราสแกนนิ้วมือ เป็นภาษาไทยด้วยนะ
เค้าเปิดดู 2-3 หน้าก็ถามว่ามากี่วัน ตอบไป เค้าก็ปั๊มผ่านมาเลย จบ ห๊ะ ผ่านและ ยังดูไม่ครบเลย
ตอนไปฮ่องกง ยังถามเยอะกว่านี้อีก เอิ๊กกกก 



หัวหน้าทัวร์แจ้งจุดนัดพบ และห้องน้ำ ให้ไปล้างหน้า แต่งตัวให้เรียบร้อย เราจะต้องออกทริปกันเลย
ซึ่งจริงๆก็แอบเหนื่อยนะ แต่ตื่นเต้นมากกว่า และที่ตื่นเต้นกว่านั้นคือ วันที่ไปถึง อุณหภูมิ -11 เบาๆ 
แต่งตัวจัดแน่น จัดเต็มกันไปเลย วาใส่ลองจอน Heattech  ของ Uniqlo เพิ่ม ทั้งเสื้อ และ กางเกง
เป็นลองจอนที่บางกว่าเลกกิ้งอีกนะ ใส่สบายด้วย แต่ไม่น่าเชื่อว่ามันจะอุ่นใช้ได้เลยล่ะ
ใส่เสื้อ และ เลกกิ้งทับ ตามด้วยเสื้อโค้ท เป็นอันจบ เท้าก็ใส่ถุงเท้า แล้วก็บูท FitFlop
ทั้งเดินสบายและอุ่นมาก เลิฟๆเลยทีเดียวเชียว



แต่งตัวเสร็จ ก็เลยหากาแฟอุ่นๆกินนิดหน่อย ร้านกาแฟที่สนามบินตกแต่งน่ารักมาก
ตีมเล็กๆน้อยๆ อะไร กุ๊กกิ๊ก เกาหลี๊ เกาหลีอ่ะ ชอบๆ เราได้ข้อมูลจากไกด์ว่า ที่เกาหลี
ค่าเงินเค้าเป็นหลักเยอะ เค้าเลยจะนิยมรูดบัตรเครดิตกัน กาแฟแก้วเดียวก็รูดได้
แล้วไม่ต้องเซ็นอะไรก็ได้ ขีดมั่วๆไป วาดดอกไม้ไปก็ได้ ผ่านหมด เค้าไม่เช็คหลังบัตร
เพราะฉะนั้น ห้ามทำบัตรเครดิตหายเด็ดขาด นะจ้ะ


พร้อมแล้ว ก็ออกเดินทางกันเลย เดินออกนอกประตูอาคารผู้โดยสารเราก็ได้รับสัมผัสแรกจาก -11 องศา
ลมเย็นกระแทกหน้า กรีดร้องเบาๆในใจ เอาเรื่องเหมือนกันแหะ หนาวจัง หนาวเว่อร์  แต่ชอบบบบบบบบบ
รีบลากสัมภาระขึ้นรถ ที่เป็นพาหนะของเราตลอด 4 วันที่เกาหลีนี้ ซึ่งรถก็เป็นรถบัสไม่ใหญ่ไม่เล็ก
กว้างขวางพอสมควร กรุ๊ปนี้คนน้อย เลยนั่งแยกกันคนละเบาะ ปรับเอนสบายๆ หลังรถมีโต๊ะกลาง 
ที่ดูเหมือนโต๊ะประชุมด้วย กว้างขวางใช้ได้เลย ขึ้นรถปุ๊บ อุ่นปั๊บ ปรับสภาพ
เริ่มเรียนรู้ ว่าข้างนอกหนาว ในอาคารอุ่น ในรถอุ่น พอไหวๆ 




รถวิ่งไปเรื่อยๆ ชมบรรยากาศเพลินมากๆ หิมะเต็มเลย มีความสุขจัง
หัวหน้าทัวร์ ก็เล่านั่นนี่ ให้ฟังเป็นความรู้ เช่นในแบงค์เงินวอน เป็นรูปของใคร
ภาษาเกาหลีเล็กๆน้อยๆ เช่น คีซังนิม แปลว่า คนขับรถ .. ซึ่งจำง่ายๆว่า ขี้สนิม เป็นต้น
เราก็ตื่นตาตื่นใจกับหิมะ และอากาศดีๆ เพลินๆไปตลอดทาง



