Group Blog
 
<<
มีนาคม 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
26 มีนาคม 2551
 
All Blogs
 

ชัยชนะของชลบุรี กับทิศทางของฟุตบอลอาชีพในเมืองไทย



เมื่อวันพุธที่ผ่านมา(19 มี.ค. 2551) ผมได้มีโอกาสไปดูการแข่งขันฟุตบอล AFC Champions League 2008 กลุ่ม G ระหว่างทีมชลบุรีกับทีมเมลเบิร์น วิตตอรี่ของออสเตเรีย ที่สนามศุภชลาศัย ด้วยความเอื้อเฟื้อตั๋วฟรีราคา 500 บาท 2 ใบ จากไทยทีวีสีช่อง 3 ทำให้ผมและเพื่อนได้มีโอกาสได้ดูบอลคู่นี้ ขอขอบคุณช่อง 3 ด้วยครับ ผมไปถึงที่สนามเวลาประมาณ 5 โมงเย็น ปรากฏว่าเริ่มมีแฟนบอลของชลบุรีเข้ามากันที่สนามเป็นจำนวนพอสมควรแล้ว มีซุ้มกิจกรรมให้ทำอย่าง เตะบอลเข้ารูเล็กๆ เตะเครื่องวัดน้ำหนักการเตะบอลของเรา แล้วก็มีซุ้มขายของที่ระลึกของทีมชลบุรี ขณะที่รอเพื่อนที่นัดมาเจอกันที่หน้าสนาม บรรยากาศก็คึกคักขี้นเรื่อยๆ มีกองเชียร์กลุ่มใหญ่ร้องเพลงเชียร์ของทีม มีการจุดพลุเล็กๆเหมือนกับที่เคยเห็นในบอลอิตาลี ทำให้ผมนึกถึงบรรยากาศที่เคยเห็นเวลามีการถ่ายทอดฟุตบอลจากยุโรปทางทีวี



ผลการแข่งขันออกมาปรากฏว่า ทีมชลบุรีชนะไป 3-1 ซึ่งผมคิดว่าท่านผู้อ่านทุกคนคงรู้แล้ว ผมคงไม่พูดถึงรายละเอียดของการแข่งขัน แต่ขอบอกว่าเชียร์และดูบอลคู่นี้ มันส์มาก มันส์กว่าตอนที่ผมไปดูทีมชาติไทยที่สนามอีก กองเชียร์ของชลบุรีก็เชียร์กันไม่หยุด ตลอดเวลาการแข่งขัน เหมือนกับว่าพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของทีม เพลงเชียร์ของทีมก็มีหลากหลาย และเพราะกว่าเพลงเชียร์ทีมชาติไทย ที่มีแค่ ไทยแลนด์ แล้วก็เป่า ปู๊ด 2 ที ประทับใจมากครับ คุณสามารถดูบรรยากาศและประตูที่ทำกันได้ในเกมจาก link นี้ สิ่งที่ผมอยากจะพูดถึงหลังจากดูบอลคู่นี้จบก็คือ ผมคิดว่าทีมชลบุรีจะเป็นแบบอย่างของแนวทางในการทำทีมฟุตบอลอาชีพของไทยในอนาคต



ผมว่าสิ่งสำคัญที่ทีมฟุตบอลอาชีพต้องมี นอกจากนักฟุตบอล โค้ช และเงินในการทำทีมแล้ว ก็คือแฟนบอลและสนามที่จะใช้แข่งประจำของทีมเวลาที่เป็นทีมเหย้า ผมไม่ค่อยห่วงในเรื่องสิ่งเหล่านี้ สำหรับทีมในต่างจังหวัดเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่จะมีสนามและแฟนบอลอยู่แล้ว แต่ที่ผมห่วงคือทีมที่อยู่ในกรุงเทพฯ เท่าที่ผมดูทีมทั้งหมดที่เล่นอยู่ในกรุงเทพฯ ซึ่งจากที่ผมดูในตารางของไทยลีกแล้ว มีทีมที่อยู่ในกรุงเทพฯประมาณ 10 ทีมจากทั้งหมด 16 ทีม ดังนั้นกว่าครึ่งหนึ่งของทีมในไทยลีกคือทีมในกรุงเทพฯ เพราะฉะนั้น นี่คือปัญหาใหญ่ ในเรื่องของสนาม ไม่ใช่ทุกทีมที่อยู่ในกรุงเทพฯมีสนามเหย้าที่แข่งเป็นประจำของตัวเอง แล้วคนส่วนใหญ่ก็ไม่รู้ด้วยว่าแต่ละทีมแข่งกันที่ไหน ส่วนในเรื่องของแฟนบอล สำหรับทีมในต่างจังหวัด อย่างชลบุรี สมุทรสงคราม หรือนครปฐม มันก็พอจะคาดเดาได้แน่นอนว่าจะหาแฟนบอลได้จากไหน ไม่ต้องคิดมาก ก็คนที่อยู่ในจังหวัดนั้นๆนะครับ แต่ทีมในกรุงเทพฯอย่างบีอีซี เทโรศาสน นี่ผมสงสัยว่าจะหาแฟนบอลได้จากไหน ถึงผมจะดูช่อง 3 เป็นส่วนใหญ่ ผมก็ไม่รู้สึกผูกพันพอที่จะเชียร์ทีมนี้ หรืออย่างทีมพนักงานยาสูบ ถึงผมจะสูบบุหรี่แล้วเลิกไม่ได้สักที ผมก็ไม่รู้สึกผูกพันพอที่จะเชียร์ อย่างธนาคารกรุงไทย ผมก็มีบัญชีเงินฝากอยู่ แต่ผมก็ไม่รู้สึกอายขนาดที่จะต้องไปถอนเงินฝากที่มีอยู่กับการที่ทีมโดนทีมจากญี่ปุ่นยิงไป 1-9 ในการแข่งขัน AFC Champions League 2008 เมื่อสักสองอาทิตย์ก่อน ซึ่งแข่งตอนบ่าย 3 ผมก็ไม่รู้ว่าแมวที่ไหนคิดที่จะให้แข่งเวลานี้ นอกจากร้อนแล้ว จะมีแฟนบอลที่ไหนจะมาเชียร์ตอนเวลาช่วงนี้ได้ คือพูดรวมๆแล้วผมไม่รู้สึกผูกพันพอที่จะเชียร์สักทีมที่อยู่ในกรุงเทพฯ



