Living on Earth is expensive but it includes an annual free trip around the sun
เที่ยวละไมไทยแลนด์
ที่พักท่องเที่ยว
ตุลาคม 2549
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
29 ตุลาคม 2549
วันพิชิตเปรโต๊ะลอซู และดอยมะม่วงสามหมื่น ..
พระราชวังมฤคทายวัน ชะอำ
เพลินใจ ที่เพลินวาน @ หัวหิน
หมู่เกาะอ่างทองกับจุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย
ทะเลใส ๆ ที่เกาะขาม..
ไปเที่ยวตรังกันดีกว่า..
2nd time @ Primo Posto
ซากุระบาน ณ ขุนช่างเคี่ยน
ตามหากระหล่ำที่ภูทับเบิก
ไปปายมา ..2 ^^
ไปปายมา .. ^^
Primo Posto เที่ยวไทยสไตล์นอก
จิ่วไจ้โกว ..อุทยานสววรค์
หมู่บ้านไม้ดอกไม้ประดับ คลอง 15
อัมพวา .. เสน่ห์แห่งวันวาน
พระราชวังสนามจันทร์
สวัสดี...สีชัง
Minnie Travel At Chaingmai เจ๊า
สวนรถไฟ (สวนเบญจชลาทัศน์)
And the Gang @Cute Doll
The Lake House .. การรอคอยและความรัก
สวนผึ้ง ราชบุรี
JUMP ..?!?
Minnie in the ancient City ..
ไปเสม็ดเสร็จทุกรายจริงไหม?!?
วันพิชิตเปรโต๊ะลอซู และดอยมะม่วงสามหมื่น ..
วันพิชิตเปรโต๊ะลอซู และดอยมะม่วงสามหมื่น ..
วันหยุดปิยะที่ผ่านมา .. ได้โอกาสไปอุ้มผางอีกครั้งหลังจากที่เคยไปเยี่ยมชมมหาน้ำทีลอซู.. แต่กลับไปคราวนี้เรามีจุดมุ่งหมายไปยังน้ำตกที่นิตยสารอสท.เพิ่งลงไปเมื่อเดือนนี้เอง ..
น้ำตกเปรโต๊ะลอซู..
ด้วยอารมณ์อยากไปสุด ๆ ก็เลยจัดแจงจองทริป .. ชักชวนเพื่อนไปเทียวกัน แต่สุดท้ายก็ได้มาแค่สองหน่อเท่านั้น ไม่เป็นไร ความอยากเที่ยวมีเหนือมากกว่าสิ่งอื่นใด
ก่อนหน้าการเดินทางหนึ่งอาทิตย์ได้เพื่อนแจมมาอีก 4 คน..เย้ ๆ .. ค่อยยังชั่วหน่อย..อย่างน้อย ๆ ก็ไม่ใช่สองคนเพื่อนตายแล้ว..
20ตุลา วันเดินทาง.. เริ่มออกเดินทางตอนทุ่ม ตอนแรกกะว่าจะไปขึ้นที่จุดนัดพบ แต่เจอรถอย่างหนัก
เจอหน้าโลตัสดีกว่า ..กว่าจะโทรไปโทรมาจนเจอรถ..ก็อีกพักใหญ่ ๆ .. แล้ว .. ในที่สุดก็เริ่มออกเดินทาง..
รถมาถึงแม่สอดประมาณตีสามก็แวะเข้าห้องน้ำ.. ห้องน้ำสวยมากก.. น่าเข้าเป็นที่สุด .. ขอเข้าก่อนที่จะไม่ได้เจอห้องน้ำสวยอีกหลายวันแล้วกัน.. ก่อนที่จะแวะเข้า 7-11 เติมพลังก่อนเจอถนนลอยฟ้า ..หลายร้อยโค้งเพื่อที่จะไปถึงยังอุ้มผาง..
หลังจากผ่านสารพัดโค้งในที่สุดก็ถึงอุ้มผางจนได้.. ประมาณเจ็ดโมงเช้า แวะเติมพลัง ล้างหน้าล้างตา เปลี่ยนเสื้อผ้าสำหรับการเดินขึ้นเขา ..และซื้อข้าวกล่องสำหรับอาหารเที่ยง ..เช้า ๆ ยังมะค่อยหิวแฮะ ..ขอข้าวไข่เจียวก่อนล่ะกัน..
