***การอ่านหนังสือ คือ การเปิดโลกทัศน์ให้กับตัวเอง*** Open Your Mind by Reading***
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2553
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
5 พฤศจิกายน 2553
 
All Blogs
 
สงครามชีวิตโอชิน

เมื่อครั้งที่ละครโทรท้ศน์ญี่ปุ่นชุดนี้ เผยแพร่ในประเทศไทยเป็นครั้งแรกทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 5 ฉันไม่มีโอกาสได้ดู รู้แต่ว่าใคร ๆ ก็พูดถึงแต่ละครเรื่องนี้ มาได้ดูเมื่อช่อง 3 นำมาออกอากาศช่วงบ่ายเมื่อสิบกว่าปีก่อน ทำงานออฟฟิศเล็ก ๆ เลยได้เปิดดู

ดูแล้วก็เสียน้ำตามากมาย โดยเฉพาะตอนที่โอชินสมัยเด็กถูกพ่อดุด่า แถมลงโทษเอาตามประสาพ่อลูก แต่ไม่ร้องไห้ออกมาสักแอะ ใบหน้านิ่งไม่แสดงความรู้สึกใด ๆ อย่างยอมรับชะตากรรมคล้ายพร้อมรับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างกล้าหาญ ทำให้คนดูที่เป็นผู้ใหญ่อย่างฉันร้องไห้ออกมาเสียเอง

ตอนนี้ ได้ดูทางช่อง 3 เหมือนเดิม แต่เป็นช่วงเย็น ก็ติดหนึบอีกนั่นแหละ เพราะลืมเลือนเหตุการณ์รายละเอียดปลีกย่อยไปแล้วเป็นส่วนใหญ่

เรื่องของโอชิน ทำให้ฉันคิดถึงแม่ แม่ฉันก็มีชีวิตที่ยากลำบากและชอบค้าขาย แต่แม่ฉันเป็นลูกกำพร้า ไม่มีความรู้ เขียนชื่อตัวเองไม่ได้ แม่ไม่เก่งเท่าโอชิน แต่หลายอย่างแม่มีเหมือนโอชิน ลำบากลำบนต้องต่อสู้ดิ้นรน ต้องไปรับจ้างทำงานบ้านหลายแห่ง เจอคนมาทุกรูปแบบ ทว่าแม่ฉันไม่ได้มีจิตใจเข้มแข็งเหมือนโอชินเท่านั้นเอง อาจมีรายละเอียดปลีกย่อยมากมายในชีวิตของแม่ ที่ทำให้แม่เป็นคนที่ดูเหมือนอ่อนแอ ทั้งที่ดิ้นรนสู้ชีวิตมาโดยตลอด

จนมาพบพ่อ ความเป็นอิสระของชีวิตก็สิ้นสุด และชีวิตคู่กับคนมีอายุวัยคราวพ่อที่ขาดวุฒิภาวะทางอารมณ์ สภาพครอบครัวพังภินท์ ทำให้สุขภาพจิตของแม่แตกสลาย และลามมาถึงสมาชิกทุกคนในบ้าน

แม่อาจมีชีวิตบางช่วงคล้ายโอชิน ไม่เก่งเท่าโอชิน แต่ฉันก็รักและนับถือในความเป็นคนอุตสาหะวิริยะและความเป็นคนซื่อตรงซื่อสัตย์ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ของแม่ (ซึ่งฉันไม่มีแม้เพียงเศษเสี้ยวที่แม่มี)

และฉันก็ชื่นชอบและชื่นชมผู้หญิงอย่างโอชิน โอชินทำให้ฉันคิดถึงแม่ ฉันเชื่อว่า หลายคนคงเป็นเช่นเดียวกับฉัน และหลายคนกำลังเป็นอย่างโอชิน

รายละเอียดต่อไปนี้ นำมาจากเว็บอื่นค่ะ

ละครญี่ปุ่น : สงครามชีวิตโอชิน
Japanese Drama : Oshin
นำเสนอทาง ไทยทีวีสีช่อง 3
วันที่ออกอากาศ จันทร์-ศุกร์
เวลาออกอากาศ 18.30 น.


