Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2552
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
31 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 
บอรา บอร่า ใข่มุกงามแห่งทะเลใต้

บอรา บอร่า ไข่มุกงามแห่งทะเลใต้ (bora bora: pearl of the pacific)

รถมารับจากเชอราตันโมโอเรีย เวลา 10 โมงเช้าพาไปสนามบินโมโอเรีย เพื่อขึ้นเครื่องบินเล็กแอร์ตาฮิติ ซึ่งบินระหว่างเกาะต่างๆในหมู่เกาะเฟรนช์โพลีนีเชีย สนามบินโมโอเรียเป็นสนามบินขนาดเล็กจิ๋ว หลังคามุงจาก มีเคาน์เตอร์เช็คอิน 2 เคาน์เตอร์ เป็นของแอร์โมโอเรีย (บิน 15 นาทีระหว่าง โมโอเรียกับตาฮิติ) 1 เคาน์เตอร์ และของแอร์ตาฮิติ (บินแบบอินเตอร์ไอส์แลนด์) อีก 1 เคาน์เตอร์ วันนี้ที่สนามบินผู้คนขวักไขว่ ส่วนใหญ่จะขึ้นเครื่องบ่ายหน้าไปบอรา บอร่าทั้งสิ้น ไฟลท์ของเราคือ VT 251 ออกเวลา สิบเอ็ดโมงครึ่ง มองดูตารางเที่ยวบินก็เห็นมี 4-5 เที่ยวต่อวัน ห้องพักผู้โดยสารเป็นโถงโล่งตลอด มีเคาน์เตอร์บริษัททัวร์และร้านค้าอยู่เต็ม มีโทรทัศน์แขวนอยู่ตรงประตูทางออก 1 เครื่อง แสดงภาพชีวิตสัตว์ใต้ทะเลของเกาะบอราบอร่า




air tahiti


ด้วยความที่ค้นคว้ามาดี (อีกแย้ว) จึงจูงสามีเพื่อไปเข้าแถวขึ้นเครื่องเป็นอันดับต้นๆ เพราะทราบมาว่าเที่ยวบินระหว่างเกาะนี้จะไม่มีการจัดเลขที่นั่ง คือให้เลือกนั่งกันเอาเองตามชอบใจ (FREE SEATING) และหากจะชมวิวอันสวยงามอลังการของเกาะจากหน้าต่างเครื่องล่ะก้อ ต้องนั่งด้านซ้ายมือของเรือบินเท่านั้น ทางขวาจะเห็นแต่ทะเลเวิ้งว้าง ด้วยความกลัวจะไม่ได้เห็นวิวอลังการที่เคยเห็นในรูปโปสการ์ดของเกาะบอราบอร่า ซึ่งคิดว่าจะเป็นภาพประทับใจไปชั่วชีวิตหนึ่งในหลายๆภาพ จึงจำเป็นต้องฟาดฟันกับฝรั่งเพื่อให้ได้ที่นั่งด้านซ้ายมือของเครื่อง เราเริ่มพารานอยด์ตาขวางใส่นักท่องเที่ยวที่รอเครื่องอยู่รอบตัวเพราะเกรงว่าทัวริสต์ทุกคนในที่นี้จะแอบอ่านเว็บไซต์เดียวกันแล้วแย่งกันนั่งที่นั่งด้านซ้ายไปหมด

ตาขวางไปมาอยู่สักพัก ก็ประกาศเรียกขึ้นเครื่อง สองคนยืนอยู่อันดับประมาณที่ 10 คำนวณในใจทันทีว่าจะมีที่ว่างด้านซ้ายเท่าไหร่ อ้อต้องไม่นั่งตรงปีกเครื่องบินนะเพราะจะไม่เห็น แล้วจะมีที่เหลือถึงเรารึเปล่า

