หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้เกริ่นกระทู้ WWDC : สรุปคร่าวๆจากงาน!! Apple เปิดตัวอะไรบ้างไปชมกันเลย ไปแล้ว คราวนี้ก็มาเจาะลึกถึงตัวระบบ iOS 7 กันบ้างดีกว่าครับว่ามันมีอะไรใหม่บ้าง เพราะหน้าตาภายนอกเนี่ยเรียกได้ว่ายกเครื่องมาเลย ความรู้สึกผมหลังจากที่ดูการ demo จบลงพร้อมเสียงปรบมืออย่างกึกก้องกระหึ่มฮอล...

ปัดบนปัดล่างเหมือน BB10
แถมมี Live Wallpaper เหมือน android
ปิดท้ายด้วยไอคอนเรียบๆเหมือน Windows Phone
ผมก็ไม่รู้หรอกว่าใครคิดก่อนใครคิดหลัง แต่ส่วนตัวแล้วผมชอบกับการที่ Apple ยอมฉีกกรอบเดิมๆ ทำลายกำแพงที่ปิดกั้นความคิดและจินตนาการออกไปจนกลายมาเป็น iOS 7 อย่างที่พวกเราได้เห็นกันไปแล้วในวันนี้ ประโยชน์ทั้งหมดก็คงตกอยู่กับเหล่าผู้ใช้ iOS ทุกคนที่จะมีระบบปฏิบัติการซึ่งสามารถทำอะไรได้มากขึ้นอีกเป็นกองเลย



ฟีเจอร์ใหม่ที่ Apple หยิบมาโชว์นั้นมีทั้งหมด 10 ฟีเจอร์ แต่ถ้าจะเอาแบบซิงๆใหม่แกะกล่องก็คงจะมีอยู่ทั้งหมด 4 ฟีเจอร์ก็คือ 1.Control Center 2.Full Multitasking 3.AirDrop และ 4.iTunes Radio ส่วนตัวอื่นๆอีก 6 ตัวนั้นจะเป็นการอัพเดทคุณสมบัติเพิ่มเติมจากฟีเจอร์พื้นฐานลงไปให้ใช้งานได้มากขึ้นกว่าเดิม

1.Control Center


จะดีแค่ไหนถ้าหากการตั้งค่าเปิด/ปิด Wi-Fi และ 3G นั้นเป็นเรื่องง่ายเหมื่อนกับระบบปฏิบัติการ Android ที่เพียงแค่เอานิ้วรูดจากขอบจอด้านบนลงมาก็สามารถเปิด/ปิดได้แล้ว ...เช่นกันกับ iOS 7 ที่ทาง Apple ได้เพิ่มฟีเจอร์ Control Center เข้ามา ลักษณะการใช้งานนั้นเหมือนกันเพียงแต่ของ Apple จะใช้วิธีรูดจากด้านล่างขึ้นมาด้านบนแทนครับผม โดยในส่วนของ Control Center นอกจากจะใช้ เปิด/ปิด Wi-Fi และ 3G ได้แล้ว ก็ยังมีการเพิ่ม hotkey เอาไว้ไม่ว่าจะเป็นการเล่นหรือหยุดเพลง ไฟฉาย นาฬิกาจับเวลา เครื่องคิดเลข และปิดท้ายด้วยกล้องถ่ายรูป




2.Full Multitasking


ระบบ Multitasking(ทำงานหลายงานในเวลาเดียวกัน) ของ iOS ในสมัยก่อนนั้นเป็นอะไรที่ต้องบอกว่า "ไร้สาระ" เนื่องจากว่ามันเป็นเพียง Multitasking เทียมที่จะหยุดการทำงานของแอพ(Freeze)ทันทีที่กดปุ่ม Home เพื่อยุบแอพลงไป ยกเว้นแอพบางตัวที่ระบบอณุญาติให้สามารถใช้งานได้เท่านั้น(เช่นแอพฟังเพลง) แต่การมาของ iOS 7 อาจจะด้วยสเปคเครื่องของมือถือในยุคปัจจุบันนั้นแรงพอที่จะจัดการกับระบบ Multitasking บน iOS ได้อย่างลื่นไหล จึงทำให้ Apple ตัดสินใจให้ทุกๆแอพสามารถทำงานแบบ Multitasking ได้แล้ว




