Bloggang.com : wayoflife : ไปนมัสการรอยพระพุทธบาท ณ ยอดเขาคิชกูฎ จ.จันทบุรี มาจ้า

ไปนมัสการรอยพระพุทธบาท ณ ยอดเขาคิชกูฎ จ.จันทบุรี มาจ้า

hi….เพื่อนๆๆๆๆ
ช่วงนี้งานยุ่ง..เงินเดือนไม่พุ่ง ตามงานนะ อิอิ
ไปทำบุญที่เขาคิชกูฎมาค่ะ แม่อยากไป วัยรุ่นใจร้อน(ขนาดหนีไปเที่ยวเวียตนามมาเพิ่งจะกลับมาได้สักอาทิตย์หนึ่ง อยากจะไปอีกแล้ว ในเมื่อแม่อยากไป เราก็สนับสนุน แต่ว่า(แม่จ่ายค่ารถตู้ด้วยนะ ฮ่ะๆๆๆๆ ถ้าฟรีเราไป อิอิ) แม่โทรหาน้าๆ ก็นัดกำหนดวันที่จะไปกันคือ วันเสาร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2552 เอารถตู้ไปเพราะว่าถ้าเรารถไปกันเองคงจะเหนื่อยกัน แถมต้องเอาไป 2 คัน ฉะนั้น เหมารถตู้ไปสบายใจกว่า...การเดินทางในครั้งนี้รวมญาติๆ ได้ 10 คน เพราะว่าน้องๆ ติดธุระกันหมด
น้าเอารถตู้มารับที่บ้านตอนสิบโมงกว่าๆ แต่ว่าเราทำงานครึ่งวันก็ต้องรอเรากลับบ้านก่อนเราก็กลับบ้านประมาณ เกือบบ่าย (ขนาดหนีนายออกมาก่อนนะเนี้ยะ) พักเหนื่อย ทำธุระส่วนตัวเรียบร้อย ก็ออกเดินทางจากบ้านยายไปบ้านแม่ที่ชลบุรีอีกทีหนึ่ง ไปถึงบ้านแม่ได้ประมาณ บ่ายสองกว่า ๆ ก็หาข้าวกิน ปอบลง แบบว่า หิวๆๆๆๆๆ ยังไมได้กินไรเลยอิอิ แม่ก็กำลังเตรียมข้าวผัดกระเพราหมู+ไข่ดาว เอาไว้ไปกินกันระหว่างเดินทางกันหิว เราก็เลยเป็นหมูเอ๊ยหนูทดลองกินก่อน อร่อย ปลอดยาพิษ อิอิ
พอดีว่าน้องกะพ่อยังไม่มาต้องรอก่อน...สักพักน้องกะพ่อก็มาตอนนี้ก็ได้เวลาเดินทางแสวงบุญกันแล้ววววว.....ลุย...เอ...มันจะไปทำบุญหรือว่าออกรบหว่า...อิอิ

เราเริ่มออกเดินทางจากบ้านแม่ที่ชลบุรีเพี่อไปที่เขาคิชกูฎเวลา บ่ายสี่โมงกว่า ๆ เห็นจะได้ ระหว่างทางไปก็เม้าท์ๆๆๆๆ กับน้องๆ ที่นานๆ เจอกันที (น้องมันคงอยากจะนอน แต่ว่า อีคุณพี่อย่างอิชั้นคิดถึงน้องจะให้น้องๆ นอนได้ไง ต้องเม้าท์กับพี่ก่อน โฮะๆๆๆๆ) การเดินทางราบรื่นดี ยกเว้นหูของผู้ร่วมเดินทางเพราะว่า “มันคุยกันตลอดทางเลย” อิอิ

ถึงเขาคิชกูฏประมาณ 3 ทุ่ม ไปถึงคนก็เยอะนะ คิดว่านี้เยอะแล้ว ขากลับเยอะมากกว่าที่คิดเป็นพันเท่า หุหุ เห็นคนเยอะก็ทำใจไว้แล้วว่า ต้อง เบียดเสียด แออัดแน่นอน แถมอากาศวันนั้นก็ร้อนๆ นะ ไม่เคยมาเหมือนกัน เพิ่งจะมาครั้งแรก ยืนงง ๆ มึน ๆ คนเยอะจริงๆ แล้วต้องทำไงบ้างละเนี้ยะ พอดีพี่ที่เป็นคนขับรถตู้ก็เอา กระดาษแผ่นหนึ่ง ยื่นให้ ในนั้นบอกรายละเอียดเกี่ยวกับข้อปฏิบัติในการเดินทางขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาท ตามรายละเอียดด้านล่างนี้เลยค่ะ

