กางแผนที่ แบกเป้พาลูกเที่ยว บันทึกการเดินทางเที่ยวเอง แบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบประหยัดและมีความสุข หลงบ้างมั่วบ้างแต่ก็สนุกดังคำกล่าวในหนังสือ Lonely Planet เคยบอกไว้ว่า " หากไม่มีปาฏิหาริย์บังเกิด ก็จงเป็นปาฏิหาริย์นั้นเสียเอง "
|
|||
Day12Trip in switzerland 2014 : JENEVA เมืองแห่งความอิสระเสรีภาพ ตามหาUNและน้ำพุ Jet d'Eau ----------------------------------------------------------------- เที่ยวเอง 17d in Switzerland 2014 (5-21 April2014 ) day 1 : BKK- Zurich Switzerland / Swiss Airline day 2 : Stein Am Rhine day 3 : Top of Zurich ... Uetliberg day 4 : Luzern day 5 : Bern day 6 : Jungfraujoch day 7 : Basel day 8 : Zurich Lake day 9 : Lugano + Champion Italy day 10 : Rapperswill Zoo day 11 : St.Gallen+Appenzell day 12 : Jeneva day 13 : Titlis day 14 : Strasbourg France day 15 : Friedrichshafen + Konstanz Germany day 16 :Zurich day 17 :Zurich - BKK ---------------------------------------------------------------------- Day 12 : ผจญภัยในเมืองJeneva เมืองแห่งความอิสระและเสรีภาพ ตามหา UNและน้ำพุสูงที่สุดในโลก Jet d'Eau Day 12 Trip in switzerland 2014 : JENEVA
------------Wednesday 16 April 2014---------------------- ทริปเที่ยวเอง 17วันในสวิตเซอร์แลนด์ มาถึงการท่องเที่ยววันที่12 วันนี้เราจะเดินทางไปยังเมืองเจนีวา เมืองทางตะวันตกเฉียงใต้ของสวิส เมืองแห่งความฝันของใครหลายคน เจนีวาเป็นเมืองธุรกิจการค้าจากหลากหลายประเทศ คนกว่า40%เป็นชาวต่างชาติ เป็นที่รวมของคนหลายเชื้อชาติ ได้ชื่อว่าเป็นประตูตะวันตกของสวิตเซอร์แลนด์ เจนีวา (Geneva) เมืองต้นกำเนิดของ https://www.(World Wide Web) ได้รับสมญานามว่าเป็นเมืองนานาชาติ เพราะเป็นที่ตั้งขององค์กรระหว่างชาติใหญ่ๆ เช่น องค์กรสันนิบาตชาติ กาชาดสากล สำนักงานใหญ่สหประชาชาติประจำทวีปยุโรป องค์การอนามัยโลก (WHO) และองค์การการค้าโลก (WTO) ขึ้นชื่อเรื่องการทำนาฬิกาชั้นดี ชมนาฬิกาดอกไม้สัญลักษณ์แห่งเจนีวา เยือนทะเลสาบเจนีวาหรือทะเลสาบเลม็อง (Lake Geneva/ Lake L?man) เป็นทะเลสาบที่สวยงามครอบคลุมพื้นที่กว่า 582 ตร.ม. ชมน้ำพุเจ็ทเดเอา (Jet d Eau) น้ำพุที่สูงและมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งโดยปกติน้ำพุจะเปิดตลอดปียกเว้นในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่จะปิดซ่อมบำรุงเป็นเวลา 3 สัปดาห์ นอกจากนี้ก็อย่าลืมแวะเขตเมืองเก่าเพื่อไปเยือนวิหารเซนต์ปิแอร์ (Cathedrale St. Pierre) โบสถ์เก่าแก่ของเมือง และพิพิธภัณฑ์เอเรียน่า (The Musee Ariana-Ariana Museum) ที่จัดแสดงเครื่องแก้วและเซรามิกตั้งแต่สมัยโบราณกว่า 20,000 ชิ้น วันนี้เราต้องออกเดินทางแต่เช้า เพราะต้องใช้เวลานานในการเดินทางลงใต้ ตามแผนคือนั่งรถไฟผ่าน BERN - LAUSANNE - JENEVA ใช้เวลาเดินทาง3ชั่วโมง เช้านี้อากาศหนาวมาก 6องศา แดดจ้า นั่งรถไฟจากสถานี Spital Zollikerberg ไปลงสถานีหน้าทะเลสาบซูริค สถานีStadelhofen และรอดักรถที่จะไปสถานีกลาง Zurich HB เดินทางหลายวันเริ่มคล่อง ใช้บัตรSWISS PASS ตั้งแต่รถไฟขบวนแรก เราซื้อตั๋วแบบ15days ตกวันละ1000บาทต่อคน แต่คุ้มสุดๆ แทน ทัพฟรีครับ เมื่อโดยสารไปพร้อมพ่อหรือแม่ที่ซื้อสวิสพาส