Hello everyone's Welcome To My Blog
5 ปี กับชีวิตแต่งงาน มันคงจะจบในไม่ช้า

ความอดทนของคนเรามันย่อมมีที่สิ้นสุด ในเมื่ออยู่ไปก็ไม่มีความสุข ต้องทน ต้องฝื้นอยู่ทุกอย่าง ในเมื่อตัวเราพยายามที่จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ ในหน้าที่แม่บ้านเราก็ไม่เคยให้ขาดตกบกพร่องสักเรื่อง

ทั้งๆในชีวิตไม่เคยคิดที่จะทำ และไม่เคยได้ทำในงานบ้าน งานเรือนทุกอย่าง อยู่อย่างสันโดด ใช้ชีวิตส่วนตัวไปวันๆ

หลังจากที่ตัดสินใจมาเรียนที่ญี่ปุ่น ทั้งๆที่ในใจไม่เคยคิด ไม่เคยฝันว่าอยากจะมา เพราะในชีวิตติดเพื่อนมากมาย วันๆก็ได้แต่เที่ยวกับเพื่อนไปวันๆ กลางคืนออก กลางวันเรียน สุดยอดของชีวิตวัยรุ่นแล้ว เพราะมีแฟนก็ นานๆก็เจอกันที เพราะว่ามันอยู่คนละประเทศ แต่ในวันหนึ่งเราได้เจอกับผู้ชายอีกคน ที่เค้าได้เข้ามาทักทายและขอเบอร์ที่โต๊ะอาหาร ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ทั้งๆที่ไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อน จากนั้นก็ได้พูดคุยกัน แล้วเราก็บอกเค้าไปว่า ฉันไม่ชอบผู้ชายญี่ปุ่น ( ส่วนตัวบีมไม่ค่อยยชอบผู้ชายญี่ปุ่นเลย เพราะเจอเข้ามาจีบ ตามผลับบ่อยมากๆ แต่ไม่เคยคุย เพราะจะบอกไปเลยว่า ฉันไม่ชอบผู้ชายญี่ปุ่น และจะเชิดใส่อย่างเด๋ว 555+ มีแบบตามตื้อก็มี แต่จะเจอด่ากระเจิงเลยค่ะ) แต่กับคนนี้พี่แก ลุกหนักมากๆ ตื้อจนในที่สุดเราได้ติดต่อกันเรื่อยมาทั้งทาง E-mail และ ทางโทรศัพท์ จนทำให้เราลืมไปเลยว่าเรายังมีแฟนอีกคนที่คบกันมา 3 ปี
ผู้ชายคนนี้ทำให้เรารู้สึกว่า เค้าแคร์เรา เค้าเทคแคร์และห่วงใยเรามาก ทั้งๆที่เจอกันได้ไม่นาน แต่เค้ากับไปเมืองไทยทุกๆเดือน มันเป็นอะไรที่บ้ามากๆ ที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้ เพราะขนาดแฟนที่คบกันมา 3 ปี ยังเจอกัน ปี ละ 2 -3 ครั้งเอง จากนั้น 4 เดือนต่อมามันทำให้เราตัดสินใจ ดร็อปเรียนที่เมืองไทยไว้ แล้วเดินเรื่องขอวีซ่านักเรียน เพื่อที่จะมาเรียนในโตเกียว ทั้งๆที่ไม่คิดอยากจะมา เพราะยังสนุกกับชีวิตโสด และลั้นล้าอยู่กับเพื่อนสาวทุกคนอยู่ แต่ไม่รู้ว่าเพราะ โง่ หรือ บ้ากันแน่ แบบน้ีแหละที่เค้าว่า ความรักทำให้คนตาบอด ตอนรักนี้ใครห้ามก็คงไม่ฟัง หลังจากที่ได้วีซ่านักเรียน 1 ปี /6 เดือน แล้วก็เริ่มหอบผ้าหอบผ่อนหนีตามผู้ชายมา 555 ซะเลย มาอยู่แรกๆก็ปรับตัวยังไม่ได้เพราะทุกอย่างต้องทำเองหมด ทั้งงานบ้าน ซักผ้า ทำกับข้าว แรกๆร้องไห้จะกลับบ้านเกือบทุกวัน ไปโรงเรียนแรกๆกลับมาแทบร้องไห้ เพราะไม่รู้เรื่องอะไรเลย การบ้านก็ทำไม่ได้ เหมือนมาเริ่มต้นจาก 0 ที่โตเกียวเลย เพราะภาษาญี่ปุ่นก็ไม่รู้เรื่องเลย แต่เราก็ต้องทนอยู่เพราะว่ารัก หลังจากที่เรียนได้ 1 ปี ก็กลับบ้านไป เพราะยุ่นขอบีมแต่งงาน แต่จริงๆเค้าก็ขอตั้งแต่คบกันแรกๆ แต่เรายังไม่ได้ให้คำตอบ หลังจากที่เค้าขอแต่งงานก็เลยกลับไปเมืองไทย เพราะยังไม่คิจะเลือกใคร เย็นวันนั้นก็เลยโทรไปถามแฟนอีกคนที่คบกันมา 3 ปี ว่า คุณแต่งงานกับฉันได้ไหม แต่เค้าบอกให้รอก่อน ไอ้เราก็รอไม่ได้เพราะอีกคนก็รอคำตอบจากเราอยู่

