Star wars : Rogue One การต่อสู้อันเกิดจากความหวัง เพื่อความหวัง เเละจบลงด้วยความ


เป็นสงคราม ที่สมกับคำว่า "สงคราม" ที่แท้จริง 

เป็นภาคที่ระเบิดภูเขา เผากระท่อมที่สุดในทุกๆภาคของ Star wars ที่ผ่านมา
เรื่องนี้ ไม่มีซูเปอร์ฮีโร่ ไม่มีอัศวินเจได 
พลัง Force กลายเป็นความเชื่อเหลวไหลไร้สาระ 
สำหรับเหล่าวีรบุรุษในเรื่อง มีเพียงหัวใจ เเละความเชื่อมั่นใน Force เป็นเเรงผลักดันเเละพละกำลังในการต่อสู้
เพื่อเสรีภาพ เเละเพื่อ “ความหวัง”

ตัวละครเอกในเรื่องนี้ ปูเรื่องขึ้นด้วยความสูญเสีย 
เสียบ้าน เสียครอบครัวอันเป็นที่รัก เสียพวกพ้อง เสียความไว้เนื้อเชื่อใจ เสียอิสรภาพ 
ถูกอำนาจชั่วร้ายของจักรวรรดิพรากไป 
เป็นเพียงหนึ่งในฟันเฟืองชิ้นน้อยๆ ที่ถูกพลังเเห่งโชคชะตา ดึงดูดให้เข้ามาร่วมกันสร้างภารกิจที่ยิ่งใหญ่ 
เพื่อโค่นล้มจักรวรรดิที่พรั่งพร้อมด้วยอำนาจเเละขุมกำลังมหาศาล 
เป็นตำนานที่จารจารึกเสมือนเป็นต้นกำเนิดของ "A new hope "

องก์ต้นๆของเรื่องส่วนตัวเเล้วไม่เนือยชวนง่วงอย่างที่หลายคนคอมเพลน 
มีการปูทางปูเนื้อเรื่อง สั่งสมความพีคไว้อย่างเป็นระบบ เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน 
ความเป็นมาของจิน, การร่วมตัวและเหตุผลของกลุ่มกบฏ, ผู้พิทักษ์วิหารแห่งดาวเจด้า 
ความสามารถที่น่ามหัศจรรย์ของอาจารย์ยิปมัน เอ๊ย อาจารย์เชอร์รุท (ตอนแรกนึกว่าจะได้เห็นเจไดแดนมังกรซะหน่อย เสียดาย) 
และความ Badass ของเบรซมือสังหารอิสระ Gunman สุดเท่คู่ใจเชอร์รุท

ตัวละครในกลุ่มกบฏนั้นมีมิติ มีความเป็นสีเทา มีความอำมหิต 
พุ่งชนเป้าหมายไม่เลือกวิธีการอยู่นิดหน่อยช่วงต้นเรื่อง 
ซึ่งมันก็เมคเซ้นส์ คิดการใหญ่ใจต้องนิ่ง ต้องเด็ดขาด ในโลกที่มนุษยธรรมเหลือน้อยเต็มที 
เราเองก็ต้องมีเกราะป้องกันเพื่อรักษาตัวเองและพวกพ้องให้รอดเป็นเรื่องธรรมดา

ส่วนตัวแล้ว เฮียเยน และเฮียเหวิน ถือเป็นสีสันของหนังเรื่องนี้อย่างมากเลยทีเดียว 
ชอบการตบมุขกันไปมา โดยเฉพาะประโยค “นั้น” ที่ทำเอาฮาก๊ากทั้งโรง 
ชอบความสัมพันธ์แบบเพื่อนแท้เพื่อนตาย ให้ใจ ยืมพลังกายพลังใจซึ่งกันและกัน 
และยิ่งมารวม squad กับจิน,แคสเซี่ยน และเค 2s0 (บักดรอยด์กระป๋องจอมเกรียน) 
มันคือการร่วมภารกิจวิสามัญที่ unexpected 
แต่ความผูกพัน ความไว้เนื้อเชื่อใจ ความรัก ความเอื้ออาทร มันเกิดขึ้นมาเองโดยเวลาไม่ใช่เงื่อนไขเลยแต่อย่างใด 
ประโยคที่เบซพูดกับจินว่า “โชคดีนะ แม่น้องสาว” ฉากนี้น้ำตารื้นเลย 
มีความเป็นอ๊ปป้า พี่ชายใจดี ห้าวๆลุยๆ ที่รัก เอ็นดู และให้ใจแกเรา 
ทำให้เราไม่กลัวความโดดเดี่ยว ฮึกเหิม แล้วพร้อมจะสู้ไปได้ทุกสมรภูมิ

ในพาร์ทของจักรวรรดิก็ยังเป็นอะไรที่ชวนขนลุก สะเทือนขวัญ น่าเกรงขาม มีทั้งความโหดเหี้ยม มืดมน และโคตรเท่ 
(สำหรับเรา Sith คือเหล่าร้ายที่เราชอบมากในบรรดาเหล่าร้ายทั้งหมด 
ชอบการทำงานที่มี system ฉลาด ตรงไปตรงมา คำไหนคำนั้น 
หลอกลวงอย่างจริงใจและชวนให้ฟัง ฆ่าฟันอย่างไร้ปราณีและมีศิลปะ) 
เป็นสิ่งแวดล้อมเดิมๆที่เห็นกี่ทีก็สครีมทุกครั้ง 
โดยเฉพาะความเท่ของเหล่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงในจักรวรรดิ อาทิเช่น พณฯท่านทาร์คินที่โคตรเท่เหมือนผีหลอก 
เเละเครนนิคที่งานเข้าตลอดๆ สำเนียง English-German ของสองคนนี้คือเท่มาก! มีความ SS 

จุดไคลแม็กซ์ของเรื่องในองก์สุดท้าย คือมหาสงครามที่พีคที่สุดเท่าที่เคยดูฉากสงครามทุกฉากในโลกภาพยนตร์ 
หลังจากฉาก The Battle of Pelenor’s field 
และฉากมหาสงครามครั้งสุดท้ายที่เมาท์ดูมใน The Lord of the rings The return of the king 
มัน Epic มันบีบหัวใจ มันกล้าแลก กล้าชน กล้าตาย ทุกคนมีความหมายในสงครามนี้ มีความสำคัญ มีใจที่สู้เต็มร้อย

ฉากที่บุกสคาริฟฟ์ของเหล่ากบฏ 
แล้วการเข้ามาร่วมช่วยเหลือประจัญบานของเหล่าพันธมิตร 
ฉากนั้นแทบลุกขึ้นเฮ น้ำตาเริ่มเอ่อ ต้องถอดแว่นเช็ดเป็นระยะๆ

ที่สำคัญ คนที่จะไม่กล่าวถึงไม่ได้ พ่อโบดี้ห์ นักบินแปรพักตร์ของเรา 
คือแรกๆมาเอ๋อๆก่งก๊ง แต่ตอนองก์สุดท้ายนี่ทำเอาเรารักเค้าหมดใจ น้ำตาไหลให้ฮีจนนาทีสุดท้าย

และอีกสิ่งที่เราประทับใจ คือ “ความรัก”ของตัวเอกในเรื่อง มันไม่สปาร์คเวิ่นเว้อแบบหนังตาหวาน 
มันคือความรักที่ก่อตัวจากการเกื้อกูล ต่อสู้เพื่อปกป้องกันและกัน มีอุดมการณ์เดียวกัน 
และเชื่อมันในกันและกัน มันเป็นความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นและจบลงอย่างอิ่มเอมใจ และเจ็บปวดหัวใจในคราเดียวกัน

ทุกตัวละครในองก์สุดท้ายนี้ คือ The heroes without the names นักรบนิรนามที่ไม่มีคนจดจำ 
แต่ทว่าวีรกรรมของพวกเค้าตราตรึงใจและเป็นที่ตระหนักแก่อนุชนรุ่นหลังผู้กอบกู้ 
ทุกตัวละครทำหัวใจเราเราบีบ บีบ บีบ ก่อนที่จะสลายลงอย่างงดงาม

เป็น “ฉากสงคราม” ที่สมศักดิ์ศรีแห่ง “สงคราม” โดยแท้จริง 
เป็นสงครามที่ไม่มีซูเปอร์ฮีโร่ ไม่มีเจได 
มีเพียงมนุษย์และสิ่งมีชีวิตในกาแล็กซี่ธรรมดาที่ทุ่มชีวิตและวิญญาณเพื่อกอบกู้ “ความหวัง” กลับคืนสู่กาแล็คซี่

สุดท้าย การกลับมาของดาร์ธ เวเดอร์ 
พูดได้คำเดียวว่า
พ่อก็คือพ่อ

ดูหนัง Star wars : The Rogue One Story
คือที่สุดของสงครามแห่งจักรวาล
คือการต่อสู้ที่ทรงพลานุภาพ
คือการกอบกู้ความหวังครั้งยิ่งใหญ่ ของคนตัวเล็กๆ
คือของขวัญและแรงบันดาลใจส่งท้ายปีที่แท้จริงค่ะ

Credit: //pantip.com/topic/35925819




Create Date : 19 ธันวาคม 2559
Last Update : 19 ธันวาคม 2559 10:33:23 น.
Counter : 688 Pageviews.

0 comments

9ekblog.BlogGang.com

นามแอบแผง
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด