Day 11 Trip in switzerland 2014 : St. Gallen ชมห้องสมุดสวยที่สุดในโลก และมหาวิหารอันงดงาม

-----------------------------------------------------------------

เที่ยวเอง 17d in Switzerland 2014  (5-21 April2014 )

Day 11 Trip in switzerland 2014 

 :  เมืองโบราณที่งดงาม          St. Gallen     

วันนี้พาเที่ยวเมืองโบราณที่มีห้องสมุดงดงามเลื่องชื่อสวยที่สุดในโลก  ห้องสมุด ยูเนสโก -มรดกโลก ที่ St. Gallen ( Abbey library of St. Gallen )  เมืองแห่งพรมแดงแสนสวยและนั่งรถไฟสวิสต่อไปยังเมืองแห่งกระดิ่งวัว Appenzell   

------------ Tuesday 15 April 2014---------------------- 

 St Gallen เมืองโบราณแสนสวย

วันที่ 11 ใน Switzerland  วันนี้เราจะเดินทางไปเมืองที่น่าสนใจอีกเมืองทางตะวันออกเฉียงเหนือของสวิส  เมือง St.Gallen เมืองที่มีห้องสมุดงดงามขึ้นชื่อและเมืองแห่งพรมแดงที่สวยงาม และเราจะต่อไปยังเมืองต้นตำหรับกระดิ่งวัวสวิสและชีสอันลือชื่อ เมือง Appenzell 

ติดตามแทนไท กองทัพไปกันเลยครับ  

เช้าวันนี้อากาศ 7องศา หนาวมาก แสงแดดจ้า ออกบ้านสาย วันนี้เราไปลงสถานี Stadelhofen ดักรถเร็วที่ผ่านสถานีเพื่อไปลงสถานีกลาง Zurich HB 

รอรถไฟสายS18 สถานี Spital Zollikerberg อ่านหนังสือพิมพ์แจกฟรีรอ อ่านไม่รู้เรื่องหรอกคับ เยอรมันล้วนๆ อ่านได้หน้าสุดท้ายมีพยากรณ์อากาศล่วงหน้า3วัน

รถขายไก่ผ่านหน้า คันนี้ไปจอดหน้าพิพิธภัณฑ์รถราง เรานั่งรถไฟผ่านทุกวันจำได้

ใช้บัตร Swisspass เหมือนเดิมในการเดินทาง  ดักขึ้นรถไฟที่จะผ่านไปที่ Zurich HB นั่งรถแค่2นาทีจากสถานีStadelhofen ถึงZurich HB

ZURICH HB

10.39 ได้เวลารถไฟออกเดินทางไปเมือง St.Gallen

ซื้อเสบียงในการเดินทาง Brezel รสชีสอบเกลือ3.5CHF

ระหว่างเส้นทางขึ้นเหนือ วันนี้อากาศหนาวแต่ในรถไฟอุ่นมาก วิวระหว่างทางสวยงาม บ้านเรือนหลังเล็กๆกระจัดกระจายบนเนินเขา สลับฝูงวัวกินหญ้า 

สิ่งที่เห็นจนชินตาในสวิสคือเด็กๆไปทัศนศึกษานอกโรงเรียน เห็นตั้งแต่ระดับอนุบาลที่ลูเซิร์นจนถึงประถมและวัยรุ่นที่เจนีวา

เริ่มเข้าสู่เขตเมือง StGallen ใช้เวลาเดินทางประมาณ1ชั่วโมง20นาที

รัฐซังท์กาลเลิน หรือ รัฐเซนต์กอลล์ (เยอรมัน: St. Gallen) เป็นรัฐของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

St.Gallen เป็นเมืองที่โดดเด่นในเรื่องศาสนา เป็นศูนย์กลางทางศาสนา ในยุคสมัยกลาง (Middle ages) มีความเข้มแข็งทางศาสนานิกายโรมันคาทอลิคอย่างมากในยุโรป ส่วนในยุคหลังๆ ก็กลายไปเป็นศูนย์กลางการค้าผ้าและการเย็บปักถักร้อยแทน

12.00 น เดินทางถึงเมือง Gt.Gallen อากาศ11องศา วันนี้รู้สึกหนาวมากเกือบแข็งตาย ลมแรงอากาศเย็นหนาวมาก ทางเหนือของสวิสอากาศจะหนาว

สถานีรถไฟเมืองSt.Gallen เป็นสถานีเล็กๆดูโบราณ เงียบสงบ ประตูสถานีบานใหญ่ยักษ์หนักมาก

มีstarbucks ให้นั่งจิบกาแฟอุ่นๆรอเวลารถไฟ

หาทิศทางไปยังงทิศ ต้องเดินมั่วไปก่อนครับ หน้าสถานีมีรถบัสจอดเต็มไปหมด

ดูตามแผนที่  เดินจากสถานีรถไฟไปเรื่อยๆไม่ไกลจะถึงโบสถ์ประจำเมือง

สิ่งที่เห็นชินตาบนฟ้าในสวิสคือสายรถรางประเทศที่มีระบบรถรางที่ยอดเยี่ยม

เดินไปเรื่อยหาเขตเมืองเก่าที่จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในแต่ละเมือง

บรรยากาศเทศกาลอีสเตอร์

นั่งรอคุณพ่อถามทางก่อนครับ ไม่มีป้ายอะไรบอกเลย แต่ชาวสวิสน่ารักให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวตลอด เพราะเราถามทางเกือบทุกเมืองครับฮ่าๆ เที่ยวเองก็หนุกแบบนี้ล่ะ

มีตู้รายงานแผ่นดินไหวหรือภูมิอากาศไม่แน่ใจ

เดินไปตามทางนี้ไปยังเขตเมืองเก่าครับ การเที่ยวเองก็สนุกแบบนี้ไปมั่วๆตามแผนที่ไม่เจอก็ถามทางชาวเมือง สนุกดี

เข้าเขตเมืองเก่าแล้วครับ

เจอร้านขนมอบหน้าตาน่าสนใจ แวะสักหน่อยอากาศข้างนอกหนาวมาก เข้าไปในร้านคนแน่นร้านไปหมด มาหลบหนาวข้างในกันนี่เอง

ขนมอบแสนอร่อย ซื้อมาลองชิมอย่างละชิ้นสองชิ้น

ที่นั่งด้านนอกร้านอาหารต่างๆจะเริ่มเปิดบ่ายๆให้นั่งอาบแดดอุ่นๆกัน ที่นั่งสุดเก๋

เป้าหมายเราวันนี้คือตามหาโบสถ์และห้องสมุดที่เลื่องชื่อ แต่ตอนนี้เที่ยงกว่าแล้ว(ตรงกับ5โมงเย็นเมืองไทย) หาอาหารเที่ยงกันก่อนนะครับ

กินอาหารเที่ยงที่ลานกลางเมือง ท่ามกลางแสงแดดอบอุ่น สิ่งพลาดไม่ได้ ไส้กรอกบรัทวูทส์ ( Bratwurst) ไส้กรอกเนื้อลูกวัวย่างต้นตำหรับจากเมือง St Gallen ซั้งทกัลเล่นที่มีชื่อเสียงไปทั่วสวิตเซอร์แลนด์   มีต้นตำหรับที่นี่   

ไส้กรอกย่างขายคู่ขนมปัง สีแดงอร่อยกว่าสีขาว รสชาตเข้มข้นอร่อยลืมโลก ชิ้นแบบนี้ล่ะ 6.5 CHF และ6CHF ตามลำดับ (ราคาคูน37เข้าไปเลยครับ) อิ่มสนิท

เที่ยวเองก็สบายใจแบบนี้ อยากหยุดอยากนั่งตรงไหนก็นั่ง  กินอาหาร ชมนกชมไม้ไปเรื่อย น่าสังเกตุนกกับแมวที่สวิสนี่อ้วนๆทั้งนั้น