สุดท้ายบีมก็เลือกที่จะแต่งงานกับ ญี่ปุ่น ทั้งๆที่ไม่ใช่สเป๊คของเรา แต่ก็รัก
ส่วนอีกคนก็รัก แต่อายุห่างกันมาก แต่เค้าไม่เคยบอกว่ารักเรา แค่บอกว่าชอบเฉยๆ แต่เค้าก็ดีกับเรา เทคแคร์เราทุกอย่าง เพราะตอนนั้นบีมยังเด็กอยู่ด้วยมั้ง เค้าเลยยังไม่อยากพูดคำว่ารัก

หลังจากที่แต่งงานก็เหมือนเราเสียสละทุกสิ่ง ทุกอย่างในชีวิต ทั้งเพื่อน เที่ยว ครอบครัว เวลาทั้งหมดเรายกให้กับชีวิตหลังแต่งงานหมดเลย หลังจากแต่งเข้ามาอยู่ด้วยกัน ปีแรกก็เหมือนอะไรยังใหม่ๆอยู่ มันก็หวาน ก็สวีทกันเป็นธรรมดา มีดอกไม้มาให้ทุกเทศกาล ทุกวันสำคัญ หลังจากเข้าปีที่ 2 เหมือนอะไรๆมันเข้าที่ เข้าทาง ความหวาน ความสวีท ความห่วงใย ความสำคัญมันก็น้อยลงเป็นธรรมดา ยิ่งพอตั้งท้องแล้วนั้น การเรียนก็ต้องพัก ต้องหยุดทุกอย่าง ของอนาคต เพื่อเอาเวลาเหล่านั้นมาทุ่มเทให้กับครอบครัว ในระหว่างตั้งครรภ์มันก็เริ่มมีมารมาพจน เริ่มมีอุปสรรคเข้ามาในชีวิตครอบครัว เพราะทุกครั้งที่แฟนบอกบินไปทำงานต่างประเทศ มันเป็นอะไรที่เรานอนไม่หลับเลย หลังจากที่มันมีการโกหกกันเกิดขึ้น กับเรื่องผู้หญิง แต่เราก็คิดเสมอว่า ทน ทน ทน เพื่อลูก ไม่รู้กี่ครั้งที่เราต้องร้องไห้ เสียน้ำตากับผู้ชายคนนี้ เพราะไม่คิดว่าเค้าจะทำให้เราเสียใจมากขนาดนี้ อยากจะหนีไปให้ไกล แต่มันติดตรงที่ว่า เรามีลูกที่ต้องดูแล ถ้าตัวเราคนเดียว เราคงไม่ต้องมานั่งทนอยู่แบบนี้
เค้าไม่เคยมีเวลาให้ครอบครัว แต่เค้ากับมีเวลาให้เพื่อน เราเหนื่อยทั้งงานบ้าน ทั้งเลี้ยงลูก ไม่เคยมีวันหยุด แต่เค้ากับไม่เคยคิดที่จะช่วย อะไรเราเลย
ตัวบีมเองไม่เคยคิดที่อยกกจะมีลูก เพราะยังไม่พร้อม แต่ตัวสามีอยากจะมีมาก ถึงกับเอายาคุมของบีมไปทิ้ง ห้ามบีมกินยาทุกชนิด นอกจากไม่สบายเท่านั้น พอเราไม่ยอมก็ต้องทะเลาะกันทุกครั้ง พอมีแล้ว ตอนแรกเห่อแทบตาย แต่สุดท้ายก็ไม่เคยช่วยเลี้ยง ช่วยอะไรเราเลย
หลังจากช่วงแรกที่บีมติดเล่นเน็ต วันๆนั่งส่อง กบ ( แคมฟร๊อก) อย่างเดียว จนทะเลาะกันบ้านแตก จากนั้นก็โดนสั่งห้ามเล่น หรือใช้คอม โทรศัพท์ เป็นเวลานาน และก็ไม่ได้ติดต่อเพื่อนเกือบปี จนเพื่อนๆเป็นห่วง และว่าเราหายไปเลย แม้กระทั่งทางบ้านบีมเองก็เป็นห่วง เพราะไม่ได้ติดต่อกันนานเลย แต่เราก็ต้องทำ ตัวบีมยังคิดเลยว่า ตรูเป็นเมียนะ ไม่ใช่นักโทษ ขนาดขอทำงานนอกบ้าน มานก็ไม่ให้ทำ พอจะไปทำมานก็บอกถ้าจะทำก็หย่ากับฉัน พอเราบอกก็เอาสิ แมร่งก็โกรธ ก็โมโห เราอีก หาว่าเราไม่รัก หาว่าเราจะไปมีคนใหม่บ้างแหละ ไอ้เราก็บอกไปว่า ตัวคุณทำเลวๆกับฉันไว้เยอะ ก็เลยระแวงว่าคนอื่นจะทำแบบตัวคุณมั่งละสิ ฉันมีจิตสำนึกความเป็นคนพอวะค่ะ

