เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด ภาคหนึ่ง สองดาวรุ่งแห่งยุค(นั้น) รอย คีน แข้งโหด และ ไนเจล คลัฟฟ์ เจ้ากรรไกรน้อย หนึ่งหนุ่ม ดุดัน หนึ่งหนุ่ม พรสวรรค์ เมื่อทั้งคู่จะต้องแยกทางกัน เมื่อสำนักเจ้าป่า ต้องล่มสลาย ไนเจล ผู้มีฐานะเป็นบุตรชายของเจ้าสำนักเจ้าป่า เลือกที่จะเข้าร่วมกับพลพรรคปักษาแดง อันยิ่งใหญ่ ด้วยหมายจะสืบทอดเป็นจอมยุทธหมายเลขเจ็ดตามตำนานต่อไป ส่วนหนุ่มน้อยรอย คีน ปฎิเสธที่จะเป็น รอย แห่งโรเวอร์ ยอดทีมมหาเศรษฐีในยุคนั้น และหันหน้าเข้าเป็นลูกศิษย์ปรามาจารย์ เฟอร์ แทน ความสำเร็จของทั้งคู่ เมื่อเทียบกันแล้ว เจ้ารอยนั้น ได้เลื่อนชั้นจนเป็นหัวหน้าคณะประจำสำนัก และได้ชูถ้วยมากมาย แต่ไนเจลนั้น อยู่กับทีมได้เพียงไม่กี่ฝน ก็จำต้องระเห็จออกจากสำนักและพเนจรไปทั่วยุทธจักร ปัจจุบัน ทั้งสองทำงานในบทบาทของเจ้าสำนัก โดยในระดับของเดอะแชมเปี้ยนชิพนั้น รอยสอบเลื่อนชั้นได้แล้ว แม้จะสอบเกือบตกในระดับพรีเมียร์ก็ตาม จนเจ้าตัวขอลาออก(เพื่อไปศึกษาต่อ) ส่วนไนเจล กำลังเร่งทำคะแนนเพื่อให้อยู่รอดในดิวิชั่นอยู่ ในปัจจุบัน ภาคสอง เมื่อสำนักกุหลาบขาว ต้องล่มสลายลง ชะตากรรมของเพื่อนพ้องสองคน หนึ่งหนุ่มดุดัน หนึ่งหนุ่มพรสวรรค์ (เอ๊ะ เค้าเรื่องเดิมเลยนี่หว่า) ต้องแยกย้ายกันทั้งสองหันหน้าออกคนละทาง และต้องกลับมาพบกันอีกครั้งในฐานะ คู่ปรับ อลัน หนุ่มน้อยขาโหด ผู้เกลียดชังเหล่าปีศาจ เลือกที่จะกลืนน้ำลายตัวเอง ด้วยตะหนักว่า ถึงแม้ตนจะเกลียดสำนักนี้สักเพียงใด แต่อาจารย์เฟอร์ เจ้าสำนักก็นิยมชมชอบตนอยู่ไม่น้อย จึงเลือกที่จะเดินเข้าสู่สำนักปีศาจ ส่วนพ่อมดน้อยแฮรี่ ณ จิงโจ้ เลือกที่จะเป็นผู้สืบทอดตำนานจอมยุทธหมายเลขเจ็ด ที่พลพรรคปักษาแดง ตามหามาแสนนานด้วยความหวังอันเรืองรอง แต่อนิจจา ทั้งคู่ต่างต้องเผชิญกับมรสุมชีวิต ในสำนักของตน อลันน้อยขาโหด ต้องเปลี่ยนจากหัวหมู่ทะลวงฟัน ไปเรียนเคล็ดวิชาสกัดจุด เพื่อไล่สกัดจุดศัตรูจนตนเองเคล็ดขัดยอกนิดหน่อยแค่ขาหัก สุดท้าย ไม่อาจพิสูจน์ตนเองได้ และต้องออกจากสำนักพร้อมตำแหน่งแชมป์ระดับประเทศทุกสถาบัน โดยมีเพื่อนศิษย์เก่าสำนักกุหลาบขาวอย่าง ริโอมายืนส่งหน้าประตูสำนัก เพื่อมุ่งหน้าไปเป็นจอมสกัดจุด(อีกแล้ว.) ณ สำนักสาลิกา และชีวิตปัจจุบันก็ยังลุ่ม ๆ ดอน ๆ อยู่ ส่วนพ่อมดน้อยนั้น เกิดคาถาเสื่อมกะทันหัน วิชาที่มีติดตัวมาเจอกับอาถรรพ์หมายเลขเจ็ดเข้า ก็ไปไม่เป็น หันหน้าเข้าปรึกษาคุณหมอที่โรงพยาบาลก็บ่อย สุดท้ายก็ต้องออกจากสำนักไปพร้อมกับหนังสือรับรองแชมป์เอฟเอคัพและแชมป์ ยุโรปสมัยที่ 5 ของสำนักปักษาแดง มุ่งหน้าเข้าสู่ดินแดนไก่..