ขึ้นรถอีกรอบเพื่อที่จะเดินทางไปยังจุดเริ่มต้นของการเดินเท้า.. ซึ่งเส้นทางนี้จะเลยทางที่จะไปยังน้ำตกทีลอซูไปอีกไกลเลย.. เส้นทางก็แย่มาก.. เป็นหลุมเป็นบ่อ ยังคงต้องนั่งหัวโยกกันต่อไป. พี่สตาฟบอกว่า..หน้าฝนแย่กว่านี้อีกหลายเท่า แต่วันนี้อากาศดี ฟ้าใส แดดเปรี้ยงมากกๆๆๆ..
ผ่านไปอีกสามชม. ถึงจุดเริ่มต้นเดินเท้า จัดการยกสัมภาระออกมาจัด ..รวมกัน กรุ๊ปเราเป็นกรุ๊ปเดียวที่จ้างลูกหาบ ..แหะ ๆๆ .. ความสามารถไม่ถึงอ่ะ ขอแค่เอาชีวิตรอดอย่างเดียวล่ะกัน .. งานนนี้มีผู้ร่วมทางเป็น 18 ชีวิต ..สตาฟ 3 และลูกหาบอีก 6 ..
เริ่มต้นเดินทาง .. ทุกคนยังคงหน้าตายิ้มแย้มกันอย่างดี ..หนึ่งชม.ผ่านไป.. หน้าตายังพอยิ้มได้ (เพราะยังเป็นทางราบ ผ่านทางไร่ของชาวบ้านอยู่ ) แต่อากาศก้ร้อนเหมือนกันแฮะ .. วิวสองข้างทางสวยมาก.. ฟ้าสวย ๆ ตัดกับรวงข้าวสีเขียวขจี ..
เดินไปได้สักพัก เจ๊ของเรา.. ก็ทำรองเท้าขาด สกอร์ห้าปีเลยต้องจบชีวิตลง ณ อุ้มผางนี่เอง.. พอดีกับพี่สตาฟที่ใจดีของเราผ่านมาก็เลยได้รองเท้าสำรองมาใส่แทน ..
มาถึงจุดพักเหนื่อย อากาศร้อนมั่กมาก.. หน้าตาเริ่มเปลี่ยนไปอีกนิด.. เลยขอแวะลงไปเล่นน้ำกันหน่อย.. เย็นดีจัง..
แล้วเราก็เริ่มเดินทางกันต่อ.. ถึงเวลาที่ต้องปีนเขากันเสียที.. ทางชักเริ่มชันขึ้นเรื่อย ๆ เหนื่อยจัง แฮ่ก ๆๆ.. เดินขึ้นเขาชัน ฝ่าเปลวแดด เป้ที่ใส่ของก็ชักหนัก..ขึ้นเรื่อย ๆ ตูแบกอะไรขึ้นมาเนี่ยะ .. เดินไปได้อีกสักพัก .. ทำไมหน้ามืด ตัวเย็น ๆ หันไปคว้าเพื่อน ๆ ข้าง .. ช่วยด้วย !! ขนลุก ทั้งตัวแล้ว.. หลังจากปล่อยให้เพื่อนร่วมทางแซงล่วงหน้าไปหมด ก็หยุดพัก ดูอาการของตัวเองก่อน..
หลังจากค่อยยังชั่วแล้วก็ค่อยเดินทางต่อ.. เจ๊ที่ล่วงหน้าก็ตกใจในอาการของเรา..ถึงได้รู้ว่า เราจะเป็นลม(ครั้งแรกในชีวิต นะเนี่ยะ ..
อายอ่ะ ..หัวโจกอยากมา แต่ร่างกายไม่ไหวซะงั้น )
หลังกจากผ่านไปอีกหลายชม..กับการเดินและพัก..เดินและพักมาเรื่อย ๆ ในที่สุด เราก็มาเห็นน้ำตกเปรโต๊ะ จนได้.. น่าเสียดายจริง ๆ ที่น้ำน้อยแล้ว..แต่ก็ยังขอเก็บภาพไว้สักหน่อย..
วันแรกมาถึงแคมป์ประมาณ 5 โมงเย็นแล้ว..สตาฟและลูกหาบไม่รอช้า..จัดการตั้งแคมป์และก่อไฟหุงข้าว.. ส่วนพวกเรา หลังจากนั่งพักจนดีขึ้นหน่อยก็ขอไปอาบน้ำเย็น ๆ หน่อยเถอะ .. ท่องว่า น้ำตก ๆๆ ตั้งแต่ตอนขึ้นมาแล้วววว..
น้ำเย็น ๆๆๆๆๆๆๆ มากก .. แต่ก็สดชื่นมากกกกก.. เฮ้อ .. ห้องอาบน้ำ open air จริง ๆ เหมือนอาบน้ำแร่(เย็น ๆ ) เลย แช่น้ำจนพอใจก็เดินขึ้นมาเก็บของเพื่อรอทานข้าว.. ด้วยความเหนื่อยและหิว บวกกับฝีมือแม่ครัวมือเอก อาหารที่ส่งเข้ามาหมดเรียบไปในชั่วพริบตา.. หลังจากอิ่มหมีพีมัน ..พี่ชายเราก็งัด น้ำเต้าปูปลา ของเล่นประจำทุกทริปออกมา.. (ในป่าก็ไม่เว้น .. แต่งานนี้ตำรวจคงต้องปีนเขาเหนื่อยล่ะ กว่าจะมาจับถึง
) แต่สุดท้ายเจ้ามือกินเรียบ.. พี่ชายเราหมดตัวตามเคย..ย..
ส่วนเราขอตัวก่อนล่ะ ต้องรีบนอนตุนไว้ก่อนพรุ่งนี้ยังมีหนทางอีกยาวไกลรออยู่..
เช้าวันที่สองของการเดินทาง .. หลับ ๆ ตื่น ๆมา ตลอด .. สุดท้ายเลยตัดสินใจตื่น ก็ได้ .. ก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเก็บของ ..ออกมา อ้าว .. เค้านั่งกันเต็มไปหมดเลยแฮะ .. เลยไปล้างหน้า .. ล้างตา ..แล้วก็รีบวิ่งๆๆ ตามคนอื่นไปดูหน้าน้ำตก.. ส่วนเจ๊และพี่ชายเราขอรอที่แคมป์ ..งานนี้เลยมีแค่เราสามคน .. ฮ่า ๆๆ
น้ำตกถึงแม้จะน้ำน้อยก็ยังอลังการณ์และสวยงาม ทำเอาความเหนื่อยของเมื่อวานหายไปเป็นปลิดทิ้ง น้ำตกใหญ่ ตัดสีฟ้าจัดอันงดงาม .. เมืองไทยนี้สวยจริง ๆ ..
อาหารมื้อเช้า น่ากินมั้ยเอ่ย
เสร็จสิ้นก็เริ่มเดินทางต่อ ..วันนี้เราจะขึ้นดอย ชัน ๆ อีกครั้งเพื่อขึ้นไปดูดอยมะม่วงสามหมื่นกัน ระยะทางจะสั้นกว่าเมื่อวาน แต่ความชันนั้นมีมากกว่าแน่นอน .. .. น้ำเกลือแร่เลยถูกงัดขึ้นมาใช่ ใส่น้ำในขวด (ที่เก็บมาจากน้ำตก) เพื่อทดแทนเหงือที่สูญเสียไปเยอะ .. หลังจาก เพื่อนทริป พร้อม สตาฟ พร้อม ลูกหาบ ก็พร้อม ทุกคนก็เริ่มออกเดินทางอีกครั้ง.. แต่แค่เริ่มเดินก็แฮ่ก ๆๆ ๆ ๆ
ความเหนื่อยกลับมาอีกรอบ.. ทำไมเหนื่อยอย่างนี้ .. สงสัยตูชักจะแก่แล้วหรือเปล่า.. เดินมาได้สักพักก็นั่งรอคนนำทาง นั่งดูน้ำตกเปรโต๊ะอีกรอบ.. ก่อนทีจะโบกมือลา..(แล้วเราจะได้กลับมาอีกไหมหนอ )
วันนี้แทบจะไม่มีทางราบให้เดินเลย เส้นทางชัน ตลอดทาง.. แม้จะแค่ กิโลกว่า แต่ก็กินเวลาไปเกือบสามชม. สำหรับการเดินขึ้นมายังแคมป์ที่สอง แต่วิวสองข้างทางก็สวยสุดยอดเช่นกัน.. ทว่า.. วิวสวยแต่ทางเดินมันเล็กมาก..สมาธิเลยจดจ่อไปกับทางเดินหมด .. ขนาดตั้งใจเดินยังเกือบกลิ้งตกลงไปตั้งหลายรอบ..
ทางเดินระหว่างขึ้นเขา ..