แต่ว่าก่อนจะได้ขึ้นไป แม่กะน้องงอนกัน เพราะว่าน้องก็หวังดีรีบไปซื้อตั๋วรถสองแถวเพื่อที่จะขึ้นไปนมัสการพระพุทธบาทข้างบน เราก็เดินมาบอกแม่ว่าเค้าให้ไหว้ตรงนี้ก่อนตามจุดที่อยู่ในกระดาษก็ส่งให้แม่ดู น้องไปซื้อตั๋วรถกลับมา ก็บอกว่าให้ไปต่อคิวรถ (พี่ที่ออฟฟิศน้องเค้าบอกมาว่าต้องรีบไปซื้อตั๋วรถสองแถว) แต่ว่าจริงๆ แล้ว ก็ต้องรีบไปซื้อนั้นแหละถูกแล้ว แต่ว่าซื้อเสร็จแล้วไม่จำเป็นต้องต่อแถวรอ เรามาไหว้พระตามจุดที่เค้าบอกก่อนได้ แม่กะน้องก็เข้าใจผิด แม่ก็คงจะฉุนๆ ที่โทรไปแล้วน้องไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน ทั้งๆ ทีอยู่ใกล้ๆ กันนะแหละ แอบงอนกันซะงั้น จริงๆ ก็เจตนาดีด้วยกันทั้งคู่จะงอนกันทำไมไม่เข้าใจ เราก็เลยไปบอกว่าใจเย็นๆ มาทำบุญ เดินไปหาน้องที หาแม่ที ไกล่เกลี่ยไปมาไอ้เราจะพลอยโดนงอนไปด้วย หุหุ สุดท้าย ก็จบลงด้วยดี (เอาแม่กะน้องมานินทาถ้ามาอ่านนะโดนด่าเละโฮะๆๆๆ ไม่เป็นไรยอมรับกรรม ฮ่ะๆๆๆ) แล้วเราก็ไปไหว้พระตามจุดที่เค้ากำหนดกัน การขึ้นไปนมัสการรอยพระบาท ณ ยอดเขาคิชกูฎนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ถ้าเราเดินขึ้นจากด้านล่างจนถึงยอดละก็ น้องๆ ภูกระดึงเราดีๆ นี้เอง โหด มัน ฮา สุดๆ (ดีนะที่ขึ้นรถสองแถว) ขนาดขึ้นรถสองแถว ถ้าใครเป็นคนกลัวโค้งและเรื่องหวาดเสียวละก็ เราขอแนะนำให้ท่านนั่งด้านหน้ากับคนขับ เพราะ... เส้นทางสุดยอดๆๆๆ นี้ขนาดเราว่าตอนไปเค้าน่าจะพัฒนาถนนดีกว่าเดิมแน่นอน คนที่ไปสมัยก่อนนี้เชื่อได้เลยว่า “สุดยอด” ยิ่งคนที่เดินขี้นนะ ซูฮก เลยอะ นับถือ ๆ จริงๆ

กว่าจะขึ้นไปถึงยอดเขา ก็มีทั้งหมด สอง ด่าน ต้องซื้อตั๋วรถสองแถว 2 เที่ยวเฉพาะขาขึ้นนะ เที่ยวละ 50 บาท ถ้ารวมไปกลับก็ คนละ 200 บาทพอดิบพอดี อิอิ การขึ้นรถสองแถวขึ้นเขาคิชกูฎนั้น เป็นอะไรที่สนุกมาก เราชอบเหมือนนั่งรถไฟเหาะยังไงยังงั้นเลย อิอิ โค้งไปโค้งมารถก็สวนกันตลอดเวลา ไม่มีการแตะเบรกเพราะว่า “เซียน” ถ้าให้พวกพี่ๆ ที่ขับรถสองแถวขึ้นเขาคิชกูฎเนี้ยะไปแข่งในสนามแข่งรถนะรับรอง มิชะเอล ชูมักเกอร์ ก็ชูมักเกอร์เหอะ ชิดซ้ายไปเลย โฮะๆๆ

เพ้อเจ้ออีกแล้วคร้าบบพี่น้อง เข้าเรื่องต่อดีกว่า อิอิ หลังจากที่พวกเราโดยสารรถสองแถวขึ้นมาถึงด่านสุดท้าย ต่อไปนี้ต้องเดินเท้าเอาเองแระ แต่ว่าถ้าใครเดินไม่ไหว เค้ามีเสลียงแบกขึ้นนะ แต่ว่าไม่ได้ถามค่าบริการมาไม่รู้เค้าคิดเงินกันยังไง...เดินขึ้นเขาประมาณเกือบ 5 ทุ่มได้ เดินค่อยข้างไกล เดินไปเหนื่อยไปพักไป ผู้คนข้างกายมากมาย รับรองไม่มีเหงาแน่นอน....เดินขึ้นไปชั้นบนก็เริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เริ่มมีหมอก แปลกแฮะ มีหมอกด้วย เราก็คิดในใจ แต่ว่าไม่ยักกะหนาวนะ ร้อนมาก ๆ เป็นหมอกแบบร้อนๆ อะ สงสัยจะมีควันธูปปนอยู่ด้วย ยิ่งขึ่นสูงอากาศยิ่งน้อย หลานเราหายใจแทบไม่ออก ร้องไห้ใหญ่เลย แบบว่า เมื่อยด้วยเลยงอแง หลอกล่อ กันอยู่นาน กว่าจะไปต่อได้ จนในที่สุดเราก็ถึงจุดหมายปลายทาง คือตรงที่เป็น รอยพระบาท จะมีหินก้อนใหญ่ๆ อยู่หนึ่งก้อน เราจะถ่ายรูป ถ่ายไม่ได้เลย เพราะว่าเป็นตอนกลางคืน แสงก็ไม่พอ แถมตอนที่ไปหมอกจัดมากๆ ถ้าเป็นวิวตอนกลางวัน คนกลัวความสูงคงจะยืนไม่ได้แน่ๆ เพราะว่ามันสูงมาก ๆ นมัสการกันเสร็จเรียบร้อย ก็เดินลงมากันเรื่อยๆ ขาลงสบาย ๆ ไม่เหนื่อยมันตอนเดินขึ้น

ลงมาจากยอดเขา ก็มานั่งรถสองแถวต่ออีก 2 ต่อเหมือนขาขึ้น
ตรงต่อสุดท้าย มีเรื่องขำ ๆ หน่อย เราได้นั่งข้างหลัง รถกระบมันจะไม่มีหลังคาเป็นแค่ที่ให้นั่ง 2 แถว เราก็นั่งมากับน้องคนโต ตรงหน้าเราก็มีผู้ชายมากะแฟนและอาจจะเป็นญาติๆ เค้าทั้งคันนะแหละ ระหว่างทางที่รถวิ่งไปนั้น ผู้ชายคนตรงหน้าเราเนี้ยะ ก็จะตะโกนให้กำลังใจคนที่เดินขึ้นเขามาตลอด "สุดยอดมากเลยคร้าบ" "สู้ๆ นะครับ" "ใกล้จะถึงแล้ว"(จริงๆ มันอีกไกลมากๆๆๆๆๆ อะ) คนทั้งคันก็ขำ เค้านะ ฮาดี ตลกอะ พอใกล้จะถึงถนนด้านล่าง เราก็เลยแซวผู้ชายคนนั้นไปว่า"น่าจะบอกเค้าใหม่นะ ว่า"กลับไปขึ้นรถสองแถวยังทันน๊า"ซะมากกว่านะ) ซักพักพอเจอคนเดินขึ้นเขามา พี่แกพูดจริงๆ เล่นเอาฮากันทั้งคันเลย เออ ดี เชื่อฟังดีมากไอ้น้อง โฮะๆๆๆๆ

พอลงมาจนถึงด้านล่างสุด โห้ บอกได้คำเดียว่า คนเยอะยิ่งกว่าเยอะ เป็นแสน ๆ คนน่าจะได้ ถนนที่กว้างๆ แคบไปเลยอะ เวลาเดินต้องตะแคงเดินเอา สุดยอดจริงๆ “นักแสวงบุญแห่งเขาคิชกูฏ” ศรัทธาแรงกล้า .... สาธุ ๆ ๆ

ยังไม่จบคร้าบบบพี่น้อง หลังจากนั้นเราก็เดินทางกลับกันตอนตี 3 ครึ่ง หลังจากจัดการผัดกระเพรากันจนอิ่มแปร่...ก็ออกเดินทางไปพักที่คอนโดลุงแถวๆ หาดจอมเทียน ประมาณ ตี 5 เกือบๆ จะ 6 โมงเช้าแระ พอดีน้องชายเห่อกล้องใหม่ ก็ไม่ได้หลับได้นอน ชวนกันไปเดินชายหาดยามเช้า (ที่พี่สาวแต่ละคนเดินเยี่ยงซอมบี้ผีดิบฮ่ะๆๆๆๆ จะไปเป็นนางแบบให้น้องซะหน่อย)

ถ่ายรูปเล่นกันสักพัก น้องๆ ก็ขอขึ้นไปนอน พอดีน้าเดินลงมากะจะมาเล่นน้ำทะเลด้วย ก็เลยให้น้องๆ ขึ้นไปก่อน เราก็อยู่เล่นน้ำกะน้าไม่ได้เจอกันนาน ก็เลยนั่งอยู่ตรงหาดทราย คุยโน้นนี้นั้นกันตามประสาน้าหลาน ด้านหลังเราก็จะเป็นพวกที่เค้าให้เช่าเก้าอี้ผ้าใบตามริมหาด ก็มีคนเกลี่ยพื้นทรายปรับทัศนียภาพ กวาดขยะ ทำงานกันอย่างขะมักเขม่น โห้...ผู้ชายแมนๆ กล้ามโตๆ ทั้งน้านนน (ดู ๆ เหมือนมาเฟียยังไงยังงั้น หน้าโหด ๆ ทั้งน้านนน O.o’ )

เวลาผ่านไปได้สักระยะหนึ่ง ผู้ชายพวกนั้นก็จัดโต๊ะปูเตียงผ้าใบเสร็จเรียบร้อย เรากับน้าก็ไม่ได้สนใจหรอก นั่งคุยกันอยู่ที่เดิม แล้วก็เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกินขึ้น ผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเรา ลักษณะ ออกแนวโหด ๆ หน่อย ใส่กางเกงทหาร กับเสื้อกล้าม(หรือว่าไมได้ใส่เสื้อหว่า..) เดินเข้ามาหาเรากับน้า ณ ตอนนั้น เรากับน้าก็ยังไม่ได้สนใจอะไร(เม้าท์เพลินจนไม่สนใจสิ่งรอบข้าง อิอิ)
เค้าก็เดินมาแล้วก็พูดอะไรไม่รู้เราได้ยินไม่ถนัดก็หันไปมองตามเสียงนั้นไป
ผู้ชายคนนั้นก็พูดว่า “น้องๆ มานั่งทำไมตรงนี้ไม่นอนไปเลยละ”
เราก็งงซิ อ้าว ตายหละ นี้เรากับน้าไปนั่งเกะกะเค้าหรือเปล่าเนี้ยะ เพราะว่าเราหันไป เราเห็นว่าเรานั่งบังโต๊ะกับเตียงผ้าใบอยู่ ก็ตกใจนึกว่าไปขวางทางทำมาหากินเค้า ก็เลยพูดไปว่า “อ้าว ขอโทษทีค่ะ ขวางทางเหรอค่ะ เดี๋ยวจะไปนั่งตรงโน่นก็ได้ค่ะ” ไม่พูดเปล่า เรากับน้าก็จะลุกขึ้น แล้วชายคนนั้นก็พูดขึ้นว่า “เปล่าๆ พี่ไม่ได้ว่าอะไร น้องนั่งไปเหอะ แค่บอกว่า ทำไมไม่นอนไปเลยละจะได้กั้นน้ำทะลให้โต๊ะพี่ด้วยไง” (วันนั้นคลื่นแรงมาก ขนาดตรงที่เรานั่ง คิดว่าจะไม่โดนคลื่นแล้วนะคลื่นยังมาถึงเลยอะ)
เราก็องค์ลงเลย มาเฟียก็มาเฟียเหอะว่ะ หน่อยมาหาว่าเราเป็นเขื่อนกั้นน้ำ ตัวฉันก็เล็กนิดเดียวแค่ธิดาช้างเอง สวนทันควันเลย “เอ่อ!!! พี่ ไหง พูดแบบนี้อะ อยากมีเรื่องดิ อารมณ์ไม่ได้ดีเหมือนหน้าตาตลอดเวลานะพี่ รมณ์เสีย พูดมานี้มาต่อยกันเลยดีกว่า โห้...)
ผู้ชายคนนั้นและเพื่อนๆ บริเวณนั้นก็หัวเราะกันหมดเลย ......นึกในใจ “ยัง ยังจะมาหัวเราะอีก เดี๋ยวแม่จับกินให้หมดเลย รมณ์เสีย คนเค้าหุ่นออกจะดีจะให้ไปเป็นเขื่อน ยิ่งอดๆ นอนอยู่ เดี๋ยวแม่งับหูขาดกันหมดเลย” หันไปมองหน้าน้า คุณน้าก็ไม่ได้ช่วยอะไรคุณหลานเลย นั่งหัวเราะไปกับเค้าซะงั้น นี้สรุปฉันเป็นตลกคาเฟ่ไหนกันแน่เนี้ยะ เฮ้อ!!! ไม่เป็นไร ให้อภัย คนหน้าตาดีอย่างเรา ต้องให้อภัยเท่านั้นถึงจะเหมาะกะหน้าตา โฮะๆๆๆๆๆ