ขณะที่เขียนอยู่นี้(20 มี.ค. 2551) ผมได้ข่าวจากเว็บไซด์ผู้จัดการว่าทางสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย หรือ เอเอฟซี กำลังพิจารณาที่จะตัดสิทธิ์การเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลรายการ "เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก" ของสโมสรฟุตบอลในประเทศไทยในปีหน้า เนื่องจากเหตุผลหลักๆ ที่ เอเอฟซี มองว่าสโมสรจากประเทศไทยไร้ระบบการจัดการแบบมืออาชีพ ประกอบด้วย รายได้จากการซื้อบัตรเข้าชมการแข่งขันฟุตบอลลีกในประเทศไทยมีน้อยเกินไป ขณะที่บางสโมสรยังไม่มีการจำหน่ายบัตรเข้าชมการแข่งขันเลยด้วยซ้ำ ประการถัดมาคือมีผู้เข้าชมการแข่งขันฟุตบอลไทยลีกเป็นจำนวนน้อยมาก ถัดมาคือการไม่มีการแสดงบัญชีงบดุลการบริหารของทีมฟุตบอล รวมทั้งสโมสรฟุตบอลในไทยแลนด์พรีเมียร์ลีกไม่มีการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ส่วนใหญ่จะมีชื่อเป็นชื่ออิงกับบริษัทหรือองค์การ เช่น ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงเทพ ทีโอที พนักงานยาสูบ ฯลฯ ไม่ใช่ชื่อที่เป็นชื่อจริงๆของทีมฟุตบอลนั้นๆ ซึ่งในมุมมองของผมส่วนหนึ่งก็คิดว่ามันโหดร้ายไปหน่อย เพราะระบบบอลลีกของเราก็เป็นอย่างนี้มานานแล้ว แต่ในอีกแง่หนึ่งผมก็คิดว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะถ้าไม่มีกฎข้อนี้มาบีบ ระบบลีกของเราก็จะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ถือเป็นโอกาสที่ดีในการทำการรื้อระบบใหม่ทีเดียวเลย



สิ่งที่จะเขียนต่อไปคือแนวคิดของผมในการที่จะทำให้ฟุตบอลลีกในเมืองสามารถเป็นอาชีพได้อย่างแท้จริง ซึ่งการทำให้เป็นอาชีพเป็นผลดีที่จะทำให้

1. เด็กๆรุ่นใหม่รู้ว่าถ้าเขาตั้งใจฝึกฝนเล่นบอลแบบเอาจริงเอาจัง พวกเขาสามารถยึดมันเป็นอาชีพที่จะหาเลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวได้ในอนาคต อย่างตอนนี้ มวยไทยและกอล์ฟเป็นอาชีพ คุณจะเห็นว่ามีคนมากมายที่ต้องการฝึกฝนให้เก่งจริงๆ สำหรับคนมีฐานะดีก็ให้ลูกฝึกเล่นกอล์ฟอย่างเอาจริงเอาจัง เรามีคนรุ่นใหม่ที่สามารถก้าวไปสู่ระดับโลกได้อย่าง พรหม มีสวัสดิ์ ส่วนคนที่มีฐานะไม่ดีก็ให้ลูกฝึกมวย หรือลูกต้องการฝึกมวยเพื่อหารายได้มาช่วยเหลือครอบครัว เรามีและเคยมีแชมป์โลกมากมายในวงการมวย ที่เราสามารถเก่งได้ก็เพราะคนที่มุ่งมั่นฝึกฝนรู้ว่ามันสามารถยึดเป็นอาชีพได้

2. คนไทยจะได้มีกิจกรรมที่สามารถทำร่วมกันได้เยอะๆในวันหยุด ในต่างประเทศเรื่องที่เขาจะพูดกันส่วนใหญ่ก่อนจะถึงวันหยุดก็คือ แต่ละคนมีความเห็นอย่างไรกับเกมที่ทีมในเมืองของเขาจะแข่งในสุดสัปดาห์นี้ แล้วก็ติดตามชมการแข่งขันที่สนาม หรือทางทีวี ผมก็อยากจะมีทีมที่จะสามารถติดตามและไปเชียร์ได้ที่สนามเป็นประจำทุกอาทิตย์ กิจกรรมทางด้านกีฬาในวันหยุดของคนไทยส่วนใหญ่ในตอนนี้ก็คือแทงบอล แล้วก็รอดูและฟังผลการแข่งขันของลีกยุโรปในวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่การดูบอลต่างประเทศ ยังไงมันก็ไม่รู้สึกผูกพันธ์เหมือนบอลภายในประเทศหรอกครับ อย่างผมถ้าทีมที่เชียร์อย่างอาร์เซนอล หรือลิเวอร์พูลแข่งแพ้ 0-10 ผมก็ยังไม่รู้สึกขายหน้าเท่ากับทีมบ้านเกิดอย่างสระแก้วแข่งแพ้ 0-5 (ยกตัวอย่างเฉยๆครับ ไม่รู้ว่าสระแก้วมีทีมบอลแข่งในลีกหรือเปล่า)



3. ถ้าลีกของเราสามารถเป็นอาชีพได้อย่างแท้จริงแล้ว ตอนนั้นเราก็สามารถฝันถึงการได้ไปร่วมเล่นบอลโลกอย่างเป็นเรื่องเป็นราวได้ คนที่จะเขียนโปรแกรม 3D ได้เก่งอย่างน้อยต้องเข้าใจเรื่องสมการก่อน คนที่ต้องการเป็นนักดนตรีอาชีพ ก็ต้องฝึกฝนการเล่นดนตรีให้เก่ง คนที่อยากจะเป็นนางแบบเซ็กซี่ อย่างน้อยก็ต้องมีหน้าอกใหญ่ เฮ้ย ! อันนี้ไม่เกี่ยว คือโดยรวมแล้วหมายถึง มันไม่มีทางลัด ต้องทำทีละขั้นตอน เมื่อ 10 กว่าปีก่อน ตอนที่ญี่ปุ่นเขามีความคิดว่าอยากจะไปบอลโลก เพราะเป็นกีฬาที่คนทั่วโลกสนใจ แต่กีฬาที่รับความนิยมสูงสุดในญี่ปุ่นคือเบสบอล ซึ่งญี่ปุ่นรู้ดีว่า ต่อให้ญี่ปุ่นได้แชมโลกเบสบอล ก็ไม่มีใครสนใจ ดังนั้นเขาจึงเริ่มมาพัฒนาลีกฟุตบอลภายในประเทศ โดยโละทิ้งระบบการแข่งขันฟุตบอลแบบเก่าที่เป็นแบบกึ่งอาชีพ จากนั้นก็ไปศึกษาการทำลีกบอลอาชีพจากทั่วโลก 2 ปี แล้วก็มาตั้งลีกอาชีพชื่อว่า เจลีก มีการแบ่งสรรให้บริษัทเอกชนต่างๆ กระจายไปเป็นสปอนเซอร์แก่ทีมของแต่ละจังหวัด เช่น บริษัทคาวาซากิ สนับสนุนทีม เวอร์ดี้ คาวาซากิ จากโตเกียว ซึ่งปัจจุบันเป็นบริษัท นิปปอน เทเลวิชั่นที่สนับสนุนทีมนี้แล้ว บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ สนับสนุนทีม URAWA REDS ที่ตั้งอยู่ที่เมืองไซตามะ รายละเอียดตรงนี้ ผมจะกล่าวถึงต่อไปในหัวข้อของข้อเสนอของผมในการทำให้ไทยลีกเป็นลีกอาชีพอย่างแท้จริงครับ แต่ที่จะพูดถึงตอนนี้ก็คือ 5 ปีหลังจากการตั้งเจลีก ญี่ปุ่นสามารถผ่านรอบคัดเลือกเพื่อเข้าเล่นในบอลโลกรอบสุดท้ายที่ฝรั่งเศสได้เป็นครั้งแรก แล้วก็ได้เข้าร่วมเล่นในรอบสุดท้ายที่ญี่ปุ่น-เกาหลี และเยอรมันเป็นเจ้าภาพ ในอีกสองครั้งล่าสุด ดังนั้นถ้าเราอยากมีโอกาสไปบอลโลกอย่างสม่ำเสมอ ลีกของเราต้องแข็งแกร่งและเป็นอาชีพอย่างแท้จริงครับ



ความคิดเห็นของผมเกี่ยวกับวิธีการทำให้บอลลีกในประเทศไทยเป็นอาชีพอย่างเต็มตัวก็คือ

1. โล๊ะทิ้งระบบการจัดการแข่งขันไทยแลนด์พรีเมียร์ลีกทั้งระบบ แล้วเอาแบบอย่างการทำเจลีกของญี่ปุ่นมาใช้แทน ญี่ปุ่นใช้เวลา 5 ปีในการทำให้ชาติตัวเองได้ไปร่วมแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ผมว่าถ้าเราทำ เราจะสามารถไปบอลโลกได้ภายใน 10 ปี เนื่องจากเงินทุนของไทยกับญี่ปุ่นต่างกัน 5 ปีผมเลยคิดว่ามันเร็วไป แต่ที่เราได้เปรียบญี่ปุ่นหรือแม้กระทั่งเกาหลีก็คือ ฟุตบอลเป็นกีฬาที่เป็นที่นิยมอันดับหนึ่งของเมืองไทย ส่วนสองประเทศนั้นเบสบอลเป็นกีฬาที่เป็นที่นิยมอันดับหนึ่ง ผมเอาบทสัมภาษณ์ในเว็บไซด์ผู้จัดการที่คุณเชษฐา บรรจงเกลี้ยเป็นผู้เขียน คุณสะสม พบประเสริฐอดีตดาวเตะทีมชาติไทยที่ผันตัวเองมาทำหน้าที่ผู้วิเคราะห์เกมลูกหนังทางโทรทัศน์พูดไว้ว่า "เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของก้าวแรก คนเราถ้าก้าวเท้าไปในทางที่ผิดตั้งแต่แรกแล้ว มันก็หลงทางไปตลอดชีวิต ฟุตบอลก็เหมือนกัน ถ้าเริ่มต้นไม่ถูก มันก็เกิดยาก" คุณสะสมพูดต่อไปว่า "ถามว่าทำไมฟุตบอลไทยแลนด์พรีเมียร์ลีกที่เตะกันมาเป็น 10 ปีนี่ ทำไมมันถึงไม่มีคนดู ผมจะบอกให้ว่ามันเกิดจากจุดเริ่มต้นเลย การที่สมาคมฟุตบอลไปดึงเอาทีมฟุตบอลอย่าง ทีมเหล่าทัพ หรือสโมสรธนาคารต่างๆ มาเตะฟุตบอลลีกนั้นมันถูกหรือเปล่า? อาจจะไม่เสียหายมาก แต่ว่าก็ส่งผลต่อการพัฒนาสู่รูปแบบฟุตบอลอาชีพในเมืองไทย เพราะทำให้มันก้าวไปข้างหน้าได้ช้าลง หรืออาจจะอยู่ที่เดิมก็ได้" พูดง่ายๆทีมเหล่าทัพ หรือทีมบริษัทต่างๆจุดประสงค์ในการลงทุนทำทีมเพื่อเล่นในไทยลีกคือ เพื่อโปรโมทองค์กรหรือบริษัทของตัวเอง จะได้ออกข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์หรือโทรทัศน์ฟรี เวลาที่มีการรายงานผลการแข่งขัน ดังนั้นทีมเหล่านี้จึงไม่สนใจว่าทีมตัวเองจะมีคนมาเชียร์ หรือจะทำผลงานได้ดีแค่ไหน แค่สามารถประคองตัวให้อยู่ในลีกสูงสุด แล้วก็ใช้จ่ายเงินให้ไม่เกินงบประมาณที่ได้มาในแต่ละปีก็ถือว่าทำได้ตามจุดประสงค์แล้ว ถ้ายังเป็นอย่างนี้ต่อไป อนาคตของบอลไทยจะอยู่ตรงไหน? ผมจึงคิดว่าโล๊ะทิ้งระบบนี้ทั้งหมดเลยดีกว่า แต่ไม่ได้หมายความว่าจะโล๊ะทีมที่มีอยู่ในไทยแลนด์พรีเมี่ยลีกออกนะครับ เพียงแต่มีกฎว่าทีมที่ต้องการจะอยู่ต่อต้องไปผูกติดกับจังหวัดใดจังหวัดหนึ่งในประเทศไทย แล้วกำหนดว่าจังหวัดหนึ่งจะมีทีมในลีกสูงสุดได้เต็มที่ได้ไม่เกินสองทีม อย่างกรุงเทพฯ ก็จะมีทีมที่อยู่ในเขตกรุงเทพฯทีมนึง ฝั่งธนฯทีมนึง เพราะถ้าเป็นแบบในปัจจุบันที่มีทีมในกรุงเทพฯเป็น 10 ทีม ผมว่าเปลี่ยนชื่อเป็นกรุงเทพฯลีกดีกว่า ทีมต่างจังหวัดเป็นแค่ทีมที่ได้รับเชิญให้มาแข่งขัน

