ควรแล้วหรือที่จะทวงถามต้นทุนทางสังคมกับดวงวิญญาณ "สึนามิ"

งานรำลึกครบรอบ 1 ปี เหตุการณ์ภัยพิบัติ "สึนามิ" ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดขึ้น ภายใต้ชื่อ "ทำความจริงให้ปรากฏ"นั้น ดูเหมือนว่า จะมิใช่งานรำลึกครบรอบเพื่อไว้อาลัยให้กับผู้ประสบภัยจากสึนามิ แต่ท่าทีและถ้อยคำที่ พล.ต.ท.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช ผู้ช่วย ผบ.ตร. โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และ ผอ.ศูนย์พิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลและการส่งกลับ (ทีทีวีไอ) แถลง (ฝาก) ผ่านสื่อมวลชนนั้น ปานประหนึ่งว่า ได้นั่งดูคณะปฏิวัติกำลังออกแถลงการณ์เหมือนในอดีตก็มิปาน

"การทำความจริงให้ปรากฏ" ของ สตช.ในครั้งนี้ ไม่ทราบจุดประสงค์ที่แท้จริงของ สตช.ว่าต้องการอะไร ต้องการให้ประชาชน และสังคม รับรู้ถึงการเข้าไปปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทันทียังที่เกิดเหตุถึง 2,000 นาย ตามที่ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร.และ พล.ต.ท.อชิรวิทย์ กล่าวไว้กระนั้นหรือ

"สำนักงานตำรวจแห่งชาติลงพื้นที่ทำงานตั้งแต่วินาทีแรกที่เกิดเหตุการณ์สึนามิ ทั้งตำรวจน้ำ ตชด. และตำรวจท้องที่ ทั้งที่เพื่อนตำรวจบางส่วนจะต้องสูญเสียชีวิต ที่ผ่านมา เหมือนปิดทองหลังพระ เพราะไม่ได้ประชาสัมพันธ์ เราสำนึกอยู่อย่างเดียวว่า ตำรวจมีหน้าที่รับใช้ประชาชน บ้านเมืองเรานั้นความรักความสามัคคีของส่วนราชการที่จะทำงานให้บ้านเมืองเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งส่วนราชการไม่มีดี หรือเลว ไปกว่ากัน ต่างก็มีข้อบกพร่องด้วยกันทั้งนั้น ยอมรับว่า ตำรวจเป็นหน่วยงานที่ต้นทุนทางสังคมต่ำที่สุด แต่การทำงานไม่ได้ต่ำไปตามต้นทุนที่เรามี เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีใครเป็นนางเอก ไม่มีใครเป็นพระเอก ไม่มีใครได้ มีแต่ผู้สูญเสีย" พล.ต.ท.อชิรวิทย์ กล่าวในการแถลงครั้งนี้

เข้าใจดี และยอมรับว่า เมื่อเหตุการณ์ภัยพิบัติ หรืออุบัติภัยต่างๆ เกิดขึ้น หน่วยงานแรกที่จะต้องเข้าไป คือ ตำรวจ ซึ่งถือว่า เป็นหน่วยงานที่ใกล้ชิดและสัมผัสกับประชาชนมากที่สุด แต่กับกรณี "สึนามิ" มันคือภัยพิบัติแห่งชาติ ที่ทุกคน ทุกหน่วยงานต้องช่วยกันเยียวยา ซึ่งเชื่อว่า ตำรวจ 2,000 นาย ที่ลงไปในพื้นที่ตั้งแต่วินาทีแรก เป็นผู้ที่ "ปิดทองหลังพระ" จริง แต่นั่นก็ถือว่าเป็นหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับประชาชนอยู่แล้วมิใช่หรือ ทำไมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงต้องมา "ทำความจริงให้ปรากฏ" อีก

คงต้องตั้งคำถามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า ตำรวจมีต้นทุนทางสังคมต่ำที่สุด แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เคยย้อนถามตัวเองบ้างหรือไม่ว่า ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น และทำไมสังคมจึงมองตำรวจไปในทางนั้น ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติควรที่จะสังคายนากำลังพลทั้งหมด เพื่อเพิ่มต้นทุนทางสังคมให้สูงให้ดีขึ้น สู้มิดีกว่าจะมา "ทำความจริงให้ปรากฏ" หรอกหรือ

