<<
กรกฏาคม 2553
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
8 กรกฏาคม 2553
 
 

Trip Hanoi Jan'10

ฮานอย...ฮอยอัน...ฉ้าน ๆ ๆ คิดถึงเธอ...
By หมูชมพูชอบเที่ยว

ในช่วงปีที่ผ่านมาด้วยโปรโมรชั่นอันร้อนแรง ของสายการบิน Air asia Smiley ทำให้เราได้มีโอกาสไปเที่ยวเมืองฮานอย (Hanoi) ประเทศเวียดนาม  ทริปนี้เราเลือกเดินทางช่วงเดือนมกราคม 2553 หลังจากจองตั๋วแล้วเราก็มานั่งมึน ๆ งง กันว่า เราจะไปทำอะไรกัน แล้วไปทำใมเนี่ย????
 
แล้วเวลาก็ผ่านไปไวเหมือนโกหก วันที่ 14 มกราคม 2553 เราเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า 3 สาว มุ่งหน้าสู่กรุงเทพมหานคร แล้วก็นั่งรถตู้ต่อไปสนามบินสุวรรณภูมิ คืนนี้เราจองห้องพักที่ โรงแรม Great Resident เพราะว่าเราไปขึ้นเครื่องกันเช้าตรู่ในวัดถัดไป (สาเหตุที่เลือกจองห้องพักที่นี่เพราะว่าฟรีรถ รับและส่ง แบบว่าเน้นประหยัดอ่ะนะ)
 
15 มกราคม 2553
เช้ามืดของวันนี้ เป็นอะไรที่วุ่นวายและสับสนSmiley สาเหตุเกิดจากเมื่อคืนเรานอนกันดึก (ก็มาถึงโรงแรมเกือบเที่ยงคืน) ทำให้เราไม่ได้ยินเสียงของพนักงานที่มาปลุกเราตอนตี4 มาตื่นกันอีกทีตอนตี5 วิ่งอาบน้ำกันให้วุ่นวายไปหมด และแล้วเราก็ไปถึงสนามบินกันเกือบ ๆ 6โมงเช้า รีบวิ่งไปเช็คอินSmiley เสร็จแล้วก็รีบเดินไปตม. กว่าจะผ่านเครื่อง X-Ray ไปได้ก็วุ่นวายกันน่าดูSmiley (ร้องอยู่นั่นแหละ ถอดนั่น ถอดนี่ วุ่นวายจริง ๆ) และแล้วก็ไม่น่าเชื่อเป็นครั้งแรกที่เราไปถึงจน Gate เกือบจะปิดแล้ว และที่สำคัญ 3สาว ไปถึงเป็นชุดสุดท้าย (ขอโทษจริง ๆ นะคะSmiley ที่ให้รอ หนูไม่ผิดนะคะ เครื่อง X-Ray มันผิดอ่ะ)
 
เราใช้เวลาชั่วโมงกว่า ๆ ก็มาถึงสนามบินนอยไบ ใช้เวลาผ่านตม. และรับกระเป๋าไม่นานค่ะ เราเดินมารอรถที่จะมารับเราไปส่งที่โรงแรมค่ะ (จองรถไว้จากทางโรงแรมที่เราพัก) แต่ว่ารอนานมากก็ไม่เห็น พยายามเดินดูป้ายที่บรรดาคนขับรถเขายืนรอรับผู้โดยสารท่านอื่น ก็ไม่เห็นมีชื่อเราเลยอ่ะ (เริ่มคิดมากแล้วค่ะSmiley จะโดนโกงป่ะเนี่ย ฮือ ๆ ๆ หรือว่าหนูจะมาโดนหลอกที่เวียดนาม) และแล้วเพื่อนสาวของเรา ก็เดินไปขอกระดาษจากประชาสัมพันธ์ แล้วก็เขียนชื่อโรงแรม เดินชูกระดาษไปทั่วสนามบินเลยค่ะ ไม่ช้าไม่นานก็มีหนุ่ม มาถามกันใหญ่เลยค่ะ แล้วก็ช่วยโทรไปที่โรงแรมให้ด้วยค่ะ (ซาบซึ้งSmileyจริงๆ ค่ะ)
 
ไม่ช้าไม่นานก็มีคนมารับเราค่ะ ดีใจจริง ๆ เลยค่ะ นั่งรถชมเมืองกันไปสักพัก ช่วงแรก ๆ ก็ตื่นตา ตื่นใจ มองคนขับรถมอเตอร์ไซค์ที่นี่ เขาสวมหมวกกันน๊อคกันทุกคนเลยค่ะ แล้วก็ใส่ที่ปิดปากด้วยค่ะ (เอ...หรือเขาจะกลัวไข้หวัด 2009) นั่งรถไปซักพัก เริ่มสงสัย นี่ฉ้านๆ ๆ มาเวียดนาม หรืออยู่แถวบ้านเนี่ย
 
เรามาถึงโรงแรม (Hanoi Lucky I Hotel) ก็เจอผู้คนมากมายค่ะ บางคนก็กำลังรอ check in บางคนก็แวะเข้ามาสอบถามที่พัก บางส่วนก็กำลัง check out อยู่แถว ๆ เคาเตอร์ เรายืนงง ๆ กันอยู่ ก็มีเจ้าหน้าที่หนุ่ม มาทักทายเรา ขอบอก พูดภาษาอังกฤษ ไฟแลบ จริงๆ  พูดเก่งมาก ๆ ๆ ๆ  เขาบอกว่าให้เรารอสักครู่ แล้วก็เอาชาร้อน ๆ มาให้ทานกัน ในระหว่างนี้ก็ได้ยินเสียงคนพูดภาษาไทยอยู่ใกล้ ๆ เอ...หูฝาดปะเนี่ย แล้วเราก็เริ่มมองหา ใช่ ๆ จริงๆ ด้วยค่ะ หลังจากนั้นเราก็เริ่มพูดคุยทักทายกัน และก็เพิ่งจะรู้ว่า เรามาเครื่องบินลำเดียวกัน แต่ว่าเขามาถึงก่อนเราค่ะ
 
Hanoi Lucky I Hotel
Address : 47 Ngo Huyen, Hoan Kiem, Hanoi, Vietnam
Tel: +844 3938 0036    Fax: +844 3938 0037
Email      : sales@hanoiluckyhotel.cominfo@hanoiluckyhotel.com
 
เราจองห้องพักไว้ 2 ห้องค่ะ แต่ว่าเราไปถึงเช้ามาก เขาพึ่งทำความสะอาดเสร็จแค่ห้องเดียว เราเลยเอาของไปเก็บก่อนแล้วก็ออกไปเดินเที่ยวกันค่ะ ภายในห้องก็ดีนะคะ มีอุปกรณ์ครบค่ะ ที่สำคัญในห้องมีคอมพิวเตอร์Smileyและอินเตอร์ให้เล่นฟรีด้วยนะคะ เรามายืนงง ๆ ก็อยู่หน้าโรงแรม ตอนนี้ก็พึ่งจะ 10 โมงกว่า ๆ ๆ เราจะไปทำอะไรกันดีอ่ะ  และแล้วเราก็มองหน้ากัน อย่างแรกเราต้องไปกิน กิน กิน กันก่อนค่ะ มองเห็นซอยข้าง ๆ โรงแรม มีอะไรก็ไม่รู้แต่เห็นคนกินกันเยอะดี ก็เลยแวะไปสั่งมั่ง แต่พูดกันไม่ค่อยรู้เรื่อง เผอิญมีสาวสวยคนหนึ่ง เป็นชาวเวียดนามค่ะ แต่พูดภาษาไทยได้ ช่วยสั่งให้เรา และเจ้านี่ก็มีชื่อว่า บุ๊น ค่ะ ไม่ใช่เฝอนะคะ แต่ก็คล้าย ๆ กัน เราสั่ง บุ๊นหมู มากันคนละ 1 ถ้วย (15,000 ดอง) กินแทบจะไม่หมด เยอะมากค่ะ กินอิ่มแล้วเราก็ไปเดินกันต่อค่ะ เดินแบบไม่มีเป้าหมายค่ะ ผ่านตรงใหนก็แวะ แต่จุดหมายปลายทางของเราคือ โรงละครหุ่นกระบอกน้ำ
 