2. ศึกษาระบบจัดการแข่งขันเจลีกของญี่ปุ่น และลีกอาชีพต่างๆทั่วโลกเพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับลีกใหม่ในเมืองไทย ผมเห็นด้วยกับส่วนหนึ่งของคำพูดที่ว่า “การเริ่มต้นที่ดีเท่ากับสำเร็จไปครึ่งหนึ่งแล้ว” ส่วนที่ไม่เห็นด้วยคือ ผมไม่คิดว่ามันเท่ากับสำเร็จไปครึ่งหนึ่งแล้ว ผมว่ามันเท่ากับสำเร็จไป 10% แล้วเท่านั้น ที่เหลือยังมีงานหนักให้ช่วยกันทำ แต่การเริ่มต้นที่ดีช่วยให้เป้าหมายที่เราตั้งเอาไว้ มีความเป็นไปได้ที่จะประสบความสำเร็จมากกว่า หลังจากที่แพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นมีความต้องการที่จะทำให้ประเทศของตัวเองสามารถแข่งขันในด้านการค้าในระดับโลกได้ แต่ญี่ปุ่นก็ไม่ได้คิดแค่ว่าจะไปซื้อหวย แล้วรอลุ้นว่าเมื่อไหร่จะถูก ถ้าทำอย่างนั้น ประมาณชาติหน้าก็ไม่ประสบความสำเร็จ ญี่ปุ่นปรับปรุงระบบการศึกษา และระบบต่างๆที่มีอยู่ในประเทศ เพื่อให้คนรุ่นใหม่ของเขามีความรู้ ความขยัน ความรับผิดชอบ และความกล้าในการแข่งขันกับทุกประเทศทั่วโลก นอกจากความรู้ที่สำคัญแล้ว ความกล้าก็สำคัญพอๆกัน ตอนที่บริษัทญี่ปุ่นอย่าง Sony Toyota นำสินค้าเข้าไปขายในตลาดอเมริกาใหม่ๆ มีแต่คนมองว่าสินค้าจากญี่ปุ่นเป็นสินค้าราคาถูกและคุณภาพไม่ดี ญี่ปุ่นก็กล้าที่จะยอมรับคำดูถูกเหล่านั้น แล้วก็ปรับปรุงสินค้าของตัวเองให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ทุกวันนีคำว่า Made in Japan ไม่ได้ถูกมองว่าคุณภาพต่ำอีกต่อไปแล้วจากคนทั่วโลก อ้อ ! ขอเสริมอีกเรื่องหนึ่งผมเคยอ่านมาจากอัตชีวประวัติของ Akio Morita หนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัท Sony เขาเล่าว่าตอนที่เขาจะเอาวิทยุทรานซิสเตอร์เข้าไปขายในอเมริกาใหม่ๆ เขาไปติดต่อให้บริษัทที่มีโลโก้เป็นรูปแมวลอดบ่วง(ผมจำชื่อภาษาอังกฤษไม่ได้ อ่านมานานแล้ว)เพื่อให้จัดจำหน่ายให้ บริษัทแมวลอดบ่วงบอกว่า ถ้าคุณใช้ชื่อ Sony คุณขายไม่ได้หรอก เอาอย่างนี้ละกัน เราจะสั่งสินค้าจากคุณเป็นจำนวนมาก แต่คุณต้องติดตราสินค้าเป็นแมวลอดบ่วง เพราะตราแมวลอดบ่วงอยู่ในตลาดมากว่า 50 ปี เป็นสินค้าที่ได้รับความเชื่อถือ Morita ตอบว่า นี่อาจจะเป็นปีแรกในประวัติ 50 ปีของบริษัท Sony เพราะฉะนั้นถ้าเราไม่ใช้ชื่อ Sony ตั้งแต่ตอนนี้ อีก 50 ปีก็คงไม่มีโอกาสที่คนจะรู้จักชื่อ Sony Morita จึงปฏิเสธข้อเสนอนี้ไป หลังจากที่กลับญี่ปุ่นแล้วเล่าเรื่องนี้ให้หุ้นส่วนและพนักงานฟัง ซึ่งในช่วงนั้นฐานะการเงินของบริษัทก็ไม่ค่อยดี มีแต่คนว่า Morita ว่าทำไมปฎิเสธข้อเสนอ เพราะมันเห็นเงินอยู่ข้างหน้าแล้ว แต่ปัจจุบันคุณลองดูซิว่า คุณเห็นสินค้าตราแมวลอดบ่วงที่ไหนบ้าง แล้วภาพพจน์ของสินค้า Sony ในปัจจุบันเป็นยังไง

ที่เล่ามาทั้งหมดนี่ก็เพื่อจะบอกว่าเราต้องกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง 10 ปีที่ผ่านมาของบอลไทยแลนด์พรีเมียลีกพิสูจน์แล้วว่า แนวทางนี้มันไม่ช่วยให้วงการฟุตบอลไทยดีขึ้น ดังนั้นเราจึงต้องโล๊ะมันทิ้ง การทำแบบนี้อาจจะทำให้ผู้ที่เคยได้ผลประโยชน์จากระบบเก่าต้องเสียผลประโยชน์ไปบ้าง แต่เพื่อความก้าวหน้าของวงการฟุตบอลไทย พวกเขาต้องยอม การศึกษาระบบการทำทีมและจัดการแข่งขันจากเจลีกและลีกอื่นๆทั่วโลกอาจจะใช้เวลานานประมาณ 2 ปี แต่เราก็ต้องทำ หลังจากนั้นเราก็จัดสัมมนาระดมความคิดจากคนทุกวงการ ทุกจังหวัด ขอเน้นว่าทุกจังหวัดเพราะเมื่อก่อนเรื่องพวกนี้คุยกันเฉพาะผู้มีอำนาจที่อยู่ในกรุงเทพฯเป็นส่วนใหญ่ เลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลกี่ที มันก็ได้นายกคนเดิม เพราะคนที่มีสิทธิในการเลือกก็อยู่ในกรุงเทพฯเป็นส่วนใหญ่ ไทยแลนด์ลีกก็เลยกลายเป็นกรุงเทพฯลีก เอาทุกคนมาคุยกันว่าเราจะเอาสิ่งที่ศึกษามาให้เข้ากับวัฒนธรรมและวิธีชีวิตของคนไทยได้ยังไงเพื่อหาบทสรุป



3. ตั้งลีกใหม่ให้มี 8 ทีมพอในการเริ่มต้นสำหรับลีกสูงสุด มี 2 ทีมที่อยู่ในกรุงเทพฯ คือทีมหนึ่งในฝั่งกรุงเทพฯ และอีกทีมในฝั่งธนฯ ส่วนอีก 6 ทีมเป็นทีมจากจังหวัดใหญ่ๆทั่วประเทศให้สามารถครอบคลุมพื้นที่ในแต่ละภาคได้ มีเชียงใหม่ ขอนแก่น นครสวรรค์ โคราช ชลบุรี ภูเก็ต พอแล้วครับ แค่นี้ โดยมีข้อแม้ว่าแต่ละทีมต้องมีสนามที่สามารถจุแฟนบอลได้ 10,000 คนเป็นอย่างต่ำ ส่วนข้อแม้ในการเข้าร่วมลีกข้ออื่นๆก็นำมาจากที่ทำในลีกอื่นๆทั่วโลก เช่น ต้องมีทีมเยาวชน 3 ทีมในระดับอายุ ไม่เกิน 18 ปี ไม่เกิน 15 ปี และไม่เกิน 12 ปี ซึ่งข้อบังคับตรงนี้ จะทำให้การพัฒนานักฟุตบอลรุ่นใหม่ๆ สามารถทำได้อย่างเป็นรูปธรรม ชื่อทีมต้องมีชื่อของท้องถิ่นนั้นด้วย อย่างเช่น ถ้าบริษัทชินวัตรเป็นเจ้าของทีมเชียงใหม่ ก็ตั้งชื่อว่า สิงห์เหนือ เชียงใหม่ชินวัตร ถ้าบริษัทโอสถสภาเป็นเจ้าของทีมภูเก็ต ก็ชื่อ เสือใต้ ภูเก็ตโอสถสภา โดยมีกฎว่าห้ามตั้งชื่อโดยใช้ชื่อบริษัทนำหน้าชื่อจังหวัด ไม่อย่างงั้นมันจะกลายเป็นลีกขององค์กรเหมือนเดิม ถ้าทีมที่อยู่ในลีกเดิมที่เป็นทีมขององค์กรต้องการจะร่วมเข้าในลีกใหม่นี้ด้วย ก็ต้องไปตกลงกับจังหวัดนั้นๆว่าจะรวมกันได้มั้ย ถ้าหาไม่ได้ก็ไปจัดลีกองค์กรเล่นกันเองละกัน และถ้าลีกองค์กรที่จัดขึ้น มีแต่ทีมที่อยู่ในกรุงเทพฯ ห้ามตั้งชื่อว่าลีกองค์กรไทย ต้องตั้งว่าลีกองค์กรกรุงเทพฯคนจะได้ไม่สับสน เพราะประเทศไทยไม่ได้มีแค่กรุงเทพฯ รัฐบาลปัจจุบันที่เราได้มาก็เป็นสิ่งที่พิสูจน์ข้อนี้ได้ ส่วนเรื่องที่กรุงเทพฯมีได้แค่ 2 ทีมในลีกสูงสุด ตอนแรกผมก็มีแนวคิดที่ว่าน่าจะมีมากกว่านั้น โดยแบ่งเป็นเขต เช่น ฝั่งธนฯทีมนึง คลองเตยทีมนึง ในเมืองแถวปทุมวันทีมนึง แถวบางกะปิทีมนึง แต่มาคิดดูอีกที มีไม่กี่ประเทศที่มีทีมในเมืองหลวงในลีกสูงสุดมากกว่า 2 ทีม ตัวอย่างเช่น ลอนดอน มีทั้งอาร์เซนอล เวสแฮม สเปอร์ เชลซี ฯลฯ แต่ที่อังกฤษทำอย่างนี้ได้เพราะเขามีประวัติการตั้งทีมเหล่านี้มาเป็น 100 ปีแล้ว ความรู้สึกผูกพันกับทีมในแต่ละชุมชนมันจึงมี แต่ของเราถ้าจะเอาอย่างนั้น ผมว่ายากในการทำให้ประสบความสำเร็จ แบ่งเป็น 2 ทีมโดยแยกฝั่งอย่างชัดเจนผมว่าทำได้ง่ายที่สุด แฟนบอลของทีมฝั่งธนฯอาจจะมีความรู้สึกว่าพวกเขาเหมือนลูกเมียน้อย เพราะจนป่านนี้รถไฟฟ้ายังไปไม่ถึงเลย ดังนั้นเวลามีดาร์บี้แมท คนฝั่งธนฯจำนวนมากน่าจะอยากมาเชียร์ให้ทีมตัวเองชนะทีมฝั่งกรุงเทพฯให้ได้ เพื่อความสะใจ

4. ให้ผู้มีบารมี ชื่อเสียง เงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องเป็นคนท้องที่ มีความเสียสละ และมีความรักในจังหวัดของตัวเอง เป็นโต้โผใหญ่ในการทำทีม เราเห็นตัวอย่างกันแล้วจากทีมชลบุรี คุณสนธยาและคุณวิทยา คุณปลื้ม ได้เป็นผู้ที่ช่วยให้ทีมชลบุรีทำทีมจนเป็นทีมที่มีแฟนบอลจำนวนมากเป็นของตนเอง และยอมเสียเงินเพื่อจะไปเชียร์ทีมในสนาม ผมคาดคะเนเองได้เลยว่า เรื่องนี้ไม่เกิดจากความบังเอิญ มันเกิดจากการทำงานอย่างจริงจังเป็นเวลานาน เริ่มต้นตั้งแต่เงินที่ลงไปในการทำทีมฟุตบอล การจัดตั้งกองเชียร์ที่เป็นแฟนคลับ ผมเดาเอาเองว่ากองเชียร์ในระยะแรกไม่น่าจะเกิดขึ้นเอง น่าจะมาจากการจัดตั้ง ซึ่งก็หมายถึงมันต้องใช้ตังค์ รวมทั้งการที่พวกเขาเป็นคนที่รักท้องถิ่นของตัวเอง ทำให้สิ่งที่เขาลงทุนไปไม่จำเป็นต้องเห็นผลได้อย่างรวดเร็ว เพราะงานที่ทำไป มันต้องไม่คิดถึงเรื่องผลกำไรที่จะได้กลับมาอย่างรวดเร็วอยู่แล้ว ในแต่ละจังหวัดที่มีทีมอยู่ในไทยลีก จริงๆแล้วผมอยากให้คนมีเงินที่อยู่ในจังหวัดนั้น เป็นเจ้าของทีมมากกว่าบริษัทหรือองค์กรต่างๆ แม้ว่าองค์กรจะมีเงินทุนมากกว่า แต่ความผูกพันกับคนท้องที่มันสู้คนท้องถิ่นนั้นเป็นเจ้าของไม่ได้ ถ้าจะให้ดีไปกว่านั้นคือทำเหมือน Real Madrid หรือ Barcelona คือประชาชนในเมืองนั้นร่วมกันเป็นเจ้าของ แล้วลงเสียงเลือกผู้บริหารทีมขึ้นมา ถ้าเป็นอย่างนี้ได้ ความผูกพันระหว่างคนในเมืองกับทีมฟุตบอลจะยิ่งมีมากขึ้น แต่ในตอนเริ่มต้น ผมคิดว่าองค์กรหรือคนมีเงินในจังหวัดนั้นลงทุนทำทีม คงเป็นสิ่งที่เป็นไปได้มากกว่า ผมลองนึกดูจังหวัดที่ผมพอจะนึกออกว่าคนมีเงินในจังหวัดนั้น น่าจะสนใจที่เป็นเจ้าของก็มี โคราชนี่ผมว่าคุณสุวัจน์ ลิปตพัลลภน่าจะเหมาะสมเพราะมีทั้งเงินและบารมี ส่วนภูเก็ตก็คุณอัญชลี วานิช เทพบุตร แล้วภูเก็ตนี่ผมว่ามีโอกาสมากที่สุดที่จะได้นักเตะระดับโลกที่อยู่ในช่วงปลายอาชีพมาร่วมทีมด้วย ไม่ใช่เพราะว่ามีเงินจ้างมากที่สุด แต่เพราะมีคนทั่วโลกอยากมาอยู่ภูเก็ตมากที่สุด ผมเคยทำงานอยู่ที่ภูเก็ตอยู่ระยะหนึ่ง ที่นั่นมีฝรั่งเก่งๆมาทำงานมากมาย ไม่ใช่เพราะค่าจ้างเยอะ แต่เพราะพวกเขาอยากมาอยู่ที่ภูเก็ตที่มีอากาศดีและธรรมชาติที่สวยงาม พวกเขาอาจจะมาทำครึ่งปีหรือปีนึง โดยได้ค่าจ้างที่พออยู่ได้ก็พอใจแล้ว เสร็จแล้วก็กลับไปทำงานที่ได้เงินเป็นกอบเป็นกำในประเทศของเขา ผมเลยคิดว่าถ้าภูเก็ตมีทีมในไทยลีก เราอาจจะได้เห็นนักเตะระดับโลกเล่นให้กับทีมภูเก็ต ส่วนเชียงใหม่ก็ไม่ต้องคิดมากครับ คุณทักษิณ ชินวัตร แค่เอาค่าจ้างต่อปีของนักบอลที่ค่าตัวแพงที่สุดของแมนซิตี้มาทำทีม ก็มากกว่าทุกทีมในลีกแล้วครับ แล้วผมก็คิดว่าการที่คุณทักษิณมาลงทุนในไทยลีก จะเป็นผลดีกับวงการฟุตบอลไทยมากกว่าการเป็นเจ้าของทีมแมนซิตี้อีก เพียงแต่อาจจะได้ลงข่าวประชาสัมพันธ์ตัวเองตามสื่อต่างๆน้อยกว่าการเป็นเจ้าของทีมแมนซิตี้ ส่วนจังหวัดอื่นนอกจากชลบุรีแล้ว ผมนึกไม่ออก โดยเฉพาะกรุงเทพฯกับฝั่งธนฯ แต่ผู้ที่จะเข้ามาเป็นเจ้าของทั้งหลายต้องไม่คิดว่าจะได้ผลตอบแทนคืนภายในปี สองปีนะครับ ผมว่ากว่าจะได้คืนก็ 5 – 10 ปีนะครับ แล้วก็ต้องทำใจตั้งแต่ต้นด้วยว่าการจะทำให้เกิดผลสำเร็จเป็นงานที่หนัก และลงทุนมาก เพราะฉะนั้นงานนี้ถ้าไม่รักจริงๆหรือไม่ใช่แฟนทำแทนกันไม่ได้ครับ