หลังจากแซวกันเรียบร้อย (กระโดดกัดหูทุกคนที่หัวเราะเลย) อิอิ พอดีแม่ลงมาจะเล่นน้ำด้วยคน เราก็ฟ้องแม่เลย แม่โมโหมาก ทำไมพวกนั้นถึงพูดน้อยจัง อ้าวซะงั้น ไหงเป็นไปกะเค้าหละแม่ แงๆๆๆๆๆ แม่ไม่รัก แงๆๆๆๆ ฮ่ะๆๆๆ
โมโหเลยกระโดดลงทะเลกลับถิ่นบ้านเกิดซะเลย อ้าว ไหงสุดท้ายกลายเป็นพะยูนไปได้ละเนี้ยะฉัน เฮ้อ !!!
สุดท้ายเราสามคน แม่ ฉัน และก็น้า ก็เล่นน้ำทะเลได้สักพัก ก็ขึ้นคอนโดและก็รวมพลกับพวกน้องๆ ที่ขึ้นไปนอนแล้วก็ไปหาข้าวเช้ากินกัน ออกเดินทางกลับบ้านใครบ้านมัน กลับถึงบ้านประมาณ บ่ายกว่า ๆ หลับเป็นตายยยยเลย ทริปนี้ก็สนุกดี ได้บุญ ได้นั่งมองทะเลแบบที่อยากมอง...(ยังไม่สะใจยังไงก็จะไปทะเลอีก)
แค่นี้แหละ จบข่าว เจอกันทริปหน้านะค่ะเพื่อนๆ

wayoflife
15.50 pm
3/03/2552

Create Date : 04 มีนาคม 2552

Last Update : 4 มีนาคม 2552 9:22:27 น.

31 comments

Counter : 1193 Pageviews.

ขอตามไปนมัสการรอยพระพุทธบาท ณ ยอดเขาคิชกูฎ ด้วยคนค่ะ

emo

โดย: iamorange

วันที่: 4 มีนาคม 2552 เวลา:7:49:30 น.

คนมากมายมหาศาลจริงๆเลยครับคุณเวย์

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 4 มีนาคม 2552 เวลา:7:58:05 น.

ตะเอง รูปซ้ายบนข้างหนุ่มอยู่อะ รูปตะเองเหรอ แวะไปดูหนุ่มยูบ้านเราดิ

โดย: Summer Flower

วันที่: 4 มีนาคม 2552 เวลา:8:46:31 น.

โดย: wbj

วันที่: 4 มีนาคม 2552 เวลา:11:10:57 น.

อ่านแล้วคิดถึงบ้านจังเลยเพื่อนเวย์

เพื่อนเวย์สบายดีเปล่าจ๊า^^

โดย: faa IP: 124.157.253.21 วันที่: 4 มีนาคม 2552 เวลา:11:30:20 น.

คุณเวย์ ...

อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ ... ดูสิ ไปทำบุญมาก็มีความสุข
กันถ้วนหน้าเลยอ่ะคะ แอบมีงอนระหว่างคุณแม่และ
คุณน้องเล็กๆ น้อยๆ ไม่เป็นไรคะ ที่ไหนๆ ครอบครัวไหนๆ
ก็มี .. ไม่ใกล้ไม่ไกลเรานี่ล่ะคะ

โดย: JewNid

วันที่: 5 มีนาคม 2552 เวลา:0:37:44 น.

เอาพลังชีวิตมาฝากก้าบ

โดย: พลังชีวิต

วันที่: 5 มีนาคม 2552 เวลา:10:37:14 น.

สวัสดีครับคุณเวย์

โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า

) วันที่: 5 มีนาคม 2552 เวลา:10:42:23 น.