ความอดทนของบีมถือว่า สุดๆกับพฤติกรรมของผัวเฮงซวยคนนี้ นิสัยแมร่งก็งี้เง่า ยังกะผู้หญิง ทำไมมานไม่นุ่งผ้าถุงมาเกิดเลยวะ เห็นแกตัวก็สุดๆ เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง และเป็นใหญ่เสมอ ความผิดตัวเองเห็นเป็นเรื่องปกติ ส่วนความผิดของคนอื่น ข้ามปี ข้าม พ.ศ มันก็ขุดขึ้นมาพูด แมร่งสงสัยเป็นนักขุดสมบัติโบราณหรือไงก็ไม่รุ
หลังจากที่อาการติดเพื่อนอย่างหนัก แม่มห้ามตรูละห้ามจัง แต่ตัวเองดันเป็นซะเอง วันๆเอาแต่นั่งเล่นคอม แชทกับเพื่อน ไอ้เพื่อนก็ตัวดีคอยแต่จะทำเรื่องชั่วๆ
หลังจากนั้นบีมก็ได้ตัดสินใจย้ายบ้านหนีพวกสัมพเวสี มาอยู่เมกา คิดว่าอะไร อะไร มันคงจะดีขึ้น แต่กลับไม่เลย ยิ่งหนักกว่าเดิม วันหยุด ก็ไม่เคยได้ไปเที่ยวใหนเลย นอกเสียจากมีเพื่อนจากบริษัทชวนไป ถึงได้ไป

ก็เพราะไอ้เพื่อนจากอินเตอร์เน็ตนี้แหละ ชีวิตครอบครัวถึงไม่มีความสุขซักที เพื่อนดีก็คบ แต่ไอ้นี่ได้แต่เพื่อนเอี้ยๆมา
หลายคืนก่อนก็ทะเลาะกันเรื่องเพื่อนของเค้า เพราะตัวเค้าเองมีปัญหากับเพื่อนในเน็ต และเค้าก็ไม่ให้บีมโชว์รูป หรือแม้กระทั่งชื่อเค้า แต่เราเคยทะเลาะกัน แล้วบีมก็พิมพ์ชื่อเค้า ด่าลงในทวิต แต่ตอนนั้นทั้งโมโห และเสียใจที่เค้าทำเรื่องเลวๆ แล้ววเราไปค้นเจอมา แต่มันเสือกไม่ยอมรับ
จากนั้นเพื่อนเค้าคนนั้นไม่ถูกกัน แล้วเค้าก็เอาชื่อแฟนบีมไปค้นหาประวัติ และเค้าก็มีเรื่องทะเลาะ อะไรกันก็ไไม่รู้ แต่เท่าที่รู้คือ มันเป็นความผิดของนังบีม เค้าไม่เคยโทษว่าเค้าผิด แต่เค้ากลับโทษว่าบีมผิด พอบีมพูดไปเค้าก็โมโห ตระครอกใส่เรา ขึ้นเสียงใส่เรา ไอ้เราก็บอกพูดเบาๆก็ได้ พูดกันด้วยเหตุผล ไม่ใช้ตระโกนใส่แบบนี้ กลัวคนอื่นเค้าไม่รู้หรือไง เรื่องผิดใจกันกับเพื่อนมันมีมานานแล้วละ แต่บีมไม่รู้ว่าคนใหนบ้าง แต่เค้าแค่บอกว่า อย่าโชว์รูป หรือ ชื่อ ประวัติ ของเค้าในเว็บ เพราะมันอันตราย มันไม่ปลอดภัยกับครอบครัว เค้าบอกคนไทยส่วนมากไม่แคร์กับเรื่องพวกนี้กัน แต่คนต่างชาติเค้าแคร์เรื่องนี้มากๆ เพราะมันมีเรื่อง มีเหตุร้ายๆกับคนพวกนี้บ่อยๆ