เดินแกมวิ่งขึ้นเครื่องไปเจอพนักงานต้อนรับชาวฝรั่ง ถามเพื่อความแน่ใจว่านั่งด้านไหนเห็นวิว พนักงานคอนเฟิร์มมาว่าด้านซ้ายแน่นอนจึงพุ่งตรงไปเลือกนั่งด้านหลังปีกมา 2 ที่คะเนว่าวิสัยทัศน์ดีมาก นั่งตื่นเต้นไปมาสักพักเครื่องก็ทะยานขึ้นสู่ฟ้า มองลงมาเห็น ยอดเขาสูงต่ำเหนือน้ำของเกาะโมโอเรีย จากมุมสูง สวยไปอีกแบบ พนักงานเสิร์ฟน้ำผลไม้ ประมาณ 15 นาทีก็มองเห็นเกาะขนาดใหญ่ ล้อมด้วยน้ำทะเลสีเขียวใส สักครู่กัปตันก็ประกาศว่าขณะนี้เรากำลังลดระดับลงสู่สนามบินของเกาะฮูอาฮิเน่ เพื่อส่งและรับผู้โดยสาร ว่าแล้วก็ร่อนเครื่องลงบนรันเวย์ที่อยู่บนพื้นที่เกาะแคบๆที่เหมือนเป็นแขนงอกออกมา

ไม่เห็นอะไรที่ฮูอาฮิเน่มากมายนอกจากสนามบินและทิวทัศน์เกาะในมุมสูงและลากูนข้างสนามบิน ความจริงแล้วนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อย ที่ลงความเห็นว่าเกาะนี้เป็นเกาะที่ยังเป็นธรรมชาติอยู่มากที่สุดในหมู่เกาะเฟรนช์โพลีนีเชียด้วยกัน มีความสงบ มีความเด่นชัดของวัฒนธรรมชาวพื้นเมือง บางทีถ้ามีโอกาสในภายหน้า เราจะมาเยือนเกาะนี้

ใจเต้นตึกตักเมื่อเครื่องบินทยานกลับขึ้นฟ้า อีกไม่กี่อึดใจก็จะได้เห็นบอราบอร่า “ไข่มุกแห่งแปซิฟิก” อยู่เบื้องล่างแล้ว สักพักเราก็มองเห็นเกาะใหญ่ที่ล้อมด้วยเกาะบริวารเล็กๆรอบๆ และแนวปะการังล้อมทะเลปิดสีเขียวสด สวยงามจนเข้าใจว่านี้คือบอราบอร่า แต่แปลกใจว่าไม่มีประกาศจากกัปตันแต่อย่างใด และเนื่องจากบอราบอร่าเป็นเกาะเกือบสุดท้ายทางด้านทิศตะวันตกของหมู่เกาะ ก็เกิดความเข้าใจว่านี่คือเกาะ ทาฮ่า และไรอาเทีย ซึ่งเป็นสองเกาะติดกันที่เก่าแก่ที่สุดในหมู่เกาะเฟรนช์โพลีนีเชีย ซึ่งอยู่ก่อนถึงบอราบอร่าเล็กน้อย เกาะไรอาเทียเป็นเกาะที่เป็นศูนย์กลางของอารยธรรมเก่าแก่โพลีนีเชีย จึงมีคนขนานนามว่าเป็นเกาะศักดิ์สิทธิ์ (SACRED ISLAND) แห่งแปซิฟิก

