บ้านหลังแรกของพวกเราในอเมริกัน
หายหน้า หายตาไปนาน ต้องขอโทษพี่ๆ เพื่อนๆ ในบล็อคแกงค์ด้วยที่ตอบคอมเม้มท์ช้า และบางอันก็ไม่ได้ตอบเลย คงไม่ลืมกันนะคะ..!! ช่วงนี้ยุ่งทุกวันตั้งแต่ เอมิลี่เข้าโรงเรียน ปีหน้าก็จะเริ่มหาโรงเรียนใหม่ให้เค้า เพราะจะย้ายบ้านลงไปอยู่แถว South bay และกำลังเตรียมตัวจะเข้า Kindergarten แต่ รร หายากเหลือเกิน ถ้าหา รร เรต ดีๆ ไม่ได้ก็คงต้องเข้า Private school ไปก่อน.
หลังจากที่ยุ่ง มุ่งหาบ้าน ตะลอนกันมาหลายเดือน หลายอาทิตย์ เหนื่อย หมดแรงกันไปเลยทีเดียว ในที่สุดก็ได้บ้านหลังแรกที่เมกา และเป็นบ้านหลังที่ 2 ของ ครอบครัวบีม. หลังแรกอยู่ที่โตเกียว ตอนนี้ก็ปล่อยให้คนเช่า แต่ก็ยังผ่อนไม่หมด ( มีแต่หนี้อีกแหละ ) อันนั้นไม่น่าเป็นห่วง เพราะอยู่ในโลเคชั่นที่ดี ปล่อยไม่กี่เดือน คนก็เช่าไปแล้ว เพราะอยู่ใกล้สถานีรถไฟ และอยู่ไม่ไกลจาก Shibuya เดินทางสะดวก และสบาย วิวดี มองเห็น ภูเขา Fuji จากห้องด้วย. พูดแล้วก็คิดถึงจุงเบย..!!
ส่วนบ้านที่เมกา ตัดสินใจซื้อเพราะ ค่าเช่าคอนโดที่นี้ กับค่าผ่อนบ้าน มันก็ไม่ต่างกันเลย ก็เลยนั่งคุยกับสามีว่า ถ้าเราซื้อบ้าน จ่ายเดือน 1 เท่ากับค่าเช่าคอนโด ( 2,300 $ /M ) มันก็ยังเป็นของเรา และอีกอย่างเรายังจะอยู่ที่นี้กันอีกนาน กว่าจะย้ายกลับญี่ปุ่น หลังจากที่คุยกันข้ามปี แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าฮีจะ Say Yes or Say No.! ก็ได้แต่รอ จนสุดท้ายกว่าจะมาบอกก็ตอนที่เหลือเวลาอีกแค่ 2 เดือน หมดสัญญาเช่าบ้านที่นี้ อ้าววว..! เป็นซะอย่างนี้แหละ ไม่มีพงมีแพลนอะไรเลยในชีวิต ของฮี คิดอยากจะไปก็ไป อยากจะทำตอนไหนก็ทำ แต่ลำบากก็ตอนที่ว่า มันจะทันมั้ย การหาบ้านที่นี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้ง งบ น้อย ด้วย ธรรมดาของคน เบี้ยน้อย หอยน้อยอ่ะนะ ทำไงได้ละ แต่ได้เอเจนซี่ คนญี่ปุ่น และดีมากๆ เค้าช่วยเหลือทุกอย่าง ให้คำแนะนำหลายๆอย่าง หลังจากที่สู้ลัด ฟัดเหวี่ยงกับการ give an offer กันมานาน หลายหลัง แต่ก็แพ้ตลอด อิพี่ยุ่นบอกว่า บ้านหลังไหนที่อยู่ในเขต รร ดี โลเคชั่นดี ถ้ามีครอบครัวคนจีนไปดูด้วยแล้วนี้ ฮีบอกว่า คงไม่มีหวัง เพราะคนจีนมีตังส์ 5555++ อืม..!! น่าคิดนะ เพราะสู้กันทีไร เค้าได้ทุกที หลังแรกสู้ไป $680 K แพ้ค่ะ รอบที่ 2 สู้ไป $720 k แพ้อีก กว่าจะได้ก็ไปดูมาไม่ต่ำกว่า 20 หลัง และรอบสุดท้าย ไปดูมาวันเดียว 3 หลัง หลังแรกที่ไปชอบมว๊ากกก..!! แต่คนไปดูกันเยอะ พี่ยุ่นเลยบอกว่า คงสู้กันเค้าไม่ไหว ราคาต้องสูงแน่ๆ เพราะราคาขายก็ $689 k แล้ว ถ้า Give an offer สัก 12 คนนี้ ตายเลย หลังที่ 2 ที่ไปดู นังเมียไม่ค่อยชอบ แต่เจ้าของบ้าน พูดไทยเป็นน้ำเลยคร๊าาา..!! พอบอกว่าบีมเป็นคนไทย พี่แกดีใจมว๊ากกก..!! เพราะเจ้าของบ้านเคยไปทำงานที่เมืองไทย 6 ปี เรียนพูดภาษาไทยเก่งมากๆ ช่างต่างกันกับสามีเรา ตั้งแต่คบกันมา และอยู่ด้วยกันมา 7 ปี แล้ว พี่แกยังพูดไม่ได้เลย พูดไม่ชัดอีก อย่าให้ได้พูด เพราะไม่งั้น วงแตกกับนังเมียที่บ้านทุกที เพราะไม่เข้าใจว่าพี่แกจะบอกเราว่าอะไร.