รอดักรถเร็ว นั่งรถไฟไปแค่2นาทีถึงสถานี Zurich HB สถานี Zurich HB ดูเวลารถที่จะไปเจนีวา IC คือรถเร็วที่แวะเฉพาะเมืองสำคัญ รถที่เราจะไปออกเวลา 9.32 การเที่ยวเองที่สำคัญคือวางแผนการเดินทางโดยดูเวลารถไฟเป็นหลัก มีเวลาเหลือ ซื้อเสบียงเล็กน้อย Brezel รสชีส 3.5 CHF อร่อยลืมโลก ขนมสุดโปรดของแทนไท กองทัพ รสดั้งเดิมเป็น Brezel โรยเกลือเม็ดๆ รสชีสอร่อยสุด นอกนั้นมีรสงา อบร้อนๆในวันที่อากาศหนาวแบบนี้อร่อยสุดๆ ชิ้นเล็กๆ2ฟรังค์แต่ไม่สะใจเท่าชิ้นใหญ่ ขึ้นรถไฟชานชาลาที่16 9.32น เส้นทางไปยังเจนีวา BERN - LAUSANNE - JENEVA ปลายทางของเราเจนีวา แต่ในภาษาเยอรมันออกเสียงเจเนฟ คอยฟังบนรถไฟสายสวิสบอกปลายทางเจเนฟเป็นใช้ได้ ในสวิสจะใช้ภาษาเยอรมันเป็นหลัก อยู่ไปไม่กี่วันเริ่มชิน ใช้เวลาในการเดินทาง3ชม ผ่านเส้นทางเมืองหลวง เบิร์น โลซานท์ ปลายทางเจเนฟ ตลอดเส้นทางสวยงามด้วยฤดูใบไม้ผลิ ดอกหญ้าสีเหลืองสวยเต็มท้องทุ่ง ตลอดทาง3ชั่วโมงนี่แม่นั่งมองวิวข้างทาง เก็บภาพฝูงวัวนม สีขาว น้ำตาล นั่งๆนอนๆเล็มหญ้าอยู่ตลอดเส้นทาง ท่ามกลางทุ่งหญ้าสวยสีเหลืองทอง มีความสุขเหมือนภาพฝันจริงๆ 10.30 น ถึงเมือง BERN เมืองหลวงของสวิส ตามไปเที่ยวเมืองหลวงสวิสได้ทางนี้ https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup 10.34 รถไฟออกจากเมืองหลวงของสวิส BERN ตรงเวลาเป๊ะ 11.40น ผ่านเมืองโลซานท์ ( LAUSANNE )
12.35 น JENEVE เจนีวา นครเจนีวา (Geneva) อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง อยู่บนบนชายฝั่งตะวันตกของทะเลสาบ Leman ซึ่งมีรูปร่างคล้ายครัววองค์เหมือนจะทิ่มเข้าไปในเขตแดนฝรั่งเศส ทำให้เป็นเขตที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส เคยเป็นของฝรั่งเศส16ปี นับแต่ปี1798 ทำให้มีกลิ่นอายอันเข้มข้นของวัฒนธรรมฝรั่งเศสยู่ ถึงแล้ว สถานีรถไฟเจเนฟ
สถานีปลายทางของเรา คนเยอะสับสนวุ่นวาย มองหาแผนที่ในสถานีรถไฟ ไม่เจอ ปกติจะมีแผนที่ในสถานีเมืองต่างๆ เป็นหัวใจสำคัญของการท่องเที่ยว คุณพ่อไปตามหาแผนที่ เรานั่งเล่นรอกันก่อนนะครับ จะบอกว่าการเดินทางเที่ยวเองให้เข้าห้องน้ำบนรถไฟให้เรียบร้อย เพราะจะหาห้องน้ำทั่วไปยากมาก หากมีก็เป็นของเอกชนที่ต้องเสียเงิน บนรถไฟจะสะอาดมาก โดยเฉพาะรถไฟขบวนรถเร็วทั้งหลาย และที่สวิสนี่มีรูปปั้นงานศิลปะเยอะมาก ตลอดเส้นทาง ทุกเมือง มีโชว์ของศิลปินเปิดหมวกเป็นกึ่งมายากล ผู้คนสงสัยพากันเข้าไปดู แต่เรารู้แล้วล่ะว่าทำไมถึงลอยได้ฮ่าๆ ในเนตมีลงไว้เยอะ ที่เจนีวาเราเจอศิลปินเปิดหมวกเยอะมาก ติดตามต่อไปนะครับ ศิลปินอารมณ์ดีส่งยิ้มให้เด็กๆ น้องกองทัพเลยขอบริจาคตังค์สมทบเล็กน้อยครับ เจอแผนที่แล้ว บู๊ทinformationตั้งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟมาก เดินไกล มีแผนที่แล้วเดินตามแผนที่ไปเลย เห็นป้ายแล้วเดาไม่ยาก ตามหาน้ำพุสูงที่สุดในโลก เห็นในป้ายแล้ว ไปกันเลยครับ เดินชมเมืองกันไปเรื่อยๆ เมืองนี้หลากหลายด้วยผู้คนหลากเชื้อชาติ มีทั้งยุโรป ผิวสี อินเดีย หลากหลายสีผิว แตกต่างจากเมืองอื่นๆในสวิสที่เราได้ไป ร้านขายของที่ระลึกระหว่างทาง จำพวกมีดสวิสที่มีชื่อ ระหว่างทางไปยังสะพานข้ามทะเลสาบเจนีวา น้องกองทัพเห็นป้าย Emirates แล้วตาโต สปอนเซอร์ใหญ่ทีมโปรด Arsenal ทะเลสาบอันงดงาม เราจะไปตามหาน้ำพุสูงที่สุดในโลกกัน ข้ามไปจะเจอสวนสาธารณะ ขายของที่ระลึก มีห้องน้ำให้เข้า