อึดใจเดียว ก็ปรากฎสีสันแสบตาของบอราบอร่าก็สะท้อนแสงแดดเปล่งประกายแจ่มชัดเหมือนจะอวดความงดงามเต็มที่ เราชะงัก ไปครู่เพราะว่าในบรรดาเกาะที่ผ่านมาทั้งหมด ก็ว่าสวยงามจับตาอยู่แล้ว ไม่ได้เตรียมใจว่าบอราบอร่าจะมีสีสันที่แตกต่างและเปล่งประกายงดงามโดดเด่นยิ่งกว่าเกาะใดๆในมหาสมุทรแปซิฟิก ลากูนสะท้อนแสงออกมาหลายเฉดสี เปล่งประกายแข่งกันทั้งสีขาว สีเขียวอ่อน สีเขียวเทอร์คอยส์ สีเขียวมรกต สีฟ้า สีฟ้าโทปาซ สีฟ้าอความารีน สีฟ้าปาสเตล สีฟ้าสด สีน้ำเงิน และสีคราม โอบล้อมเกาะภูเขาไฟรูปงามกลางทะเล และมีเกาะเล็กๆแบนราบเชื่อมต่อกันรายล้อมลากูนและเกาะใหญ่เอาไว้เหมือนเป็นสร้อยไข่มุกขนาดใหญ่ กลั้นหายใจให้แก่ความงามของบอราบอร่า พร้อมเสียงฮือฮาของผู้โดยสารเครื่องบินทุกๆคน ก่อนที่จะมีหมู่เมฆทยอย
กันเข้ามาปกคลุมทิวทัศน์อันมหัศจรรย์เบื้องล่างเอาไว้เกือบหมด ราวกับจะบอกว่าของดีมีให้ดูน้อย ดูแค่นี้ก็พอแล้ว ดูมากเดี๋ยวจะจืดหมด








ฮึดฮัดขัดใจสักพัก เครื่องบินก็บินวนลงสู่เกาะเล็ก (MOTU)รูปเรียวยาว ที่เป็นสนามบินของบอราบอร่า สีสันสดใสของลากูนบอราบอร่าก็เจิดจ้าขึ้นมาท้าทายสายตาอีกครั้ง ถึงแม้ว่าฟ้าจะมีเมฆมาก แต่ก็ไม่สามารถจะทำให้ลากูนของบอราบอร่าสีหมองลงไปได้ ทุกคนตื่นตาตื่นใจเมื่อเครื่องบินลงแตะพื้นรันเวย์ที่สามารถมองเห็นลากูนได้ไม่ไกล พร้อมจะลงจากเครื่องบินนี่แล้ววิ่งลงน้ำแล้ว!

เดินยิ้มลงเครื่องไปก็รู้สึกเหมือนถูกดึงดูดจากลากูนหลายเฉดสีเบื้องหน้า ให้พุ่งตรงลงไปหาลืมดูทางเข้าสนามบินไปสิ้น กว่าจะรู้ตัวก็ถูกจูงให้เดินเข้าอาคารเทอร์มินัลซึ่งเป็นอาคารชั้นเดียวหลังเล็กๆ OPEN AIR อยู่ริมทะเล เดินเข้าอาคารก็พบเคาน์เตอร์ของโรงแรมห้าดาวทั้งหลายในบอราบอร่า ตั้งเข้าแถวเรียงรายรอรับแขกกันอยู่ถ้วนหน้า ไม่ว่าจะเป็น Le Meridien, Bora Bora Lagoon Resort, Sofitel Coralia Motu, Inter-Continental Beachcomber, Bora Bora Nui, โรงแรมของเรา Pearl Beach Resort มีแถวนักท่องเที่ยวยาวกว่าเพื่อน มีพนักงานสาวหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสชื่อจิเซล คอยรอคล้องพวงมาลัยให้ทีละคู่ พร้อมกับแจกTAG กระเป๋าให้ ซึ่งแสดงหมายเลขห้องที่ได้ จัดไว้ให้แขกเรียบร้อยแล้ว ใจเต้นเล็กน้อยเพราะไม่รู้ว่าจะได้ห้องที่เราขอไปหรือเปล่า คุณสามีเดินหายไปทางชายหาดขาวข้างๆอาคารเทอร์มินัลเพื่อไปถ่ายวิดีโอลากูนหลากสี