ไม่นานนัก เค้าก็พาไปจอดในที่ๆหนึ่ง ซึ่งเป็นร้านอาหารนั่นเองค่ะ มื้อแรกที่เกาหลี
เป็น ... ทัคคาลบี้ คือ ไก่ผัดกับผักและซอส ใส่ข้าวลงไปด้วย มื้อนี้ไม่ใช่บุฟเฟ่ต์ค่ะ 
แต่ก็กินกันแบบเหลือๆ ที่เกาหลีมีเครื่องเคียงทุกร้าน และเติมได้ไม่อั้นด้วยค่ะ เลิศมาก 
วาชอบกินกิมจิ มาทริปนี้ กินไปหลายกิโล 5555



ได้รู้จากหัวหน้าทัวร์ว่า ที่เกาหลี เค้าจะไม่ทำงานบริการกันเท่าไหร่ ถ้ามีก็จะราคาแพงมาก
เวลาไปที่ร้านอาหารแบบนี้ หัวหน้าทัวร์ และ busboy (ช่างภาพประจำรถ) จะเป็นคน
มาเสริฟอาหารให้เราทั้งหมด ทางร้านจะเตรียมของไว้ให้เท่านั้น เป็นแบบนี้ทุกร้านเลยค่ะ
ไม่รู้ว่า เวลาไปเองแบบไม่ใช่ทัวร์เป็นยังไงนะ ที่วาเจอเป็นแบบนี้ วันแรก มื้อแรก ผ่านไป 
ทัคคาลบี้ พอทานได้ แต่ไม่ใช่แนววาเท่าไหร่นะ หรือมื้อแรกอาจจะยังไม่ชิน





อิ่มแล้วก็ออกไปเดินเล่นข้างนอก หนาวจริง ใช้ได้เลยนะนี่ ไปย่ำๆหิมะเล็กน้อยตามประสา คนไม่เคยเห็น
สุดท้ายก็เลยมุดที่เก็บกระเป๋า เอาถุงมือ และหมวกมาเพิ่มอีกใบ เพราะจุดหมายต่อไปคือ เกาะนามินั่นเอง





นั่งรถไปถึงก็ไปซื้อตั๋วก่อน แต่เรายืนรอผิงไฟ ถ่ายรูปเฉยๆ หัวหน้าทัวร์จัดการหมด
แล้วก็ไปลงเรือ ข้ามไปสู่เกาะนามิกันค่ะ เรือลำใหญ่มาก มีที่นั่งรอบๆ และตรงกลางเป็นที่ยืนเหมือนห้องโถงใหญ่
นั่งเรือไม่ถึง 10 นาที เราก็มาถึงกันแล้วค่ะ " เกาะนามิ " ที่เคยได้ยินชื่อบ่อยๆ หน้าตาเกาะวาถ่ายรูปจากแผนที่มา



วาไม่เคยมา เลยไม่รู้ว่า ฤดูอื่นๆ เกาะนี้เป็นยังไง แต่ฤดูนี้ หิมะตกแบบนี้ วาว่ามันสวยมากเลยนะ ชอบอ่ะ 
มองไปรอบๆก็เห็นแต่หิมะ อากาศเย็นมากจริงๆ เพราะมีน้ำ และเป็นเกาะ มีต้นไม้ขึ้นทั่วๆไป คนเยอะเหมือนกัน





ทัวร์นัดรวมกันก่อน แล้วแจ้งเวลานัดพบ ก่อนจะพาเดินไปดู หลุมศพ นายพลนามิ ที่เป็นที่มาของชื่อเกาะ
และเดินถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยๆระหว่างทางเดิน เราจะพบร้านรวงต่างๆ ทั้งร้านขายของที่ระลึก 
ขายขนม อาหาร ธนาคาร อยู่เรียงรายมากมาย เหมือนเป็นหมู่บ้านๆนึงเลยทีเดียว ซึ่งที่นี่ก็ออกแนว 
นักท่องเที่ยวเยอะ เงินสะพัด สร้างชื่อเสียง และรายได้ เค้าก็เลยสถาปนาตัวเองเรียกที่นี่ว่า " นามินารา "
(ผิดพลาดขออภัย ฟังไกด์มาเจ้าค่ะ) ..