รถทัวร์จอดอยู่รอบๆมีนักท่องเที่ยวลงมาถ่ายภาพ รอจนทัวร์ไปแล้วเป็นเวลาของเรา วิวริมทะเลสาบเจนีวา ทะเลสาบใหญ่เป็นอันดับ2ของยุโรป มีโรงแรมต่างๆตั้งเรียงรายรอบทะเลสาบ มีรถชมเมืองเจนีวาด้วย สวนสาธารณะนี้มาทราบภายหลังว่าเคยมีการฉกชิงวิ่งราวบ่อยๆที่นี่ โชคดีมี่เราไปเที่ยวกันเองไม่มีเหตุอะไร น้ำพุสูงที่สุดในโลกก็อยู่บริเวณนี้แต่ช่วงเวลาวันนี้ปิดไม่เปิดให้ชม มีภาพขอยืมจากเวบอื่นให้ชม ภาพนี้ไม่ใช่ฝีมือแม่ เสียดายช่วงไปน้ำพุยังไม่เปิด น้ำพุเจ็ทเดเอา ไปกันต่อนะครับ ตามหาเขตเมืองเก่าและUN เห็นตึกนาฬิกาชื่อดังอยู่ข้างหลัง เดินกันต่อครับ ดูตามแผนที่และเราก็จะเดินไปเรื่อยๆ ได้เวลาอาหารเที่ยงแล้ว มองหาแหล่งอาหาร ที่สวิสจะหาร้านอาหารข้างถนนแบบบ้านเราไม่ได้ง่ายๆไม่เป็นร้านอาหาร ก็ต้องมองหาอาหารง่ายๆจำพวกไส้กรอก และแล้วเราก็เจอ มีลานที่นั่งข้างโบสถ์ตกลงพักกินอาหารกลางวันกันก่อน อาหารเรามื้อนี้ PANINI คนขายเป็นคุณตาคุณสูงอายุใจดี เรานั่งรอที่สั่งประมาณ10นาที มีขั้นตอนการทำเยอะ การทำ Panini ขั้นตอนอยุ่ที่ทำขนมปังให้พอกรอบ....และชีสละลายกำลังดี Panini หรืออิตาเลียนแซนด์วิช มักใช้ขนมปังอิตาเลี่ยนหรือฝรั่งเศสหรือขนมปังตระกูล Artisan ( Artisan คือการทำด้วยมือแบบโบราณ ๆ เลี่ยงการใช้เครื่องจักร)แต่จะใช้ขนมปังธรรมดา ๆ ก็ได้เช่นกัน เสน่ห์ของ Panini อยู่ที่ขนมปังดีและชีสดี ๆ ส่วนไส้ของ Panini นั้นจะใช้เนื้อแบบไหนก็ได้ที่สุกแล้ว ส่วนใหญ่มักใข้แฮมหรือต้นตำหรับหน่อยก็คือ Prosciutto หรืออิตาเลี่ยนเบค่อน ส่วนชีสมักใช้ Provolone,Fontina หรือชีสอื่น ๆ อีกตามชอบ เช่น Cheddar,Mozzarella,Pฟrmesan หรือประเภท Goat Cheese ฯลฯ) ส่วนผักจะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ ถ้าใส่ผักก็จะมีมะเขือเทศ โหระพาฝรั่ง มะเขือม่วง หรือผักอะไรก็ตามที่แต่ละคนชอบ ได้แล้วครับ PANINI สุดอร่อย คนละชิ้นใหญ่ น้องกองทัพสั่ง PANINI Ham 9CHF (333 บาท) ราคามาตรฐานอาหารที่สวิสครับ ของพี่แทน PANINI tuna curry อร่อยมากๆ 9.5 CHF ราคา350บาท ตอนนี้ เราอยู่ในเขตเมืองเก่า (Old Town ) ของกรุงเจนีวา แล้วครับ เดินตามแผนที่มาเรื่อยๆ ร้านอาหารที่รอเวลาเปิดช่วงบ่ายๆเย็นๆ ทางเดินในเขตเมืองเก่าเป็นทางเดินขึ้นเนินสูงๆต่ำๆ เสาเท่ห์นี่เป็นที่ผูกสายคล้องสุนัขครับ บางทีเห็นหมาฉี่ใส่ด้วย ชาวเมืองสวิสนี่รักหมาแบบสุดๆเลย เห็นจูงหมาไปด้วยทุกที่ ขึ้นรถรางนี่ประจำ เดินเล่นในเขตเมืองเก่ากันนะครับ วันนี้นักท่องเที่ยวไม่เยอะเจอบ้างประปราย ชมเมืองที่มีธงสวิสสวยๆติดบนถนนทุกสาย มอเตอร์ไซด์ยุโรปคันโตทุกคัน เห็นไม่บ่อยครับ บ้านเมืองสวย ประตูหน้าต่างดูใหญ่โตแข็งแรง เดินไปเรื่อยๆน่าจะเจอวิหารที่เราตามหากันแล้ว ไปเยือน วิหารเซนต์ปิแอร์ (St. Pierre Cathedral) อาคารทางศาสนาที่มีความสำคัญมากเป็นอันดับต้นๆของกรุงเจนีวา วิหารเซนต์ปิแอร์ เป็นวิหารนิกายโปรเตสแตนต์ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ย้อนกลับไปในช่วงระหว่างศตวรรษ 8 -10 ปัจจุบันวิหารได้กลายเป็น 1 ใน 82 สิ่งปลูกสร้างที่เป็นแหล่งมรดกสำคัญของชาติสวิตเซอร์แลนด์ เข้าไปชมในวิหารกันนะครับ ภายในนั้นออกแบบไว้ให้ดูโปร่ง สว่างจากแสงอาทิตย์ที่ส่องเข้ามา และมีพื้นที่กว้าง สิ่งของเครื่องใช้ส่วนใหญ่ทำมาจากไม้ บรรยากาศหน้าวิหาร ชี้อะไรครับ ที่วิหารนี้มีหอคอยให้ขึ้นไปชมวิวที่มองเห็นทะเลสาบและน้ำพุด้วยแต่เราไม่ขึ้นละครับ เท่านี้ก็ขาลากแล้ว และเดินไปข้างหลังมีMuseumให้เข้าชม ดูแล้วเวลามีไม่มากตัดสินใจไม่เข้าชม ฟรีด้วยSwisspass แต่เวลาไม่มีแล้วครับ