ปรากฏว่าเราได้บังกาโลหมายเลข 35 ตามที่ขอ พอคุณพนักงานแจก TAG กระเป๋าที่มีเบอร์ 35 เขียนอยู่ให้กับเราแล้ว ก็กระซิบบอกว่า “You’ve got a beautiful room” ว่าแล้วก็คล้องพวงมาลัยให้ ก่อนจะนำทางเราไปยังเรือของโรงแรมที่จอดอยู่หลังเคาน์เตอร์

พอได้กระเป๋าก็เอา TAG เบอร์ห้องติดลงไป พนักงานขนกระเป๋าของโรงแรมก็มารับไปลงเรือให้ ส่วนเราก็เดินลงเรือตัวเบา ตื่นเต้นกับสีสันและทัศนียภาพรอบตัวเป็นที่สุด เรือวิ่งฉิวออกจากท่าสนามบินมุ่งหน้าสู่โรงแรม Pearl Beach Resort ท่ามกลางสายลมแรง



pearl beach resort


เพิร์ล บีช รีสอร์ทเป็นโรงแรมห้าดาวบนเกาะเล็ก (MOTU) ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องของการออกแบบสถานที่ ได้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ บังกาโลเหนือน้ำที่รีสอร์ทนี้ขึ้นชื่อในเรื่องการตกแต่ง ความกว้างขวางและวิวทิวทัศน์ของลากูนและภูเขากลางทะเลของบอราบอร่า เมื่อมองจากระเบียงบ้าน จุดแข็งอีกประการหนึ่งของที่นี่คือสีสันของลากูน เนื่องจากน้ำทะเลรอบเกาะเพิร์ลบีชนี้มีความตื้นเพียง 3-5 เมตร เป็นพื้นที่กว้างใหญ่ เรียกว่าสามารถเดินไปไกลได้ร่วมร้อยเมตรแล้วยังตื้นแค่เอว ภายใต้น้ำทะเลใสเป็นพื้นทรายขาวสุดลูกหูลูกตา สีสันของทะเลจึงสะท้อนออกมาเป็นสีเขียวอ่อนๆ ก่อนจะไล่ระดับไปเขียวแก่และสีฟ้าอยู่ไกลๆ นอกจากนี้สระว่ายน้ำของเพิร์ลบีชยังถูกจัดอันดับให้เป็นอันดับต้นๆในหมู่เกาะเฟรนช์โพลีนีเชีย! ด้วยการออกแบบรูปทรงที่สวยงามและดูเหมือนจะกลืนหายเป็นเนื้อเดียวกับทะเลเบื้องหน้าทีเดียว


แค่อึดใจเดียวเรือก็พาคณะแขกมาเทียบท่าเรือของเพิร์ลบีช มองไปด้านซ้ายเห็นภูเขาไฟกลางทะเลโอเตมานู (OTEMANU) ยืนตระหง่านอยู่เหนือน้ำ กวาดตามาด้านขวาเห็นแนวบังกาโลเหนือน้ำ (OVERWATER BUNGALOWS) เป็นกระท่อมไม้สีทองหลังคามุงจาก เข้าแถวเรียงตัวสวยอยู่บนผืนน้ำสีเขียวใส



คุณนายลงจากเรือเดินถือกล้องถ่ายรูป สามีถือกล้องวิดีโอ เดินไปถ่ายไปเดินสะดุดไปงกๆเงิ่นๆด้วยความตะลึงพรึงเพริดกับฉากทะเลสวยงามตรงหน้า เป็นบุญตาที่ได้มาเห็น สาวพนักงานชาวตาฮิเตียนที่มาต้อนรับก็พาทั้งคณะขึ้นไปนั่งบนบาร์กว้างขวางของโรงแรม กล่าวต้อนรับเป็นภาษาอังกฤษกับฝรั่งเศส บรีฟสั้นๆให้ฟังเกี่ยวกับการให้บริการของโรงแรม เสิร์ฟน้ำผลไม้ที่มีรสชาติของมะม่วงน้ำส้มและมะละกอ เย็นฉ่ำสดชื่น แจกแบบฟอร์มให้เขียนเช็คอิน และแผ่นพับเล่มเล็กที่เป็นรายการกิจกรรมทางบกและทางน้ำหลากหลายที่มีให้แขกได้เลือกซึ่งมีตั้งแต่ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ชมวิวบอราบอร่าทางอากาศ (คนละ 175 เหรียญต่อ 30 นาที) ไปจนดำน้ำทะเลลึกดูฉลามทางเรือดำน้ำ หลังจากนั้นก็แจกกุญแจห้อง และมีพนักงานนำทางไปห้องพัก 2 คน คนแรกเป็นสาวญี่ปุ่น (อีกแล้ว) แต่แต่งตัวแบบตาฮิเตียน และคนที่สองเป็นสาวพื้นเมืองตัวล่ำ สาวญี่ปุ่นจะนำแขกที่พักบังกาโลเหนือน้ำไปห้องพัก ส่วนสาวตาฮิเตียนนำแขกบังกาโลริมหาดกับในสวน

สาวญี่ปุ่นพาเดินลงไปสู่ทางเดินไม้บนน้ำทอดไปสู่หมู่บังกาโลกลางทะเล (รถกอล์ฟไม่มีเหรอยะ ไม่หรูเลย คุณนายแอบบ่น) ขณะที่เดินก็บังเกิดฝนตกซู่ลงมาต้อนรับ พอให้เปียกๆ (ร่มไม่มีเหรอยะ) แล้วก็หายไปในบัดดล เลยออกจะงงๆ กับดินฟ้าอากาศบอราบอร่า สาวญี่ปุ่นส่งชาวบ้านเข้าห้องหมดแล้วยังไม่ถึงห้องเราซะที อ๋อบังกาโลเบอร์สามสิบห้าของเรานี้น่ะเนื่องจากเป็นห้องเก๋ วิวดีที่สุดในรีสอร์ทเลยอยู่ไกลสุดทางเดินลึกเข้าไปกลางทะเล (ตื้นๆ) ไม่มีบังกาโลอื่นๆมีบังวิวให้เสียเส้น โผล่ออกไปปะทะวิวภูเขาและทะเลแบบพาโนรามารอบทิศไร้สิ่งกีดขวางทั้งสิ้น จึงต้องเดินไกลกว่าชาวบ้านหน่อย พอไปถึงห้องได้ก็เหนื่อยแถมลมทะเลยังซัดเอาตูมๆไม่เกรงอกเกรงใจ เนื่องจากไม่มีอะไรมาขวางวิวก็เลยไม่มีอะไรมาขวางลมด้วย ห้องเราเลยโดยลมเข้าไปเต็มๆ




จริงๆแล้วก็ไม่น่าจะเรียกว่าห้อง น่าจะเรียกว่าบ้านมากกว่า เพราะบังกาโลทุกหลังมีความเป็นส่วนตัวแบบ TOTAL PRIVACY เปิดเข้าไปก็พบว่าห้องกว้างขวางสวยงาม ตกแต่งด้วยไม้และไผ่สาน มีเตียงใหญ่สีขาวกลางห้องจัดวางให้นอนดูวิวได้ชัดๆ มีเฉลียงส่วนตัวใหญ่เบ้อเริ่มกั้นส่วนจากห้องนอนด้วยประตูกระจกบานใหญ่ใสแจ๋ว มองเห็นวิวสีโปสการ์ดสุดลูกหูลูกตาสมราคาคุยจริงๆ ห้องน้ำใหญ่แบบสาวระบำส่ายพุงเข้าไปเต้นได้ 8 คน ประกอบไปด้วยอ่างล้างหน้าแบบมีกระจกใสให้มองลงไปในทะเล กระจกบานใหญ่เป้งส่องเจอสิวทุกเม็ด เครื่องเป่าผม ชุดเครื่องประทินกลิ่นหอมร่วม10ขวด ซึ่งไม่หอมเลยสักขวด (ต้องขุดเอาของเชอราตันที่เม้มมาจากโมโอเรียมาใช้) มีดอกชบา (ฝรั่งเรียก HIBISCUS) ดอกโตๆวางประดับอยู่ทั่ว หน้าต่างห้องน้ำบานใหญ่เลื่อนเปิดได้เห็นวิวห้องนอนและภูเขาไฟบนทะเลเบื้องหน้า ในห้องน้ำมีแบ่งซอยห้องย่อยๆเป็นห้องอาบน้ำฝักบัว อ่างอาบน้ำและห้องส้วม ห้องน้ำไม่มีประตูปิดค่ะ ให้เดินเข้าเดินออกกันตามสบาย มองเห็นกันได้จากหลายเมตร