งวง ที่กา..ลาตาซาลาย เพื่อรักษาคอนเซ็ปความเป็นปีกต่อไป ภาคสาม จากดินแดนอันไกลโพ้น เพื่อนสองคนแอบขึ้นเรือโดยสารมา ด้วยหวังจะหาอนาคตยังฝั่งยุโรป ทั้งคู่เลือกที่จะมุ่งหน้าสู่ดินแดนเมืองผู้ดี ผ่านเอเย่นต์รับสมัครงาน โดยไม่รู้เลยว่า จะสร้างความปวดหัวให้กับตนเท่าใดในอนาคต เทเวศร์และ มาด เริ่มทดลองงานกับ บริษัท เวสต์แฮม จำกัด ได้ระยะหนึ่ง ก็ถูกบริษัทเฮดฮันเตอร์มาแอบดู และมาดได้รับการติดต่อเข้าทำงาน ในตำแหน่ง ประชาสัมพันธ์ตัวรับ และได้เริ่มงานด้วยความมั่นคงกินเงินเดือนดี กับบริษัท หงส์เหิร จำกัด และล่าสุดท่านดีโก้ ณ อ้วนเตี้ย ผู้บัญชาการกองกำลังฟ้าขาว ได้ทำการประดับยศหัวหน้าหมู่ฟ้าขาว เพื่อเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูลเจ้ามาดต่อไป จึงเรียนมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน ส่วน เทเวศร์ หลังจากต้องแบกภาระฝ่ายผลิตประตู ให้กับบริษัท จะบริษัทสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้แล้ว ก็มีบริษัทผี ติดต่อไปทำงาน ด้วยความที่ติดต่อผ่านบริษัทรับสมัครงานมา จึงทำให้การย้ายบริษัท เต็มไปด้วยความยุ่งยาก จึงทำเรื่องยืมไปช่วยราชการแทนการย้ายบริษัท และไปทำงานฝ่ายผลิตประตูให้กับ บริษัท อสูรแดง จำกัด และที่นี่ เทเวศร์ได้ผลิต ประตูสำคัญ ๆ ให้บริษัทมากมาย จนบริษัทได้รับเลือกเป็นบริษัทดีเด่นระดับประเทศ ระดับทวีป และระดับโลกในปีที่ผ่านมา ( แต่อนิจจา ผลของการเข้ามาทำงานโดยบริษัทจัดหางาน กลับทำให้ บริษัทเวสต์แฮม ต้องเผชิญกับคดีความในปัจจุบัน) ไฮไลท์ของเรื่อง เมื่อเทเวศร์ กับ มาด ต้องกลับพบกัน ในนามของบริษัท มาดทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ตัวรับ โดยเข้าไปพรีเซ็นท์ เรื่องของคนอื่น จนทำให้ต้องถูก พักงานไป ตามหนังสือที่ เหลืองแดง 3-0 ลงนามโดยท่านสตีฟ เบนเน็ตต์ กรรมการตุลาการ ภาคสี่ (เพิ่งถ่ายทำเสร็จ) สองคู่ดูโอ ชื่อดังแห่งเมืองหลวง ประกาศเลิกวง เดอะชิกเกนท์ ออกไปแสวงหาความท้าทายในภาคอีสานโดยหวังว่า จะโด่งดังไม่แพ้เสียงอิสาน ทั้งคู่ต่างมีประสบการณ์จากต่างประเทศ โดย ต๊อป เคยเป็นนักร้องนำวงขายยา ที่เยอรมัน ส่วน ขิ่น เคยไปหากินที่อิตาลีช่วงสั้น ๆ กับวงระดับ อินเตอร์ มาแล้ว ทั้งคู่สร้างผลงานได้อย่างโดดเด่นและทำให้ เดอะชิกเกนท์ รับรางวัล ในระดับประเทศ แม้จะเป็นรางวัลที่ เล็กที่สุดก็ตาม (และปีนี้ เดอะชิกเกนท์ ก็ได้มีโอกาสเข้าชิงรางวัลนี้อีกปี เป็นปีที่สองติดต่อกัน) ขิ่น ได้งานก่อนที่ผับแอนฟิลล์ กับวง เดอะ ลิเวอร์เบิร์ด ที่นี่เขาได้เป็นตัวลีดด์ ฉายากีตาร์สาย 7 ซี่งเป็นตำนานที่หากันมานาน (อีกแล้ว) และเริ่มเล่นกับวงตั้งแต่เปิดฤดูกาล ขิ่นรอวันที่จะได้ประชันวงกับต๊อปเพื่อนเกลอเก่าด้วยใจระทึก ต๊อป ได้รับการจับตาเมื่อเข้าเป็นสมาชิกของวง เดอะ เดวิล ที่มีโด่งดังในปัจจุบัน มีแฟน ๆ มากมาย ท่ามกลางความสับสน อลหม่าน เข้าขั้นชิงตัวประกัน นาทีต่อนาที ที่นี่เขาคิดว่ามันเหมาะกับเขาเพราะเขาคือ ศิลปิน เขาได้รับการเปรียบเทียบว่าเป็นตัวแทนของ อีริค หัวหน้าวงในอดีต แต่เขาคิดว่ามันไม่สำคัญเท่าเขาได้เล่นกับวงชั้นนำ น้าซาร์ มือกลองที่เหนียวแน่น ตีไม่หลุดมานานแล้ว มือเบสจอมดุดัน อย่างบ่าววี ทีมเพอร์คัสชั่นหลายคนรวมถึงเจ้าเด็กเมื่อวานซืนอย่าง ราฟาเอล เบเน..เอ๊ย เดอ ซิลวา สั่งตรงจากบราซิลดินแดนแซมบ้า พวกริทึ่มที่คุมจังหวะมั่นคงอย่าง เจ้าเจี๊ยบ รวมถึงมือกีตาร์ขี้แอ๊คอย่างเจ้าโด้ ก็ยังเรียกเสียงกรี๊ดได้ไม่น้อย ต๊อปเริ่มทำผลงานได้ ดีขึ้น ๆ ตามลำดับและวงได้ก้าวขึ้นสู่ท๊อปชาร์ต อันดับเพลงยอดนิยมในปัจจุบันนี้ สายลมที่พัดผ่านอย่างแผ่วเบา ก็ยังทำให้ภูเขาต้องกัดกร่อน กีตาร์ของขิ่นเริ่มเพี้ยน ตั้งสายไม่ตรงกับเพื่อน จังหวะเริ่มคร่อม วงเริ่มเล่นได้ไม่ดีเหมือนเดิม เฮียหนวดผู้จัดการวง เริ่มมองหาจุดที่ต้องแก้ไข เขามองไปที่ผู้มาใหม่อย่างขิ่น และบอกกับขิ่นว่า แบะ ๆ ๆ ๆๆๆๆ ซึ่งเป็นภาษาที่ขิ่นเข้าใจ รถไฟเที่ยวสุดท้ายมุ่งสู่เมืองหลวง บ้านเกิด ขิ่นมองดูป้ายโฆษณา น้ำมันปลูกผม ที่ต๊อปเป็นพรีเซ็นเตอร์ วันที่จะได้เจอกัน มันไม่มีแล้วเพื่อน...มันช่างเจ็บปวดหัวใจเขายิ่งนัก “กลับบ้านเรา รักรออยู่...” เสียงเพลงจากวิทยุดังแว่วมา ขิ่นปาดน้ำตาก้าวขึ้นรถไฟมุ่งสู่บ้านเกิด วงเก่าอย่างเดอะ ชิกเกนท์ ...ด้วยความหวังอันแรงกล้าที่จะทำอันดับวงให้อยู่ในชาร์ตให้ได้ สู้เขานะ ขิ่น .... วจีวิจารณ์ - 10 ก.พ. 52 Create Date : 31 สิงหาคม 2552 Last Update : 31 สิงหาคม 2552 10:23:56 น. 0 comments Counter : 375 Pageviews. Share Tweet ชื่อ : Comment :   *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก