ราชกุมารีนารีรัตน์ 6 ทศวรรษจรัสเจริญ
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมายุ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในปีพุทธศักราช 2558 นี้ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สำนึกในพระกรุณาธิคุณ ได้จัดทำปฏิทินเทิดพระเกียรติ ชุด "ราชกุมารีนารีรัตน์ 6 ทศวรรษจรัสเจริญ" ประจำปีพุทธศักราช 2558 ซึ่งมีความงดงามและทรงคุณค่าด้วยพระสาทิสลักษณ์ ผลงานศิลปิน ยุทธกิจ ประสมผล และภาพวาดพรรณไม้ในพระนามาภิไธย พร้อมพระราชประวัติและพระกรณียกิจ เพื่อถวายความจงรักภักดีต่อพระองค์ผู้ทรงเป็นรัตนะในดวงใจพสกนิกรไทยตลอดกาล
เจ้าหญิงน้อยแห่งสยาม "สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนสุดากิติวัฒนาดุลโสภาคย์" เสด็จพระราชสมภพ เมื่อวันเสาร์ที่ 2 เมษายน ปีพุทธศักราช 2498 ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ทรงเป็นสมเด็จพระเจ้าลูกเธอพระองค์ที่ 3 ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ยังความปีติยินดีแก่พสกนิกรไทยทั่วหล้า
ทูลกระหม่อมน้อย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนราชสุดาฯ หรือ "ทูลกระหม่อมน้อย" ของเหล่าข้าราชบริพารในวังและประชาชนไทย ทรงมีพระอัธยาศัยร่าเริงไม่ชอบอยู่นิ่งเฉย และโปรดการวิ่งเป็นที่สุด สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี จึงทรงตั้งพระฉายาให้ด้วยความเอ็นดูว่า "สลาตัน"
เทพรัตนะแห่งวรรณศิลป์ พระองค์โปรดการเขียนมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ และทรงมีพระปรีชาสามารถทางด้านร้อยแก้วและร้อยกรองเป็นอย่างยิ่ง พระอัจฉริยภาพด้านวรรณกรรมของพระองค์ แสดงให้เห็นผ่านผลงานมากมายหลายภาษา ทั้งภาษาบาลี สันสกฤต จีน เขมร อังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมัน บทพระราชนิพนธ์ที่รู้จักกันดี คือ พุทธศาสนสุภาษิตคำโคลง
เจ้าฟ้าอัจฉริยบัณฑิต ทรงเป็นเจ้าฟ้าหญิงพระองค์แรกที่สอบเข้าเรียนในสถาบันอุดมศึกษาภายในประเทศอย่างสามัญชนด้วยพระองค์เอง และทรงสำเร็จการศึกษาอักษรศาสตรบัณฑิต เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง เหรียญทองจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จากนั้นทรงเข้าศึกษาต่อระดับปริญญามหาบัณฑิต พร้อมกัน 2 แห่งคือ มหาวิทยาลัยศิลปากร และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และทรงสำเร็จการศึกษาชั้นสูงสุดปริญญาดุษฎีบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร
สยามบรมราชกุมารี วันที่ 5 ธันวาคม ปีพุทธศักราช 2520 พระองค์ทรงได้รับการสถาปนาพระราชอิสริยยศและพระราชอิสริยศักดิ์ เป็นเจ้าฟ้ามหาจักรี และตำแหน่งสยามบรมราชกุมารีแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงได้รับการเฉลิมพระนามว่า "สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธรรัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี" ทรงเป็นเจ้าฟ้าหญิงที่รับผิดชอบอย่างสูงต่อประชาชนและประเทศชาติ
องค์อุปนายิกา สภากาชาดไทย ทรงแบ่งเบาพระราชภารกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ราษฎร โดยทรงได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งองค์อุปนายิกา ผู้อำนวยการสภากาชาดไทย นอกจากนั้น พระองค์ยังทรงดำรงตำแหน่งองค์ประธานมูลนิธิในพระบรมราชูปถัมภ์อื่นๆ อีกมากมาย อาทิ มูลนิธิสายใจไทย มูลนิธิชัยพัฒนา
สมเด็จเจ้าฟ้า ผู้สืบสานพุทธศิลป์ ทรงเป็นสมเด็จเจ้าฟ้าหญิงพระองค์แรกแห่งบรมราชจักรีวงศ์ ที่ทรงรับตำแหน่งแม่กอง อำนวยการบูรณปฏิสังขรณ์วัดพระศรีรัตนศาสดารามและพระบรมมหาราชวัง โดยมีกรมศิลปากรรับมอบหมายดำเนินการ ทรงปฏิบัติพระราชภารกิจอย่างตั้งใจ วางแผนการบูรณะ ตรวจตราการทำงาน และจัดหาทุนเพิ่มเติมด้วยพระองค์เอง จนงานแล้วเสร็จตามกำหนดการเฉลิมฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี ในปีพุทธศักราช 2525
ทูลกระหม่อมอาจารย์ ทรงเข้ารับราชการในฐานะอาจารย์ประจำส่วนการศึกษา โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า เมื่อปีพุทธศักราช 2523 โดยทรงสอนวิชาประวัติศาสตร์ไทยและสังคมวิทยา ทรงมีวิธีการสอนที่น่าสนใจโปรดให้นักเรียนซักถาม และยังทรงรับเป็นอาจารย์พิเศษให้แก่สถาบันการศึกษาต่างๆ อีกด้วย
เอกอัครราชูปถัมภก มรดกวัฒนธรรมไทย ทรงปลูกฝังแนวพระราชดำริเรื่องการอนุรักษ์มรดกไทยตลอดมา และทรงเป็นปราชญ์ที่มีความรอบรู้ในวัฒนธรรมด้านต่างๆ อย่างลึกซึ้ง ทรงเป็นศิลปินผู้มีอัจฉริยภาพหลายสาขา เช่น วรรณศิลป์ สังคีตศิลป์ พระองค์จึงได้รับทูลเกล้าฯ ถวาย พระสมัญญา "เอกอัครราชูปถัมภกมรดกวัฒนธรรมไทย" ในปีพุทธศักราช 2531 และ "วิศิษฎศิลปิน" ในปีพุทธศักราช 2546
ราชกุมารีนักพัฒนา เมื่อเสด็จพระราชดำเนินไปยัง ท้องถิ่นทุรกันดารต่างๆ ได้ทรงเรียนรู้ปรัชญา ในการพัฒนาสังคม ทรงริเริ่มโครงการต่างๆ ด้วยหวังจะพัฒนาคุณภาพชีวิตของเยาวชน ทั้งด้านโภชนาการ การศึกษา และสิ่งแวดล้อม ทรงมุ่งมั่นพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชนชาวไทยให้ดีขึ้น พระองค์จึงได้รับทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลรามอน แมกไซไซ สาขาบริการชุมชน ในปีพุทธศักราช 2534
เจ้าหญิงนักอนุรักษ์ โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ (อพ.สธ.) ในโครงการส่วนพระองค์ฯ สวนจิตรลดา จัดตั้งขึ้นเพื่อปกป้องและรักษาพันธุ์พืชหายากไว้มิให้สูญพันธุ์ โดยทรงเล็งเห็นว่า การอนุรักษ์พันธุกรรมพืชนั้นต้องสร้างจิตสำนึกให้แก่เยาวชน ปลูกฝังให้เห็นความงดงามของพืชพรรณจนเกิดความปีติที่จะศึกษาและอนุรักษ์ต่อไป
ทูตสันถวไมตรีไทย-จีน พระองค์ทรงได้รับพระสมัญญา "ทูตสันถวไมตรีไทย-จีน" จากการเสด็จฯ เยือนประเทศจีนเพื่อเจริญสัมพันธไมตรีในฐานะมิตรประเทศที่มี ความผูกพันกันมายาวนาน อีกทั้ง ยังทรงศึกษาภาษาและวัฒนธรรมจีนได้อย่างแตกฉาน ด้วยมิตรภาพระหว่างสองประเทศอันดียิ่งนี้ ประชาชนชาวจีนกว่าสองล้านคน จึงได้พร้อมใจกันยกย่องให้พระองค์เป็น "มิตรที่ดีที่สุดในโลก"
"สรัสปทุม" สร้างอาชีพ ทรงเล็งเห็นปัญหาที่นักเรียนไทยขาดทักษะพื้นฐานด้านวิชาชีพ จึงมีพระราชดำริจัดตั้งโครงการ "สรัสปทุม" ขึ้นในปีพุทธศักราช 2553 โดยการน้อมนำแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ประชาชนอยู่ดีกินดี อบรมส่งเสริมทักษะอาชีพต่างๆ ให้สามารถนำไปต่อยอดในการทำงาน และสามารถพึ่งพาตนเองได้
หน้า 25
ขอบคุณ ข่าวสดออนไลน์ สิริสวัสดิ์จันทรวารค่ะ
Create Date : 12 มกราคม 2558 |
Last Update : 12 มกราคม 2558 9:13:42 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1329 Pageviews. |
|
|