3.Safari Browser


งวดนี้ Apple ได้มีการยกเครื่องเว็บเบราเซอร์ติดเครื่องอย่าง Safari ให้สอดคล้องไปกับ User Interface ที่เรียบง่ายของ iOS 7 ซึ่งก็มีหลายจุดที่เปลี่ยนแปลงไปไม่ว่าจะเป็นการซ่อนแถบ URL ขณะกำลังเปิดหน้าเว็บนั้นๆอยู่(Full-Screen Interface) รวมถึงการแสดงผลของหน้าย่อย(Tab)ที่มีการแสดงผลเป็นแบบสามมิติอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์เด็ดที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยนั่นก็คือ iCloud Keychain ซึ่งเป็นการเก็บรหัส(password)ของการใช้งานบนเว็บเบราเซอร์เอาไว้บนตัว iCloud เผื่อว่าผู้ใช้ลืมรหัสนั่นเอง




4.AirDrop


ในเมื่อทางฝั่ง Android นั้นมี NFC เอาไว้ส่งข้อมูลภาพและเสียงระหว่างกัน Apple ก็ไม่ยอมน้อยหน้าส่ง "AirDrop" มาเพื่อเป็นสื่อกลางในการโอนถ่ายข้อมูลไม่ว่าจะเป็นข้อมูลภาพหรือเสียงหากันระหว่าง iOS Devices(ตอนท้ายจะมีบอกว่ารุ่นไหนรองรับบ้าง) โดยการใช้งานนั้นก็แสนง่ายเพียงแค่เอาเครื่องที่ติดตั้ง iOS 7 สองเครื่องมาอยู่ใกล้ๆกัน ตัวระบบจะค้นหากันเองและสามารถส่งข้อมูลหากันได้ในที่สุด




5.Camera


สำหรับแอพถ่ายภาพติดเครื่อง iPhone ณ วันนี้เบอร์หนึ่งสำหรับสาวๆคงหนีไม่พ้น Camera360 อย่างแน่นอน ด้วยฟิลเตอร์ต่างๆที่มีให้เลือกแต่งหน้าทาปากให้เป็นแนวใสวิ๊ง เรโทร หรือหลอนสุดๆก็ทำได้(อย่างหลังนี่บางทีไม่ต้องใช้แอพก็ได้นะ อิอิ) แต่สำหรับ Apple แล้วคำนิยามคงมีเพียงอย่างเดียวคือ "ดูดี" แน่นอนว่า Apple ได้มีการเพิ่มฟิลเตอร์สำหรับแต่งภาพออกมาจำนวนหนึ่งให้ใช้แบบแก้ขัดไปได้ แต่โดยรวมสำหรับใครที่ไม่ "เยอะ" ก็คงจะชอบกับสิ่งที่ Apple จัดมาให้ในวันนี้




6.Photos


มาพร้อมกับไอคอนใหม่แปลกตาเล่นเอางงไปเหมือนกันสำหรับแอพ Photos แอพที่เอาไว้ดูภาพต่างๆที่เราถ่ายนั่นเอง โดยการอัพเดทในครั้งนี้ Apple เน้นในเรื่องของการจัดกลุ่มของภาพตามวัน เดือน และปีที่ถ่ายเพื่อง่ายต่อการค้นหานั่นเอง โดยนอกจากนี้ตัวแอพยังเชื่อมต่อกับแอพ AirDrop เพียงกดปุ่ม Share แล้วเลือก AirDrop ก็สามารถส่งรูปภาพให้กับเพื่อนที่ใช้ iPhone, iPad และ iPod ได้แล้ว(เฉพาะรุ่นที่รองรับ AirDrop นะครับ)




7.Siri


อย่างแรกที่สะดุดหูเลยก็คือ Siri เวอร์ชั่นนี้มาพร้อมกับเสียงพูดที่เป็นผู้ชายครับท่านผู้ชม ซึ่งเพื่อนๆสามารถเลือกได้ว่าอยากจะฟังแบบเดิมก็คือเสียงสาวแก่แม่หม้าย หรืออยากจะฟังเสียงใหญ่ๆของพ่อหนุ่มวัยกลางคน(ปากดีจริงๆแอดมิน =_=") นอกจากนี้ก็ยังมีการเพิ่มภาษาพูดใหม่ๆลงไปอีกพอสมควร(แน่นอนว่าไม่มีไทยอยู่ดี เอ้าซื้อกันเยอะๆเผื่อซักวันเค้าจะมองเห็นเรา >w<")