คืนนั้นก็ทะเลาะกัน บีมไม่ได้เถียง ไม่พูด เพราะเถียงไปมันก็คงไม่จบแน่ๆ ตี 1 กว่าๆแล้ว คนแถวนี้คงได้ยินเสียงไอ้ยุ่นตระโกนด่าเมียกันทั้งคอนโดเลยแหละมั้ง เราก็ได้แต่พูดไปว่า ฉันรู้ ฉันเข้าใจ แต่พูดเบาๆ มีเหตุผลหน่อยสิ มันก็พูดย้ำแต่คำเดิมๆ เรื่องเดิมๆ ไอ้เราก็เลยพูดกับไปว่า ทำไมคุณไม่เลือกคบเพื่อนที่ดีๆละ เพื่อนไม่ดีก็ไม่ต้องคบสิ เหมืนพูดไปยิ่งทำให้เค้าโมโหขึ้นกว่าเดิม เพราะเสียงตระโกนด่า ตระครอกใสมันยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ ทั้งๆที่ยืนอยู่ห่างกันแค่ไม่กี่เซน หลังจากที่กระโกนด่าบีมไป โดยที่ไม่มีเสียงจากอีกฝ่าย มันก็เดินออกจากห้องโดยที่ปิดประตูกระแทรกใส่หน้าบีม
บีมหมั่นใส้ก็เลยกระโดดถีบประตูไป 2 ที แต่มันดันผลักประตูเข้ามาซะก่อน มันก็เลยกระแทรกกับเท้าบีม พอผลักเข้ามาอย่างแรง มันก็มาผลักบีมล้มทับเอมิลี่ ตอนนั้นเอมิลี่ยืนอยู่ข้างๆบีม พอล้มน้องก็ตกใจ ก็ร้องไห้ บีมก็รีบลุกขึ้นอุ้มน้องเอมิลี่ ตอนนั้นยังไม่รู้สึกว่าเท้าบาด และบวม พอผลักบีมเสร็จ มันก็ยืนด่า ด่า ด่า อยู่หน้าประตูห้อง พอบีมเงียบ มันก็ว่าบีมไม่ฟัง ไม่สนใจ พอบีมตอบโต้ มันก็หาว่าบีม เถียงมัน แล้วจะให้กุทำยังไงวะ ทำอะไรก็ไม่ถูกใจสักอย่าง พอด่า ด่า มันก็ก็พูดว่า บีมดีกับคนอื่น Nice กับคนอื่น แต่ไม่ดี ไม่ Nice กับครอบครัว ได้ยินคำนี้เสียความรู้สึกมาก จากนั้นก็กลั้นน้ำตาไว้ จะไม่ร้องไห้ต่อหน้ามัน พอได้ยินคำนี้ออกจากปากคนที่เป็นผัว ของขึ้นค่ะ ก็ส่วนกับไป ถ้ากูไม่ดี แล้วที่ทำอยู่ทุกวันนี้ มันไม่มีความหมายเลยใช่มั้ย กุเสียสละทุกอย่างเพื่อใคร ทำงานบ้านทุกอย่างไม่เคยบ่น ไม่เคยร้องขอให้ช่วย แล้วสิ่งที่ได้มาคือแบบนี้หรอ ??? ถ้าฉันไม่ดีพอ แล้วใครละที่มันดีพอสำหรับคุณ ก็ไปอยู่กับมันสิ ฉันไม่เคยร้องขอที่จะอยู่ หรือให้คุณอยู่ แต่ฉันร้องขออย่างเดียวคือ เมื่อไรจะหย่าให้ฉันสักที........ หลังจากที่บีมส่วนกลับไปเยอะเหมือนกัน มันก็เงียบ จากนั้นบีมก็กลับมาที่ห้อง
เอมิลี่เห็นเลือดที่เท้ามาร์มี้ออก เค้าก็ร้องไห้ แต่ตัวเราเองกลับไม่รู้เรื่องเลย เพราะมันยังไม่รู้สึกอะไรเลย หลังจาก 1 ชั่วโมงผ่านไป ถึงรู้สึกว่ามันเจ็บและตึงที่เท้ามากๆ และเดินไม่ค่อยได้ หลังจากที่มองหน้าลูก น้ำตามันก็ใหลออกมา ลูกก็ร้องไห้ บีมก็ได้แต่กอดลูกทั้งน้ำตา
พูดตรงๆ บีมเหนื่อย บีมเบื่อ เพราะมันบ่อยเหลือเกิน ทุกครั้งเค้าจะไม่ยอมใช้เหตุผลคุยกัน เค้าไม่ยอมฟังใครพูดเลย นอกจากตัวเค้าเอง ทำไมเค้าไม่ยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อครอบครัว เพื่อชีวิตครอบครัวจะได้ดีขึ้น และมีความสุข คนที่เปลี่ยนมันมีแต่ตัวเราทั้งนั้น บางครั้งเปลี่ยนมากปรับมากมันก็เหนื่อย เพราะไม่มีอะไรดีขึ้นเลย
จากคืนนั้นมันเป็นเหตุที่ทำให้บีมต้องตัดสินใจสักที เพราะไม่อยากให้ลูกมาเจอกับปัญหาแบบนี้ เวลาทะเลาะกันทีไรเค้าจะกลัวจนตัวสั่น เพราะเสียงพ่อเค้า บีมไม่อยากให้ลูกมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ ตอนโต เพราะจะทำให้เค้ามีปมด้อย มีพ่อแย่ๆแบบนี้ สู้ไม่มีซะดีกว่า
บีมตัดสินใจจะกลับเมืองไทย แต่ปัญหาคือ บีมไม่ได้มีเงินเก็บมากมายขนาดนั้น เพราะทุกครั้งก็จะเอาเงินจากทางบ้านมาใช้มากกว่า อยากทำงานแต่ก็ทำไม่ได้ เวลามีปัญหามามันก็แย่ คนอื่นแต่งงานมีชีวิตที่ดีขึ้น แต่บีมแต่งงานยิ่งไม่เหลืออะไรเลย มันเวรกรรมอะไรของบีมก็ไม่รู้
หลายวันแล้วที่ไม่ทำกับข้าว นอกจากทำให้ลูกและตัวเอง
ไม่อยากทำให้มานกิน ในเมื่อมันบอกว่าเราไม่ดี ก็จะไม่ทำห่าอะไรมันสักอย่าง
นี้ก็ไม่เห็นหน้ากันมาหลายวันแล้ว เพราะไม่อยากจะเห็นหน้า ไม่อยากจะเจอ พอไม่เจอก็สบายใจ ยิ่งถ้าไม่ต้องรับรู้เรื่องของเค้าเลย มันอาจจะทำให้บีม ทำใจได้มากกว่านี้ ตั้งแต่เกิดเรื่องบีมไม่เครียด เครียดอยู่เรื่องเดียว คือ จะกลับบ้านยังไง เพราะยังหาตั๋วเครื่องบินไม่ได้เลย



Create Date : 15 กรกฎาคม 2554
Last Update : 16 กรกฎาคม 2554 1:03:21 น. 23 comments
Counter : 2250 Pageviews.

 
เป็นกำลังไจให้นะคะ
ไปสถานทูตไทยขอทำเรื่องยืมเงินกลับ
แล้วใช้คืนๆหลังจากกลับไทยได้
ไหมคะที่จริงก็ไม่ได้จะยุให้กลับ
แต่อยากให้มีเวลาสงบใจนานๆ
มีวิถีทางใหม่ๆๆให้ตัวเอง
แต่สำคัญว่ากลับมามีงาน
เรื่องลูกวางแผนหรือยังคะถ้าเราทำงานแล้ว
เขาจะอยู่กับใครได้


โดย: หนึ่งคิด วันที่: 15 กรกฎาคม 2554 เวลา:21:09:05 น.  

 
คุณบีมสู้ ๆ นะคะ เค้าว่ากันกันว่า ผู้ชายญี่ปุ่นกับเกาหลีนี่เหมือนกันเลย สามีถูกที่สุด เป็นภรรยาต้องอดทน สมัยนี้ยังมีแบบนี้อีก นึกว่าจะหมดไปแล้วซะอีก ดูแลน้องดี ๆ นะคะ เอาใจช่วยค่ะ


โดย: magic-women วันที่: 15 กรกฎาคม 2554 เวลา:21:15:17 น.  

 
สู้ๆค่ะ คุณบีม
เป็นกำลังใจให้ค่ะ


โดย: aoraerja วันที่: 15 กรกฎาคม 2554 เวลา:22:41:21 น.  

