สู้สุดฤทธิ์พิชิตฝัน

รู้สึกตื่นเต้นจังกับการเขียน blog แบบนี้เป็นครั้งแรก ความจริงก็เคยเขียน diaryออนไลน์
แต่ก็นานมาแล้ว
ทำให้หัวใจป้าๆรู้สึกกระชุ่มกระชวยกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง
แต่ว่ากว่าจะเริ่มเขียนได้ ก็เล่นเอาซะงงว่ามันต้องclickเข้าไปเขียนตรงไหน
ตัวหนังสือก็เล็กๆ ต้องเพ่งตามองเอาซะปวดตา
เอาเป็นว่ามาเข้าเรื่องกันดีกว่า ที่ตั้งชื่อว่า " สู้สุดฤทธิ์พิชิตฝัน" เนี่ยมันมีสาเหตุ
และก็เป็นสาเหตุที่ป้าต้องมาหัดเขียนblog ด้วย

เริ่มมาจากกาลครั้งหนึ่ง นานมาแล้ว โห เริ่มเป็นนิทาน มีพี่สาวน้องสาวอยู่คู่หนึ่ง
ตัวพี่สาวอายุปาเข้าไปจะเลขสามแล้ว
ในขณะที่น้องสาวกำลังอยู่ในวัยกำลังจะจบจากมหาวิทยาลัย
ปกติงานของพี่สาวทำงานกับผู้ชายเป็นส่วนใหญ่ เป็นงานที่ไม่ต้องแต่งตัว
แต่งหน้าทาปากไปทำงาน(เพราะไม่มีใครดูหรอก..)
แต่ก็เป็นงานที่เครียด เล่นเอาหน้าแก่กว่าไวไปหลายปีทีเดียว
เวลามีนัดไปสังสรรค์กับเพื่อนร่วมสถาบันทีไร เจ๊จะเครียดมาก
เพราะสาวๆเค้าสวยๆกันทั้งนั้น สวยขึ้นกว่าตอนเรียนด้วยกันซะอีก
ไปทีไรก็ห่อเหี่ยวใจกลับมา แล้วก็ว่าเราจะต้องดูแลตัวเองมั่ง
แต่พอได้จับงานทีไรก็ลืมเรื่องนั้นหมดทุกที

แล้วอยู่ดีๆวันหนึ่งน้องสาวก็ทำหน้าตาอมทุกข์กลับบ้านมา
ก็เป็นหน้าที่ของพี่สาวที่ต้องถามสารทุกข์สุขดิบของน้อง
ก็ได้ความว่าน้องส่งไปสมัครงานไปหลายที่ แต่ไม่มีใครรับเธอเลย
ทำให้เธอรู้สึกท้อแท้มาก ฉันและคุณแม่ลงความเห็น
ในขณะที่กินซูโก้ย โซ้ยแหลกในร้านชาบูชิว่า ที่น้องสาวสมัครงานแล้ว
ที่ไหนก็ไม่รับ ในขณะที่เพื่อนที่ไปด้วยกันได้งาน
นั่นเป็นเพราะงานที่เธอสมัครเค้าไม่ได้คัดที่คุณสมบัติเป็นหลัก
เพราะถ้าเรื่องการเรียนนั้นน้องเราก็ไม่เป็นรองใครอย่างแน่นอน
แต่ปัญหาของน้องเราตอนนี้คงอยู่ที่เรื่องบุคคลิกมากกว่า
ซึ่งอย่างเราเป็นหัวหน้า เรายังต้องการสาวๆหน้าตาท่าทางจิ้มลิ้มหน่อย
ไม่ถึงกับสวยเอาไว้ต้อนรับแขก หรือลูกค้าเลย แต่น้องเรานี่สิ
เธอมีน้ำหนักส่วนเกินมากหน่อย และยังเป็นนักกีฬามาตั้งแต่เด็ก
ทำให้ผิวเสีย เสื้อผ้าดีๆก็ไม่ค่อยจะซื้อ เพราะว่าไม่มีsize
ใส่อะไรเหมือนกับชาวบ้านไม่ค่อยจะได้ แต่ในฐานะพี่สาว
เราก็จะทำทุกวิถีทางที่จะช่วยน้องสาวคนนี้ให้ได้เลย
ดังนั้นเราจึงจะขอตั้งชื่อภารกิจนี้ว่า "ภารกิจสู้สุดฤทธิ์ พิชิตฝัน"
โดยให้เวลาตัวเอง และน้องสาวประมาณ 6 เดือน
จะต้องช่วยกันปรับปรุงบุคคลิกภาพน้องสาวให้ดีขึ้น
และสมัครงานดีๆให้ได้
สู้โว้ย!!!

ภารกิจนี้เริ่มจาก1. เจ๊เองก็ไม่ได้มีประสบการณ์ด้านความงามสักเท่าไหร่
แต่ประสบการณ์ด้านการงานของเจ๊บอกเจ๊ว่า ถ้าไม่รู้เรื่องอะไรให้ถามgoogle
เพราะgoogle มีทุกสิ่งที่คุณอยากรู้ โอเคเจ๊เริ่มจากตรงนี้แหละ
2. หลังจากเจ๊ค้นทั้งวันทั้งคืน เจ๊ก็ต้องตื่นตาว่า
มีเรื่องที่เจ๊ยังไม่รู้อีกตั้งเยอะ เจ๊แอบแวะดูวิธีแก้ตาแพนด้า
กับลบริ้วรอยด้วย ฮ่าๆ จนค้นพบว่าเว๊ปที่น่าสนใจอีกอันคือเว๊ปพันทิป
โต๊ะเครื่องแป้ง แม้ว่าเจ๊จะเข้ามาแวะเวียนดูพันทิปหลายครั้ง
แต่ก็ยอมรับว่าไม่เคยเข้ามาดูโต๊ะนี้เลยสักเท่าไหร่
สิ่งที่เจ๊ได้ก็คือ review เครื่องสำอางค์ และ วิธีลดน้ำหนักหลายๆวิธี
3. จากการอ่าน diet diary ของหลายๆท่านทำให้เจ๊ตระหนักว่า
การเขียน dairy เป็นอีกวิธีการหนึ่ง เพราะถ้าเราประกาศออกไป
ว่าเราจะทำอะไร แล้วเราได้เข้ามาอัพเดทบ่อยๆ
ก็จะทำให้เราเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในตัวเรา
สำคัญมากคือวันที่เราท้อแท้ ถ้าเราได้กลับมาอ่านว่า
เราพยายามมามากเท่าไหร่แล้ว เราคงจะไม่ล้มเลิกไปง่ายๆ

ดังนั้นวันนี้จึงเป็นฤกษ์ที่ดีที่จะประกาศภารกิจนี้....ฮ่าๆๆ
(หัวเราะจนกรามค้างเหงื่อตก นึกถึงภาพเมื่อคืน
ขณะที่เจ้าตัวดีแอบแทะแหนม(อันกลมๆยาวๆใหญ่ๆ)ตอนสี่ทุ่ม
หลังจากกินอาหารเย็นแล้ว ยอมรับว่าเครียด
ภารกิจนี้จะสำเร็จไหมหนอ คงต้องลุ้นกันต่อไป)

Create Date : 21 กันยายน 2552 Last Update : 21 กันยายน 2552 15:53:23 น. Counter : 354 Pageviews.		2 comments
Share Tweet