การ "ทำความจริงให้ปรากฏ" ครั้งนี้ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เชื่อเหลือเกินว่า ต้นทุนทางสังคมที่ตำรวจมีอยู่แล้ว ไม่น่าจะสูงขึ้นไปกว่าเดิม หนำซ้ำ กลับจะฉุดรั้งให้ต้นทุนที่มีอยู่แล้วของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกต่ำลงไปอีก

ผบ.ตร.บอกก่อนการแถลงรำลึกไว้ว่า "งานนี้จัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ" แต่เมื่อการแถลงดำเนินไป ดูเหมือนว่า จะเป็นการแถลงเพื่อเรียกต้นทุนคืน หรือพุ่งเป้าโจมตีอีกฝ่ายหนึ่งเสียมากกว่าที่จะรำลึกถึงผู้เสียชีวิต ซึ่งในเบื้องต้น บรรดาสื่อสำนักต่างๆ ได้ตั้งความหวังไว้ว่า น่าจะมีอะไรใหม่ๆ ในงานแถลงครั้งนี้บ้าง แต่ไปๆ มาๆ กลับกลายเป็นการแถลงเหมือนเพื่อต้องการประกาศผลงานของตัวเอง ทั้งที่ สิ่งที่ได้ทำไปนั้น ถือว่าเป็น "หน้าที่" ที่พึงปฏิบัติ และต้องปฏิบัติ !

ในข้อเท็จจริง ดูเหมือนตำรวจจะได้เปรียบกว่าหน่วยงานราชการอื่นอยู่แล้ว ในเรื่องของความสนิทสนมกับสื่อมวลชน หากว่าต้องการประชาสัมพันธ์งานที่ได้รับมอบหมาย แต่ก็เข้าใจว่า พิบัติภัยที่เกิดขึ้นที่ชายฝั่งทะเลอันดามันของไทยในครั้งนั้น เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างคาดไม่ถึง เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน เกิดขึ้นอย่างที่ไม่มีใครได้ตั้งตัวทัน ในขณะเดียวกัน ก็จำเป็นต้องเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน มิได้ทันคิดถึงการ "โชว์ออฟ-เอาหน้า" เสมือนหนึ่งที่ต้องการจะกล่าวหาอีกฝ่าย แต่การที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกมาแถลงข่าว (อย่างดุดัน) ในวันของการรำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากคลื่นยักษ์ "สึนามิ" นั้น ควรหรือไม่ที่จะมาพูดถึงการ "ทำความจริงให้ปรากฏ"

อย่างไรก็ตาม แนวทางที่จะสมานฉันท์กันได้ ทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์นั้น น่าจะมีการพูดคุย ทำความเข้าใจถึงหน้าที่บทบาทของแต่ละหน่วยงาน และหน้าที่บทบาทในการที่จะต้องทำงานร่วมกัน โดยจะต้องมีบรรทัดฐาน หรือมาตรฐานที่ตำรวจกล่าวอ้างนั้น ออกมาให้เป็นที่ยอมรับของสังคม ซึ่งผลงานต่างๆ จะเป็นเครื่องพิสูจน์เองว่า ใครคือ เพชรแท้ ทองปลอม และเมื่อถึงเวลานั้น ก็ไม่ต้องไปเรียกร้องหาต้นทุนทางสังคมให้เปลืองน้ำลายกันอีก

สุดท้าย หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในการรำลึกครบรอบ 1 ปีของเหตุการณ์ธรณีพิบัติ ขอดวงวิญญาณของผู้ที่ต้องประสบภัยจากคลื่นยักษ์ "สึนามิ" ทุกคน ได้ล่องลอยขึ้นสู่สรวงสวรรค์ และหลับให้สบายสู่สุคติในสัมปรายภพ อย่าให้ใครมาปลุกให้ตื่นสะดุดขึ้น เพียงเพื่อพร่ำเรียกหา "ต้นทุนทางสังคม" จากการ "ทำความจริงให้ปรากฏ" ในครั้งนี้.....



ที่มา : //www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9480000175291

Create Date : 22 ธันวาคม 2548		4 comments
Last Update : 22 ธันวาคม 2548 14:36:08 น.
Counter : 642 Pageviews.
Share Tweet