หมิงหมิงท่าทางจะเจ้าชู้กว่าพ่อนะครับคุณเวย์

โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า

) วันที่: 5 มีนาคม 2552 เวลา:16:35:55 น.

สวัสดีค่ะคุณเวย์ อ่านแล้วก็อมยิ้มไปค่ะ เล่าได้น่ารักตลอด นึกว่าจะอ่านไม่จบก็อ่านจบไปละ 555 ยาวมากๆ

แต่ได้ไปทำบุญทั้งครอบครัวอย่างนี้ดีจริงๆ เลยค่ะ
ปิดเทอมนี้ป้าก็วางแผนไว้เหมือนกัน แต่ไม่รู้ว่าจะได้ไปกี่วัดนะคะ

ตอนนี้ป้าท้องได้เกือบๆ สี่เดือนแล้วค่ะ
ยังไม่รู้เพศเลยค่ะ ลูกคงอายจึงหนีบไว้ไม่ให้เห็นน่ะค่ะ

โดย: แป๋วภูเก็ต

วันที่: 5 มีนาคม 2552 เวลา:22:22:55 น.

สวัสดีครับคุณเวย์

โดย: กะก๋า (กะว่าก๋า

) วันที่: 6 มีนาคม 2552 เวลา:6:23:36 น.

แวะมาทักทายค่ะ น่าสนุกนะคะ แต้เกรงว่าบารมีจะไม่ถึง เห็นคนก็เริมท้อแล้ว

โดย: cha-porn

วันที่: 6 มีนาคม 2552 เวลา:13:14:29 น.

สวัสดียามเช้าครับคุณเวย์

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 7 มีนาคม 2552 เวลา:7:30:17 น.

รูปที่ผมถ่ายมาไม่ใช่ตอไม้หรอกครับคุณเวย์
เป็นทางเดินในสวนที่บ้านครับ อิอิอิ

โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า

) วันที่: 7 มีนาคม 2552 เวลา:14:44:45 น.

เพื่อนเวย์ เราเคยไปเขาคิชกูฏตอนเด็กๆแหละ ก็แบบว่าไม่กี่ปีมานี้เองหล่ะ เพราะตอนนี้เรายังเป็นวัยร่วง...เอ๊ย วัยรุ่น อยู่เลย อิอิอิ

เพื่อนรัก เราร้อนมาก ร้อนจนอยากจะเอาตัวไปแช่ช่องแช่แข็งแระ

กรี๊ดดดดดด

โดย: be-oct4 IP: 113.53.0.50 วันที่: 7 มีนาคม 2552 เวลา:16:39:30 น.

สวัสดียามเช้าครับพี่เวย์

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 8 มีนาคม 2552 เวลา:6:59:26 น.

โดย: be-oct4

วันที่: 8 มีนาคม 2552 เวลา:23:00:03 น.

สวัสดียามเช้าครับคุณเวย์

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 9 มีนาคม 2552 เวลา:7:57:04 น.

สวัสดียามเช้าครับคุณเวย์

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 10 มีนาคม 2552 เวลา:7:38:18 น.

สวัสดีเพื่อนเวย์มาชวนไปกินติมอะ..
ร้อนๆๆๆๆ
หลังไมล์ฝากเด็กๆด้วยนะ

โดย: yoja

วันที่: 10 มีนาคม 2552 เวลา:8:38:00 น.

มาตามไปเที่ยวครับ... เล่าสนุกมากๆ
ผสมเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเหมือนได้ตาม
ไปด้วยจริงๆ

อีโมขึ้นตัวเดียวนี่แหละ จู้จี้เลือกมาก
ไม่ได้ กร้ากกกก

โดย: หนูหล่อ (nulaw.m

) วันที่: 10 มีนาคม 2552 เวลา:15:27:01 น.

มาแร๊นเพื่อนรัก ไม่ได้เป็นอะไรจ๊ะ อาจจะร้อนมากไปหน่อย สงสัยเรากดอีโมผิดอ่ะเวย์จ๋า เราว่าเรากดแบบลั้นลาคิดถึงเพื่อน ไหง๋ออกเป็นแงะแหง่ขี้แงไปได้นี่

พ่อบูมาหาเราแร๊น เดี๋ยวเราอั่พเล่าให้ฟังนะเพื่อนเวย์

โดย: be-oct4 IP: 125.27.50.61 วันที่: 10 มีนาคม 2552 เวลา:17:38:52 น.