เราเดินถามทางเขาไปเรื่อย ๆ ค่ะ แล้วก็แวะซื้อขนมกินกันตลอดทาง เราใช้เวลาประมาณ เกือบ ๆ 2 ชั่วโมงก็มาถึง หุ่นกระบอกน้ำค่ะ เรามารอคิวซื้อตั๋วค่ะ ถ้าที่นั่งธรรมดาก็ 40,000 ดองค่ะ ส่วนที่นั่ง VIP 60,000 ดองค่ะ  ตอนแรกเราก็จะเลือกที่นั่งธรรมดาค่ะ แต่ว่ารอบ 15:30 ที่นั่งเต็มค่ะ ถ้าอยากได้ตั๋วถูกก็ต้องรอดูรอบ 20:30 เราคิดว่ามันดึกไปค่ะ ที่สำคัญกลัวจะเดินกลับโรงแรมไม่ถูกด้วย ยอมจ่ายแพงหน่อยก็ไม่เป็นไร
 
เวลายังเหลืออีกเยอะ เราไปวัดหงอกเซิน เดินข้ามสะพานแดงด้วยนะคะ จ่ายกันไปคนละ 10,000 ดอง เข้าไปด้านในบริเวณวัดเราก็ไหว้พระ แล้วก็นั่งพักผ่อนกันค่ะ ลมเย็นสบายดี ที่วัดนี้มีคนมาไหว้พระกันเยอะมากค่ะ บริเวณทะเลสาบก็บรรยากาศดีนะคะ ดูแล้วโรแมนติคดีค่ะ (น่าจะพาหนุ่ม ๆ มาด้วย) อยู่ที่วัดกันร่วมชั่วโมง ตอนแรกคิดว่าจะนั่งรถเมลล์ไปสุสานลุงโฮ แต่เพื่อนบอกว่าไม่รู้จะไปดูอะไร ก็เลยเดินเล่นแถว ๆ ตลาดนั่นแหละค่ะ เดินกันทุกซอย เดินดูวิถีชีวิตของชาวบ้านที่นี่ก็สนุกดีนะคะ ข้ามถนนกันสนุกสนาน ที่นี่เขาขยันบีบแตรกันจริง ๆ ค่ะ ถ้าเป็นที่บ้านเรา บีบแตรใส่กันแบบนี้สงสัยโดนยิงแน่เลยค่ะ
 
พอใกล้เวลาที่การแสดงจะเริ่มเราก็รีบเดินกลับมากันเลยค่ะ ผู้คนรอบนี้เยอะมากค่ะ มีทัวร์มาลงด้วยค่ะ ตอนเดินเข้าไปด้านในอากาศเย็นมากค่ะ เราได้นั่งใกล้ ๆ เวทีเห็นการแสดงชัดเจน บนเวทีเขาร้องเพลงและเล่นดนตรีกันสด ๆ ๆ เลยค่ะ บรรยากาศดีมาก ๆ เราเลยนั่งหลับตั้งแต่เริ่มแสดง มาตื่นอีกทีตอนการแสดงใกล้จบ ขนาดช่วงท้าย ๆ ก็สนุกนะคะ ดูตื่นเต้นดีเสียดาย ดูได้แค่ประมาณ 5 นาทีก็จบแล้ว
 
หลังการแสดงจบเราก็เดินกลับที่พัก ก็ถามทางเขามาเรื่อย ๆ ค่ะ คนที่นี่ใจดีนะคะ ตอนเราไปถามทางบางคนถึงขนาดวาดแผนที่ให้เราดู  บางคนถ้าไม่รู้ก็โทรไปถามเพื่อนให้ (เราก็โชคดีนะคะ ได้เจอคนดี ๆ)
 
เราเดินกันมาเรื่อย ๆ ไม่นานเราก็เดินผ่าน โบส St.Joseph Cathedral พึ่งจะรู้นะเนี่ยว่าที่พักเราอยู่ใกล้กับโบส (เป็นโลเคชั่นในหนังเรื่องฮอยอัน ฉันรักเธอ) ดูนาฬิกาพึ่งจะ 6โมงเย็น แต่ฟ้ามืดเร็วจัง อากาศก็เย็น กลับเข้าโรงแรมดีกว่า
 
16 มกราคม 2553
เช้านี้เราตื่นกันแต่เช้าค่ะ เพราะซื้อทัวร์ไปฮาลองเบย์ แบบไปเช้า กลับเย็น เราลงมาด้านล่างประมาณ 7 โมง ทานอาหารเช้าที่โรงแรม (อาหารง่าย ๆ ไม่มีอะไรมาก ขนมปังก้อนใหญ่ ๆ แข็ง ๆ คนละ 1 ก้อน แล้วก็ไข่ดาว พร้อมกับกาแฟ หอม ๆ อีก 1 แก้ว) ทานอาหารเช้าเสร็จเราก็รีบไปกรอกน้ำใส่ขวดค่ะ (เห็นหลาย ๆ คนบอกว่าที่โน่นของแพง เราเลยต้องถือน้ำไปเองค่ะ) เราลงมาทานอาหารเช้าพร้อมกับครอบครัวชาวไทย ที่เราเจอกันเมื่อวานค่ะ เราจะไปฮาลองเบย์เหมือนค่ะ แต่เขาไปแบบค้างคืนบนเรือ 1 คืน ประมาณ 7 โมงครึ่ง ไกด์ทัวร์ก็มารับเราไปขึ้นรถค่ะ เขาขับรถไปรับนักท่องเที่ยวตามโรงแรมต่าง ๆ สักพักนะคะ เห็นนักท่องเที่ยว 2 คนขึ้นรถมา มองเห็นในมือที่เขาถือมา ดูคุ้น ๆ ตาจังเลย อ้าวหนังสือเที่ยวไม่ง้อทัวร์ตีตั๋วไปเวียดนาม นี่หนา เย้ ๆ  ได้เจอคนไทยอีกแย้ว ตอนรถจอดแวะพักระหว่างทาง ก็มีการพูดคุยกันเล็กน้อย ก็ได้ความว่าเขามากัน 2 คน นั่งเครื่องบินมาลำเดียวกันด้วยอ่ะ ในระหว่างที่พูดคุยกันอยู่ก็มีคุณคนนึงซึ่งยืนอยู่ใกล้ ๆ ก็ทักทายเรา เป็นคนไทยหรือเปล่าคะ เราก็ตอบรับทันทีใช่ค่ะ ก็เลยได้พูดคุยกับคุณป้า ท่านเล่าให้ฟังว่าแต่งงานอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศษ 40 กว่าปีแล้ว กลับมาเมืองไทย ปีละ 1 ครั้ง (ประมาณ 15 วัน) คุณป้ารู้สึกดีใจมากที่ได้มีโอกาสพูดภาษาไทยกับคนไทย เพราะอยู่ที่โน่นไม่ได้พูดเลยค่ะ
 
การเดินทางไปฮาลองเบย์เราว่านั่งรถกันทรหดมาก ๆ เลยค่ะ นั่งกันนานมาก (เมืองฮาลอง อยู่ทางทิศตะวันออกประมาณ170 กม. ใช่เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง) ไปถึงท่าเรือเราก็นั่งเรือชมวิวกันค่ะ บรรยากาศดีนะคะ แต่ถ้าต้องนั่งรถมาไกลขนาดนี้ก็คงไม่เอาแล้วค่ะ ช่วงที่ล่องเรือเราก็เดินขึ้นไปนั่งชมวิวกันด้านบนค่ะ เรือแวะจอดที่แพปลาเพื่อให้เราซื้ออาหารทะเล แต่ว่าต้องเสียเงินค่าทำอาหารให้กับพ่อครัวของเรือด้วยนะคะ  เค้าไม่ได้ทำให้เราฟรี ๆ (แต่ไม่เห็นมีใครซื้อเลยอ่ะ) ไม่ช้าไม่นานเราก็ทานอาหารกลางวันกันค่ะ (กับข้าวมื้อนี้ถูกปากเราที่สุดแย้ว ๆ ๆ ๆ ได้ทานข้าวหอมมะลิด้วยอ่ะ เราว่าอร่อยดีนะ) ที่สำคัญนะคะ น้ำดื่มที่เขาเอามาให้เราต้องจ่ายเงินเพิ่มนะคะ  ทานเสร็จ ใครที่ซื้อทัวร์แบบมีพายเรือคายัค เขาก็จะแวะจอดให้ลงไปพายเรือกันค่ะ ส่วนพวกเราก็นั่งคอยกันอยู่บนเรือ แต่ไม่ต้องกลัวเหงานะคะ ระหว่างนี้จะมีคนเอาผลิตภัณฑ์ที่ทำจากมุกมาขายค่ะ นั่งเลือก นั่งต่อราคากันสนุกเลยค่ะ
 
ตอนล่องเรือขากลับเขาแวะให้เดินขึ้นไปดูถ้ำค่ะ ถ้าแรกก็สวยแปลกตาดีนะคะ สวยดี ใหญ่และกว้างมาก ติดไฟสีสันสวยงามดีค่ะ ถ้ำที่สอง ก็ใกล้ๆ กัน ไม่ค่อยแตกต่างกันเท่าไหร่ พอเรือล่องกลับมาถึงฝั่งเราก็รีบไปขึ้นรถบัสเพื่อเดินทางกลับกันค่ะ โอ้ย  ! ! ! ไม่อยากจะคิดเลยค่ะ ต้องทนนั่งเมื่อยไปอีกไกลเลยอ่ะ พอกลับมาถึงเราก็รีบเข้าที่พักกันเลยค่ะ พอมาถึงฮานอยเราก็ไปช้อปปิ้งกันที่ตลาดนัด (เฉพาะ วันศุกร์, เสาร์, อาทิตย์ จะมี Night Market ที่ ถ.Hang Dao ตลอดสาย ยาวไปจนถึงตลาด Dong Xuan) คืนนี้เราไปช้อปปิ้งพร้อมกับ 2 หนุ่ม (เพื่อนใหม่ค่ะ)  เราแวะทานขนมหวานกันค่ะ (ไม่รู้ว่าชื่ออะไร แต่อร่อยมั่ก ๆ ๆ อยากกลับไปกินอีกจัง) แล้วเราก็แวะทานมื้อดึกกันค่ะ เราเลือกทานอาหารแบบที่คนเวียดนามเขาทานกัน (รสชาติเป็นไงไม่รู้ อาศัยมั่ว ๆ ๆ เอาค่ะ) เสร็จแล้วหนุ่ม ๆ ก็เดินไปส่งเรากลับที่พักค่ะ (ใจดีจริง ๆ เลยอ่ะ)
 
17 มกราคม 2553
เมื่อคืนกลับมานอนหลับสนิทเลยค่ะ (แต่ไม่วายโดนผีหลอก) เราตื่นแต่เช้าเหมือนเดิมค่ะ วันนี้เราซื้อทัวร์ไปฮาลองบก(นิงห์บิงห์) (แอบกลัวนิด ๆ จะนั่งรถนานอีกป่ะเนี่ย) แต่เช้านี้ไกด์มารับเราค่อนข้างช้าค่ะ รถทัวร์คันใหญ่กว่าเดิม แต่คนก็เต็มรถเลยค่ะ และแล้วก็ไม่น่าเชื่อค่ะ เราเจอ 2 หนุ่มเมื่อวานนี้อีกแย้ว ๆ ๆ ๆ (บุพเพอาละวาดจริง ๆ เลยเนี่ย) แถมวันนี้ได้เจอคนไทยหลายคนเลยค่ะ (ครึ่งนึงของทัวร์วันนี้แทบจะเป็นคนไทยทั้งนั้นเลยค่ะ) นั่งรถไปเรื่อยชมวิวบรรยากาศ 2 ข้างทางไปเรื่อย ๆ  แวะพักทานกาแฟด้วยค่ะ ที่ร้านนี้เราได้มีโอกาสทานกาแฟเวียดนามแบบดั้งเดิมด้วยค่ะ (แต่ราคาแพงไปหน่อย) จุดต่อมาที่ทัวร์พาเราแวะก็คือ เมืองโบราณ Hoalu Tamcoc เมือง Ninh Binh (เมือง Ninh Binh อยู่ทางตอนใต้ของฮานอย ประมาณ 100 กม.รถวิ่งใช้เวลาประมาณ 2.3 ชั่วโมง)
 
ออกจากเมืองโบราณมาเราก็แวะทานอาหารกันก่อนค่ะ แล้วเราล่องเรือกลางทุ่งนา ชมและลอดถ้าหินปูน ใช้เวลาประมาณ 1.3 ชั่วโมง รวมระยะทาง 6 กิโล บรรยากาศสวยมากจริงๆ (เราชอบบรรยากาศที่นี่มั่ก ๆ ๆ เลยค่ะ) ระหว่างพายเรือขากลับกลับ แม่ค้าก็จะเปิดกล่องเหล็กเพื่อขายของที่ระลึก เช่นผ้าปูโต๊ะปัก, เสื้อยืด, ถุงผ้าปัก ช่วยอุดหนุนแม่ค้ากันคนละ 2 ชิ้นค่ะ (เห็นเพื่อน ๆ หลาย ๆคนบอกว่า เนื่องจากคนพายเรือ และแม่ค้า เขาได้ค่าจ้างพายเรือน้อยมาก) ก่อนขึ้นเราก็ให้ทิปเขาด้วยอ่ะนะ คนละ 1 USD สำหรับเราแล้วประทับใจกับบรรยากาศที่นี่มากเลยค่ะ
 