เดินออกมาสำรวจในห้องนอน มีโซฟาใหญ่สีขาวจัดเข้ามุมสวย มีโต๊ะทำงานพร้อมเมนูการให้บริการต่างๆของโรงแรมพร้อมโทรศัพท์ มีเครื่องเล่นซีดีและโทรทัศน์ และมินิบาร์แช่เครื่องดื่มพร้อมสรรพ มีโต๊ะกาแฟกระจกใสให้มองดูปลาในทะเลข้างล่างแถมเลื่อนกระจกออกให้อาหารปลาได้อีกต่างหาก บนโต๊ะกาแฟมีขวดแชมเปญแช่ในถังน้ำแข็งวางอยู่และมีโน้ตเล็กวางอยู่ข้างๆ บอกว่าเป็น COMPLIMENT จากผู้จัดการโรงแรม คุณสามีรินทันทีแล้วเดินออกไปดื่มชมวิวกันที่เฉลียง

สวยเริ่ดอลังการตื่นตาตื่นใจมากๆ กับเส้นขอบฟ้าเบื้องหน้าที่มีทะเลสีเขียวอ่อนตัดกับสีครามก่อนจะนำสายตาไปสู่ภูเขาสูงตระหง่านกลางทะเลเบื้องหน้า ด้านซ้ายมือเป็นเส้นขอบฟ้าทะเลสุดลูกหูลูกตาไล่ระดับหลากสีสันมองเห็นเกาะเล็กๆมีต้นมะพร้าวขึ้นเหมือนในการ์ตูนติดเกาะของหนูจ๋าที่อ่านตอนเด็กๆ อยู่ในเส้นสายตา ด้านซ้ายมือเป็นทิวเขาสูงต่ำลงมาพร้อมเส้นขอบฟ้าทะเล และ แหะ แหะ เห็นบังกาโลเบอร์ 34 นิดนึงเห็นหนุ่ม (ท่าทางจะเป็นอิตาเลียน)พุงอืด กำลังจะกระโดดลงน้ำจากซันเด๊คห้อง 34 (ห่างออกไปไกลพอควร)

เฉลียงห้องที่ยื่นออกมาชมวิวนั้น เป็นรูปครึ่งวงกลมกว้างกว่าเชอราตันโมโอเรียมากทีเดียว เรื่องวิวนั้นชนะขาดไปเรียบร้อย มีเดย์เบดสองตัววางคู่กันอยู่บนเฉลียง ด้านซ้ายเฉลียงมีโต๊ะอาหารไม้เข้ามุมอยู่ ไว้นั่งกินไปชมวิวไป จากเฉลียงมีบันไดทอดลงสู่ซันเด็คขนาดเล็กรูปครึ่งวงกลม (วางเดย์เบดไม่ได้ ต้องนอนอาบแดดบนพื้นเด็ค) ซึ่งอยู่เหนือจากน้ำไม่ถึงฟุต มีบันไดเล็กให้ไต่ลงน้ำสีสวยของบอราบอร่า ตอนขึ้นมามีฝักบัวน้ำจืดให้อาบก่อนขึ้นบ้าน






