BlogGang.com : : sirivinit : พระองค์หญิงสิริวัณณวรีฯ ทรงถ่ายทอดตัวตนผ่านงานศิลป์

พระองค์หญิงสิริวัณณวรีฯ ทรงถ่ายทอดตัวตนผ่านงานศิลป์

พระองค์หญิงสิริวัณณวรีฯ ทรงถ่ายทอดตัวตนผ่านงานศิลป์
รายงานโดย :วราภรณ์ ผูกพันธ์: วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2552
โพสต์ ทูเดย์ - ไลฟ์สไตล์

ด้วยพระราชดำรัสของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ที่ทรงแนะให้พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ รวบรวมผลงานศิลปะออกจัดนิทรรศการ

จึงทำให้เกิด “สิ่งที่คิด สิ่งที่เห็น” นิทรรศการแสดงภาพฝีพระหัตถ์อันสะท้อนความคิด ตัวตน อารมณ์ และโลกในมุมมองของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ขึ้นมา

ผลงานศิลปะส่วนพระองค์ชุดนี้จัดแสดง ณ ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) ชั้น 6 ห้างสรรพสินค้า ดิ เอ็มโพเรียม ช็อปปิ้ง คอมเพล็กซ์ โดย “ทูลกระหม่อมพ่อ” สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ไปทรงเปิดนิทรรศการครั้งนี้เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

ภาพวาดทั้ง 270 ชิ้น เป็นผลงานที่พระองค์หญิงทรงสร้างสรรค์ไว้นับตั้งแต่ครั้งยังทรงพระเยาว์ ทรงเริ่มต้นจากการทดลองวาดลายเส้น เรื่อยมาถึงภาพสะท้อนแนวคิดต่อเหตุการณ์รอบพระองค์ ก่อนจะนำมาจัดแสดง

เป็นนิทรรศการที่แบ่งออกเป็น 5 ส่วน 5 ห้อง คือ ค้นหา, มายา, ตั้งต้น, อิสรภาพ และเจ็บปวดกับศรัทธา

วัดกันที่ผลงาน

พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ประทานสัมภาษณ์ถึง นิทรรศการครั้งนี้บ่งบอกความเป็นตัวตนว่า อะไรทำให้พระองค์ทรงเกิดมาเป็นนักออกแบบ ทรงขอโอกาสในการทำงาน และทรงขอวัดกันที่ผลงานดีกว่า

พระองค์หญิงรับสั่งว่า ทรงเริ่มค้นหาพระองค์เองมาตั้งแต่เล็กๆ ด้วยการเริ่มขีดๆ เขียนๆ แต่ขณะนั้นยังไม่ชอบงานศิลปะมากนัก

“ที่ห้องตั้งต้นจะเป็นบรรยากาศชีวิตตอนเด็กๆ เราก็เริ่มขีดๆ เขียนๆ อาร์ติสต์ทุกคนต้องเกิดอะไรมาก่อนในชีวิต แล้วก็ค่อยๆ เริ่มพัฒนา ผลงานชิ้นแรกๆ ไม่สวยเลย ทิ้งไปเรียบร้อยแล้ว

เราเริ่มต้นมาจากการเป็นอาร์ติสต์ก่อน หลังจากนั้นจึงเริ่มปรับอารมณ์สู่ภาพแห่งปรัชญาแนวความคิดมาเรื่อยๆ รวมถึงประสบการณ์ชีวิต ซึ่งอาจจะมีบางคนไม่เคยรู้มาก่อน บางคนที่ได้เห็นภาพบอกว่า เรามีอารมณ์ที่หลากหลายมาก จากนั้นก็มีการพัฒนาอารมณ์ในหลากหลายช่วงเวลา มีอะไรเข้ามาในชีวิต อาจจะได้เห็นงานของฝรั่งบ้าง ก็เก็บเกี่ยวประสบการณ์มาเรื่อยๆ”

กับนิทรรศการแสดงภาพฝีพระหัตถ์ครั้งนี้ พระองค์หญิงรับสั่งว่า มิได้ทรงคาดหวังอะไรจากผู้ชม หวังอย่างเดียวว่า ทุกคนสามารถติชมและชื่นชมกับผลงานได้

“เราไม่ต้องการคำชม แต่ต้องการคนให้โอกาสเราทำงาน แล้ววัดกันที่ผลงานตรงนั้นดีกว่า เราหวังอยากให้คนที่ได้มาดูเข้าใจในห้องนั้นๆ อาจจะเข้ามาดูหลายๆ รอบก็ได้ แต่ละห้องแต่ละภาพจะเข้าใจง่ายไม่ต้องตีความ เพราะจะมีตัวหนังสือกำกับไว้ ทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ”

สำหรับที่มาของการจัดนิทรรศการรวบรวมผลงานฝีพระหัตถ์จัดแสดงเป็นครั้งแรก รับสั่งว่ามาจากคำถามของผู้คน รวมทั้งผู้ชม ผู้ดู และคำถามจากตัวเองด้วย

“คำถามจากผู้คนที่ว่า เราออกแบบเสื้อผ้าเองหรือเปล่า เป็นนักออกแบบจริงหรือเปล่า เพื่อเป็นการตอบโจทย์ของผู้คนและตอบโจทย์ตัวเองว่า ตัวตนของตัวเองเกิดจากอะไร สไตล์ของตัวเองเกิดมาจากอะไร ทั้งความเป็นอาร์ต ความเป็นดีไซเนอร์และนักดนตรี”

ในจำนวนผลงานที่นำมาแสดงทั้งหมด ชิ้นที่พระองค์หญิงโปรดมากเป็นพิเศษ คือ งานปะติดกระดาษ “ตอนเด็กๆ เคยทำผลงานศิลปะที่เอาสีมาหยดใส่กระดาษแล้วนำไปแปะก็จะเกิดฟอร์มใหญ่ๆ ขึ้นมา มีรูปหัวใจสองดวง คือ งานใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น

หรือไม่ก็รูปการ์ตูนน่ารักๆ และก็กลายพันธุ์ไปเรื่อยๆ นี่คือ ผลงานชิ้นหลังๆ ที่ชอบ เราจะมีผลงานออกมาหลายแนวในระยะหลังๆ หลังจากที่ไปอยู่โบซา (วิทยาลัยศิลปกรรมในปารีส) แล้ว เราชอบงานมิกซ์มีเดียมากกว่างานตัดต่อ คอลลาจ บวกงานใหม่ๆ งานพรินต์ผสมหมึกก็ชอบ”

พระองค์หญิงรับสั่งว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำผลงานศิลปะของพระองค์คือ ความสนุกต้องปล่อยข้างในจิตใจออกมาให้เยอะที่สุด สมองสั่งงานตา ตาสั่งใจ ใจสั่งมือ บางครั้งก็ต้องลดทอน และมองว่าพระองค์ชอบหรือไม่

พระองค์หญิงนักออกแบบ รับสั่งเพิ่มเติมว่า เพิ่งกลับจากอิตาลีได้ไม่กี่วัน ที่หายไปเพราะไปฝึกงานที่ห้องเสื้ออาร์มานี และจะเสด็จไปฝรั่งเศสต่อ

“ตอนนี้ทางเฟอร์รากาโมสนใจจะดีลงานด้วย ที่ฝรั่งเศสเตรียมร่วมงานแล้วกับบาลแมงเต็มตัวเลย แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องไปพูดคุยกันก่อน ส่วนเฟอร์รากาโมจะไปร่วมฝึกงาน”

5 แนวคิด 5 ช่วงพระชันษา

“สิ่งที่คิด สิ่งที่เห็น” เป็นนิทรรศการที่ได้รวบรวมผลงานศิลปะส่วนพระองค์ เพื่อเล่าเรื่องราวและสะท้อนแนวพระดำริ ฉายพระอัจฉริยภาพด้านศิลปะในแต่ละช่วงเวลา นับตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์กระทั่งกลายมาเป็นนักออกแบบมืออาชีพ นิทรรศการครั้งนี้ได้แบ่งตามแนวคิดออกเป็น 5 ส่วน 5 ห้อง โดยแต่ละห้องมีตัวหนังสือบรรยายและอธิบายการค้นหาตัวตนของพระองค์อย่างตรงไปตรงมาเข้าใจง่าย

ค้นหา : งานวาดเส้นที่แสดงอยู่ในห้องนี้ เล่าถึงจุดเริ่มต้นในการค้นหาตัวตน และความสนพระทัยในศิลปะการวาดภาพ นับเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่ทำให้พระองค์หญิงทรงค้นพบหนทางของการเข้าพระทัยพระองค์เอง สร้างสมาธิและสื่ออารมณ์ ความคิด ความรู้สึก ผ่านเส้นสี จนกลายเป็นบันทึกชีวิตในรูปของงานศิลปะ

“ตอนเด็กๆ ท่านหญิงไม่สนใจวาดรูป ไม่อยากเรียนศิลปะ ไม่เอาอะไรเลย อ่านหนังสือก็ไม่อ่าน อะไรก็ไม่เอา ไอ้โน่นก็ไม่ชอบ ไอ้นี่ก็ไม่ดี ชอบเล่นกีฬา ตีแบดหนักมาก แต่พอวาดรูปเป็นแล้วนิ่งขึ้น ชอบดูคนวาดรูปแรกๆ มันไม่มีสสาร สาระอะไร มันคือสิ่งแรกที่กำลังค้นหาตัวเองว่าตัวเองชอบอะไรอย่างไร’

มายา : การสื่อสัญลักษณ์แห่งตัวตนผ่านผลงานศิลปะฝีพระหัตถ์ ภาพปากที่ปิดตาที่มองเห็นได้เพียงข้างเดียว สะท้อนความกดดัน ส่วนงานศิลปะแบบคอลลาจ ซึ่งใช้เทคนิคการจัดวางรูปภาพผ่านโทนสีและเนื้อหาสะท้อนแนวความคิดวิพากษ์สังคม เป็นเครื่องมือที่พระองค์หญิงทรงใช้ในการผลิตผลงานคอลเลกชันเสื้อผ้าที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง

“คนเรียนแฟชั่นจะสนุกกับการทำภาพปะติด ท่านหญิงจะชอบตัดเก็บภาพใส่กล่องขนม หรือถ้าเป็นพวกภาพชุดเสื้อผ้าก็เข้าแฟ้มไว้ก่อน อย่างพอใกล้หมดปี 2008 ก็ทำไว้ก่อน เก็บมูดของปีนั้น เหมือนแฟชั่นโชว์เหมือนกัน มันก็จะเป็นมูดอย่างนั้นทั้งปี เหมือนทำเทรนด์บุ๊ก

เน้นสีความรู้สึกบางทีก็เอามาทำปกหนังสือ ถ้าดูปกสมุดโน้ต ท่านหญิงก็บอกมูดท่านหญิงของปีนั้นๆ ได้ ‘โบซา’ (วิทยาลัยศิลปกรรมในปารีส) ก็ชอบ ท่านหญิงชอบงานปะติด แนะให้ไปเรียนเพรสโก”

“บางทีท่านหญิงดูหนัง ฟังเพลง หรือพบเห็นอะไรที่ไม่สามารถพูดออกมาได้ เราก็เอามาทำงานศิลปะ อย่างภาพปะติด เป็นวิธีหนึ่งที่ท่านหญิงฯ ตีความสิ่งที่คิด สิ่งที่เห็นมาประกอบให้เกิดสิ่งใหม่ เป็นการสื่อสารที่ให้อารมณ์ผ่านสีและรูปทรงได้เร็วที่สุด เข้าใจได้ง่ายที่สุด”

ตั้งต้น : ภาพวาดดอกไม้หลากหลายพันธุ์ในมุมมองของพระองค์หญิง สื่อถึงความงาม อารมณ์ ถิ่นฐาน สถานะ อายุ ศาสนา และความหมายในอีกมิติหนึ่ง ดอกไม้เปรียบเสมือนความบริสุทธิ์ ทุกครั้งที่พระองค์หญิงทรงเริ่มต้นทำงานในแนวทางใหม่ มักเริ่มต้นจากการวาดดอกไม้เสมอ

