เกณฑ์ที่ใช้ในการเลือกโรงเรียนอนุบาล เกณฑ์ที่ใช้ในการเลือกโรงเรียนอนุบาล จากการสอบถามแม่ๆ ที่เป็นกรรมการ 100 คน (เลือกตอบได้หลายข้อ) อันดับ 10 ค่าใช้จ่ายถูก เพราะนอกเหนือจากค่าเทอมแล้ว ยังมีค่าอาหารกลางวัน ค่าอุปกรณ์ต่างๆ ค่าชมรมผู้ปกครอง ต่าเครื่องแบบ เสื้อผ้า..อื่นๆ อีกมากมาย ถ้าเซฟได้ก็คงอยากเซฟแหละ อันดับ 9 โรงเรียนไม่ใหญ่มาก บางคนอยากได้โรงเรียนแบบครอบครัว คุณครูดูแลเด็กได้อย่างทั่วถึง แบบห้องละไม่เกิน 20 คน ซึ่งจะทำให้ค่าใช้จ่ายต่อเดือนของโรงเรียนจะสูง และหากค่าใช้จ่ายสูง ค่าเทอมก็จะแพงตามมา ว่ากันว่าโรงเรียนอนุบาลเอกชน จะต้องมีนักเรียนเกิน 200 คน ถึงจะทำให้โรงเรียนอยู่ได้ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับค่าเทอมด้วย อันดับ 8 มีการฝากต่อเวลาได้ ส่วนใหญ่จะเป็นคุณแม่ทำงาน ไม่ว่าจะทำงานเต็มเวลาหรือพาร์ตไทม์ หากคุณแม่ทำงานเต็มเวลาก็อยากจะเลือกฝากให้นานที่สุด เผื่อเวลาในการเดินทางด้วย แน่นอนการฝากแบบนี้จะเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มแล้วแต่ระบบของแต่ละโรงเรียน อันดับ 7 มีเพื่อนสนิทของลูกหรือเด็กแถวบ้านอยู่ เพราะลูกไม่ต้องหาเพื่อนใหม่ และคุณแม่ยังแลกเปลี่ยนข่าวสารได้ง่าย มีอะไรคุยกันได้ นินทาได้ด้วย(จ๊าก) อันดับ 6 มีสภาพแวดล้อมและอุปกรณ์ดี อาคารเรียนใหม่ สนามกว้าง อุปกรณ์การเล่นเยอะ สีสันดึงดูดใจ พื้นเรียนเงาวับ(อย่าลืมคิดว่าแม่ต้องนี่แหละต้องไปถูพื้นด้วย..กริกริ) มีสระว่ายน้ำแบบอุ่นด้วย โอ้โฮ ...เลอเลิศ ไม่ต้องเอาเทอร์โมฯ ไปคอยวัดเวลาวันฟ้าครื้ม ![]() อันดับ 5 คุณครูใหญ่และคุณครูดี คือ ต้องฝากชีวิตน้อยๆ ที่ทนุถนอม(มากเลย)ไว้ตั้ง 2-3 ปี ก็เลยอยากฝากกับคุณครูที่ไว้ใจได้ ไม่แอบหยิกนักเรียน แม่ขอเก็บไว้หยิกคนเดียว..ฮ่า อันดับ 4 มีอาหารกลางวันให้ เออ...จะให้แหวกขี้ตามาปั้นปิ่นโตคิตตี้ทุกวันก็คงไม่สามารถ ถ้าเลือกได้ก็คงจะเลือกให้มีอาหารกลางวันบ่อยกว่า ปิ่นโตนี่ยิ่งน้อยยิ่งดี ไม่ต้องลุ้นว่าปิ่นโตที่ทำไปจะบูดจะเสียหรือเปล่าด้วย...แถมอาหารกลางวันของโรงเรียนยังมีสารอาหารครบถ้วนคิดแคลอรี่ให้เสร็จสรรพทั้ง 5 หมู่ อันดับ 3 มีรถโรงเรียนรับ ส่ง ยิ่งเป็นรถโรงเรียนน่ารักๆ นี่ดึงดูดสายตาชะมัด รถที่ผ่านแถวบ้านเรามีทั้งรถสีธรรมดา มีแค่สัญลักษณ์และชื่อโรงเรียนติด แล้วก็รถสีสันสวยบาดตา บางโรงเรียนมีตุ๊กตาคุณพี่มาริโอนั่งอยู่ข้างคนขับ ประมาณว่าพี่จะตามไปทั้งในบ้านและขณะกำลังโดยสาร อันดับ 2 