จะผูกพัน สองเราให้เป็นหนึ่งเดียว....วันนี้ก็เอาซะเลย มาละเหวยขอลอง...ซะที

เห็นมีหลายกระทู้ในช่วงนี้ ที่มีการวิพากย์ การขึ้นราคาของสายการบิน ก็เป็นอันเข้าใจว่า ความเดือดร้อน ย่อมเกิดขึ้น อย่างน้อยก็ในความรู้สึกของคน

ผมก็เลยจะขออนุญาต "สลายปม" เรื่องนี้ตามการพิจารณาในมุมมองของผมครับ

ผมจั่วหัวกระทู้ ด้วยการเอาส่วนหนึ่งของเนื้อเพลง "ร็อกกระทบไม้" ครับ เพราะ นัยหนึ่ง ผมคิดว่า วงการการบินอาจจะ แอพพลายวิธีการบางอย่างของอุตสาหกรรมการบินของเมกามาใช้ และอีกนัยหนึ่งที่เอาเนื้อร้องเพลงนี้มา เพราะทราบมาว่า พี่ธเนศ นี่แกมี "แควนเป็นนางฟ้า" ด้วยกะเค้า ก็อนุโลมไปว่า เกี่ยวกัน (แฟนคลับมาเองครับ)

แหม!! ขาร็อก นี่กินไรมามักจะได้แควนเป็นนางฟ้า นางสวรรค์ ทั้งนั้น อิ..อิ..

อีกเพลงหนึ่งคือ "เพราะเรานั้นคู่กัน" ของ คาไลโดสโคป นี่ก็อีกหนึ่งศิลปินที่ผมชื่นชอบตั้งแต่เด็กๆ ก็เพราะ มันมีนัยยะที่ผมไพล่คิดเอาว่า "สองคนรวมเป็นหนึ่งในร่างเดียว"

นัยยะที่หนึ่ง ที่ผมกล่าวว่า ดูแล้ว การขึ้นราคาแบบ "กวาดล้าง" ครั้งนี้ เหมือนเป็น "การกระจายกำลังกลับด้าน" มากกว่า คล้ายๆ กับ "Reversal deploy bait-and-switch" ซึ่งก็คล้ายๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้นในเมกาช่วงนี้

หมายความว่า หลอกให้รับรู้ว่ายังมีการให้บริการ และขึ้นราคา แต่ที่แท้ก็ไม่ได้ขึ้นราคาจริง เพราะไม่ได้กะจะบินแต่แรก

นั่นคือ คือ สายการบินขนาดใหญ่ เริ่มมีการ "โอน slot" ของตัวเองให้สายการบินลูก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น LCC ปฏิบัติการบิน โดยเฉพาะการเชื่อม Prior Route เข้ากับ secondary route ในขณะเดียวกัน สายการบินยักษ์เหล่านั้น ก็เริ่มจับมือกับสายการบินขนาดกลางและเล็กอื่นๆ "แลกslot" การให้บริการในสนามบินใหญ่ที่เป็นฮับ ซึ่งการ แลก slot นั้น คือการชูให้ สายการบินขนาดกลางเป็น flagship ด้วยซ้ำ

เช่นล่าสุดที่ American Airlines จับมือกับ Jet Blue สลับการให้บริการระหว่างเส้นทาง secondary ของ Jet Blue ไปให้ AA และ AA ก็ให้ American Eagles สายการบินลูกที่เป็น LCC บินแทน ส่วน Jet Blue ก็ไป swap เอา slot ที่ Reagan Airport ที่ วอชิงตันมาบิน ก่อนหน้านี้ก็มีการ swap-slot ของสายการบินอื่นๆ มาแล้ว

วิธีแบบนี้ แหล่ะครับ ที่ผมคิดว่า regulator ด้านการบินของไทย รวมทั้งรัฐบาลกำลังแอพพลายเอามาใช้กับการขึ้นราคาครั้งนี้

มันก็คือ การสร้าง Cap ค่าคั๋ว หรือเพดานราคาค่าตั๋ว ไปไว้ที่ สนามบินที่เป็น First Priority ขอประเทศ เพื่อบอกกับใครก็ตามที่จะบินเข้ามาในสนามบินเหล่านั้นว่า

"ถ้าจะบินอย่ากระโดดราคาขึ้นมานาว้อยสู ตูข้าเหยียบมิด"
โดยเฉพาะกับสายการบินต่างประเทศ เพราะถ้ากลุ่มสายการบินต่างชาติ เข้ามาเมื่อไหร่ด้วยราคาที่ใกล้เคียงกับ การบินไทย ซึ่งอันที่จริงต้องใกล้เคียงกัน เพราะการขึ้นราคาครั้งนี้ จะทำให้ ต้นทุนการให้บริการในเส้นทางเหล่านั้น เพ่ิมสูงขึ้นจากเรื่อง compensationการบินไทยก็เอา นกแอร์ กับวันทูโก ไปรุมสกรัม ก็ไม่ไหวจะเคลียร์

ความหมายของผมก็คือ การขึ้นราคาครั้งนี้ ก็เหมือนกับการผลักภาระการให้บริการของ พรีเมียม ไปให้ "เมือง" เข้ามามีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของ slot การบินนั้นๆ มันก็คือ การดึงเอา "รายได้ของเมือง" เข้ามา โฮลดิ้งไว้ การบินไทย ในฐานะผู้ควบคุม slot ก็จะลดภาระลง โดยการไม่บินเอง แต่ให้ นกแอร์ กับ วันทูโก ไปบินแทน "เมือง" ก็ย่อมยอมรับเพราะสองสายนี้ คือ LCC

ทำให้ เมือง ก็จะมีรายได้เข้ามา ทำให้ จุดสิ้นสุดของรายได้ไม่หยุดอยู่แค่สนามบิน แต่ไถลออกนอกรันเวย์เข้าไปถึงร้านกาแฟนอกสนามบิน

การบินไทย นกแอร์ และวันทูโก ก็จะมีรายได้ตั้งอยู่บน yields เดียวกัน

เพราะการขึ้นราคาก้าวกระโดดแบบนี้ จะทำให้ นกแอร์ กลายร่างเป็นสายการบินที่จะให้บริการบนรายได้ หรือ fly on yields ซึ่ง yields ของนกแอร์ เป็นของ การบินไทย ไปแล้ว

คือผมไม่ทราบว่าบ้านเราสายการบินต้องจ่าย compensation slot ให้กับเมือง และ regulator หรือเปล่า และเท่าไหร่ แต่ที่เมกา สายการบินต้องแบ่งค่าตั๋วให้ใบละ 7 ดอลล่าร์ อันนี้ไม่เกี่ยวกับค่าธรรมเนียมต่างๆ นะครับ ถ้ายังไม่มี นั่นแหล่ะ ก็จะมี ก็เลยต้องรวมค่าน้ำมันเข้าไป เพิ่มในส่วน compensation slot เข้าไป แล้วรายได้ส่วนนี้แหล่ะ ที่มันจะเอาไปทำได้ทั้งกระจายรายได้ การปรับปรุงสนามบิน รวมทั้งการลงทุนที่ไม่ต้องรอจากส่วนกลาง

เมื่อมี "งาน" การเดินทางย่อมต้องมี!!

ซึ่งกรณีนี้แหล่ะ จะทำให้ การบินไทย จะต้องลดการให้บริการในประเทศลง แล้วหันมาบริหารสินทรัพย์แทน อย่างแรกคือ เครื่องบิน ซึ่งก็คือ การให้ นกแอร์ วันทูโก และสายการบินใหม่ๆ ที่จะเข้ามาในวงการ "เช่าเครื่อง" จากการบินไทย ไปบิน แต่ไปบินยังไงนั่นอีกเรื่อง รวมทั้ง โอนความเป็นพรีเมียมไปอยู่กับสนามบินมากขึ้น ซึ่งสนามบินนั้นๆ ก็จะถูก ผลักความจำเป็นของการให้บริการ โดย "เมือง" จนทำให้ต้องบิน

การบินไทยจะเหลือรับหน้าที่ เส้นทางหลักๆ เชื่อมภูมิภาค และเชื่อมทวีป เท่านั้น รวมทั้ง เปิดเกมส์ให้ สายการเด็กน้อยเพิ่มการให้บริการจาก secondary route มากขึ้น ดูจากการขึ้นราคาเส้นทางเชียงใหม่-ภูเก็ต

ทำไมผมคิดอย่างนั้น เพราะ ผมได้มีข้อมูลที่ยืนยันได้ว่า การบินไทย และประเทศไทย ได้มีการติดต่อกับ US Ex-Im Bank เรียบร้อยแล้วเรื่องเครื่องบิน แต่ ณ ตอนนี้ เครื่องบิน white Tail หรือหางขาว ไร้เจ้าของ ที่อยู่ในความดูแลของ US Ex-Im Bank จำนวนเกือบ 400 ลำ มันเหลือแต่.....737-800 และ 900 ทั้งนั้นเลย

ด้วยเหตุนี้ เมื่อเอามาคิดรวมกับสิ่งที่เกิดขึ้น มันก็คือ การบินไทยจะไปเอาเครื่อง 737NG มาให้ นกแอร์ และวันทูโก เช่าบินทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ ที่......ดอนเมือง รองรับการเชื่อมต่อเส้นทาง secondary เพื่อตัดปัญหาการเชื่อมต่อ รวมไปถึงการขยายการเชื่อมต่อเส้นทางระหว่างประเทศที่จุดบินหลักตามจังหวัดต่างๆ

ซึ่งก็เป็นการบีบให้ สายการบินต่างชาติ เข้าและออกที่สุวรรณภูมิ.....ที่เดียว!!!
โดยมีการบินไทย ซัดกันซึ่งหน้า ส่วนสายการบินไข่นุ้ยทั้งหลายก็กางปีกปิดประเทศให้หมด

ซึ่งไม่เกี่ยวกับเรื่อง "นักท่องเที่ยวต่างชาติ" ที่เข้าและออก จุดบินต่างจังหวัดโดยเที่ยวบิน charter อันนี้ยังคงมี แต่ถ้าจะเป็นเที่ยวบินประจำ ต้องเข้าและออก โดย สายการบินของไทยเราเหล่านี้นั่นเอง ไม่ให้สายการบินต่างชาติเค้ามายุ่งเรื่องเที่ยวบินประจำ

ทีนี้ผมเชื่อว่า จะมีสายการบิน Local ที่จะใช้ฮับเมืองที่ไม่ใช่กรุงเทพฯ เกิดขึ้นเพียบเลยและนั่นจะเป็นจุดผ่องถ่ายอะไรได้บางอย่างครับ และนั่นอาจจะเป็นการกระจาย "คนบิน" ออกไป ซึ่งก็อาจหมายถึง "การปฏิรูป"

และอาจจะมีสิ่งที่ต้องจับตา คือ ช่วงที่เริ่มกระจาย เริ่มลงทุน การซื้อขายหุ้น ต้องระวังทุนเกาะนรก มันเล็งอยู่ มันอยากได้ การบินไทย ใจจะขาด เพราะมันต้องการ gate ของไทยมาก แล้วก็เส้นทางการเงิน การลงทุนในตลาดหุ้นของไทยก็มีองค์กรของพวกมันเต็มไปหมด เกาะเปรตนี่ คนไทยต้องช่วยกันโพรเทกส์นะครับ

คราวก่อน พยายามใช้วิธีสงครามราคาถูก กะให้เจ๊ง แล้วก็แปรรูปในตลาดหุ้น แล้วก็ซื้อ
คราวนี้ ย้อนกลับ ใช้ราคาแพงนี่แหล่ะ กระทืบให้กลับบ้านไม่ถูก

ว่าแล้วก็กลับไปฟัง "ร็อกกระทบไม้" และ "เพราะเรานั้นคู่กัน"

ปล. อย่าลืมไปช่วย "เพื่อน" เรา โปรตุเกส นะครับ ตอนนี้เค้าเดือดร้อนมากๆ ถ้าเค้าล้มละลาย จะรุนแรงกว่า กรีซ หลายเท่า และเค้ามี TAP Portugal นะครับ สถานฑูตโปรตุเกสอยู่แถวๆ บางรัก เองนะครับ

Create Date : 03 เมษายน 2553		1 comments
Last Update : 3 เมษายน 2553 13:16:12 น.
Counter : 608 Pageviews.
Share Tweet