ในที่สุดก็ถึงแคมป์สักที.. ลมเย็น ๆ ที่พัดเข้ามา หอบเอาความสดชื่นมาด้วย ทุกคนพักเหนือยกันสักพักแล้วก็เริ่มกางเตนท์ เพื่อเอาสัมภาระไปเก็บ งานนี้ช่วย ๆกัน .. เพราะคนกางให้ ยังเดินทางมาไม่ถึงเลย ฮา
แต่ก็สนุกดีนะ ..
เที่ยงนี้อิ่มท้องด้วยมาม่าชามใหญ่ ๆ ซึ่งแบ่งกันกินหลาย ๆ คน หลาย ๆ รส ก้อร่อยดี..นะ เร่งทานเพราะว่ายังต้องปีนเขาไปอีก.. แหงนหน้ามองขึ้นไป เขาลูกนี้เหรอที่เราต้องขึ้นไป ..
ไหน ๆ ก็ไหนแล้ว.. ขึ้นก็ขึ้น.. งานนี้เหลือเราสามคนตามเคย.. เจ๊กับพี่ชายเราขอเฝ้าแคมป์อีกแล้ว.. หลังจากเติม(น้ำตก) อีกรอบก็เตรียมขึ้นเขาอีกรอบ.. อากาศร้อนตามเคย.. บ่ายสองโมงครึ่งแดดดีทีเดียว.. คราวนี้ก็รั้งท้ายชาวบ้านตามเคย ..จากสามเหลือแค่สองพระหน่อ ..อีกหนึ่งหน่อด้วยความฟิต หนีไปกับกลุ่มแรก..หน็อย.. !! รักกันน่าดู เลย เพื่อนตู !!
แฮ่ก ๆๆๆ เหนื่อยอ่ะ .. ร้อนและหงุดหงิด ..เคยมีคนพูดว่า.. จะมาทำไมให้เหนื่อย ทั้ง ๆ ที่ราคานี้สามารถไปนอนรีสอร์ทได้สบาย ๆ เลย.. คำพูดเหล่านี้ร่วมผุดขึ้นมาอยู่ในหัวสมอง แต่ไม่ได้.. ต้องลบมันออกไป.. มาถึงแล้ว.. ถึงไหนถึงกัน..แวะถ่ายรูปให้สบายใจดีกว่า.. ลมเย็น ๆ ที่พัดมาเรื่อย ๆ ก็ทำให้ความรู้สึกดีขึ้น..
เดินไปถ่ายรูปไปได้สักพัก ..เย้ ๆ เริ่มตามเพื่อนกลุ่มหน้าทันแล้ว.. และเราก็ได้ยินเสียงเพื่อนอีกหนึ่งพระหน่อเรียก ณ จุดนี้นี่เอง..หน็อย .. ไม่ง้อก็มาถึงเหมือนกัน ..
วิวสองข้างทางสวยมากจริง ๆๆ เป็นทางเดินตรงกลางและทางลาดไปกับไหล่เขาสองข้าง.. ขุนเขาสลับกันไปกันมา.. หันมามองทางข้างหลังที่ผ่านมา ว๊าว .. สวยอ่ะ .. นาทีนั่นกล้องใครเป็นกล้องใครไม่รู้ .. แจมไปทุกกล้องเลย ..
พระอาทิตย์ก็ยังคงทำหน้าที่ต่อไป ..เราก็ยังตัองเดินต่อไป เดินสามก้าว ถ่ายสองรูป อีกสามก้าว ถ่ายอีกสามรูป เพราะไม่รู้ว่าจะได้กลับมาที่นี่อีกหรือไม่.. ถึงจะถ่ายยังไงก็คงไม่สวยเท่ากับที่เราได้เห็นกับตาแน่นอน..
หลังจากชมจนพอใจ.. เห็นเพื่อนคู่หนึ่งกำลังจะกลับ..เราสามคนด้วยความกลัวว่าจะลงเขาไปตอนค่ำ (เนื่องจากฝีเท้าดีจัด) เลยลงกันก่อนดีกว่า..ส่วนเพื่อน ๆ อีกกลุ่มขึ้นไปโน่นแล้ว.. งานนี้ขอไปเป็นกลุ่มแรกบ้างล่ะ(ขาลง
จะภูมิใจได้ไหมเนี่ยะ )
ถ้าใครบอกลงเขาง่ายกว่าขึ้นเขา เราคนหนึ่งล่ะจะเถียงสุดใจขาดดิ้นเลย.. ลงทางชันไม่ใช่งานง่ายเลย สงสารหัวเข่าตัวเองมากกกก.. แถมรองเท้าก็เกาะถนนดีมาก งานนี้ก้นหญ่ายๆๆ ของเราเลยได้ใช้งานซะเต็มที่เลย..
กว่าจะลากสังขารมาได้ก็ทุลักทุเลพอสมควรเพราะว่าขาแพลงเล็กน้อย.. อีกต่างหาก ..(สงสัยงานนี้ต้องกลับไปลดน้ำหนักเป็นการด่วน !! ) เจ๊ได้เตรียมผ้าชุบน้ำเย็นๆ ไว้ให้แล้วสำหรับเช็ดตัว วันนี้เราต้องซักแห้งกันหนึ่งคืนล่ะ .. เพราะว่าทางที่เดินไปอาบน้ำ ไม่แน่ใจว่าอาบกลับมาแล้วจะคุ้มกับที่เดินไปหรือเปล่า
แล้วก็มาช่วยพี่สตาฟเตรียมอาหาร (ด้วยการแอบชิมโน่นชิมนี่ไปเรื่อย ๆ ) อาหารตอนเย็นก็ยังอร่อยเหมอนเดิม กินดีกว่าอยู่ในเมืองอีก.. ลมเย็น ๆ เริ่มพัดมาแล้ว.ว..ว ทุกคนเริ่มทานข้าวกับแสงเทียน.. .. บรรยากาศดีจริง ๆ เลย ดาวน้อย ๆ ก็เริ่มมาอวดโฉมให้พวกเราได้เห็นกัน..หลังจากหนังท้องตึง..พี่ชายเราก็งัด..ของเล่นขึ้นมาอีกจนได้.. (ไม่เข็ด) และแล้วก็เสียอีกตามเคย ฮ่าๆๆ ..
แล้วก็แยกย้ายกันนอนตามแต่เตนท์ใครเต้นท์มัน แต่นอกเตนท์ก็ยังรวมกล่มกันอย่างเหนียวแน่น .. ทุกคนผลัดกันเล่าเรื่องโน้นเรื่องนี้.. เราแม้ไม่ได้เข้าไปฟังยังรู้หมดทุกเรื่อง กว่าทุกคนจะยอมกลับเข้าเตนท์ก็ปาไปเกือบห้าทุ่มครึ่ง..
เช้าวันใหม่หลังจากหลับ ๆ ตื่น ๆ มาสองรอบก็สว่างเสียที .. แล้วก็ตรงกับที่ตั้งใจจะดูทะเลสวยมั่กมากก.. ..
แล้วทุกคนก็ทานอาหารเช้าและเก็บสัมภาระเพื่อที่จะเดินทางกลับ.. ต้องเร่งทำเวลาเช่นกัน เพราะว่าขาลงยังต้องเสียเวลาอีก เกือบ 4 ชม..ซึ่งทางจะไม่ใช่ทางเดียวกันกับที่ผ่านมา..งานนนี้ก็ลงแบบชัน ๆ ตลอดทางเหมือนกัน..และในที่สุดเราก็มาถึงจุดเริ่มต้นจนได้..เย้ ๆๆ ..
สามวันสองคืนในป่าอุ้มผางผ่านไปเร็วมากเหลือเกิน ป่ายังคงบริสุทธิ์มากกก.. เพราะคนรู้จักยังไม่มาก.. แต่อีกหน่อยถ้าความสวยงามเหล่านี้ได้ประจักษ์กับผู้คนมากขึ้น..อีกหน่อยก็คงไม่เป็นอย่างนี้แล้ว..อย่าง ๆ น้อยก็อยากให้เก็บรักษากันไว้เพื่อที่จะได้เที่ยวกันได้อีกนานแสนนาน.. นะ..
Create Date : 29 ตุลาคม 2549
Last Update : 29 ตุลาคม 2549 22:09:03 น.
2 comments
Counter : 1025 Pageviews.
Share
Tweet
อู้ย...อยากไปเที่ยวด้วยจังเลย...
สวยจังนะคะ
โดย:
Zorakun
วันที่: 29 ตุลาคม 2549 เวลา:20:13:09 น.
โห ละเอียดจังครับ อยากดูรูปอีกเยอะ ๆ ครับ สวยมากครับ
โดย: DAN_KRAB (
DAN_KRAB
) วันที่: 29 ตุลาคม 2549 เวลา:20:13:24 น.
Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
รันเซ่จัง
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
anotherhand
Webmaster - BlogGang
[Add รันเซ่จัง's blog to your web]
http://wiblackangel.multiply.com
Bloggang.com
สวยจังนะคะ