space
space
space
 
พฤษภาคม 2562
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
space
space
20 พฤษภาคม 2562
space
space
space

โรคเอดส์ การติดต่อ และก็การป้องกันที่ทุกคนควรรู้

โรคเอดส์ เป็นโรคที่เกิดขึ้นมาจากการได้รับเชื้อเชื้อไวรัส ที่เรียกว่า HIV ซึ่งเชื้อไวรัสประเภทนี้จะทำให้ระบบภูมิต้านทานของผู้ติดเชื้อทำงานบกพร่อง ในปัจจุบันยังไม่มีทางรักษาให้กลับมาเป็นปกติ ทำได้เพียงแต่ ควบคุมอาการและก็รักษาแบบพยุง ก็เลยทำให้โรคเอดส์ เป็นโรคที่ใครๆต่างกลัว เพราะว่ามีความรู้สึกว่าเป็นแล้วจะต้องเสียชีวิต แต่ว่าในความเป็นจริงแล้วมีหนทางประคับประคองให้ผู้ติดเชื้อโรคสามารถมีชีวิตยืนยาวได้นานนับสิบปี วันนี้พวกเราจึงนำความรู้เกี่ยวกับโรคเอดส์มาฝาก เพื่อที่เราจะได้ทำความรู้จักโรคเอดส์อย่างลึกซึ้ง แล้วก็วางแผนป้องกันโรคเอดส์ได้อย่างถูกต้อง

โรคเอดส์ การติดต่อ และการป้องกันที่ทุกคนควรรู้

โรคเอดส์ คืออะไร?

 

โรคเอดส์คือ อาการของโรคภูมิคุ้มกันผิดปกติ (AIDS : Acquired Immune Deficiency Syndrome) โดยเกิดขึ้นจากเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า ฮิวแมนอิมมิวโนเดฟีเชียนซีไวรัส (Human Immunodeficiency Virus : HIV) หรือเรียกง่ายๆว่า เชื้อเอชไอวี (HIV) เมื่อเชื้อเอชไอวีเข้าสู่ร่างกาย จะเข้าไปทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาว ซึ่งทำหน้าที่กำจัดสิ่งเจือปนหรือเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย เมื่อเซลล์เม็ดเลือดขาวถูกทำลายมากยิ่งขึ้น ก็เลยทำให้ผู้เจ็บป่วยมีภูมิต้านทานลดน้อยลง กระทั่งในที่สุดร่างกายไม่มีสามารถต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆที่ไปสู่ร่างกายได้ จึงทำให้คนไข้ที่ติดเชื้อเอชไอวีนั้นสามารถติดโรคได้ง่ายขึ้นส่งผลให้เป็นโรคติดเชื้อโรคอื่นๆตามมา อาทิเช่น วัณโรค ปอดบวม เชื้อรา เป็นต้น โดยส่วนมากผู้ป่วยโรคเอดส์มักเสียชีวิตจากโรคแทรกต่างๆ

 

โรคเอดส์มีกี่สายพันธุ์

  • เชื้อไวรัสเอชไอวีมีหลากหลายสายพันธุ์โดยปัจจุบันนี้ศึกษาค้นพบมากกว่า 10 สายพันธุ์ กระจัดกระจายอยู่ทั้งโลก แต่ว่าสายพันธุ์ดั้งเดิมเป็น เอชไอวี 1 (HIV-1) ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดอยู่ในยุโรป แอฟริกากลาง และอเมริกา ส่วนเอชไอวี 2 (HIV-2) แพร่ระบาดในแถบแอฟริกาตะวันตก
  • เชื้อไวรัสเอชไอวีถูกค้นพบครั้งแรกที่แอฟริกา โดยศึกษาและทำการค้นพบมานานกว่า 70 ปีแล้ว และปัจจุบันนี้ยังเป็นแหล่งที่พบเชื้อไวรัสเอชไอวีหลายสายพันธุ์ที่สุดด้วย
  • สายพันธุ์เอชไอวีที่มักพบที่สุดในโลกคือ สายพันธุ์ซี โดยมีมากถึง 40% สำหรับพื้นที่ที่พบคือ ทวีปแอฟริกา อินเดีย จีนแล้วก็ประเทศพม่า ส่วนในประเทศไทยนั้นพบเชื้อเอชไอวี 2 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์ เออี (A/E) หรือ (E) พบได้มากถึง95% โดยแพร่ระบาดจากการร่วมเพศระหว่างชายกับหญิง และสายพันธุ์บี (B) มักมีการแพร่ระบาดในกลุ่ม LGBT หรือคนที่ใช้เข็มฉีดยาด้วยกัน (ในกลุ่มผู้ใช้สารเสพติด)
  • สำหรับสายพันธุ์ที่ไม่เคยเจอในประเทศไทยคือ สายพันธุ์ซี แต่ว่ามีการเจอสายพันธุ์ระหว่าง อี-ซี ที่เป็นลูกผสมระหว่างสายพันธุ์อีในประเทศไทยกับสายพันธุ์ซี ซึ่งมีบ้านเกิดในทวีปแอฟริกา และก็เมื่อเร็วๆนี้ ได้ศึกษาค้นพบเชื้อเอชไอวีสายพันธุ์ใหม่ ที่ไม่เคยตรวจพบที่ใดในโลกมาก่อน เป็นการผสมระหว่าง 3 สายพันธุ์ เป็น เอ อี และก็จี เรียกว่า เอ อี จี(AE/G)

 