ลานกลางเมือง มีทีวีมาถ่ายทำอะไรไม่รู้ เกือบไปเข้ากล้องแร้ววว

อิ่มแล้วเดินทางกันต่อไป

ร้านขายของเล่นที่เห็นไม่บ่อย ประเทศนี้เน้นเที่ยวธรรมชาติและmuseum

มุมน่ารักๆเก็บให้หมด

ออกเดินทางตามหาโบสถ์ประจำเมืองและห้องสมุดที่พลาดไม่ได้

ตามหา มหาวิหาร St Gallen ครับ

เก็บภาพป้ายร้านแบบโบราณ เป็นสัญลักษณ์แทนตัวอักษร เห็นทั่วไปในยุโรป เมืองไทยมาทำแถบๆปาลิโอ เขาใหญ่

เริ่มเห็นสิ่งที่เราตามหา

St.Laurenzenkirche โบสถ์ใหญ่ของเมือง St.Gallen ซึ่งตั้งอยู่ก่อนทางเข้าไปยังมหาวิหาร Stiftskirche St. Gallen Cathedral 

เข้าสู่บริเวณที่เราตามหา ที่ตั้งมหาวิหาร St Gallen

เก็บภาพท่อน้ำที่งามวิจิตร สมกับอยู่ข้างมหาวิหารอันยิ่งใหญ่

ไฮไลท์ของเมือง St.Gallen นั่นก็คือ มหาวิหารซังกัลเลน Stiftskirche St.Gallen Cathedral และห้องสมุด Abbey Library

มหาวิหารซังต์กัลเลน

มหาวิหารซังกัลเลน ภายนอกโดดเด่นด้วยหอคอยคู่ และตัวอาคารขนาดใหญ่ด้านหลัง สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1755 - 1766 โดย นักบวชนามว่า Otmar เพื่ออุทิศให้กับนักบวชชาวไอริส นามว่านักบุญ Gallus การออกแบบวิหารแห่งนี้ ออกแบบในสไตล์บาร็อค

เข้าไปชมในมหาวิหารกัน

ภายในมหาวิหารสุดสวยอลังการ

ภายในมหาวิหารเงียบ สวย งามวิจิตร ด้วยภาพเขียนบนเพดานและฝาผนัง ที่นี่ สงบ นักท่องเที่ยวเดินชมกันเงียบ

ภาพเขียนสวยๆ บนเพดาน บอกเล่าเรื่องราวทางศาสนาตามพระคัมภีร์ บางส่วนของภาพวาดเป็นสามมิตินูนออกมา โดยใช้ดินพิเศษย้อมเป็นสีเขียวและสีเหลืองปั้นนูนตกแต่งลวดลายประกอบ

ชมในมหาวิหารแล้วเราเดินออกมาเพื่อไปยังห้องสมุดที่สวยที่สุดในโลกแอบเก็บภาพประทับใจ เห็นภาพคนแก่ที่มีความสุขที่สุดในโลกในทุกๆเมืองของสวิส

แทน ทัพ มานั่งบ้างครับพักเหนื่อย

Stiftsbibliothek St. Gallen ก็คือ Abbey library of St. Gallen         เป็นชื่อในภาษาเยอรมัน

ประตูทางเข้า ด้านในร้านขายของที่ระลึกและห้องสมุดที่ห้ามถ่ายภาพ ค่าเข้าชมห้องสมุดสวยที่สุดในโลก ราคา 12 CHF

ห้องสมุดของมหาวิหาร (Abbey Library) เป็นห้องสมุดที่สวยที่สุดในโลก

Stifsbibliothek เป็นห้องสมุดซึ่งเก่าแก่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์
และเป็นห้องสมุดของวัดทางศาสนาคริสต์ ที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีหนังสือเป็นจำนวนถึง 170,000 เล่ม