5. ทุกทีมในไทยลีกควรจะเน้นการเล่นเกมรุกเพื่อให้แฟนบอลดูบอลสนุก คือผมก็ไม่รู้ว่าแต่ละทีมควรจะตกลงกันยังไง แต่ถ้าแต่ละทีมเล่นเพื่อเน้นผลการแข่งขันเหมือนเชลซีในสมัยมูรินโญ่ หรือรีล มาดริดสมัยคาเปลโล่คุม ผมว่าแฟนบอลหนีหมดแน่ ผมว่าเหตุผลที่สองคนนี้ถูกไล่ออก แม้จะทำให้ทีมประสบความสำเร็จได้แชมป์ ไม่เกี่ยวกับการขัดใจกับเจ้าของทีม แต่เกี่ยวกับว่า ฟุตบอล แม้เราจะมองเป็นว่าเป็นกีฬา แต่ในแง่ธุรกิจ ฟุตบอลอาชีพคือธุรกิจบันเทิง คนดูเข้ามาดูในสนามเพื่อจะดูทีมบุก และทำประตูกันได้เยอะๆ ถ้าเล่นแบบยิงนำไป 1 ประตูแล้วลงไปอุด เพื่อรอสวนกลับ ผมว่าแฟนบอลดูนัด สองนัด ก็ไม่อยากมาดูแล้วครับ เหมือนที่กำลังเกิดในอิตาลี เจ้าตำรับฟุตบอลสไตล์อุด ตอนนี้แทบไม่มีแมวเข้าไปดูในสนามแล้ว แม้ทีมชาติจะเพิ่งได้แชมป์โลก

6. ข้อนี้เป็นข้อเดียวที่ต้องอาศัยดวงครับ คือผมอยากให้มีนักเตะอย่างปิยะพงษ์ ผิวอ่อนเล่นในไทยลีก เกือบ 20 ปีแล้วที่เราไม่มีนักเตะอย่างนี้ นักเตะที่จะสามารถเรียกแฟนบอลทุกคนไม่ว่าจะเป็นแฟนทีมไหน เข้ามาดูเขาเล่นในสนามได้ นักเตะที่สามารถตัดสินเกมการแข่งขันได้ด้วยตัวคนเดียว ผมว่า 20 ปีนี่มันนานเกินไปแล้วที่จะมีนักเตะแบบนี้เกิดขึ้นมาอีกคน ตอนผมเด็กๆสนามศุภแทบแตกทุกครั้งที่ปิยะพงษ์ลงเตะ ไม่ว่าจะเล่นให้ทีมชาติ ทีมทหารอากาศ ทีมลพบุรี เราต้องการนักเตะแบบนี้ในการเรียกความสนใจจากแฟนบอลครับ



เขียนไปเขียนมายาวมากแล้วครับ สรุปก็คือ ผมอยากให้เมืองไทยมีฟุตบอลลีกอาชีพที่แข็งแกร่ง ซึ่งเราทุกคนต้องช่วยกันครับ แล้วก็อย่าคิดว่ามันจะทำได้ง่ายๆและใช้เวลารวดเร็ว เราได้ภายเรือวนอยู่ในอ่างมานานแล้ว ถ้าเรายังทำแบบเดิมต่อไป ผมว่าประมาณชาติหน้า เราจะได้ไปบอลโลก จังหวัดชลบุรีได้แสดงให้เห็นเป็นตัวอย่างแล้วว่า มันสามารถทำได้ แต่ถ้าจะรอให้ทีมที่เหลือในไทยลีกทำแบบชลบุรีโดยที่กฎเกณฑ์ในการจัดการแข่งขันและการเข้าร่วมลีกยังเหมือนเดิม ผมว่าก็ต้องรอชาติหน้าเหมือนกัน ดังนั้นผมจึงคิดว่าเราควรโล๊ะระบบเก่าทิ้ง แล้วมาเริ่มกันใหม่ ถ้าทำกันจริงๆจังๆโดยมีทุกฝ่ายช่วยกัน ผมว่าภายใน 10 ปี เราสามารถไปร่วมเล่นบอลโลกรอบสุดท้ายได้ เราสามารถแข่งกับเกาหลี ญี่ปุ่น และทุกชาติในเอเชียในแบบที่มีโอกาสชนะได้ แล้วเราก็จะมีกิจกรรมที่คนในแต่ละจังหวัดสามารถทำร่วมกันเป็นจำนวนมากได้ นักเตะที่อยู่ในต่างจังหวัด เช่น แถวอีสาน ภาคใต้ ภาคเหนือ ก็ไม่จำเป็นต้องเข้ามาในกรุงเทพฯ เพราะมีทีมบอลอาชีพอยู่ในแต่ละภาคแล้ว การคัดตัวนักบอลเพื่อมาติดทีมชาติก็มีตัวให้เลือกมากขึ้น แต่ถ้าเราไม่ทำ ผมว่าภายใน 5 ปีนี้ เวียดนามแซงหน้าไทยแน่นอน