หลังจากกลับมาถึงฮานอยแล้วเราก็ไปช้อปปิ้งที่ตลาดนัดเมื่อคืนกันอีกรอบค่ะ แต่เดินกันแป๊ปเดียวก็ขอตัวกลับที่พัก 2 หนุ่มก็ใจดีเดินไปส่งเราเหมือนเดิมแต่คืนนี้เราแวะกินเฝอกันก่อนค่ะ (หนุ่ม ๆ ใจดีเลี้ยงเราด้วย เย้ ๆ ๆ ๆ ) กลับมาถึงเราก็เก็บกระเป๋ารีบเข้านอนกันค่ะ เพราะพรุ่งนี้เราต้องไปสนามบินแต่เช้า


18 มกราคม 2553
เมื่อคืนนอนกันแต่วันเลยค่ะ ไม่ค่อยจะมีของให้เก็บกันมากมาย เพราะไม่ค่อยได้ซื้ออะไรค่ะ แทบจะเดินตัวปลิวกลับบ้านกันเลยทีเดียว เช้านี้รถที่จะไปส่งเราที่สนามบินมารอรับเราแต่เช้าตรู่เลยค่ะ เช้านี้นั่งรถกันแบบสบาย ๆ ไม่เหนื่อยค่ะ ตอนเช้า ๆ บรรยากาศที่นี่ก็ดีนะคะ ชอบรถจักรยานที่เขาถึบมาขายดอกไม้มาก ๆ ๆ เลยค่ะ แป็ปเดียวเราก็มาถึงสนามบินกันแล้วค่ะ 2 หนุ่มมาถึงก่อนแล้วก็รอพวกเราเข้าไปในสนามบินพร้อมกันค่ะ ทริปนี้ก็ทำให้เราได้เพื่อนใหม่กลับด้วยค่ะ


สำหรับฮานอยเราอยากกลับไปอีกนะคะ แต่อยากไปซาปามั่ก ๆ ๆเลยค่ะ ดูจากในรูปแล้วบรรยากาศดีจังเลยค่ะ
 
สรุปค่าใช้จ่ายSmiley
1. ค่าตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ โปรโมชั่น Air Asia  1,800 บาท
2. ค่าโรงแรม คนละประมาณ 300 บาท (โปรโมรชั่น 20 pound จาก Expedia)
3. ค่าทัวร์ฮาลองเบย์ 15 usd
4. ค่าทัวร์อาลองบก 16 usd
5. ค่ารถ 3 คน ( private car: 13usd ) => Airport to Hotel
6. ค่ารถ 3 คน ( private car: Free ) => Hotel to Airport (ต้องลองคุยกับทางโรงแรมดูนะคะ) sales@hanoiluckyhotel.com






Free TextEditor




 

Create Date : 08 กรกฎาคม 2553
3 comments
Last Update : 8 กรกฎาคม 2553 18:06:12 น.
Counter : 864 Pageviews.

 

สวัสดีค่ะ..
แง..อยากไปเที่ยวเวียดนามบ้าง..
ขอไปทานก๋วยจั๊บญวนก่อนนะค่ะ

อ้อมแอ้มหาผู้สวมกุงเกงเอว 56 นิ้วได้แล้วนะค่ะ
เป็นใคร มาจากไหน ดูได้ที่blogเจ้าค่ะ

เมื่อคืนเสียดายเยอรมันจัง..
แพ้สเปนตามแผนของปลาหมึกพอล..ฮือๆๆ

 

โดย: คนผ่านทางมาเจอ 8 กรกฎาคม 2553 18:32:11 น.  

 

น่าสนุก โอกาสหน้าต้องไปฮาลองบ้างแล้วละ

 

โดย: kaijeab (ไก่เจี๊ยบ ) 9 กรกฎาคม 2553 8:38:10 น.  

 

ลองไปดูนะคะ คุณ kaijeab (ไก่เจี๊ยบ )

 

โดย: หมูชมพูชอบเที่ยว 11 ตุลาคม 2555 2:10:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 

หมูชมพูชอบเที่ยว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




New Comments
[Add หมูชมพูชอบเที่ยว's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com