หลังที่ 3 ที่ไปดู ตอนแรกไม่ค่อยชอบเท่าไร เพราะมันเป็น ทาวน์โฮม ที่ออกแบบ ไม่ค่อยมีสไตส์โดดเด่นของบ้าน แต่พอเข้าไปดูข้างในบ้านแล้ว รีบสะกิดคุณสามีบอกว่า I like kitchen พอขึ้นไปบนชั้น 3 ห้องนอนใหญ่ เปิดเข้าไปในห้องน้ำ สะกิดพี่แกอีกรอบ Oh wowwww....!! I Love bath room พี่ยุ่นทำหน้า งง >_!?! แล้วแซวเมียว่า คุณจะนอนในห้องน้ำหรอ 5555++ อย่านะ ถ้าฉันนอนจริงๆขึ้นมาละก็ แย่เลยนะ...!! จากไปดูมารอบสุดท้าย 3 หลัง ก็ลงมติกันว่า จะ Give an offer หลังที่ 3 แล้วกัน ราคาขายอยู่ที่ $599,900 สู้กันไปรอบแรกเสนอไป $630 k เข้ามาวิน 4 คนสุดท้าย สู้กันรอบที่ 2 ก็เลยบอกสามีไปว่า เสนอไปเลย $640 k 1 อาทิตย์ผ่านไป รู้ผล ฮีรีบส่งเมล์มาบอกว่า เราชนะ give an offer นะ. ตอนแรกนั่ง งง อยู่ว่า ไม่คิดว่าจะได้ แต่พอรู้แน่ชัดแล้ว ก็ดีใจที่ได้บ้านสักที. เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เข้าไปเช็คบ้านอีกรอบ ว่าจะต้องปรับเปลี่ยนอะไรบ้าง สรุปแล้วก็ต้องเปลี่ยนหลายอย่าง มีหลายอย่างที่ไม่ถูกใจ และไม่ชอบ แต่ปัญหาคือ มันทำไมแพงจังค่าแรงงานช่าง >_
อันนี้เป็นตัวนอกบ้าน กับ ในบ้าน ชั้น 1 กับ ชั้น 2 Living room Kitchen
รูปนี้คือ ชั้น 3 มีห้อง 2 ห้องนอน และก็ ส่วนของเครื่องซักผ้า
รูปนี้เป็นส่วนรอบๆ มีสระว่ายน้ำ กับสนามเด็กเล่น ที่จอดรถ
บ้านจะหลังเล็ก หลังใหญ่ ไม่สำคัญ ขอแค่เราอยู่แล้ว มีความสุขและสบายใจ แค่นี้ก็พอแหละ
ช่วงนี้ของดเรื่อง อาหารไปสักพักนะคะ แม่ครัวยังไม่ว่างเลยค่ะ ว่างเมื่อไร จะแวะเข้ามาอัพข่าวบ่อยๆนะคะ เจอกันบล็อกหน้า สำหรับวันนี้ สวัสดีค่ะ รักผู้ชม และผู้อ่าน จู๊ฟฟฟฟ
Create Date : 11 ธันวาคม 2555 |
|
11 comments |
Last Update : 11 ธันวาคม 2555 10:11:04 น. |
Counter : 3510 Pageviews. |
|
|
|