สุดท้ายนี้ จะมีการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ระหว่างทีมชาติไทยกับทีมชาติโอมาน ในวันพุธนี้(26 มี.ค. 2551) ขอให้ทุกคนไปช่วยเชียร์ที่สนาม หรือที่บ้านทางทีวีด้วยครับ ผมก็ได้บัตรจากช่อง 3 มาอีกแล้ว จะไปเชียร์ที่สนาม ขอขอบคุณช่อง 3 ด้วยครับ เมื่อกี้ ผมดูในเว็บไซด์ผู้จัดการ มีน้อง 2 คนจากสตรอเบอร์รีชีสเค้ก มาเชิญชวนให้ไปร่วมเชียร์ที่สนาม คุณสามารถไปดูวีดีโอเชิญชวนของน้องๆได้ที่ link นี้ครับ ผมก็หวังว่าจะได้นั่งข้างๆน้องๆนะครับ ;-) แต่ถ้าครั้งนี้ ไทยสามารถไปร่วมบอลโลกรอบสุดท้ายที่อัฟริกาใต้ได้ โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ของทีมที่จะเข้าร่วมและระบบการแข่งขันในไทยลีก คุณก็ลืมสิ่งที่ผมเขียนไปได้เลยครับ



ขอ Update หน่อยครับ หลังจากได้ไปดูไทยแข่งกับโอมาน เมื่อวันพุธที่ผ่านมา(26 มี.ค. 2551) ปรากฎว่าไทยแพ้ไป 0-1 ซึ่งผมดูจากปฎิกริยาของคนดูแล้ว พวกเขาก็ไม่ถึงกับแสดงความผิดหวังออกมามากมาย อาจจะเป็นเพราะมันเป็นสิ่งที่พวกเราก็พอจะทำใจได้ว่า ผลการแข่งขันอย่างนี้มันสามารถเกิดขึ้นได้ ความรู้สึกของผมก็คือ ผมว่าทีมไทยสู้เต็มที่แล้ว แต่ผมว่าทีมไทยเซ็ทบอลกันช้าเกินไป มีการล็อคบอลหลายจังหวะเกินไป ทำให้ทีมคู่แข่งสามารถจัดขบวนการตั้งรับได้ง่ายขึ้น ที่ผมขัดใจมากที่สุดก็คือ น้องๆจากสตรอเบอร์รีชีสเค้ก ไม่ได้ไปดูที่สนามด้วย ผมถามเจ้าหน้าที่ของช่อง 3 เขาบอกว่าน้องๆแค่มาช่วยประชาสัมพันธ์เท่านั้น โอ ! แมน

สำหรับผู้ที่ต้องการจะเรียนรู้โปรแกรม Dreamweaver CS3 ในแบบที่สอนเป็นวีดีโอ คุณสามารถไปดูรายละเอียดได้ที่เว็ปไซด์นี้ //www.dw3thai.com ซึ่งจะมีดีวีดีสอนการใช้งานโปรแกรมโดยลินดาดอทคอม เป็นเวอร์ชั่นภาษาไทย (พากษ์ไทย) ด้วยความยาวกว่า 10 ชั่วโมง ในราคาเพียง 150 บาท (รวมค่าส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน) และตอนนี้ก็มีทางเลือกอีกทางในการชำระเงิน โดยใช้บริการเรียกเก็บเงินปลายทางจากกรมไปรษณีย์ ซึ่งก็ช่วยให้คุณสะดวกและมั่นใจยิ่งขึ้น คุณสามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้จาก link นี้ครับ //dw3thai.com/ordering.html#cashondelivery




 

Create Date : 26 มีนาคม 2551
2 comments
Last Update : 28 มีนาคม 2551 10:33:41 น.
Counter : 885 Pageviews.

 

เขียนได้ยาวมากครับ

 

โดย: Nui (Diamond MBC ) 4 เมษายน 2551 14:28:29 น.  

 

สวัสดีครับ คุณ Nui (Diamond MBC ) ลองไปดูบล็อคคุณแล้ว ว่าจะโพสต์ comment แต่ต้องเป็น VIP เลยโพสต์ไม่ได้ ดีครับ ผมเพิ่งรู้ทำเลสนามของทีมต่างๆ แต่ละสโมสรน่าจะมีคนทำประชาสัมพันธ์นะครับ ไม่ต้องอะไรมาก แค่แข่งวันไหน กี่โมง กับทีมอะไร แล้วการจะเดินทางไปดูต้องทำยังไง ดูเหมือนสโมสร โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ เขาไม่ค่อยสนใจว่าจะมีคนดูหรือไม่มี เหมือนพนักงานบริษัทที่ทำงานเอาตังค์ไปวันๆ ไม่มีความกระตือรือร้นนะครับ

 

โดย: tutorcat 5 เมษายน 2551 18:04:53 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


tutorcat
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




Friends' blogs
[Add tutorcat's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.