เป้าหมายต่อไปออกจากเขตเมืองเก่าตามหาUN เดินลงจากเนินเขาที่ตั้งวิหาร หารถรางเพื่อต่อรถไปสำนักงานUNครับ รอรถรางเพื่อไปต่อรถรางอีกสายครับ และบนรถรางสายนี้ล่ะที่เราเจอเหตุการณ์ที่เป็นประสบการณ์ครั้งแรกและครั้งเดียวในทริปเที่ยวเอง17วันในสวิส เมืองเจนีวาหลากหลายด้วยผู้คน สับสนวุ่นวาย บนรถรางที่นี่คนแน่นครับ ไม่เหมือนทุกเมืองที่เราผ่านมา รถรางคันนี้ล่ะที่เราเจอโจรล้วงกระเป๋า มาแล้วๆ แน่นมาเชียว เราได้ยืนไปบนรถราง คุณยาย แทนไท กองทัพ คุณแม่ยังเริงร่า บนรถแน่นๆ เหตุการณ์บนรถราง ระหว่างที่เรายืนบนรถราง มีผู้หญิงสาวสองคนเดินเบียดคนเข้ามาถามพร้อมกางแผนที่ คุณแม่ก็งง นึกสงสัยว่าทำไมนักท่องเที่ยวคนนั้นมาถามนักท่องเที่ยวเหมือนกัน ทำไมไม่ถามชาวเมือง ดูหน้าตาไม่ใช่คนสวิสเหมือนๆอิตาลีหรือรัสเซีย นึกแปลกใจ คุณพ่อทียืนอยู่ข้างก็เลยเข้ามาช่วยดู และเราก็บอกว่าเราไม่รู้หรอกและถึงป้ายหน้าที่เราจะลงพอดี พวกเราลงรถรางโดยมีหญิงสาวสองคนตามลงมาด้วย เอ๊ะ ยังไง ระหว่างนั้นก็ยังไม่สงสัยอะไรมาก มารู้อีกที ทั้งสองพยายามเปิดกระเป๋าตั้งแต่อยู่บนรถราง คนหนึ่งชวนคุยอีกคนแอบเปิดซิป และพยายามจะล้วงเอาเงินตั้งแต่บนรถรางแต่ไม่สำเร็จ เลยตามลงมาจะมาล้วงต่อ แน่ะ พยายามดีจริง ลงมาก็ยังกางแผนที่ชี้โน่ชี้นี่ เราก็เอ๊ะยังไง บอกไม่รู้ๆ ฉันก็เป็นนักท่องเที่ยว เท่านั้นล่ะพอพวกเรารู้สึกว่ากระเป๋ากำลังถูกเปิด เลยโวยวาย กระเป๋าโดนเปิดไปแล้วครึ่งแต่ยังไม่ทันถูกเอาเงินไป ทั้งสองสาวรีบปฏิเสธก่อนเลยว่าไม่ได้เอาเงินไป อ้าว ยังไม่ทันพูดอะไรเลย พอเรารู้ตัวทั้งสองเลยรีบหนีข้ามถนนไป นับว่าโชคดีของเราที่ยังไม่โดนอะไร เวลาไปเที่ยวน่ะ เงินก็ต้องแบ่งไว้หลายกระเป๋า แบ่งไว้ไว้ตรงที่ไม่น่าจะไว้ ไอ้ที่ล้วงๆกระเป๋าน่ะเจอแต่โบรชัวร์ท่องเที่ยวก่อนล่ะหาเงินไม่เจอหรอก นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเราเจอเหตุการณ์แบบนี้ ครั้งแรกในทริปเที่ยวเองทั้งหมดที่ผ่านมา นับเป็นเหตุการณ์แรกที่ตื่นเต้นในการเที่ยวเองของเรา แต่เท่าที่ฟังสำเนียงและหน้าตาไม่ใช่คนสวิสแน่ๆ เป้าหมายคงเห็นกลุ่มเรามาเอง มีเด็ก คนแก่ และมีท่าทีที่ไม่ระวัง (ก็ไม่เคยคิดเล๊ยว่าสวิสจะมีโจร) เคยได้ยินแต่แก๊งค์ล้วงกรีดกระเป๋าที่อิตาลี ประมาณนั้น ที่ต้องระวัง เที่ยวเหนือล่องใต้ในสวิสกลับบ้านดึกดื่นทุกวัน การเที่ยวในสวิส พวกเรารู้สึกปลอดภัยมากๆบอกไม่ถูก รู้สึกว่าประเทศนี้ไม่ค่อยมีตำรวจ ผู้คนจะระวังภัยให้กันและปลอดภัยมากที่สุด เสียดายไม่ถ่ายรูปไว้จะได้แจ้งตำรวจ คนอื่นจะได้ไม่เจอเหมือนเรา มีเรื่องตื่นเต้นพอเลือดลมสูบฉีด เราก็ไปกันต่อ ตรงนี้รอรถรางเพื่อไปUN พาแทนไท กองทัพไปเห็นของจริง รถรางเรามาลงตรงนี้ล่ะ ยัยโจรสองสาวข้ามถนนหนีไป ถ่ายรูปต่อ เมืองก็สวยโจรเยอะจริง นี่ล่ะเมืองแห่งอิสระและเสรีภาพ เดี๋ยวขากลับเดินผ่านสวนริมทะเลสาบซูริคจะเล่าให้ฟังว่ามีอะไรที่นั่น รออ่านนะครับ อิอิ ผ่านเรื่องตื่นเต้น ระหว่างนั้น เราเห็นสวนสาธารณะข้างหน้า มีคนเยอะดี ดูอะไรกันนะ เดินไปสวนสาธารณะกันก่อนเห็นแว๊บๆมีหมากรุกคน แม่ชอบ ศิลปินเปิดหมวกที่เจนีวาเยอะมาก เจอเจ้านี้ชุดเหลืองนี่ เอากระป๋องกระแป๋งมาตีทำเป็นเพลง นี่ล่ะครับ สิ่งที่คุณแม่โปรดมาก หมากรุกคน ที่เห็นทุกเมืองในสวิส ขึ้นรถรางไปตามหาองค์การสหประชาติกันต่อไปครับ นั่งชมวิวชมเมืองไปเรื่อยๆครับ เจนีวาเมืองแห่งความหลากหลาย ไม่แปลกใจที่ระหว่างทางจะเห็นคนหลากเชื้อชาติ คนผิวสี แขก เอเชีย และฝรั่งเศสเพียบๆ ที่นั่งบนรางที่สวิส มีพร้อมเสมอสำหรับวีลแชร์ ตนแก่ และรถเข็นเด็ก มีเบาะพับนั่งได้ สะดวกสะบายและเป็นประเทศที่มีรถรางที่ยอดเยี่ยม ร้านขายไวน์แต่งหน้าร้านเก๋ดีจัง เจนีวาเป็นเมืองธุรกิจการค้าจากหลากหลายประเทศ คนกว่า40%เป็นชาวต่างชาติ เป็นที่รวมของคนหลายเชื้อชาติ ย่านกลางเมืองเจนีวา ไม่เหมือนเมืองอื่นๆที่เคยผ่านมา ที่นี่รถเยอะ คนขับรถไม่มีวินัย ขับรถเร็ว ไม่จอดให้คนข้าม มอเตอร์ไซด์เยอะ สับสน วุ่นวาย เป็นภาพที่ไม่มีให้เห็นในเมืองอื่น หรือนี่คือเมืองชายแดนที่เต็มไปด้วยเสรีภาพทำให้ขาดคำว่ามีวินัย เป็นเมืองที่พวกเราลงความเห็นว่า ไม่ประทับใจสุดๆ รถรางสวยๆที่ขับสวนทางกับเรา รถรางพาเรามาจอดสุดทาง ถึงแล้ว ที่ๆเราตามหา สำนักงานใหญ่องค์การสหประชาติหรือ UN เจนีวา เป็นที่ตั้งสำนักงานองค์กรระหว่างประเทศมากกว่า20แห่ง เช่น องค์การค้าโลก คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ องค์การอนามัยโลก องค์การแรงงานระหว่างประเทศ มาเห็นกับตา UN ครับ สวิสเพิ่งเข้าร่วมกับUNไม่นาน เมื่อปี2002 นี่เองครับ ช่วงที่เราไปถึงทัวร์แขกเพิ่งลงหนึ่งรถบัสคันใหญ่ เฮฮาปาร์ตี้มาก แขกลงที่ไหนความวุ่นวายจะไปที่นั่นฮ่าๆ ไม่เป็นไร ซ่ามาก ฮาดี คุณแม่หามุมกล้องหลบแขกแทบแย่ รอสักพักแขกไปแล้ว ค่อยได้ความสงบกลับมา ถ่ายภาพๆ ส่องๆหาธงชาติไทยครับ มาถึงแล้ว สำนักงานใหญ่องค์การสหประชาติ UN(The United Nations ) ด้านข้างมีเจ้าหน้าที่คอยรักษาการณ์ คุณยายขอเข้าฉาก คุณพ่อไม่ออกอากาศ เป็นตากล้อง ด้านหน้า UN เป็นลานกว้าง ที่ตั้งอนุสาวรีย์"เก้าอี้หัก" (Broken Chair) ที่สร้างขึ้นโดยศิลปินชาวสวิสเซอร์แลนด์ ชื่อ Daniel Berset และช่างไม้ ชื่อ Louis Geneve โดยเก้าอี้ถูกสร้างขึ้นจากไม้ 5.5 ตัน ในความสูง 12 เมตร (39 ฟุต) เป็นสัญลักษณ์ของการต่อต้านการทำเหมืองแร่ที่ดินและระเบิดคลัสเตอร์ อีกประวัติของเก้าอี้สามขา เก้าอี้สามขาถูกสร้างขึ้นในปี 1997 ตั้งอยู่ที่จัตุรัส Place des Nations ด้วย ตัวเก้าอี้ตั้งประชันหน้าประตูทางเข้าสำนักงานสหประชาชาติ สร้างขึ้นโดย Daniel Berset ซึ่ง Paul Vermeulenอดีตประธานสมาคม Handicap international ที่ให้สร้างขึ้นหลังจากการประชุมนานาชาติที่เมือง Ottawa แคนาดา ความหมายของมันก็เพื่อเป็นการต่อต้านสงครามและเก้าอี้สามขาก็เปรียบเสมือนผู้เคราะห์ร้ายจากสงครามนั่นเอง ตอนแรกเก้าอี้ตั้งใจจะวางอยู่แค่ 3 เดือนแต่ด้วยเพราะความสำคัญจึงกลายเป็นตั้งอยู่ที่จัตุรัส Place des Nations ตลอดไป ทำไมเก้าอี้ขาหัก ที่พื้นด้านล่างเก้าอี้มีเรื่องราวให้อ่าน ได้เวลากลับกันแล้ว มองดูรอบๆลานกว้างมีธงรูปคนเชื้อชาติต่างๆโดยรอบ เมืองเจนีวา เมืองแห่งความหลากหลายทางเชื้อชาคิ รถรางจอดรอเราที่ต้นสาย ด้านข้างUN มีห้องน้ำฟรีให้เข้าด้วย