 
ระบายออกมาให้หมดเลยค่ะน้องบีม
มีหลายคนที่เข้าใจน้อง ถึงแม้จะไม่เคยเจอกันก็ตาม
ผู้ชาย ถ้ามันไม่รักเราแล้ว มันก็เป็นแบบนี้ล่ะค่ะ
อย่าไปทนอีกเลย สงสารลูก
ให้เค้าอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มันดีกว่านี้เถอะนะคะ
ที่สำคัญตัวน้องบีมเองด้วย ผู้ชายคนนั้นไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้กับน้องนะคะ ถึงจะเป็นสามีก็เถอะ
เดินออกมาจากชีวิตเค้าโลด
แล้วเค้าจะรู้สึกเองล่ะค่ะ ว่าหาคนดีกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว
เป็นกำลังใจให้นะคะ


โดย: เรไรไอด้า วันที่: 15 กรกฎาคม 2554 เวลา:22:50:04 น.  

 
ยุก็พึ่งเลิกกับคู่หมั้นที่คบกันมาห้าปี และหลังจากจัดพิธีไปแค่สองเดือนค่ะ

ไม่มีใครอยากตกอยู่ในสภาพล้มเหลวในชีวิตคู่ค่ะ แต่พอถึงจุดหนึ่งที่มันถึงทางตันแล้ว ไปต่อไม่ได้เเล้ว มันก็จำใจต้องก้าวออกมาค่ะ

เป็นกำลังใจให้เข้มแข็งค่ะ ไม่ว่าทางเลือกจะเป็นยังไง ขอให้ตัดสินใจให้ดี และ เด็ดขาดกับมัน

สู้ค่ะ


โดย: yu and joel (yu เองคะ ) วันที่: 15 กรกฎาคม 2554 เวลา:23:18:32 น.  

 
เท่าที่พี่อ่านมาหลายๆบล็อกของบีม สมควรแก่เวลาที่บืมต้องตัดให้ขาดแล้วค่ะ พอได้แล้วกับผู้ชายแบบนี้ ชีวิตเรายังมีอะไรต้องทำอีกมากมายค่ะ อย่าจมปลักกับคนเห็นแก่ตัวที่ไม่ได้รักเราต่อไป


โดย: loveTRAVEL1977 วันที่: 15 กรกฎาคม 2554 เวลา:23:58:56 น.  

 
เป็นกำลังใจให้นะค่ะ คิดถึงตัวเองและลูกให้มากมากค่ะ เลือกและตัดสินใจดีดีนะค่ะ


โดย: หมวยไทย วันที่: 16 กรกฎาคม 2554 เวลา:0:37:58 น.  

 
ขอบคุณพี่ๆจากใจบีมทุกคนเลยค่ะ ที่แวะเข้ามาให้กำลังใจ ชีวิตครอบครัวไม่มีใครอยากใ้ล้มเหลวค่ะ ในความคิดบีมอยากแต่งงานแค่รอบเดียว ไม่อยากมีการหย่าร้าง แต่ในเมื่อมันถึงที่สิ้นสุดแล้ว เราคงฝื้นไปไม่ได้ ตอนนี้เลยคือยังไม่มีหน้าที่การงานที่รองรับ แต่ใจก็อยากกลับบ้านค่ะ เพราะอยากไปตั้งต้น ตั้งสติ กับเรื่องทุกอย่างใหม่ แต่ปัญหาค่าใช้จ่ายนี้เป็นปัญหาใหญ่ค่ะ เพราะน้องยังกินนมอยู่ และอีกอย่างต้องดำเนินเร่ืองหย่า คงค่าใช้จ่ายสูงกว่าจะเสร็จเรื่อง บีมถึงต้องคิดทบทวนให้ดี เพราะไม่รู้จะหาเตุผลอะไรเพียงพอที่จะฟ้องหย่า จะกลับช่วงนี้ค่าตั๋วก็แพงซะเหลือเกินค่ะ เพราะติดช่วงซัมเมอร์


โดย: vanessa-eva วันที่: 16 กรกฎาคม 2554 เวลา:0:54:31 น.  

 
เป็นกำลังใจให้นะคะ...สู้ๆ


โดย: tuktikmatt วันที่: 16 กรกฎาคม 2554 เวลา:0:56:14 น.  

 
เป็นกำลังใจให้ค่ะ ปัญหาทุกปัญหามีทางออก เข้มแข็งน่ะค่ะ


โดย: Charlie^^ วันที่: 16 กรกฎาคม 2554 เวลา:4:26:47 น.  

 
สงสารน้องบีมจัง

ถ้ามันถึงที่สุดแล้วก็เอาเถอะค่ะ พี่เอาใจช่วย
พี่รู้ว่าไม่มีใครอยากมีครอบครัวที่แตกแยกหรอก
พี่ก็ไม่อยากยุให้ใครเลิกกัน

แต่ถ้าอยู่กันแล้วเราทุกข์ แต่เขาสุขแบบนี้ พี่ก็จะไม่บอกน้องบีมว่าใจเย็นๆหรืออะไรแบบนี้แล้ว

ตัดสินใจตามที่เห็นสมควร คิดถึงชีวิตตัวเองและน้องเอมิลี่ วันพรุ่งนี้มีอยู่เสมอนะคะ


โดย: little mouse in big apple วันที่: 16 กรกฎาคม 2554 เวลา:5:09:55 น.  

 
สวัสดีค่ะ
ก่อนอื่นต้องขอเป็นกำลังใจให้คุณสู้เพื่อลูกและตัวคุณเองนะคะ
เออยากจะบอกคุณว่าคุณไม่ได้เป็นคนเดียวที่ต้องเผชิญกับสิ่งที่เลวร้ายแบบนี้โดยเฉพาะในต่างแดนคนเดียว เอก็เจอมาเหมือนกัน หนักมากๆด้วยถึงขนาดไม่มีเงินกลับเมืองไทยและไม่มีเงินที่จะซื้อข้าวกิน ต้องไปขอให้สงเคราะห์ของประเทศนั้นๆช่วย ทั้งๆที่อยู่เมืองไทยก็ไม่เคยต้องมีชีวิตที่อนาถขนาดนี้
อดทนไว้นะคะ


โดย: A (Maganda ) วันที่: 16 กรกฎาคม 2554 เวลา:8:30:31 น.  

 
ใช่ค่ะพี่อ๋อ ไม่มีใครอยากให้ครอบครัวแตกแยก แต่ถ้าอยู่เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ มันก็ไม่ดีต่อ ไอ้ตัวเล็กเหมือนกันค่ะ เหนื่อยใจจริงๆค่ะ เหนื่อยใจกับที่เราขอหย่าดีๆ แต่เค้ากลับไม่ยอม ไม่รู้จะเก็บเราไว้ทำไม


โดย: vanessa-eva วันที่: 16 กรกฎาคม 2554 เวลา:12:04:17 น.  

 
แวะเข้ามาอ่านโดยบังเอิญค่ะ
เป็นกำลังใจให้นะคะ บางทีสภาพสังคมที่เค้าโตและเรียนรู้มาอาจแตกต่างกับเรา เพราะเค้าอาจจะโตมากับสังคมที่ผู้ชายเป็นใหญ่ค่ะ แค่ต่างเพศกันกความคิดก็ต่างกันมากแล้ว ยิ่งมาจากต่างชาติอีก ปวดหัวแทนค่ะ
การที่เราแต่งงานกับคนต่างชาติ ยิ่งต้องปรับตัวมากเป็นพิเศษค่ะ ขนาดคนไทยด้วยกันพูดภาษาเดียวกัน ยังพูดกันไม่เข้าใจเลย ยังไงลองปรับความเข้าใจกันในเวลาที่เค้าใจเย็นดูนะคะ แต่ถ้าไม่ไหวก็กลับมาบ้านเราเถอะค่ะ กลับมาอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ พาหลานมาให้ท่านอุ้ม กลับมาตั้งหลักก่อนแล้วเรื่องอื่นค่อยว่ากันใหม่ สู้ สู้ๆ นะคะ ^^


โดย: PaARAawAaTeE วันที่: 16 กรกฎาคม 2554 เวลา:13:24:34 น.  

 
เป็นกำลังใจให้พี่บีมนะคะ สู้ต่อไป เพื่อลูกเนอะ ^^


โดย: PZ_TN วันที่: 16 กรกฎาคม 2554 เวลา:17:29:02 น.  

 
เป็นกำลังใจให้นะคะ...คิดและตัดสินใจอะไร คิดให้ดีๆเพื่อลูกนะคะ สู้ๆค่ะ


โดย: Hanlanlaa วันที่: 16 กรกฎาคม 2554 เวลา:19:00:32 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


แวะมาเยี่ยมพร้อมสายฝน วันนี้ไปทำบุญที่ไหนกันคร้า


โดย: สาวสะตอใต้ วันที่: 16 กรกฎาคม 2554 เวลา:20:25:58 น.  

 
บีม...สู้ๆนะ
อ่านแล้วเครียดไปด้วย
เป็นห่วงทั้งบีมทั้งสาวน้อยคนสวยเลย

เห็นบีมอดทนมาเยอะมากๆ
เลย ถ้าไม่ไหว ตัดสินใจแล้วก็เดินหน้าเลย
เอมิลี่มีคุณแม่เก่งๆแบบบีมคนเดียวอาจจะมีความสุขกว่า
บีมก็ด้วย... เป็นกำลังใจให้นะ


โดย: Sassy Imp วันที่: 16 กรกฎาคม 2554 เวลา:21:49:56 น.  

 
เจอปัญหาไม่ต่างกันเลยค่ะ ตอนนี้เราก้อแต่งงานกันมาห้าปีแล้ว บอกเลิกแบบเด็ดขาดหมาดๆเมื่อวานนี้ค่ะ แต่คิดมากคือจะหาทางกลับบ้านแบบไหนดี เพราะฝ่ายชายปัดเยื่อใยและความเป็นแมนไปซึ่งๆหน้าว่า มีปัญญาก้อหาทางกลับเอง !!!เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆนะคะ


โดย: natto (natto-kita ) วันที่: 17 กรกฎาคม 2554 เวลา:0:03:00 น.  

 
สวัสดีคะ
พี่เข้าใจ บีม ทนได้ทน ทนไม่ได้ก็ไม่ทน เรื่องอะไร
ค่ำคืนนี้อีกยาวนาน ลูกผู้หญิงเราสอนให้เข้มแข็ง ปัญหาชีวิตพี่ทนเพื่ออนาคตของพวกเราและ่ลูกมานานมากเพื่อที่ให้เค้าได้กลับตัวและใจ เสียเวลาเปล่าว พี่ไม่ได้ยุแยงเพื่อให้น้องแยกครอบครัว แต่พี่เจอมาแล้วกับตัวเอง ยี่สิบปี ที่พี่ทน จนเกรือบ สาย มีแต่คำโกหกและแก้ตัว พี่ยิ่งร้ายกว่าบีมอีก มีบุคคลที่สามมาแย่งทุกอย่างต่อหน้าต่อต่า ยกเว้น(แย่งลูก)ของพี่เค้าคงไม่อยากเอาไปขัดลำใส้เค้าแน่บ้านแตกยับเยินพี่ออกจากบ้านมาโดยที่ไม่มีอะไรติดตัวเลย นอกจากหนีสินที่คิดสร้างด้วยช่วยกัน แล้วยังดูแลลูกเองอีก ทนน่ะ บีม พี่ทน มาทุกวันี้พี่กระโดดข้ามครองที่กว้างใหญ่มาได้แล้วเกรือบอายุจะขึ้นเลขห้าแล้วพอประมาณตัวเองได้ (ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน)
พี่เห็นใจลูกผู้หญิงด้วยกัน
มีโอกาส เรียน หางานทำเพื่อลูกและเรา
พี่เห็นใจ น่ะ



โดย: จ่อมกุ้ง วันที่: 18 กรกฎาคม 2554 เวลา:16:58:12 น.  

 
ขีวิตเหมือนเพื่อนเลยค่ะ แต่ของคุณบีมยังมีหวานบ้างนะคะ รายนั้นน่ะขมตลอดชีวิตค่ะ เค้ากำลังตัดสินใจที่จะเอาชีวิตตัวเองกลับมาแล้ว ขอให้เค้าแข้มแข็งด้วยเถอะ ดูแลตัวเองนะคะ


โดย: มาดามไร่องุ่น วันที่: 19 กรกฎาคม 2554 เวลา:23:58:49 น.  

 
เอาใจช่วยมากๆนะคะน้องบีม สงสารน้องจัง คุณแม่ต้องเข้มแข็งมากๆนะคะ


โดย: ป้าณู วันที่: 20 กรกฎาคม 2554 เวลา:17:53:57 น.  

 
อยู่ไม่ได้ก็กลับมาเถอะค่ะ ทนอยู่ไปแล้วไม่มีอะไรดีขึ้น
หาทางกลับบ้านมาตั้งต้นใหม่ เลี้ยงลูกเราดีกว่า
ยังไงก็สู้สู้นะค่ะ เป็นกำลังใจให้ อย่างน้อยเราก็ต้อง
ดูแลลูก เข้มเเข็งไว้ค่ะ


โดย: yang salang วันที่: 19 ธันวาคม 2554 เวลา:10:56:06 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Takoyakiนางมารสุรา
Location :
Tokyu - United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2554
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
15 กรกฏาคม 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Takoyakiนางมารสุรา's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.