เราชอบซันเด็คที่นี่มากเพราะให้ความรู้สึกว่าใกล้ลากูนใกล้ภูเขาแค่ว่ายน้ำ 3 สโตรค วิวเบื้องหน้าช่างเหมือนเรานั่งห้อยขาอยู่บนทะเลสวรรค์ทีเดียว สีเขียวกระจ่างตาของผืนน้ำเบื้องหน้าและรอบๆตัวทำให้เรารู้สึกทึ่งแรงสร้างสรรค์ของธรรมชาติ ที่ไม่มีสิ่งประดิษฐ์ใดๆในน้ำมือมนุษย์จะทำได้เทียบเคียงแม้แต่เสี้ยวธุลี ธรรมชาติคือศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ และ บอราบอร่านี่คืองานศิลปะชิ้นเอกของศิลปินผู้ยิ่งใหญ่แห่งโลกเรานี้ (MOTHER NATURE AND HER MASTERPIECE)





Create Date : 31 กรกฎาคม 2552
Last Update : 31 กรกฎาคม 2552 22:21:42 น. 9 comments
Counter : 6517 Pageviews.

 
สวยมากๆเลยครับ อยากไปเที่ยวมั่งจัง


โดย: One Light One Shadow วันที่: 1 สิงหาคม 2552 เวลา:10:20:17 น.  

 
สวยอ่ะ ต้องไปแอบหาข้อมูลดูบ้างแล้ว


โดย: ibozla วันที่: 1 สิงหาคม 2552 เวลา:15:07:35 น.  

 
สวยมาก
น้ำใส น่าอิจฉา อย่างแรง


โดย: miss Florence in Venice วันที่: 1 สิงหาคม 2552 เวลา:18:13:18 น.  

 
มารอตอนต่อไปนะคะ

ติดตามกระทู้คุณสาวช่างเที่ยวมาตั้งนานละ

เพิ่งจะได้อ่านข้อมูลเต็ม ๆ ก็ตอนนี้แหละค่ะ


โดย: Travellor IP: 203.153.187.37 วันที่: 4 สิงหาคม 2552 เวลา:16:55:56 น.  

 
ขอบคุณค่ะ อัพได้ช้าหน่อยนะคะ เผอิญเป็นคนโลว์เทคมากๆค่ะ


โดย: สาวช่างเที่ยว วันที่: 19 สิงหาคม 2552 เวลา:10:22:46 น.  

 
เจ๋งปายเยยคะเพ่ สุค่อยปายเยย


โดย: ม่ายรู้สินะ IP: 125.27.174.64 วันที่: 19 พฤศจิกายน 2552 เวลา:17:10:32 น.  

 
สวยมากมายค่ะ
อยากไปจัง


โดย: นุ๊กนิก IP: 118.172.247.223 วันที่: 10 ธันวาคม 2552 เวลา:16:18:58 น.  

 
มีแผนจะไปตาฮิติเร็วๆนี้ ค่ะ จะไปประมาณ เกือบๆสอวฃงสามเดือน ช่วยแนะนำเส้นทางและสายการบิน ด้วยค่ะ เพราะดูจาก เว็บไซด์ต่างๆ ให้ข้อมูลขัดแย้งกันมาก แฟนเป็นคนฝรั่งเศส ทำงานอยู่ที่โน่น ยังงงๆเลย ว่าตกลงจะไป แอร์ไหนดี หรือเส้นทางไหนดี


โดย: ผีทะเล IP: 118.173.82.196 วันที่: 1 กรกฎาคม 2553 เวลา:20:04:35 น.  

 
ใช่จริงๆ ด้วย พี่สุดยอดมากค่ะ ไอดอลเลยอ่ะ แต่ละที่ที่ไป สวยมากกกกก


โดย: เมย์ IP: 125.27.68.87 วันที่: 14 กรกฎาคม 2555 เวลา:23:33:31 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สาวช่างเที่ยว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




I love you in a place,
where there's no space or time,
I love you for a reason,
you are a friend of mine.
Friends' blogs
[Add สาวช่างเที่ยว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.