“ดอกไม้ คือ ความบริสุทธิ์ที่สามารถบอกอารมณ์ที่อยู่ สถานะ อายุ หรือแม้กระทั่งศาสนา รูปทรงมีความเป็นอิสระค่อนข้างสูง และมักไหลไปในทางที่ดี ความบริสุทธิ์ของดอกไม้ มักช่วยให้เราเริ่มต้นงานศิลปะในทิศทางใหม่ๆ”

อิสรภาพ : สำหรับพระองค์หญิงแล้ว สัตว์ต่างๆ สื่อถึงธรรมชาติ และแต่ละสายพันธุ์ต่างมีอุปนิสัยเฉพาะตัว ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงอิสรภาพ ความรัก และการเป็นตัวของตัวเองอย่างไร้กรอบจำกัด

เช่น “ผีเสื้อ” เอกลักษณ์บอกถึงกลางวันและกลางคืน
“ปลา” สื่อถึงอารมณ์ขันในปลาปิรันยา
“นกยูง” สื่อถึงความแกร่งและสัญชาตญาณแห่งการปกป้องตนเองภายใต้ความสง่างาม
“ไก่” ตัวแทนปีเกิดของพระอนุชา พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ก็ปรากฏเป็นผลงานในห้องนี้ด้วย

ในผลงานศิลปะชื่อของเล่นปีระกา พระองค์หญิงทรงบรรยายว่า

“ไก่นี่คือ น้องชายเกิดปีไก่พอดี ตอนนั้นก็เกิดความคิดว่า น้องเกิดปีไก่ ก็เลยวาดรูปไก่ วาดครั้งแรกเลยตอนปีสอง ตอนแรกก็เป็นโครงของเลขแปด ที่หัวข้างบนเล็ก ข้างล่างใหญ่ แล้วก็คิดไปคิดมา พอวาดโครงเสร็จท่านหญิงฯ ก็วาดปากเข้าไป วาดหงอนเข้าไป แล้วก็เติม ตึ๊ก...ตึ๊ก เข้าไป

แล้วก็เคลือบเก็บไว้ เวลาน้องร้องก็เอาเป็นของเล่นไว้ให้น้องเล่น ตอนแรกก็อารมณ์น่ารักก่อน แล้วก็เริ่มเป็นนิสัยเรา หู ตา ก็เริ่มประหลาด เริ่มแปลงร่าง’

เจ็บปวดกับศรัทธา : ผลงานภาพวาดที่พระองค์หญิง ทรงสะท้อนให้เห็นความคิด ความเชื่อ ตลอดจนความศรัทธาในศาสนา โดยผูกโยงเข้ากับความรักและความเจ็บปวด ผ่านภาพวาดสรีระมนุษย์ หัวใจ และอิริยาบถการกอด รวมไปถึงสัญลักษณ์แห่งความเจ็บปวดอย่างตะปูที่ใช้ตอกตรึงพระเยซูบนไม้กางเขน และธรรมจักร กงล้อแห่งการดับทุกข์ตามหลักพระพุทธศาสนา

“สิ่งที่คิด สิ่งที่เห็น” นิทรรศการแสดงภาพฝีพระหัตถ์ สะท้อนความคิด ตัวตน อารมณ์ และโลกในมุมมองของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เปิดให้ชมตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 20 ธ.ค. เวลา 10.30–21.00 น. ปิดวันจันทร์ ณ ห้องนิทรรศการ 2 TCDC

ขอขอบคุณ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

สิริสวัสดิ์จัทรวาร - ปรีดิ์มานกมลโรจน์ ที่มาอ่านค่ะ

Create Date : 16 พฤศจิกายน 2552

Last Update : 16 พฤศจิกายน 2552 18:14:42 น.

0 comments

Counter : 1098 Pageviews.