เน้นกิจกรรม คือ พอเข้าประถมก็จะมีเรื่องเรียนจ่อเข้ามาในชีวิตไปอีก 10 กว่าปี ไหนจะเรียนพิเศษอีก ก็เลยอยากให้ลูกได้ใช้เวลาวัยเด็กก่อนเข้าเรียน 2-3ปีนี้ได้ใช้ชีิวิตเรียนรู้ธรรมชาติและได้เล่นอย่างเต็มที่ อันดับ 1 ใกล้บ้าน เดินไปรับส่งง่าย เวลาลูกไม่สบายก็วิ่งไปรับได้สบายๆ เวลาคุณแม่ต้องมีกิจกรรมกับโรงเรียนก็ไม่ต้องแย่งชิงที่จอดรถกับคนอื่น หรือถ้าปั่นจักรยานก็ไม่ต้องหวั่นแม้วันฝนตก ข้อมูลเหล่านี้เอามาจากนิตยสาร Como นิตยสารสำหรับคุณแม่ยังสาวและสวย(อย่างเรา ....ช่างกล้าเขียน) ฉบัับประมาณปีที่แล้วนะจ๊ะ เพราะตอนเราเลือกโรงเรียนให้ยูตะ..นี่ไม่ค่อยได้เลือก ขอให้เขารับก็พอ(แทบจะยัดเงินใต้โต๊ะให้เขารับเสียแล้ว...ฮ่า)และเราเลือกโทรถามจากโรงเรียนใกล้บ้านก่อน พอดีเขาดันรับ...ก็เลยไม่ได้เลือกโรงเรียนอื่น และคิดว่าเลือก(ไม่ได้เลือกสิ) ไม่ผิดเท่าไหร่ เพราะทุกโรงเรียนก็มีข้อดีข้อเสียบ้าง แล้วแต่ว่าจะหยี่ตาไม่มองข้อไหนได้บ้าง จริงๆ เราไม่ได้เอาไปเทียบกับโรงเรียนอื่นใดเลยต่างหาก และถ้ามาเทียบจาก 10 ข้อที่เขียนมา ก็จะมีติดอยู่หลายข้อ เช่น โรงเรียนไม่เงามันวับเท่าไหร่ เก่าแล้วอ่ะ โรงเรียนขนาดใหญ่ ไม่ได้หมายถึงขนาดนะ หมายถึงจำนวนนักเรียนเยอะพอควร นักเรียนต่อห้องก็เยอะ อุปกรณ์การเล่นไม่ใหม่ปิ๊ง (แต่คุณครูห้องยูตะใหม่ปิ๊งเลย) ส่วนคุณครูดี นี่คงมีดีบ้างไม่ดีบ้าง ครูบางคนคุณแม่ไม่ค่อยชอบ แต่เป็นครูคนโปรดของลูก อ้อ...อันนี้เป็นคงอ้างอิงได้แต่ที่ญี่ปุ่น เพราะที่เมืองไทยคงต้องมีเงื่อนไขอื่นด้วย ขอบคุณค่ะ มาเก็บข้อมูล นำมาปรับใช้กับบ้านเราได้เหมือนกันนะคะ ที่ภูเก็ตโรงเรียนอนุบาลมีเยอะก็จริง แต่ให้ถูกใจพ่อแม่ทุกข้อยังหาไม่เจอค่ะ มีพี่คนหนึ่งเขาให้ข้อคิดว่า "ขอให้ถูกใจลูกเราก็พอ" คือเรียนแล้วมีความสุขน่ะค่ะ
คนในกล่อง comment หล่อจังเลย ^^ โดย: tiara IP: 58.147.59.61 วันที่: 12 มิถุนายน 2551 เวลา:14:30:33 น.
อิอิ อันดับหนึ่งนี่ตรงกะที่เลือกมาด้วยมือเหมือนกันเลยค่ะ
![]() โดย: นู๋โนริ
![]() ช่วยทำแบบสอบถามหน่อยนะคะ
พอดีว่ากำลังสำรวจความคิดเห็นของผู้ปกครองในเรื่องที่ส่งผลต่อการส่งบุตรหลานเข้าโรงเรียนอนุบาลค่ะ //spreadsheets.google.com/viewform?formkey=cjNkYWlyQWVHOTh2MHkzLUpyeDUtVEE6MA.. ขอบคุณมากนะคะ โดย: สาวิณี IP: 124.157.230.148 วันที่: 29 เมษายน 2552 เวลา:10:46:30 น.
|
บทความทั้งหมด
|
ยังติดตามอ่านบล๊อกพี่อยู่บ่อยๆ แต่ว่าซินไม่ค่อยได้เม้นน๊ะคะ...