การเดินทางตั้งแต่ก้าวเท้าออกจากบ้าน ใช้บัตร SWISS PASS สะดวกสบายที่สุด และบนรถรางเราเจอศิลปินเปิดหมวกอีกแล้ว ขึ้นมาบรรเลงเพลงเพราะๆให้เราฟังบนรถ ห้ามสบตาไม่เช่นนั้นศิลปินจะมายืนบรรเลงตรงหน้าทันที ฮ่าๆ เยอะจังวันนี้ เราลงรถรางที่ใจกลางเมือง มีตลาดนัดขายของและออกร้านมีสวนสนุกแบบพื้นเมืองที่นี่ ลงไปสำรวจ มาเกือบเย็นตลาดนัดเลิกแล้วแต่ยังมีแผงขายหลงเหลืออยู่ มีของเก่าของมือสองมาเปิดแผงขาย คุณยายตาลุกวาว ชอบมาก ของขายเป็นจำพวกของเก่าของใช้ในบ้าน ตาดีได้ตาร้ายเสีย ราคาไม่แพง มีทุกอย่าง รถของเล่นพัง แว่นเก่าๆ ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ รอบหน้าแม่จะมาเร็วกว่านี้เสียดาย ฮ่าๆ มาซ่อมใหม่ เด็กๆเริ่มหมดพลัง เราไปหาไอติมกินกัน ทริปเที่ยวเองก็ดีแบบนี้ อยากหยุดไหนก็หยุด ไปเรื่อยๆไม่ต้องวิ่งตามใคร โคนละ 3.5 CHF 130บาทครับ เจ้านี้ไม่อร่อย ไม่เข้มข้น บรรยากาศรอบๆเป็นการออกงานสวนสนุก ม้าหมุน ของเล่นเหมือนงานตามตลาดนัด เห็นเด็กๆมาทัศนศึกษานอกสถานที่เป็นกลุ่มวัยรุ่น เดินคุยเฮฮาเป็นกลุ่มใหญ่ ตอนที่ไปลูเซิร์นเห็นกลุ่มเด็กอนุบาล นี่นี่เน้นการเรียนรู้จริงๆ ดีจังเลย เก็บภาพรถบัสสวยๆ ไฮไลท์อีกอย่างในการเที่ยวชมเจนีวาคือไปดูพิพิธภัณฑ์นาฬิกา แต่เราไม่ไป เดินไปเรื่อยๆหาทางกลับ เที่ยวเอง ชมนกชมไม้ไปเรื่อย มีศิลปินเปิดหมวกก็หยุดดู เจอศิลปินเปิดหมวกเจ้าเดิมที่เจอหน้าสวนสาธารณะที่เล่นหมากรุกคน ย้ายที่มาที่ใหม่คนเยอะกว่า ศิลปินเปิดหมวกกลุ่มนี้ทำให้แม่ต้องวิ่งกลับมายืนดูอีกครั้ง ที่สุดเลย เท่ห์มาก ชอบ น่าจะหาทุนอะไรสักอย่าง คนมุงดูกันเต็ม เท่ห์ และ หล่อ ยืนดูอยู่นานได้เวลาอำลากลุ่มศิลปิน ที่นี่เจ๋งสุดแล้ว ที่ผ่านมาเมืองนี้เราเจอแต่ขอทาน เจอมากๆ คนหลากเชื้อชาติโดยเฉพาะแขกและผิวสี ได้เวลาเดินทางกลับแล้ว เราขึ้นรถรางย้อนกลับไปลงที่ข้างทะเลสาบเจนีวา ที่ไปๆนี่คือดูตามแผนที่จะมีเส้นทางรถราง รถขายPANINIมีเต็มเมือง ปกติจะไม่เห็นที่เมืองอื่นเจอที่นี่เยอะมาก เมืองอื่นๆในสวิสจะมีเคบับ KEBUB เยอะมากกว่า ลงรถรางที่หน้าทะเลสาบเจนีวา เราจะข้ามสะพานกลับไปเพื่อขึ้นรถไฟกลับซูริคครับ นั่งรถนาน ต้องเช็คเวลารถไฟดีๆ แทนไท กองทัพหยุดดูนาฬิกาแดดริมทะเลสาบ ธงสวยๆ ปักอยู่เรียงรายริมสะพานทะเลสาบ Leman เดินกลับมาสวนริมทะเลสาบเจนีวา เพิ่งนึกออกว่าน้องสาวเคยเล่าให้ฟังว่าช่วงที่มาเที่ยวเจอตำรวจไล่จับโจรวิ่งราวกระเป๋าที่นี่ ถ่ายภาพโจรไว้ด้วยและตำรวจที่จับเป็นตำรวจหญิง มานั่งนึกย้อนกลับไปว่าเมื่อเช้าพวกเรายังเดินเล่นเย็นใจกันอยู่แถวนี้ อันตรายจังเลย เจนีวา รถรางนำเที่ยวยังเต็มทุกรอบ เดินในเมืองเจนีวาหรือเมืองอื่นๆในสวิสต้องหูไวตาไวไม่หลบรถรางก็ต้องหลบจักรยาน ที่นี่ขี่จักรยานกันเร็วมากไม่เว้นที่เจนีวา ตามราวสะพานแคบๆแบบนี้รถจักรยานขี่กันมาก เร็วด้วย เราต้องเดินทางกลับซูริค ใช้เวลาประมาณ3ชั่วโมง คุณแม่ซื้อพิซซ่าที่สถานีรถไฟให้แทนไท กองทัพรองท้องในรถไฟ พิซซ่าที่สวิสมีแต่แบบบางกรอบครับ อร่อยมาก 18.18น รถไฟออกจาก JENEVE รถไฟสายสวิสสะดวกสะบายด้วยอุปกรณ์ต่างๆ 20.56 ถึง ZURICH HB แวะร้าน Coop ซื้ออาหารค่ำ วันนี้หม่ำไก่ย่าง อบร้อนๆหอมอร่อย ร้านโคฟเป็นร้านประจำที่ต้องซื้ออาหารกลับบ้านทุกวัน สะดวกสบายมีที่สถานีรถไฟZurich HB และชั้นใต้ดินสถานีรถไฟ Stadelhofen ที่หน้าทะเลสาบซูริค สถานีที่เราลงรถไฟทุกวัน 22.10 น ( ตรงกับ03.10น เมืองไทย) ถึงบ้าน อากาศแสนหนาว กว่าจะทานอาหารค่ำและเข้านอนก็เที่ยงคืนสวิสพอดี ตรงกับตีห้าเมืองไทยครับ วันนี้ถ้าเทียบแล้วเที่ยวสว่างคาตา --------------------------------------------------------------------------------------------------- Day 13Trip in