8.iOS in Car


ถึงแม้ว่า Apple จะยังไม่มีโครงการสานฝันของ Steve Jobs ที่อยากให้มีแบรนด์รถหรูจาก Apple อย่าง "iCar" แต่นี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะนำเอาระบบ iOS นั้นไปผูกขาดกับรถยนต์หรูทั้งหลายแหล่ แน่นอนว่าการจะใช้งานมันให้เต็มประสิทธิภาพ เจ้าของรถก็ควรที่จะต้องมี "iPhone" ด้วยนั่นเอง ซึ่งตอนนี้ก็มีแบรนด์ดังมากมายตอบรับข้อเสนอนี้ไม่ว่าจะเป็น Benz, BMW, Honda, Nissan รวมไปถึงรถที่กำลังมีข่าวดังอยู่ตอนนี้อย่าง Chevrolet




9.App Store


เป็นอีกครั้งที่มีการยกเครื่องหน้าตาของ App Store ใหม่หมดให้เป็นไปในทิศทางเดียวกับ iOS 7 และนอกจากจะอัพเดทหน้าตาแล้วก็ยัง มีการเพิ่มฟีเจอร์ Popular Near Me เพื่อค้นหาแอพที่ดังๆเจ๋งๆเพื่อใช้ประโยชน์กับสถาณที่ที่คุณอยู่ ณ ตอนนั้น(คงเปิดให้ใช้ที่อเมริกาก่อนแน่นอน) ซึ่งฟีเจอร์นี้ก็คงไม่สำคัญเท่ากับ... "คุณเบื่อมั้ยกับการที่จะต้องมีตัวเลขสีแดงขึ้นมากดดันเราให้อัพเดทแอพ!!" แน่นอนว่า Apple ได้ตัดมันทิ้งไปแล้วเรียบร้อยเรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดจากฮอลได้เป็นอย่างดี สงสัยคนส่วนใหญ่คงจะไม่ชอบมันจริงๆซะหละมั้งครับ ^^




10.Music/iTunes Radio


iTunes Radio แอพตัวนี้เกิดมาเพื่อคนที่ชื่นชอบการฟังเพลงฟรีแบบออนไลน์โดยไม่ต้องเสียตังซักบาท(หรือจะเสียตังก็ได้ถ้าหากอยากดาวน์โหลดเก็บมาฟังในเครื่อง) โดยในความฟรีของมันนั้นหลายคนจึงวิตกว่ามันจะมีโฆษณามาเกะกะลูกตาหรือเปล่า แน่นอนว่า Apple ยอมอุ้มเรื่องโฆษณานี้ไว้แต่เพียงผู้เดียวทำให้แอพยังดูสะอาดตาอย่างไร้ที่ติ ซึ่งแอพ iTunes Radio ถือเป็นส่วนโมดูลหนึ่งของแอพ Music อีกที ซึ่งเจ้าตัว Music เองก็ได้มีการปรับปรุงหน้าตาตามแอพอื่นๆให้มีความเรียบง่าย และทาง Apple เองก็เพิ่มระบบอำนวยความสะดวกในการค้นหาเพลงเพิ่มอีกเล็กน้อย




11.Etc


สุดท้ายนี้ Apple ก็ไม่ได้พัฒนาขึ้นมาเพียงแค่ 10 ฟีเจอร์ที่ได้กล่าวไปแล้วเท่านั้น.. โดยยังมีการพัฒนาในส่วนอื่นๆขึ้นมาอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นระบบ FaceTime audio หรือเป็นการ FaceTime โดยไม่ต้องเห็นหน้า(โทรศัพท์ฟรีเหมือนในแอพ LINE นั่นแหละ) และอีกแอพที่เจ๋งฝุดๆไปเลยนั่นก็คือ "Activation Lock" ซึ่งถ้าหาก iPhone ของเพื่อนๆหายและ Find My Phone ไม่สามารถค้นหาพิกัดตัวเครื่องได้ Activation Lock จะทำงานทันทีโดยบังคับให้ใส่ Apple ID ของเจ้าของเครื่องให้ถูกต้อง ซึ่งถ้าหากไม่ถูกต้องข้อมูลทุกอย่างในเครื่องจะหายหมดเกลี้ยง ไม่ต้องเป็นห่วงว่าหนังโป๊ที่อัดไว้ในเครื่องจะโดนแฮ๊คอย่างแน่นอน ^^

สุดท้ายนี้ iOS 7 รองรับเครื่องอะไรบ้าง... ตามภาพด้านล่างเลยครับ