เดินไปเรื่อยๆ จนถึงแยกไฮไลท์ เราก็จะได้เห็นทิวต้นสน แนวเรียงสวยงามอยู่โซนนึง
ก็ไปถ่ายรูปกันจนหนำใจ ตรงนี้สวยมากจริงๆค่ะ ยิ่งพื้นเป็นหิมะแบบนี้แล้ว มันดูสวยแบบโรแมนติกมากๆ
ข้างๆกันตรงนี้มีรูปปั้นของ เบยองจุน ที่วาเพิ่งรู้จักวันนั้นแหล่ะ ปกติไม่เคยได้ดูซีรี่ย์ และไม่บ้าอะไรที่เป็นเกาหลีเลย
busboy ของเราชื่อโดม ชี้ให้ดูว่า นั่น เบยองจุน วาก็ หืม ใครหรอ ไม่รู้จัก โดมทำหน้าแบบ 
หืมมมม ไม่รู้จักเบยองจุนหรอ? เราคงเป็นหญิงไทยประหลาด ที่ไม่อินซีรี่ย์เกาหลี และไม่รู้จักเบยองจุน 
ข้าน้อย ขออภัย 5555555555 แต่พอมาถึงแล้วก็แอบอินนะ ที่นี่บรรยากาศดีมาก 





ที่นี่จะมี Nami Shop อยู่นะคะ เป็นมินิมาร์ท มีอุปกรณ์กันหนาวขายอยู่ เผื่อใครเตรียมมาไม่พอ 
แต่ราคาก็แหล่งท่องเที่ยวนะ ไปหยิบดูมาแล้ว แต่คุณภาพดีอยู่ล่ะ ตรงนี้จะมีร้านขนมอยู่ มีเก้าอี้นั่ง
เลยมีคนนั่งกันเต็มไปหมด และ มีเป็ดอะไรซักอย่าง มาขอขนมด้วย เป็ดคุ้นคนมาก ถ่ายรูปกันเพลินเลย



ไม่นานนัก ก็เดินกลับไปยังจุดนัดพบ ซึ่งตลอดทางก็มีคนเดินเข้ามาตลอด ส่วนใหญ่เป็นกรุ๊ปคนไทยด้วยนะ
อากาศกำลังดี -10 -11 อยู่แบบนั้น มือแทบแข็ง แวะผิงไฟเป็นระยะๆ ยังไม่ค่อยชิน แล้วก็ไปรอกรุ๊ป
และลงเรือกลับฝั่งค่ะ 









* ตรงท่าเรือ จะมีจุดบริการนักท่องเที่ยว ด้านในมีแผนที่ โปสเตอร์ แจก มีที่ผิงไฟ และ มี wifi free ค่ะ





ขึ้นเรือกลับฝั่งแล้ว ก็เห็นมีร้านขายของที่ระลึกมากมาย เจอข้าวโพดน่ากินจัง คนรุมเลย
แต่ยังไม่หิวเท่าไหร่ เลยไม่ได้ลองชิม ข้าวโพดเกาหลี 5555 ขึ้นรถไปยังจุดหมายปลายทางต่อไปค่ะ





ต่อไปเราเดินทางยาวๆ เข้าไปที่ โซล ที่เป็นเมืองหลวง ของประเทศเกาหลีใต้ค่ะ จุดแรกที่แวะคือ
" จตุรัสนกฟินิกซ์ " เป็นจุดที่ฮวงจุ้ยดี ด้านหน้าเป็นน้ำ ด้านหลังเป็นภูเขาหัวมังกร 
ซึ่งนกฟินิกซ์นี้เป็นสัตว์ประจำชาติของเกาหลี ซึ่งนกฟินิกซ์ ถ้าตายแล้วก็จะฟื้น เปรียบเสมือนเกาหลี
ที่ฟื้นจากสงครามโลก แล้วกลับมาใหม่ได้ และด้วยเหตุการณ์นี้ เพราะทหารไทยไปช่วบรบ
จึงทำให้ประเทศไทยเดินทางเข้าเกาหลี แล้วไม่ต้องขอวีซ่านั่นเองค่ะ



ตรงนี้ ถ่ายรูปคู่แล้วเอามาอัดรูปวางไว้ที่โต๊ะทำงาน ติดบ้าน จะเสริมฮวงจุ้ยได้เป็นอย่างดี เค้าบอกมา