การติดต่อของโรคเอดส์มี 3 ทางดังนี้

  1. การร่วมเพศกับคนที่มีเชื้อเอชไอวี

การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อเอชไอวีเป็นสาเหตุหลักของการรับเชื้อไม่ว่าจะเป็นการมีเพศสัมพันธ์กับเพศใดก็ตาม ดังนี้จากข้อมูลของทางกองระบาดวิทยากล่าวว่า 83% ของผู้ติดโรคเอชไอวีนั้น ได้รับเชื้อมาจากการร่วมเพศทั้งสิ้น

  1. การได้รับเชื้อทางเลือด

การรับเชื้อโรคเอดส์เจอได้ใน 2 กรณี คือ

  • 2.1 ใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน หรือแม้แต่การใช้กระบอกฉีดยาร่วมกับผู้ติดโรคเอชไอวี ซึ่งมักพบในกลุ่มผู้เสพสารเสพติด หรือฉีดยาเข้าเส้น
  • 2.2 รับเลือดมาจากการผ่าตัด หรือเพื่อรักษาโรคเลือดบางประเภท ในอดีตมีการติดเชื้อเอชไอวีจากช่องทางนี้ค่อนข้างเยอะ เพราะยังไม่มีการตรวจเลือดที่ละเอียดนัก แต่ว่าปัจจุบันได้มีการนำเลือดที่รับบริจาคไปหาวิเคราะห์หาเชื้อก่อนทุกครั้ง ทำให้อัตราการติดเชื้อจากการรับเลือดลดลงอย่างยิ่ง

 

  1. การติดต่อผ่านแม่สู่ลูก

เกิดขึ้นจากแม่ที่มีเชื้อเอชไอวีอยู่แล้วตั้งท้อง โดยเชื้อเอชไอวีจะถ่ายทอดสู่ลูกขณะคลอด แต่ปัจจุบันนี้ได้ค้นพบวิธีการป้องกันการแพร่ระบาดจากแม่สู่ลูกได้แล้วโดยขั้นตอนการรับประทานยาต้านเชื้อไวรัสในช่วงตั้งครรภ์ จะช่วยลดการเสี่ยงจากการติดเชื้อของเด็กแรกคลอดลงได้

 

นอกจากนี้ เชื้อเอชไอวียังสามารถติดต่อได้อีกหลายวิธี แต่ก็มีโอกาสน้อยมาก อาทิเช่นการเจาะหูโดยการใช้เข็มร่วมกับผู้ติดเชื้อ หรือแม้กระทั้งการสัก ไม่ว่าจะเป็นการสักผิวหนังสักคิ้ว นอกเหนือจากเลือดแล้ว เชื้อเอสไอวียังสามารถติดต่อกันผ่านทางน้ำเหลืองได้ด้วย โดยบางทีอาจติดเชื้อจากการที่บาดแผลของพวกเราสัมผัสกับบาดแผลของผู้ติดโรค แต่ว่าก็ถือว่าได้โอกาสต่ำมาก โดยจะติดเชื้อได้ก็ต่อเมื่อเป็นแผลเปิด แผลสด แล้วก็มีเลือดหรือน้ำเหลืองที่มีเชื้อไหลเข้าไปเป็นจำนวนมากเท่านั้น

 

สาเหตุที่ทำให้ติดเชื้อโรคเอดส์

 

ปัจจัยที่ทำให้ติดเชื้อเอชไอวีมีหลายประการ คือ

  • ปริมาณเชื้อเอชไอวี หากได้รับเชื้อเอชไอวีในปริมาณมากก็จะทำให้มีโอกาสเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อสูงตามไปด้วย โดยเชื้อเอชไอวีพบได้มากที่สุดในเลือด รองลงมาเป็น น้ำเชื้อและน้ำในมดลูก
  • มีบาดแผล หากมีบาดแผลบริเวณผิวหนังหรือโพรงปาก ย่อมทำให้มีโอกาสติดเชื้อสูงมากขึ้น (จากการมีเพศสัมพันธ์ทางโพรงปาก) เพราะว่าเชื้อเอชไอวีสามารถไปสู่บาดแผลได้
  • ความบ่อยในการสัมผัสเชื้อ ถ้าเกิดมีการสัมผัสเชื้อไวรัสบ่อยโอกาสเสี่ยงที่จะติดโรคก็มีสูงมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น นักค้นคว้าที่จะต้องทำทดลอง ศึกษาเกี่ยวกับเชื้อไวรัสเอชไอวี ฯลฯ
  • การรับเชื้อแบบอื่นๆอาทิเช่น แผลเริม ซึ่งแผลประเภทนี้จะมีเม็ดเลือดขาวอยู่ที่บริเวณแผลเป็นจำนวนมากทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อได้ง่าย

 

การป้องกันโรคเอดส์

โรคเอดส์เป็นโรคที่สามารถป้องกันได้เพียงทำความเข้าใจให้ถูก แล้วก็กระทำตามหลักดังต่อไปนี้

  • ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
  • มีคู่นอนเพียงผู้เดียว
  • ก่อนสมรส หรือมีบุตร ควรมีรับการตรวจสุขภาพ และก็ตรวจเลือด
  • งดเว้นใช้ยาเสพติดทุกจำพวก โดยยิ่งไปกว่านั้นการใช้เข็ดขยาดฉีดยาร่วมกับผู้อื่น

ขอบคุณบทความจาก https://www.honestdocs.co/aids-hiv-infection-and-prevention




Create Date : 20 พฤษภาคม 2562
Last Update : 20 พฤษภาคม 2562 17:31:49 น. 0 comments
Counter : 488 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

สมาชิกหมายเลข 5290734
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 5290734's blog to your web]
space
space
space
space
space