ในปี 1983 ห้องสมุด ได้ถูกรวมกับ Stiftsbezirk St. Gallen กลายเป็น
มรดกโลกทางวัฒนธรรม การตกแต่งของห้องสมุดแห่งนี้ ตกแต่งสไตล์บาร็อคด้วยปูนปั้นและภาพเขียนเฟรสโก้อันสวยงาม

 แต่ว่าห้ามถ่ายรูปด้านในครับ เลยซื้อโปสการ์ดสวยๆมาแทน น่าเสียดาย

ค่าเข้าชม 12 CF เปิดให้เข้าชมทุกวัน 10.00 - 17.00 น. ส่วนวันอาทิตย์เปิดถึง 18.00 น.สัมภาระกระเป๋าทุกอย่างต้องฝากไว้ในล็อคเกอร์ที่เค้าจัดให้ ห้ามนำเข้าไปด้วย  ได้ภาพสวยๆจากโปสการ์ดเก็บไว้ก็ยังดี

ออกมาสูดอากาศที่เย็นฉ่ำและเดินทางกันต่อครับ

เดินเล่นชมเมืองในเขตเมืองเก่า เป้าหมายต่อไปคือหาพรมแดง ไม่รู้อยู่ทางไหน เดินมั่วไปก่อนนะครับ ชมเมืองไปในตัว

เมืองแสนสวยอันเงียบสงบ มองหาผู้คนแทบไม่มี

สวิตเซอร์แลนด์ ประเทศที่มีการคัดแยกขยะสุดยอดเยี่ยม มีถังแยกขยะเป็นแต่ละประเภท และถังแบบนี้ยังเห็นในประเทศอื่นๆของยุโรปด้วย เช่น อิตาลี

พักขาแป๊บครับก่อนเดินๆต่อไป

ร้านขายของน่ารัก สไตล์คุณแม่แวนด้าเลยครับ

ร้านโปรดคุณแม่

น้องกองทัพสนใจร้านนี้ มีหม้อฟองดูโบราณ

ชมบ้านเมืองแสนสวย มีมุมน่ารักแอบอยู่เยอะ

ยังเดินตามหาเขตพื้นที่พรมแดง เดินไปแบบมั่วๆครับ ถือโอกาสเดินดูเมืองสวยๆ

และแล้วพระเจ้าก็เข้าข้าง เดินเที่ยวไปเรื่อยๆก็เจอจนได้ ฮ่าๆ

Stadtlounge หรือพื้นที่พรมแดงที่จัตุรัส Bleicheli  เป็นที่ที่ช่วยเตือนความทรงจำว่าในอดีตที่ตรงนี้เคยเป็นโรงงานย้อมสีและฟอกผ้า

พื้นสีแดงเป็นยางนุ่มๆหยุ่นๆสีแดง ทอดยาวคลุมอาณาเขตหลายช่วงตึก

ยาวเป็นเขตช่วงตึกเลยครับ

เดินไปสองสามช่วงตึกถึงเขตสิ้นสุดพรมแดงครับ

ได้เวลาเดินกลับสถานีรถไฟเพื่อไปเมืองกระดิ่งวัวกันต่อ

สวิตเซอร์แลนด์เมืองแห่งศิลปะ

เดินมาถึงสถานีรถไฟแล้วครับ รถไฟที่จะไปเมือง Appenzell ต้องไปขึ้นที่ชานชาลาที่อยู่ไกลสุด

รอที่นี่ล่ะอากาศสุดหนาว เข้าไปนั่งรอในห้องรอรถไฟอุ่นๆดีกว่า

อากาศมันหนาว กดกาแฟให้คุณแม่ กดโกโก้ให้กองทัพครับ อุ่นดีจัง

และแล้วได้เวลาเดินทางไปยังเมืองกระดิ่งวัว Appenzellแล้ว ติดตามไปเที่ยวกับพี่แทนไท น้องกองทัพกันต่อในบล็อคหน้านะครับ

Create Date : 24 พฤศจิกายน 2557 Last Update : 21 มกราคม 2562 0:01:11 น. Counter : 10182 Pageviews.		0 comments
Share Tweet