switzerland : ตะลุยหิมะบนเทือกเขา TITLIS -15 Cบนความสูง3020m ปิดท้ายพาหม่ำฟองดูชีสส ------------------------------------------------------------------------------------------- ------------------------------------------------------------ ทริปเที่ยวเอง17days in Switzerland 2014 : 5-21 April 2014 Review : Swiss International Air Lines 2014 :แนะนำ SWISS PASS 2014 Day1 : Zurich Switzerland ตะลุยสนามบอลZurich FC 2014 บุกสนามซูริค Zurich FC & Grasshopper Day2 : SteinAmRhine 2014 ตอนที่1 เมืองโบราณ Stein am Rhine Day3: Uetliberg 2014 Top of Zurich เที่ยวซูริค ส่องเทือกเขาแอลป์ บนเขา Uetliberg Day4: Luzern 2014 Luzern เมืองโรแมนติคแห่งสะพานไม้ หงส์ขาว และสิงห์โตร้องไห้ Day5: Bern 2014 Bern เที่ยวเมืองเบิร์น เมืองพี่หมีสามตัวและตุ๊กตานาฬิกาเต้นระบำ Day6: Jungfraujoch 2014 ลุยภูเขาหิมะ Jungfrau Top of Europe สถานีรถไฟสูงที่สุดในยุโรป Juncfraujoch ตอนที่1 Jungfraujoch ตอน2 ตะลุย-7องศาบนยุ้งเฟรา 3454m Day7: Basel 2014 Basel เมืองแห่งพิพิธภัณฑ์และวัฒนธรรมโบราณ Day8: Zurich lake 2014 Zurich Lake ล่องเรือชมทะเลสาบซูริคในวันฟ้าใส Day9: Logano & Champion Italy 2014 ข้ามทะเลสาบเมืองLUGANO ไปชิมพิซซ่าที่ ITALY Day10: Rapperswill 2014 วันสบายๆพาเที่ยวสวนสัตว์เมือง Rapperswil Day11: St.Gallen & Appenzell 2014 เที่ยวเมือง St Gallen ชมห้องสมุดสวยที่สุดในโลก และมหาวิหารอันงดงาม นั่งรถไฟสวิสเที่ยวเมืองแห่งชีสและกระดิ่งวัว เมือง Appenzell : ) Day12: Jeneva 2014 Jeneva เมืองแห่งความอิสระเสรีภาพ ตามหาUNและน้ำพุ Jet d'Eau Day13: Titlis 2014 ตะลุยหิมะบนเทือกเขา TITLIS -15 Cบนความสูง3020m ปิดท้ายพาหม่ำฟองดูชีส Day14: Strasbourg France 2014 เยือนฝรั่งเศส Strasbourg FRANCE เมืองมรดกโลกแห่งแคว้นอัลซาส Day15: Friedrichshafen + Bregenz Germany 2014 GERMANY ล่องเรือไปเยอรมันตามหาพิพิธภัณฑ์เรือเหาะZeppilin Museum Day 16 : เดินเล่นริมทะเลสาบ Zurich Lake 2014 Day17: Zurich- BKK ปี2014 ---------------------------------------------------------------------------------- ทริปเที่ยวเอง14 days in Switzerland2016 ปี2 : 7-20 April 2016 Review :: Emirates Airline ประสบการณ์7ชม.ในสนามบินDubai https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=20-07-2016&group=24&gblog=4 Day1 : BKK-ZRH Zurich Switzerland 2016 7April 2016 แนะนำswiss pass พาเที่ยวซูริคZurichวันแรก https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=24-07-2016&group=24&gblog=6 Day2 : SteinAmRhine Switzerland 2016 8 April 2016 ท่องเมืองเก่า Stein am Rhine , Switzerland https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=31-07-2016&group=24&gblog=8 Day2 :Schaffhausen Switzerland 2016 8 April 2016 Schaffhausen Switzerland https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=01-08-2016&group=24&gblog=10 Day3: Leictenstein 2016 9 April 2016 เยือนประเทศแสนสงบ พระราชวังบนยอดเขา ป.Liechtenstein https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=03-08-2016&group=24&gblog=12 Day4: Freiburg Germany 2016 10 April 2016 เยือนเมืองแห่งแสงอาทิตย์ Freiburg เยอรมัน https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=07-08-2016&group=24&gblog=14 Day5: Pilatus & Rigi , Luzern Switzerland 2016 11 April 2016 วันเดียวตะลุย2ยอดเขา นั่งรถไฟไต่เขาขบวนเก่าที่สุดในยุโรป ท่องทะเลสาบ Luzern https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=22-08-2016&group=25&gblog=1 Day6: Strasbourg France 2016 12 April 2016 เยือนดินแดนแห่งนกกะสา เมืองมรดกโลก Strasbourg France https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=08-09-2016&group=25&gblog=6 Day7: St.Gallen & Appenzell Switzerland 2016 13 April 2016 พาเที่ยวเมืองกระดิ่งวัวสุดแสนน่ารัก https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=30-08-2016&group=25&gblog=3 Day8: FIFA football museum & Zurich Switzerland 2016 14 April 2016 ลุยพิพิธภัณฑ์ฟุตบอล FIFA เปิดใหม่ในซูริค แฟนฟุตบอลห้ามพลาด https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=02-09-2016&group=25&gblog=4 Day9: Innsbruck Austria 2016 15 April 2016 ประทับใจในออสเตรีย เมืองสีลูกกวาดกลางหุบเขา https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=07-09-2016&group=25&gblog=5 Day10: Colmar France 2016 16 April 2016 เยือนฝรั่งเศส เมืองโบราณแสนสวย https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=tantailovegongtup&month=09-2016&date=25&group=25&gblog=8 Day11: Zermatt Switzerland 2016 17 April 2016 ตะลุยพายุหิมะ ตามหายอดเขา Matterhorn บนกล่องช็อคโกแลตToblerone โดยรถไฟสายGornergrat https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=07-10-2016&group=25&gblog=11 Day12: Titlis Switzerland 2016 18 April 2016 เล่นหิมะบนยอดเขา Tislis รอบสอง สนุกสุดๆไปเลย https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=05-11-2016&group=25&gblog=15 Day13: Milano Italy 2016 19 April 2016 เยือนมหาวิหาร Milano Duomo เดินชมแหล่งช้อปปิ้งสุดหรู Galleria Vittorio Emanuele และไปชะโงกดูสนามฟุตบอล Sansiro https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=11-11-2016&group=25&gblog=16 Day14: Zurich Switzerland 2016 20 April 2016 เดินเที่ยวซูริคปิดท้ายทริป พาชิมร้านขนมเจ้าหญิง อำลา switzerland - BKK --------------------------------------------------------------------------- น่ารักจุงเบย เป็นครอบครัวสุขสันต์ อบอุ่นจริงๆเลย
โดย: คุณน้อง IP: 171.97.217.134 วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา:11:37:57 น.
|
momarmy
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 91 คน [?] เทคนิคการแพทย์ที่มีฝัน รักการเดินทาง เขียนบันทึกการท่องเที่ยว และรักการถ่ายภาพลูกชายเป็นชีวิตจิตใจ มีความสุขทุกครั้งที่ได้เก็บกระเป๋า สะพายกล้องออกเดินทาง รักอิสระชอบวางแผนและเดินทางท่องเที่ยวเอง มีความฝันอยากพาผู้คนไปท่องเที่ยวให้มีความสุข บันทึกการเดินทางในบล็อคนี้คือการบันทึกวันเวลาแห่งความสุขเก็บไว้ และยินดีแบ่งปันประสบการณ์การเดินทางในการท่องเที่ยวด้วยตัวเองให้กับผู้ที่มีความฝันเหมือนกัน Group Blog
All Blog
Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |