|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
บันทึกพระประวัติพระจริยวัตรส่วนพระองค์ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ ฯ (2)
พบความเศร้าหนัก
ในเช้าวันที่ 24 มิถุนายน 2475 นั้น ข้าพเจ้าเมื่อได้รับการขู่จากพลทหารเรือที่ตั้งแถวขึงพืดอยู่หน้าพระที่นั่งอนันต์ฯ "จะยิงตายเปล่า" นั้น ก็ได้กลับวังบางขุนพรหม (เหมือนกลับบ้าน) พอรถเข้าประตูวังเท่านั้น ก็พบเห็นแต่ทุกคนร้องไห้ ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ ผู้ชาย ผู้หญิง คนแก่ คนเฒ่า มีความเศร้าอยู่ในใจทุกคน
การร้องไห้ของคนในวังในวันนั้น นอกจากข้าราชบริพารที่อยู่ในวัง คือเป็นข้าในกรม ก็ยังมีทหารในกองรักษาการอดร้องไห้ไปกับเขาด้วยไม่ได้ เป็นอันว่าในเช้าวันนั้นรับประทานอาหารไม่ได้เสียแล้ว
เมื่อข้าพเจ้าไม่สามารถจะพูดกับผู้ใดในวังวันนั้นได้ ข้าพเจ้าก็แต่งตัวเพื่อไปทำงานที่กรมตำรวจภูบาล ท่าเตียน ตามปกติ พอไปถึงโดยเฉพาะตำรวจภูบาลก็โจษจันกันต่าง ๆ นานา เพราะทุกคนก็ยังไม่ทราบต้นสายปลายเหตุแห่งการเปลี่ยนแปลงการปกครองกระจ่างแจ้งนั้ก
ในวันนั้นก็ได้เปิดประชุมนายตำรวจเท่าที่มีอยู่ ว่าจะทำอย่างไรกันต่อไป ผลที่สุดก็ได้พากันไปที่วังเทเวศร์ฯ ซึ่งเป็นที่ประทับของ พล.ต.หม่อมเจ้าวงศ์นิรชร เทวกุล เจ้ากรมตำรวจภูบาล เมื่อทุกคนไปพร้อมกันแล้วก็ยังไม่มีการตกลงว่า จะปฏิบัติการอย่างไรในเรื่องที่ทูลกระหม่อมกรมพระนครสวรรค์วรพินิต เสนาบดีกระทรวงมหาดไทย ถูกทหารจับไป
ข่าวภายนอกก็มีข่าวว่าจะจับเจ้านายกันอีกหลายพระองค์ ที่มีพระองค์อยู่ในกรุงเทพฯ สักครู่หนึ่งก็ได้ข่าวจากนายตำรวจภูบาลที่ไปในวังเทเวศร์ฯ คนสุดท้ายบอกแก่พวกเราว่าทหารจะมาจับกุมตัวเจ้ากรมตำรวจภูบาลด้วยคนหนึ่ง
ในทันใดนั้น ร.ต.ท.ขุนสมัครพลกิจ พ.ต.ต.หลวงอารักษ์ประชากร ร.อ.หลวงเสนีย์รณยุทธ ร.ท.บุณณะ ตาละลักษณ์ ร.ต.บุญนิจ ถาวโรฤทธิ์ และนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่อีกหลายคน จีงพร้อมใจกันว่าเราจะสู้กับคณะทหารที่จะเข้าไปจับกุมเจ้ากรมของเรา
ทันใดนั้นทุกคนก็ออกจากห้องประชุม โดยเฉพาะคณะนายตำรวจภูบาลโดยมากเป็นนายทหารบกอยู่ด้วยหลายคน ประกอบกับกำลังหนุ่มแน่นและห้าวหาญอย่างคนหนุ่มทั้งหลาย จึงได้แยกย้ายกันขยายแถวอยู่ข้างทางที่จะเข้าไปถึงตำหนักของเจ้ากรมฯ
ส่วนเจ้ากรมตำรวจภูบาลท่านก็รับสั่งว่า "กำลังเราจะไม่พอที่จะทำการต่อสู้ อีกประการหนึ่งทูลกระหม่อมเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย ก็จะได้รับอันตราย เพราะคณะทหารเขาเอาพระองค์ไปเป็นประกันตัวอยู่ด้วย นอกจากนั้นยังมีเจ้านายหลายพระองค์ที่ถูกจับกุมไปนั้นด้วย" แต่นายทหารหนุ่มที่เป็นตำรวจภูบาล กับนายตำรวจหนุ่มที่มาจากทางตำรวจโดยตรงก็ไม่ยอม คือไม่เห็นด้วย โดยขอสู้ตาย โดยเฉพาะในวันนั้น มีผู้ที่ไม่ยอมให้เจ้ากรมฯ ต้องถูกจับกุมไปก็มี ร.ต.ท.ขุนสมัครพลกิจ พ.ต.ต.หลวงอารักษ์ประชากร และ ร.ท.บุณณะ ตาละลักษณ์ ร.ต.บุญนิจ ถาวโรฤทธิ์ ที่ไม่ยอมรับสั่งของกรมฯ
เจ้ากรมฯ อ้างว่าจะขอต่อสู้ให้จงได้ ในที่ประชุมนั้นนอกจาก พล.ต.หม่อมเจ้าวงศ์นิรชร เจ้ากรมตำรวจภูบาลแล้ว ยังมีหม่อมเจ้าองค์อื่น ๆ ซึ่งเป็นเจ้านายในวังเทเวศร์ฯ นั้นได้ลงมาขอร้องว่า
"ขอพวกเราอย่าคิดต่อสู้คณะทหารเลย แม้จะสู้ไปก็คงไม่เกิดประโยชน์อะไร เพราะเหตุว่าเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ ได้ถูกคณะทหารที่เปลี่ยนแปลงการปกครอง เอาตัวไปเป็นประกันเสียจำนวนมากแล้ว เมื่อคณะทหารเขามาจับเจ้ากรมฯ เจ้ากรมฯ ก็ยอมให้เขาจับโดยดีแล้ว เราควรเลิกคิดสู้เสีย
ขณะเมื่อเจ้านายในวังฯ หลายพระองค์เสด็จลงมาอ้อนวอนขอร้องอยู่นั้น ก็ยังมีเจ้านายผู้หญิงก็เสด็จจากตำหนักต่าง ๆ ในวังฯ ทุกตำหนักได้ห้ามปรามขอร้องไว้ขออย่าให้มีการเลือดตกยางออกกันเลย จึงกระทำให้นายตำรวจภูบาลหนุ่ม ๆ ที่เตรียมจะสู้ป้องกันเจ้ากรมฯ ไว้นั้นต้องยุติความคิดนั้น รอรับการที่ทหารจะไปจับเจ้ากรมฯ เวลาประมาณ 11.30 น.ในวันนั้นคณะทหารก็ไปเชิญตัวเจ้ากรมฯ จริง ๆ ตามข่าวที่ได้รับก่อนนั้น
ตำรวจภูบาลกับคนในวังบางขุนพรหม
ก่อนอื่น คนในวังบางขุนพรหมกับตำรวจภูบาลก็มีข้าพเจ้าผู้เดียว จึงใคร่จะกล่าวถึงฐานะเป็นที่เข้าใจ ทำไมจึงรู้เรื่องราวต่าง ๆ โดยละอียด ในเรื่องการปฏิบัติการของคณะเปลี่ยนแปลงการปกครองได้อย่างไร โดยวิธีใดมีมูลเหตุเป็นมาแต่ต้นอย่างไร ใครเป็นผู้เริ่มคิดการฝ่ายทหาร คณะทหารได้ใครเป็นหัวหน้า
ทูลกระหม่อม สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิต มีความสำคัญอย่างไร ข้าพเจ้ามีความสัมพันธ์กับกรมตำรวจภูบาล ติดต่อกับพระองค์ท่านอย่างไร ขอกล่าวเพียงย่อ ๆ ก่อนเพื่อผู้อ่านจะได้ทราบต้นเหตุ ประวัติความเป็นมาบ้าง
เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง วันที่ 24 มิถุนายน 2475 ทุก ๆ คนทางในวังฯ ก็เสียใจกันมาก เนื่องจากได้เตรียมการที่จะมีงานวันประสูติของทูลกระหม่อม สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิตอยู่แล้ว คือวันที่ 29 มิถุนายน 2475 นับวันก็อีก 5 วันเท่านั้นก็จะถึงวันประสูติ ทุกปีพระองค์ท่านทรงประกอบการทำบุญ ทรงตักบาตร สวดมนต์เย็น รุ่งขึ้นก็ถวายอาหารเพลแก่พระสงฆ์องค์เจ้า เป็นประเพณีธรรมเนียมเช่นเคยปฏิบัติมา ในปีนี้จะเป็นเพราะดวงพระชะตาตกเป็นคราวเคราะห์มาก สำหรับพระองค์อย่งไรก็เหลือที่จะเดาได้ถูกต้อง ที่มีการปฏิวัติอันนำไปสู่ระบอบการปกครองระบอบประชาธิปไตย ซึ่งทำให้ทูลกระหม่อมต้องทรงหลุดพ้นจากอำนาจราชศักดิ์ทั้งหลายแหล่ และที่สำคัญก็คือ การที่จะต้องพลัดพรากจากประเทศไทยอันเป็นปิตุภูมิของพระองค์ ตราบไปจนชั่วพระชนม์ชีพสลายไปประทับอยู่ที่บันดุง เกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย นั้น โดยพระองค์รับสั้งว่า จะไม่เสด็จกลับมาประเทศไทยอีกแล้ว อาจจะเป็นด้วยทรงเสียพระทัยมากในพระชนม์ชีพนี้ก็ได้ หรือจะเป็นได้ว่าพระองค์ทรงน้อยพระทัยที่ทรงเจตนาดีต่อบ้านเมือง ด้วยพระนิสัยใจจริงเป็นอันมากนั้นเอง และระยะนั้นเป็นเรื่องที่พระองค์ทรงเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน และเป็นเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีหน้าที่จะต้องควบคุมรักษาความสงบสุขและความปลอดภัยทั่วราชอาณาจักร
ข้าพเจ้าเป็นผู้ที่ใกล้ชิดกับทูลกระหม่อมวังบางขุนพรหมมาก 2 ทาง ทางหนึ่งเป็นข้าในกรม อีกทางหนึ่งเป็นข้าราชการในกระทรวงมหาดไทย ทรงชุบเลี้ยงตลอดมา เมื่ออายุได้ 18 ปี พ.ท.พระทรงวิชัย นายทหารประจำพระองค์ขณะนั้น เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนทหารช่างกรงจเรทหารช่าง ได้มาชักชวนให้ข้าพเจ้าไปทำงานด้วยกับท่าน ข้าพเจ้าตกลงรับไปทำงานโดยสังกัดอยู่ในกรมจเรทหารช่าง
ในกระทรวงกลาโหมเวลานั้น พล.ต.หม่อมเจ้าฉัตรมงคล โสณกุล เป็นจเรทหารช่างทำงานอยู่ในกรมจเรทหารช่างประมาณ 2 ปีก็ได้ลาออกเพื่อไปทำงานที่กระทรวงมหาดไทย ข้าพเจ้าอายุประมาณ 20 ปีเศษทางการได้ตั้งกรมตำรวจภูบาลขึ้นเป็นกรมอิสระ ที่ปทุมวัน โดยมี พล.ต.หม่อมเจ้าวงศ์นิรชร เทวกุล เป็นเจ้ากรมฯ ได้ชักชวนข้าพเจ้าลาออกจากกรมจเรทหารช่างเสีย ให้ไปทำงานที่กรมตำรวจภูบาล ปทุมวัน (ภายหลังย้ายไปเช่าตึกเป็นวังของเจ้านายพระองค์หนึ่ง) ที่ท่าเตียน หลังวัดโพธิ์
การที่ข้าพเจ้าได้เข้าทำงานเนื่องจากการชักชวนของผู้ใหญ่สมัยนั้น ก็เนื่องจากข้าพเจ้าอยู่ในวังบางขุนพรหมนั่นเอง จะถือว่ามีความสำคัญในขณะนั้น เพื่อสำหรับการติดต่อประสานงานกับทูลกระหม่อมก็เป็นได้ แม้ข้าพเจ้าเลิกงานแล้วกลับวังฯ ข้าพเจ้ายังมีหน้าที่ช่วยพันพุฒอนุราช เลขานะการส่วนพระองค์ สังกัดกรมเวรวิเศษ กระทรวงมหาดไทยอีกด้วยเป็นประจำ (เฉพาะงานที่ทรงนำไปทำที่วังเท่านั้น)
แม้ข้าพเจ้าจะได้ลาออกจากกรมจเรทหารช่าง กระทรวงกลาโหมแล้วไปอยู่กรมตำรวจภูบาล กระทรวงมหาดไทย ข้าพเจ้าก็ยังต้องช่วยงานด้านติดต่อกับ พ.ท.พระทรงวิชัย (ภายหลังเป็น พ.อ.พระยาศรีพิชัยสงคราม) นายทหารประจำพระองค์อยู่เสมอ
เป็นอันว่าข้าพเจ้าได้รับคำชวนจาก พล.ต.หม่องเจ้าวงศ์นิรชร แล้วก็เริ่มเข้าทำงานในกองบังคับการก่อน แล้วเจ้ากรมตำรวจภูบาลได้ทรงรับสั่งเป็นพิเศษกับข้าพเจ้า ให้ดูงานว่าจะชอบงานแผนกใดในกรมตำรวจภูบาล
ได้แบ่งงานออกเป็น 6 แผนก คือ กองบังคับการ แผนกทะเบียนพิมพ์ลายนิ้วมือ แผนกแผนประทุษกรรม แผนกวิทยาการตำรวจ (พิสุจน์หลักฐาน) แผนกกองเอกสารการเมือง แผนกกองเอกสารหนังสือพิมพ์ ทุกแผนกข้าพเจ้าได้ไปทำงาน และได้เรียนรู้งานจากแผนกการต่าง ๆ ทุกแผนก โดยเฉพาะหัวหน้าแผนกทุกคน ก็ให้ความสนิทสนมกับข้าพเจ้าต้องการที่จะได้มีความสัมพันธ์กับข้าพเจ้า ซึ่งอยู่ในวังบางขุนพรหม เพราะเหตุว่าทูลกระหม่อมวังบางขุนพรหม เป็นเสนาบดีกระทรวงมหาดไทยอยู่ด้วย
ข้าพเจ้าจึงมีโอกาสร่วมงานกับนายตำรวจสมัยนั้น ที่เป็นหัวหน้าแผนกหลายคนที่กลับมาจากสก็อตแลนด์ยาร์ด ประเทศอังกฤษ เป็นอย่างดี เช่น ร.ต.อ.หลวงพรมโมปกรกิจ ร.ต.อ.หลวงสนิทตุลยารักษ์ ร.ต.อ.หลวงพิสิษฐวิทยาการ ร.ต.อ.หลวงสุนทรกิจจารักษ์ และ ร.ต.ท.เอ็จ ณ ป้อมเพ็ชร เป็นต้น
และนายทหารบางคนที่ย้ายไปจากระทรวงกลาโหม ที่ไปทำงานที่กรมตำรวจภูบาลรุ่นแรก ก็มี ร.อ.หลวงพิศาลยุทธกิจ ร.อ.หลวงสุรพลเรืองเดช ร.อ.หลวงเสนีย์ รณยุทธ ร.อ.หม่อมเจ้าสุรวิฒิประวัติ เป็นต้น
ผลสุดท้ายข้าพเจ้าก็ต้องประจำทำงานในกองเอกสารหนังสือพิมพ์ อันมี ร.อ.หลวงสุรพลเรืองเดช เป็นหัวหน้าแผนกกองเอกสารหนังสือพิมพ์ซึ่งข้าพเจ้าชอบกว่าแผนกอื่น ข้าพเจ้ามีหน้าตรวจบทความทางการเมือง ความเห็นต่างๆ จากหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ ที่ออกมาในสมัยนั้นแล้วตัดเสนอเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย (ทูลกระหม่อมทุกวัน)
ในเมื่อข้าพเจ้าต้องอยู่ประจำในกองเอกสารหนังสือพิมพ์ โดยเห็นว่าเป็นแผนกที่มีความสำคัญกว่าแผนกอื่น ขณะที่กรมตำรวจภูบาลตั้งใหม่ ๆ หลังจากได้บรรจะคนเต็มอัตราเรียบร้อยแล้ว ก็ยังมีหน้าที่ว่างอยู่อีกก็คือ หน้าที่สายลับ คือ "สืบราชการลับ" ตามคำสั้งของหัวหน้าแผนกเอกสารการเมือง
จึงได้มีนายดาบกองหนุนหลายคนไปสมัคร เช่น นายดาบวัน ศรีหะทัย นายดาบอ่อน พรรณไวร นายดาบตาบ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา นายดาบตุ๊ สุคันธวณิชย์ นายดาบจำเนียร สิงหเสนีย์ นานดาบเทียนเซีย โค้วอรุณ นายดาบสงวน (จำนามสกุลไม่ได้) และนายดาบทองต่อ ยมนาค เป็นต้น เมื่ออัตราประจำไม่ว่างก็เพียงบรรจะอัตรานายดาบเหล่านั้น กินเงินเดือน สายลับของกรมตำรวจภูบาลเงินเดือนคนละ 40 บาท (มีสมุดประวัติอยู่ในตำรวจสันติบาลขณะนี้)
โดยเฉพาะนายดาบทองต่อ ยมนาค ผู้นี้เป็นหลานของ ร.อ.หลวงสุรพลเรืองเดช หัวหน้ากองเอกสารหนังสือพิมพ์ได้กระซิบข้าพเจ้าว่า ให้ทูลเจ้ากรมฯ ขอย้ายไปอยู่กองเอกสารการเมือง เพราะเห็นว่าข้าพเจ้าจะทูลอะไรก็ได้ และทรงเชื่อถือข้าพเจ้า ต้องการจะเอานายดาบทองต่อ ยมนาคเข้าทำงานแทนตำแหน่งข้าพเจ้า
เมื่อข้าพเจ้าไม่ยอมก็มีการแกล้งต่าง ๆ เกิดขึ้น ดังนั้นจึงมีการโต้เถียงทะเลาะกันจนเป็นเรื่องเป็นราวขึ้น โดยความประสงค์ของ ร.อ.หลวงสุรพล เรืองเดช ต้องการให้ข้าพเจ้าย้ายไปจากกองเอกสารหนังสือพิมพ์เพื่อจะได้ขอบรรจุนายดาบทองต่อ ยมนาค เข้าทำหน้าที่แทน
ผลที่สุดเรื่องราวต่าง ๆ ก็ได้ยุติลงก็เพราะ ร.ท.น้อม เทวคุปต์ ผู้ช่วยหัวหน้าแผนกฯ ได้ช่วยข้าพเจ้าให้ได้อยู่ในกองเอกสารหนังสือพิมพ์ต่อไป เพราะข้าพเจ้าจะต้องนำแฟ้ม ที่ตัดจากหนังสือพิมพ์ทุกวันไปถวายทูลกระหม่อมฯ แล้วที่สุดเจ้ากรมตำรวจภูบาลก็ให้ข้าพเจ้าคงทำงานที่เดิมต่อไป
ผู้อ่านคงไม่ทราบว่ามีความสำคัญเพียงใด ที่ข้าพเจ้าต้องกระทบกระเทือนจากผู้กลั่นแกล้งอยู่เหมือนกัน แต่ทำอะไรข้าพเจ้าไม่ได้ (นายดาบทองต่อ ยมนาค ผู้นี้ก็คือ พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ ยมนาค อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งได้ปลดเกษียณอายุไปเมื่อ พ.ศ.2513) นั่นเอง ข้าพเจ้าทำงานอยู่ในกรมตำรวจภูบาลประมาณ 3 ปี จึงได้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง
ว่าประเทศไทยมีขบถหรือ ?
พ.ศ. 2476 นายกรัฐมนตรี (พระยามโนปกรณ์นิติธรรมธาดา) ลาออกในเวลาใกล้เคียงกันนั้นก็ได้มีการ "ขบถ" เกิดขึ้น เรียกกันว่า "ขบถบวรเดช" ขณะที่ข้าพเจ้าทำงานกองเอกสารหนังสือพิมพ์อยู่นั้น ก็เริ่มถูกการเมืองเล่นงาน ในฐานะอยู่ในวังบางขุนพรหม โดยกล่าวหาว่า "เป็นคนของเจ้า"
ขณะนั้น พล.ต.หม่อมเจ้าวงศ์นิรชร ถูกขังอยู่ พ.ต.อ.หลวงอดุลย์เดชจรัส เป็นรองอธิบดีกรมตำรวจ ซึ่งมีอำนาจมากกว่าอธิบดีกรมตำรวจขณะนั้น ได้สั่งจับข้าพเจ้าไปขังไว้ที่สถานีตำรวจสามยอด พร้อมกับ ร.ต.อ.หลวงเชิดชาญกิจ ผู้บังคับกองจังหวัดปทุมธานี กับนายกิมฮวย มลิทอง (มหากิมฮวย) สังกัดกระทรวงศึกษาธิการอยู่ร่วมห้องขังเดียวกับข้าพเจ้าด้วย ใน พ.ศ.2476 คราวเดียวกันนี้ ผู้ที่ถูกจับโดยคำสั่ง พ.ต.อ.หลวงอดุลเดชจรัส เป็นจำนวนมากมีทั้งเจ้านาย และขุนนางชั้นผู้ใหญ่เท่าที่ข้าพเจ้าจำได้ก็มี พล.ท.พระยาเทพหัสดินทร์ พล.ต.พระยาอนุภาพไตรภพ ดร.โชติ คุ้มพันธฺ พระยาอุดมพงษ์เพ็ญสวัสดิ์ พระยาวินัยสุนทร และอีกหลายสิบคน
เมื่อขังครบ 30 วันแล้ว พ.ต.อ. หลวงอดุลย์ฯ มีคำสั่งให้นำข้าพเจ้าคนเดียวที่ขังไว้ที่สถานีสามยอดนั้นไปยังที่ลานพระบรมรูปทรงม้า (ข้างซ้ายมือมีเต็นท์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่) ส่วนอีก 2 คนคงถูกขังไว้ที่สามยอดนั้น เมื่อได้นำตัวข้าพเจ้าไปถึง แล้วก็พบ พ.ต.อ.หลวงอดุลย์ฯ รอคอยอยู่แล้วและมีนายตำรวจอื่น ๆ อีกมาก
ในที่นั้นมี พล.ท.พระยาเทพหัสดินทร์ พล.ต.พระยาอนุภาพไตรภพ และมีคนอื่น ๆ อีก 10 กว่าคนไม่ปรากฏว่ามี ดร.โชติฯ พระยาอุดมพงษ์ เพ็ญสวัสดิ์ และอีกหลายคนที่มีข่าวถูกจับในครั้งนั้น
เมื่อตำรวจสายต่าง ๆ ได้พาผู้ที่ถูกจับขังอยู่หลายแห่งมาพร้อมกันแล้ว ก็มิได้มีการสอบสวนแต่อย่างใด เพียงแต่มีการทักทายปราศรัยกันบ้างเล็กน้อย จากนายตำรวจอื่น ๆ
ส่วน พ.ต.อ.หลวงอดุลย์เดชจรัส นั้นไม่ยอมพูดกับผู้ใด เพราะนิสัยก็หน้าบึ้งอยู่แล้วเป็นปกติ ข้าพเจ้าและผู้ที่ถูกจับนำมาจากสถานีอื่น ๆ มากันพร้อมแล้ว
พ.ต.อ.หลวงอดุลย์ฯ ปล่อย
เวลาประมาณ 13.00 น. พ.ต.อ.หลวงอดุลย์เดชจรัส ได้ลุกขึ้นมาขอจับมือในที่นั้น 15 คน ขณะที่จับมืออยู่ นั้นก็ได้กล่าวขอโทษเป็นใจความว่า "ผมขอโทษด้วยทุกคนที่ถูกจับครั้งนี้และได้กระทำโดยกะทันหัน ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ทุกคนไม่มีความผิดแต่ประการใด และผมก็ไม่ได้สั่งให้สอบสวนเอาความผิด ขอให้ท่าน ทุกคนกลับบ้านได้แล้ว" เมื่อได้จับมือหมดทุกคนแล้วกล่าวขอโทษอีกครั้งหนึ่ง