นักแสดงนำ
Kobayashi Ayako
Tanaka Yuko
Otowa Nobuko


>> เรื่องย่อ
เรื่อง Oshin ครอบคลุมกินเวลายาวนาน ตั้งแต่ปี 1906 ซึ่งโอชินมีอายุหกขวบ และจบลงในปี 1983

เริ่มต้นเรื่องที่เหตุการณ์ในปัจจุบัน บรรดาสมาชิกตระกูลทาโนคุระกำลังจะเปิดห้างสรรพสินค้าสาขาที่ 17 แต่แล้วโอชินซึ่งเป็นผู้อาวุโสสูงสุดของครอบครัว กลับหลบหนีหายไปโดยไม่บอกกล่าว ถัดจากนั้นหลายชายบุญธรรมก็อาศัยไหวพริบ ออกติดตามจนพบตัวคุณย่า ทั้งสองจึงเดินทางตระเวนไปตามเมืองต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องผูกพันกับชีวิตของหญิงชรา พร้อม ๆ กับคำบอกเล่าถึงทุกข์สุขต่าง ๆ ย้อนหลัง

โอชินเกิดในครอบครัวชาวนาเช่าที่ดินทำกิน มีรายได้แทบเข้าขั้นติดลบ มิหนำซ้ำยังมีหลายปากท้องต้องเลี้ยงดู-กระทั่งต้องหุงข้าวปนหัวไช้เท้าทุก มื้อ-ก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ทุกคนได้อิ่มโดยทั่วถึง

เมื่ออายุ 7 ขวบ เธอต้องพลัดพรากจากบ้าน ถูกขายให้ไปทำงานเลี้ยงเด็กในร้านค้าไม้เป็นเวลาหนึ่งปี (แลกกับข้าวสารหนึ่งกระสอบ) ผ่านการตรากตรำกรำงานหนักเกือบครบตามสัญญา ก็มีเหตุให้หนูน้อยตัดสินใจหลบหนีกลับบ้านตามลำพัง เนื่องจากโกรธและน้อยใจที่โดนกล่าวหาว่าขโมยเงิน

โอชินเกือบพบจุดจบเมื่อล้มฟุบหมดสติท่ามกลางหิมะหนาวเหน็บ แต่ก็มีชายหนุ่มหนีทหารชื่อชุนซากุที่หลบซ่อนตัวอยู่ในละแวกนั้นช่วยชีวิต ไว้

เมื่อกลับคืนสู่บ้านเกิดและครอบครัวได้ไม่นาน ความอดอยากก็ส่งผลให้โอชินต้องประสบชะตากรรมเดิม ๆ ต้องออกไปทำงานกับครอบครัวร้านค้าข้าวสารในตำบลซาคาตะ แต่ครั้งนี้สถานการณ์พลิกผันเป็นบวก เมื่อคุณนายคุนิผู้มีเมตตาและเที่ยงธรรม คอยให้ความอุปการะช่วยเหลือ จนกระทั่งผ่านพ้นวัยเด็กอย่างมีความสุข

ย่างเข้าสู่วัยรุ่น โอชินอำลาจากครอบครัวนายจ้าง เพราะเกิดปัญหาหัวใจ (โอชินกับคาโยะหลานสาวของคุณนาย ซึ่งสนิทสนมกันเหมือนพี่น้อง ต่างตกหลุมรักชายหนุ่มชื่อโคตะ) เธอหวนกลับคืนสู่บ้านเกิด จากนั้นก็มุ่งหน้าไปเผชิญโชคผจญภัยในโตเกียว ได้พบรักแต่งงานกับลูกเศรษฐีชื่อริวโซ ท่ามกลางการคัดค้านไม่เห็นด้วยจากแม่ของฝ่ายชาย

หลังแต่งงาน โอชินต้องเอาชนะใจสมาชิกครอบครัวของสามี พร้อม ๆ กับกอบกู้ธุรกิจร้านขายผ้า ซึ่งกำลังประสบภาวะย่ำแย่ จนกระทั่งเหตุวิกฤติทุกอย่างเริ่มคลี่คลาย เธอคลอดลูกเป็นชาย กิจการที่ปรับเปลี่ยนมาเป็นตัดเย็บเสื้อผ้าเด็กกำลังก้าวหน้า ตระเตรียมเปิดโรงงานขนาดใหญ่ แต่แล้วทุกอย่างก็พังพินาศในชั่วพริบตา เมื่อเกิดแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของโตเกียว เมื่อเดือนกันยายน ปี 1923 (มีผู้เสียชีวิตราว ๆ สามแสนคน อีกประมาณสองล้านสูญเสียบ้านกลายเป็นผู้ไร้ที่อยู่อาศัย)

โอชินต้องโยกย้ายไปอยู่กับครอบครัวของสามี เผชิญความขัดแย้งระหว่างแม่ผัวกับลูกสะใภ้ และลงเอยด้วยการที่ลูกสาวเพิ่งคลอดเสียชีวิต

โอชินหนีไปตั้งต้นชีวิตใหม่เปิดร้านอาหาร จากนั้นก็โยกย้ายมาเป็นแม่ค้าขายปลาที่เมืองอิเสะ พลัดพรากกับสามีนานหลายปี กว่าจะมีโอกาสหวนคืนกลับมาเป็นครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตาดังเดิม

ทว่าผลพวงจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ทำให้ลูกชายที่ถูกเกณฑ์เป็นทหารเสียชีวิต สามีฆ่าตัวตาย ธุรกิจที่กำลังเติบโตพังทลายไปต่อหน้าต่อตา

โอชินเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ต่อสู้อย่างเด็ดเดี่ยวยาวนาน จากช่วงวัยกลางคนย่างสู่วัยชรา ผลักดันจนร้านขายปลาเล็ก ๆ กลายเป็นซูเปอร์มาเก็ตขนาดใหญ่ และค่อย ๆ ขยับขยายสาขาออกไปอีกหลายแห่ง พร้อม กับความเติบโตของบรรดาสมาชิกครอบครัว

เรื่องจบลงเมื่อตระกูลทาโนคุระในปี 1983 กำลังเผชิญกับหายนะครั้งสำคัญที่อาจส่งผลถึงขั้นล้มละลาย แต่ก็ทำให้ทุกคนได้รับบทเรียนถึงคุณค่าของความเป็นครอบครัว การยืนหยัดเคียงข้างในยามทุกข์ และจิตใจมุ่งมั่นไม่ยอมแพ้

เรื่องโดย นรา
แหล่งที่มา ผู้จัดการออนไลน์

รายชื่อตัวละครและนักแสดง

Oshin (อายุ 6 - 10 ปี) - Kobayashi Ayako
Oshin (อายุ 16 - 46ปี) - Tanaka Yuko
Oshin (อายุ 50- 84ปี) - Otowa Nobuko



ผู้เขียนเรื่องและบทโทรทัศน์ ฮาชิตะ ซุงาโกะ



ข้อมูลเพิ่มเติม

ชื่อภาษาญี่ปุ่น おしん
ชื่อภาษาอังกฤษ Oshin
ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ : NHK , ประเทศญี่ปุ่น
ออกอากาศ 4 เมษายน 1983 - 31 มีนาคม 1984
จำนวน 297 ตอน
เพลงไตเติ้ล "Oshin" Main Theme
โปรดิวเซอร์ Okamoto Yukiko
ผู้เขียนบท Hashida Sugako
ผู้กำกับ Eguchi Hiroyuki (ep1-6, 55-60), Kobayashi Heihachiro, Takemoto Minoru (ep13-18, 49-54, 127-132), Mochizuki Yoshio, Ichiryu Kunihisa, Yoshimura Fumitaka, Ebata Jiro, Oki Kazufumi
เพลงประกอบ Sakada Koichi
แนวซีรี่ส์ ดราม่า


จุดเด่น

ปี 1961 สถานีโทรทัศน์ NHK ได้เริ่มต้นเสนอละครชุดช่วงเช้า ที่เรียกขานกันว่า Asadora drama (ปัจจุบันออกอากาศทุกวันจันทร์ถึงเสาร์ตั้งแต่ 8.15 น.-8.30 น. และเวียนซ้ำอีกรอบในวันเดียวกันตอน 12.45 น.-13.00 น.) ประเดิมด้วยเรื่อง Musume to Watashi

4 เมษายน1983 ละครโทรทัศน์เรื่อง Oshin ซึ่งเป็น Asadora drama ลำดับที่ 31 ของ NHK ได้ออกอากาศวันแรก และจบลงโดยสมบูรณ์
เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 1984 จำนวนทั้งสิ้น 297 ตอน ความยาวตอนละ 15 นาที (รวมแล้วน่าจะประมาณ 75 ชั่วโมง)

ช่วงเวลาเกือบหนึ่งปีดังกล่าว กลายเป็นการสร้างประวัติศาสตร์-ปรากฎการณ์ครั้งสำคัญในวงการโทรทัศน์

Oshin ประสบความสำเร็จท่วมท้น ยอดจำนวนคนดูสูงลิ่วเป็นสามเท่าตัวของรายการปกติที่ได้รับความนิยม (เฉลี่ยโดยรวมตกราว ๆ 52.6% ของผู้ชมทั้งหมด และเฉพาะเพียงแค่ตอนเดียวที่ฮิตสุด เรตติ้งพุ่งทะยานถึง 62.9 %)

ความสำเร็จของ Oshin ยังคงเป็นสถิติสูงสุดของละครโทรทัศน์ในญี่ปุ่นมาจนถึงทุกวันนี้

นับจนถึงปัจจุบัน Oshin ออกอากาศไปแล้ว 59 ประเทศ รวมทั้งไทย ซึ่งมีเรตติ้งความนิยมสูงเป็นอันดับสองในบรรดาประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกที่นำละครชุดนี้ไปเผยแพร่ ส่วนอันดับหนึ่งคือ อิหร่าน และอันดับสามคือ อิรัก

หากจะกล่าวว่า Oshin เป็นที่ชื่นชอบประทับใจสูงสุดในประเทศแถบตะวันออกกลาง ก็ไม่ผิดจากความจริงนัก ยิ่งไปกว่านั้นตัวเอกของเรื่องคือ โอชิน ได้กลายเป็นวีรสตรีประจำใจของผู้หญิงอิสลามจำนวนไม่น้อย รวมทั้งเป็นตัวละครที่ผู้ชมทุกเพศทุกวัยจากทั่วโลกพากันหลงรัก

ความโด่งดังของละครโทรทัศน์ชุดนี้ ส่งผลให้เกิดปรากฎการณ์ที่เรียกกันว่า The Oshin Effects เช่น ที่เมืองยามางาตะบ้านเกิดของโอชินตามท้องเรื่อง (เมืองเดียวกับที่ปรากฎเป็นฉากหลังในหนัง Swing Girls) “ข้าวปั้นโอชิน” และ “เหล้าสาเกโอชิน” กลายเป็นของที่ระลึกอันมีชื่อเสียงโด่งดัง บริเวณท่าจอดเรือริมฝั่งแม่น้ำโมงามิ (บ้านเกิดของโอชินอยู่ตอนต้นแม่น้ำสายนี้) ซึ่งเคยมีชื่อเรียกกันว่า Basho Line ได้รับการขนานนามใหม่เป็น Oshin Line เรื่องราวของโอชินได้รับการนำไปเผยแพร่ต่อยอดในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งหนังการ์ตูน หนังสือการ์ตูน ละครเวที รวมทั้งในบทเพลง นักการเมืองหลายคน พูดถึงแนวความคิดทางเศรษฐกิจโดยอิงกับ “ปรัชญาวิธีคิดแบบโอชิน” รวมทั้ง “มาตรการประหยัดแบบโอชิน” (ซึ่งมีหลักการและรายละเอียดใกล้เคียงกับเศรษฐกิจแบบพอเพียง) นักกีฬาซูโม่ชื่อดังทากาโนซาโตะ ได้รับอิทธิพลแรงบันดาลใจถึงขั้นเปลี่ยนชื่อตนเองเสียใหม่เป็นโอชิน โยโกซุนา ฯลฯ

Oshin เป็นผลงานการเขียนเรื่องและบทละครโทรทัศน์ของฮาชิดะ ซุงาโกะ (ชื่อจริงอิวาซากิ ซุงาโกะ) ว่ากันว่า เธอสร้างตัวละครโอชินขึ้นมาโดยอิงจากประวัติชีวิตมารดาของคาซุโอะ วาดะ (นักธุรกิจผู้มีชื่อเสียง เจ้าของกิจการค้าปลีกและซูเปอร์มาเก็ต ที่มีสาขาแพร่หลายในญี่ปุ่นและเอเซีย ในนามของ “กลุ่มเยาฮัน”) และอีกส่วนหนึ่ง (ซึ่งยึดถือเป็นหลักในการลำดับเค้าโครงเรื่อง) มาจากการรวบรวมจดหมายนิรนามของผู้หญิงจำนวนมากในยุคเมอิจิ ซึ่งเขียนบอกเล่าถึงเรื่องราวในอดีตอันทุกข์รันทดที่ยากจะบรรยาย ก่อนจบชีวิตตนเอง

มีหลายเหตุผลที่ทำให้ Oshin เป็นละครโทรทัศน์ที่ “จับใจ” ผู้คน

อันดับแรกคือ ชั้นเชิงทางด้านการเขียนบท กำหนดวางบุคลิก ซึ่งทำให้ผู้ชมผูกพันเอาใจช่วยตัวละคร จากนั้นก็สร้างเหตุการณ์ผันผวนยอกย้อน “ดีสลับร้าย” ต่างๆ อยู่เป็นระยะ ๆ จนทำให้ละครชุดนี้ ดูสนุกเข้มข้นชวนติดตาม และสามารถสะกดตรึงไว้ได้ตั้งแต่ต้นจนจบ

ถัดมาคือ ละครชุด Oshin นำพาคนดูเข้าสู่การผจญภัยที่ล้วนแล้วแต่เป็นปัญหาสาหัสในชีวิต และประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม ด้วยการปลุกปลอบสร้างกำลังใจ ทำให้ผู้ชมรู้สึกว่าเรื่องทุกข์อุปสรรคทั้งหลายของตนเป็นเพียงเหตุการณ์เล็ก น้อย เมื่อเทียบกับชะตาโดยรวมของตัวละคร

ฝีมือการเขียนบทของฮาชิดะ ซุงาโกะแยบยลตรงนี้เอง กล่าวคือ แท้จริงแล้วชีวิตของโอชินไม่ได้เลวร้ายย่ำแย่ไปเสียทั้งหมด มีด้านบวกด้านลบทุกข์สุขปะปนอยู่ใกล้เคียงกัน และแทรกสลับไปมาอยู่ตลอดเวลา เพียงแต่โดยกลวิธีการนำเสนอ มักเลือกเน้นรายละเอียดในช่วงยากลำบากของตัวละครอย่างถี่ถ้วน และบอกเล่าช่วงที่มีความสุขให้รวบรัดตัดข้ามผ่านไปโดยเร็ว

น้ำหนักอารมณ์ของเรื่องของ Oshin จึงโน้มเอียงมาทางโศกสะเทือนอารมณ์อย่างเด่นชัด (และใช้ช่วงที่ตัวละครมีความสุขเพื่อผ่อนหนักให้เป็นเบา)

ความน่าสนใจอีกประการได้แก่ การเล่าเรื่องที่กินเวลายาวนาน ส่งผลให้ Oshin สะท้อนรายละเอียดต่าง ๆ ที่มีคุณค่าเอาไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ สังคม การเมือง เศรษฐกิจ รายละเอียดเกี่ยวกับขนบธรรมเนียมประเพณ๊ ตลอดจนสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน (Oshin แสดงให้เห็นจุดเปลี่ยนของญี่ปุ่น จากประเทศที่ยากไร้ขาดแคลน บทบาทของทหารที่ขึ้นมามีอำนาจครอบงำสังคม กระทั่งเป็นชนวนให้เข้าสู่สงครามกับรัสเซีย และจีน ปิดท้ายด้วยสงครามโลกครั้งที่ 2 กระทั่งกลายเป็นผู้แพ้ ถูกอเมริกายึดครอง และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นฟูครั้งใหญ่ จนเติบโตก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ)

อย่างไรก็ตาม แง่มุมที่ลึกซึ้งกินใจมากสุดใน Oshin คือ แก่นเรื่องที่แสดงผ่านบุคลิกของโอชิน ซึ่งประกอบไปด้วยจิตใจมุ่งมั่นไม่ยอมแพ้ ไม่เกรงกลัวความล้มเหลว (โอชินเชื่อว่า ไม่ว่าจะเสียหายพังพินาศเพียงไร ทุกสิ่งสามารถเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ) การก้าวเติบโตไปข้างหน้า ๆ อย่างช้า ๆ แต่มั่นคง การแสวงหาความสุขจากความสงบ สมถะ และสันโดษในชีวิต

ที่สำคัญคือ ตลอดทั้งเรื่อง Oshin ได้สรุปตอกย้ำให้เห็นอยู่บ่อยครั้งว่า ความสุขในชีวิตเป็นสิ่งที่เราจะต้องเสาะหาให้พบ ในท่ามกลางความทุกข์ยาก อันเป็นเหตุการณ์ส่วนใหญ่แกนหลัก

มีฉากเรียกน้ำตาใน Oshin อยู่มากมาย แต่มันไม่ได้เกิดจากบริเวณเรื่องเศร้าสลดหดหู่หม่นหมอง ตรงกันข้าม เกือบทุกครั้งที่ผู้ชมเสียน้ำตา ส่วนใหญ่มักจะมาจากฉากหยิบยื่นแสดงน้ำใจทำความดีต่อกันระหว่างตัวละคร

เรื่องโดย นรา
แหล่งที่มา ผู้จัดการออนไลน์

//jkdramas.com/jdramas/09/Oshin/index.htm




Create Date : 05 พฤศจิกายน 2553
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2553 20:22:25 น. 10 comments
Counter : 3870 Pageviews.

 
ขอบคุณสำหรับสิ่งดี ๆ ค่ะ


โดย: อ.กรร IP: 10.31.2.17, 113.53.17.23 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2553 เวลา:13:40:04 น.  

 


โดย: ฟ้าสางที่ปางสวรรค์ วันที่: 5 พฤศจิกายน 2553 เวลา:15:45:54 น.  

 
ด้วยความยินดีค่ะ


โดย: wanalee วันที่: 5 พฤศจิกายน 2553 เวลา:16:49:59 น.  

 
สมัยก่อนก็ดูมาแล้วรอบนึงตอนนี้ยังติดเหมือนเดิม
ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรทุกรอบ
ยอมรับว่าเขียนบทดีมากดึงอารมณ์คนดูไว้กับเรื่องได้ตลอด
ดาราก็ระดับมืออาชีพ ผู้สร้างใส่ใจรายละเอียดปลีกย่อยจนแทบหาที่ติดไม่ได้เลย

เมื่อไหร่บ้านเราทำได้ระดับนี้บ้างน้อ เฮ้อไม่อยากเปรียบเทียบหรอก
แต่มันก็อดสะท้อนใจไม่ได้ เปิดทีไรเจอแต่เสียงกรีดร้อง ไล่ตบตีแย่งผู้ชาย ยิงกันฆ่ากัน
ผู้ชมห้ามวิจารณ์ออกความเห็นในแง่ลบเด็ดขาด ต้องชมอย่างเดียว
ไม่งั้นสาวกและแฟนคลับจะตามจิกกัดจนแทบต้องหนีออกนอกประเทศ


โดย: รู้ว่าเศร้ายังเฝ้าดู IP: 90.224.229.15 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2553 เวลา:17:12:04 น.  

 
ขอบคุณนะคะ ที่เข้ามาร่วมพูดคุย

เห็นด้วยกับคุณ "รู้ว่าเศร้ายังเฝ้าดู" ทุกประการค่ะ ดูแล้วอิน คนเขียนบทเก่งมากเลยค่ะ ที่ทำให้เนื้อเรื่องเดินไปกระชับ ไม่น่าเบื่อ

เท่าที่ดู ซีรีย์ญี่ปุ่นมักละเมียดละไม ให้สาระข้อคิดแก่ชีวิตที่ลึกซึ้งกินใจมาก ไม่ว่าจะเป็นแนวไหน

ส่วนของบ้านเรา ได้แต่หวังว่าสักวันคงเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น


โดย: wanalee วันที่: 5 พฤศจิกายน 2553 เวลา:20:18:56 น.  

 
แนะนำเว็บดูหนังซีรีย์เกาหลีฟรี


โดย: koreaserie (loveyoupantip ) วันที่: 6 สิงหาคม 2554 เวลา:6:32:06 น.  

 
ชอบมาเลยค่าชอบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ


โดย: นนนนนนนนน IP: 61.19.66.215 วันที่: 5 กันยายน 2554 เวลา:18:08:38 น.  

 
ชอบเเต่เศ้าไปหน่อย


โดย: นา IP: 61.19.66.215 วันที่: 5 กันยายน 2554 เวลา:18:10:00 น.  

 
ชอบบบบบบบบ............................++++


โดย: งงงงงง IP: 61.19.66.215 วันที่: 5 กันยายน 2554 เวลา:18:10:50 น.  

 
ดูแล้วอิน คนเขียนบทเก่งมากเลยค่ะ ที่ทำให้เนื้อเรื่องเดินไปกระชับ ไม่น่าเบื่อ

เท่าที่ดู ซีรีย์ญี่ปุ่นมักละเมียดละไม ให้สาระข้อคิดแก่ชีวิตที่ลึกซึ้งกินใจมาก ไม่ว่าจะเป็นแนวไหน

น่าจะมีหนังแบบนี้อีกนะคะ


โดย: งง IP: 61.19.66.215 วันที่: 5 กันยายน 2554 เวลา:18:12:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

wanalee
Location :
ระยอง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




คนธรรมดาที่กำลังพยายามละกิเลส เพื่อลดความอยากและไม่อยากให้มากที่สุด (ยากนะ แต่จะพยายาม)
New Comments
Friends' blogs
[Add wanalee's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.