หลังจากนี้เราก็เกิดปัญหาไม่คาดคิดนิดหน่อย คือ เหมือนจะมีใครไม่รู้ มาแถวนั้น อารมณ์ทำเนียบรัฐบาลบ้านเรา
เลยทำให้เค้าปิดถนน เดินย้อนกลับไปขึ้นรถไม่ได้ รถก็โดนให้ไปวนจอดที่อื่น เราเลยต้องเดินวนๆไปออกอีกด้าน
ทำให้เสียเวลาไปพอสมควร ข้อดีคือได้เดินดูตรอกซอย บ้านเรือนคนอื่น แต่ข้อเสียคือ เราเสียเวลามาก
จนไปที่พระราชวังเคียงบกไม่ทัน เค้าปิดซะงั้นอ่ะ ช้าไป 10 นาที วันนี้ปิดเร็ว หนาว ....(กรรม!)







หัวหน้าทัวร์บอกว่า งั้นเลื่อนไปเป็นวันที่ 3 ที่เข้าโซล เดี๋ยวกลับมาใหม่ ทุกคนก็โอเคตามนั้น
จุดหมายต่อไปก็เลยเป็น N Tower หรือ โซล ทาวเวอร์ หรือ นัมซาน ทาวเว่อร์ มันคือที่เดียวกัน
แต่มี 3 ชื่อนะจ้ะ ซึ่งหลายๆคนจะรู้จักกันทันที ถ้าบอกว่า ตรงนี้คือ ที่แขวนกุญแจคู่รักนั่นเอง
ซึ่งโชคดีที่ดู กวน มึน โฮ มาก่อน เลยเก็ตทันทีที่เค้าพูดถึง เอิกกกกกกกกก





เราเดินทางขึ้นไปที่ N Tower กันตอนพระอาทิตย์เกือบจะตกดินพอดี คนเกาหลีก็นิยมขึ้นไปเหมือนกันนะ
อารมณ์ไปเดินเล่นออกกำลังกาย ชมวิว ทำนองนั้น ขึ้นไปด้านบน เราจะมองเห็นวิวกรุงโซลได้สวยงามทีเดียว
ไปถึงก็หนาวใช้ได้เลยค่ะ  แต่บรรยากาศสีขาว เทา ตัดกับต้นไม้แห้งๆแบบนี้ มันยอดมากค่ะจอร์จจจจ
ที่นี่มากจริงๆ ถ่ายรูปไม่ยั้งเลย ถึงรูปทริปนี้ จะออก ขาวๆขุ่นๆ แต่วาชอบมากเลยนะ ยิ่งดูรูปแล้วนึกถึง
บรรยากาศตอนนั้น อยากกลับไปอีกจังเลย





ความหนาวทำให้เราตื่นจากภวังค์ ยิ่งหยุดถ่ายรูป มือก็เย็นขึ้นเรื่อยๆ เลยรีบเดินขึ้นไปชมวิวข้างบนกัน
ตอนนี้เราเริ่มเนียน เมาท์กับคนนู้น คนนี้ได้บ้างแล้ว โชคดีมากที่ทริปนี้ มากันแบบออฟฟิส มีแต่วัยใกล้เคียงกัน
มีพี่บ้าง น้องบ้าง หญิงบ้าง ชายบ้าง และทุกคนเป็นกันเองมาก เลยเนียน กลืนตัวกับเค้าได้ไว
ไม่มีใครเตรียมเอากุญแจมาแขวนเลย เลยไม่ได้ไปอิจฉาใครเค้ามากนัก ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ





ภาพแรกี่เห็นคือ อื้อหือ พวงกุญแจเยอะจริง บางโซนสนิมเขรอะเลยอ่ะ เริ่มมีเป็นเคสมือถือ
ช้อนส้อม ตะบักตะบวย อะไรแปลกๆเพียบ บางคนก็กุญแจลอคจักรยาน แทคห้อยกระเป๋า
ดูไปก็เพลินดีเหมือนกันนะเออ ... เจอของคนไทยตรึม





เดินเพลินๆก็มืดลงเรื่อยๆ เลยเดินกลับไปยังจุดนัดพบ ตรงมินิมาร์ทด้านล่าง
ฟ้าเริ่มมืดลงเรื่อยๆ ในเมืองก็เปิดไฟสว่าง วิวจากบนนี้ โซล สวยงามมากจริงๆ







เข้าไปในมินิมาร์ท ก็เจอกับกรุ๊ปทัวร์บางส่วน กำลัง กินกาแฟ และขนมกันอย่างสนุกสนาน
หัวหน้าทัวร์ยื่นถุงอุ่นให้อันนึง เห็นเค้าซื้อแจกๆกันอยู่ เป็นถุงเล็กๆ มี 8 แพค วิธีใช้คือ เขย่า
แล้วถุงมันจะอุ่น เอาไว้ถือๆกำๆ จะได้ไม่หนาวมือ เออเลิศอ่า ไม่แพงด้วย น่าจะราวๆ 1000-2000 วอน
มีถุงเล็กถุงใหญ่ แล้วแต่ขนาดและอุณหภูมิ ที่อยากได้ ได้เจ้านี่มาเขย่า มือ หายหนาวไปโขเลย



เราเดินทางออกนอกเมืองอีกครั้ง เพื่อที่จะเดินทางไปยังที่พักของเรา จำได้ว่าไกลเหมือนกันนะ
เป็นชั่วโมง แต่เพราะตามตาราง วันถัดไปเรายังเที่ยวกันนอกเมือง เลยไปพักนอกเมืองนั่นเอง
เสียงหัวหน้าทัวร์ปลุกเราตื่นขึ้นหลังจากหลับไปร่วมชั่วโมง เราก็มาถึงโซนที่พักของเราค่ะ
ชื่อโรงแรม Shiheung Hotel  มันไม่น่าจะเป็นระดับโรงแรมหรูหรา มีชื่อะไรนะ แต่วาว่าไม่เลวเลย
ห้องพักกว้างขวาง มีสองเตียง นอนได้ 3 คน ห้องน้ำใหญ่โต มีอ่างอาบน้ำด้วยอ่ะ ที่สำคัญ wifi free
วางของแล้วก็ลงไปมาตามนัดก่อน เพราะเค้าจะพาไปทานมื้อเย็นข้างๆโรงแรมนั่นเอง
ตรงล๊อบบี้มี มินิมาร์ท เปิดตลอด 24 ชม. ฝั่งตรงข้ามมี 7-11 ข้างๆโรงแรมเป็น ผับ บาร์ 
แถวนี้โอเคเลยนะนี่











พร้อมแล้วเราก็เดินไปทานอาหารกันค่ะ เป็นบุฟเฟ่ต์ เนื้อย่าง วาเห็นแล้วกรี๊ดเลย!!!
ปกติเป็นคนชอบเนื้อย่างอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้กินบ่อยนัก เพราะราคาสูงอยู่ มาเจอที่นี่ซัดเต็มคราบบบ
หัวหน้าทัวร์ เอาน้ำจิ้มแจ่วมาฝากด้วย ทำให้เนื้อย่างมื้อนี้ อร่อยมาก ทั้งเนื้อ และ หมู ชิ้นใหญ่เกือบเท่าฝ่ามือ
และยังมีอื่นๆอีกมากมาย ที่สำคัญเป็นบุฟเฟ่ต์ คนอื่นเลยรู้หมดเลย ว่าวาเป็นสายแข็ง คนนึงเหมือน ฮ่าาาาา



มีหลายๆคนในทริป กินเยอะมาก เป็นผู้ชายร่างกำยำ แล้วพอดี มันมีคนไม่กินเนื้อ เลยลงตัว
ที่จะต้องนั่งด้วยกัน โต๊ะอื่นนั่งกัน 4 คน โต๊ะวา 3 คน แต่เหมือนปริมาณที่กินจะเยอะสุด
แล้วเค้าเติมไม่อั้นไม่มีของพร่อง เติมตลอด รักเกาหลีก็ตรงนี้ จริงๆ ไปอยู่นั่น 4 วัน 
ไม่เคยคิดถึงอาหารไทยเลย ของชอบทั้งน๊านนนน จัดเต็มคราบทุกมื้อคร๊าบ





โซจู เหล้าเกาหลี ขอเค้าถ่ายรูปมา วาไม่กินอยู่แล้วเลยไม่ได้ชิมจ้า

อิ่มแล้วแบกท้องขึ้นห้องหลับคร่อกทันที คือแบบ ไม่ได้เอนกายพักผ่อนแนวราบ 180 องศา
มาเกิน 24 ชม. แล้ว นอนบนเครื่อง นอนบนรถ มันก็ไม่ฟินเท่าได้นอนยาวๆล่ะนะ 
แล้วเห็นพี่ๆน้องๆผู้ชายเค้าไปเดินเที่ยวกัน จริงๆก็อยากไปนะ แต่ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น 
เรามันผู้หญิงด้วย จะไปกะเค้าก็กระไรอยู่ เลยกลับขึ้นห้องดีกว่า อัพโหลดรูปไปจำนวนนึง 
แล้วก็ไปแช่น้ำอุ่นเพลินๆ มีความสุข ปกติวาจะชอบอาบน้ำเย็น แต่ที่นี่ น้ำเย็นนี่ก็เย็นเกินไปนะ
เลยอาบน้ำอุ่นก็ได้ อ้อ...จะบอกว่า ถึงจะมาหน้าหนาวแบบติดลบ ชุดนอนไม่ต้องขนอุปกรณ์มาเยอะนะคะ
วาใส่เสื้อกล้าม กางเกงเลนอนเลยอ่ะ แบบว่าในห้องมันจะเป็นฮีตเตอร์และอุ่นมาก จนร้อนเลยนะ
มันปรับได้ ห้องวามันเซตที่ 29 องศา กำลังดี บางห้องขี้ร้อน ถึงกะเปิดหน้าต่างรับลมข้างนอกเลยทีเดียว

วันนี้ก็หลับคร่อกกกกกกกกกกกกกกกก Z z z z . . . .

ติดตามอ่านทริปทั้งหมดได้ที่ Link ด้านล่างค่ะ

เกาหลีตอนที่ 1 คลิ๊กที่นี่ >> Click
เกาหลีตอนที่ 2 คลิ๊กที่นี่ >> Click
เกาหลีตอนที่ 3 คลิ๊กที่นี่ >> Click

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ข้อมูลเพิ่มเติม ทัวร์เกาหลี ที่วาไป ดูรายละเอียดได้ที่นี่ค่ะ
//www.wevacationcenter.com
มีช่วงเวลา สถานที่เที่ยว หลายแบบ หลายราคา 
บอกว่า ตามมาจากรีวิว นังนู๋วา ก็ได้จ้า
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
มีคำถามเพิ่มเติม ส่งข้อความ inbox มาได้ที่เพจเลยนะค๊า
เผื่อวาไม่ได้เข้ามาเช็ค comment ครบทุกหน้า ตอบได้ตลอดจ้า




Create Date : 06 มีนาคม 2556
Last Update : 12 ตุลาคม 2557 21:22:51 น.
Counter : 30752 Pageviews.

2 comments
สงกรานต์หรรษา จันทราน็อคเทิร์น
(18 เม.ย. 2567 11:24:41 น.)
春和歌山市 : My First Hanami @ Wakayama Castle mariabamboo
(16 เม.ย. 2567 12:49:02 น.)
พาเที่ยววัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ขอพรวัดเก่าใจกลางเมืองรับปีใหม่ไทย นายแว่นขยันเที่ยว
(15 เม.ย. 2567 13:57:04 น.)
Mahar Shwe Thein Taw Pagoda, Royal Jasmine Hotel - Pyin Oo Lwin สายหมอกและก้อนเมฆ
(11 เม.ย. 2567 16:06:34 น.)
  
เขียนได้น่าอ่านมากครับ ผมกำลังจะไปวันที่ 20-24 มกราคม 2557 ขอไปเก็บประสบการณ์คร่าวๆ จากคุณวานะครับ ^^
โดย: K IP: 110.77.138.133 วันที่: 9 มกราคม 2557 เวลา:15:58:02 น.
  
อ่านของคุณวา เพลินมากคะ เล่ารายละเอียดจนนึกภาพออกเรย ^^ หนูกำลังจะไปเกาหลี วันที่ 8-14 มีนา 2017 ตื่นเต้นมาก ไม่แน่ใจว่ายังมีหิมะอยู่มั้ย
โดย: น้ำผึ้ง IP: 180.183.26.48 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา:14:21:26 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Aiwa.BlogGang.com

นังนู๋วา
Location :
นนทบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 150 คน [?]