พ.ต.อ.หลวงอดุลย์ฯ จับมือข้าพเจ้าเป็นคนสุดท้าย เพราะเหตุว่าข้าพเจ้าเด็กที่สุดในจำนวนผู้ใหญ่ที่ถูกปล่อยคราวนี้ พ.ต.อ.อดุลย์ฯ คงทราบได้ดีแล้วว่าข้าพเจ้าเป็นใคร มาจากไหนทำงานอยู่ที่ไหน อยู่ในวังใครเหล่านี้คงทราบดีอยู่แล้ว
ข้าพเจ้าขณะนั้นกำลังเป็นหนุ่ม ปากจัด และมีความอวดดีไม่ค่อยกลัวผู้ใดเสียด้วย จึงได้กล่าวคำรุนแรงไปกับ พ.ต.อ.อดุลย์ฯ ว่า "คุณหลวงสั่งจับบ้า ๆ คนอย่างผมก็จับ ผมทำงานอยู่ตำรวจภูบาลแท้ ๆ คุณหลวงก็รู้แล้วไม่ใช่หรือ?
" พ.ต.อ.อดุลย์ฯ ไม่ตอบว่ากระไร หน้าก็คงบึ้งตึงเป็นปกติ ยิ้มไม่เป็นอยู่แล้ว ก็ได้เผยยิ้มให้ข้าพเจ้านิดหน่อย โดยกล่าวสั้น ๆ ว่า "คุณเป็นเด็กหนุ่มอยู่ในวังฯ ผมเคยเห็นหน้าเสมอ"
เมื่อข้าพเจ้าได้กลับไปทำงานที่กรมตำรวจภูบาลอีกเช่นเดิม จากนั้นประมาณ 3 เดือนก็ถูกย้ายจากกรมตำรวจภูบาล ท่าเตียน ไปอยู่ที่กองทะเบียนยานพาหนะพระนครและธนบุรี (ทะเบียนรถ) ซึ่งตั้งอยู่ในกระทรวงมหาดไทย ด้านหลังกระทรวง
ถูกย้ายอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้ไปอยู่ประจำกองตำรวจภูธร จังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งเป็นเมืองที่กันดารจังหวัดหนึ่งสมัยนั้น ภายหลังจากนั้น ข้าพเจ้าก็ต้องถูกออกจากราชการตามระเบียบ
ขอขอบคุณ
คุณสิงโต วัฒนสมบัติ ม.ล.อภิมงคล โสณกุล apimongkol.org power by office
สิริสวัสดิ์จันทรวาร สิริมานภิรมย์ปรีดิ์ค่ะ
Create Date : 23 สิงหาคม 2553 |
Last Update : 24 สิงหาคม 2553 10:51:49 น. |
|
0 comments
|
Counter : 2079 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
/
2558
2556
2555
น้ำใจจากคุณ krittut 2554
2553
สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ
ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ
เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ
๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์
ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ
เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552
08.27 - 250811
207 flags collected 300316
|
|
|
|
|
|
|
|