|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
สิ่งหนาๆที่เรียกว่า ทิฐิ

พระอาทิตย์ตอนเที่ยงวันยังคงแผ่แผดรังสีอันร้อนระอุ ที่เกาะยาวน้อย จังหวัดพังงา บริเวณสวนสาธารณะแห่งเดียวบนเกาะ ผมเห็นกลุ่มเด็กเล็กๆสี่คน เป็นเด็กชายสาม เด็กหญิงหนึ่ง กำลังร้องโหวกเหวก สาระวนอยู่กับอะไรบางอย่างที่ชายเลนที่ถัดจากสวนสาธารณะเล็กน้อย ชายแปลกหน้าสอดรู้อย่างผมมีหรือจะไม่เดินเข้าไปสังเกตการณ์
ทำอะไรกันอยู่เหรอ? ผมถามเด็กชายที่ยืนอยู่ด้านบนของฝั่งคอยสั่งการเพื่อนๆด้านล่าง
จับปูกันอยู่ บัง เด็กชายชาวมุสลิมหันมามองผมแล้วตอบอย่างไม่รอรี เมื่อสิ้นสุดเสมือนคำทักทาย เด็กชายคนเดิมก็ตะโกนสั่งให้เพื่อนด้านล่าง ยกนู้น เปิดนี่ ไปทางโน้นไปทางนี้ อยู่ไม่ได้ขาด
เพื่อเป็นการง่ายสำหรับผมในการเรียกและเล่า ผมเลยขอวิสาสะตั้งชื่อเด็กชายหัวโจกคนนี้ว่า มานะ เด็กผู้หญิงชื่อ มานี เด็กชายอีกสองคนชื่อ ปิติและเพรช
ผมยืนเลียบๆเคียง ถ่ายรูปได้ไม่เกินสามสี่รูป เด็กชายปิติก็ตะโกนเรียกมานะให้ลงไปหา ผมเลยเดินตามลงไปติดๆ แล้วปิติก็เอาไม้เคลี่ยๆ ปูที่เกรอะไปด้วยโคลนตัวขนาดเท่าผ่ามือผมตัวหนึ่งก็กระเด็นขึ้นมาบนฝั่ง แล้วเด็กทั้งสี่ก็กรูกันเข้ามา รวมถึงบังแปลกหน้าอย่างผมด้วย
ปูอะไรหรือ? ผมถามมานะ ปูดำ ปูดำ บัง มานะตอบพร้อมกำลังทำท่าจับปูอย่างเก้ๆกังๆอยู่ ทำไมมันถึงชื่อปูดำหล่ะ ผมถามต่อ ก็ตัวมันดำไง ดำเหมือนไอ้เพรชเลย จริงป่าวหว่ะ ไอ้ดำ ไอ้ดำ ไอ้เพรช ไอ้ดำ มานะจับปูพร้อมหัวเราะร่า เด็กอีกสองคนก็พรอยร้องหยอกล้อเด็กชายเพรชไปด้วย ไอ้ดำ ไอ้ดำ ไอ้เพรช ไอ้ดำ ไอ้ดำ ไอ้ดำ ไอ้เพรช ไอ้ดำ
เด็กชายเพรชหน้าเสีย ทำท่าฉุนเฉียว ปากก็บ่นๆประมาณหนึ่งว่าน้อยใจ แล้วหันหลังควับทันที เดินควับไปชายเลน ทำท่าไม่สนใจเด็กทั้งสามที่คอยลุ้นมานะในการจับปู
เกือบๆสิบนาทีเด็กสามคนกำลังก้มๆเงยๆช่วยกันจับปูอยู่ ดูท่าจะไม่ง่ายอย่างที่คิดเพราะปูมันตัวค่อนข้างใหญ่และแข็งแรง ผมก็ได้แต่เอาใจลุ้นช่วย ส่วนเพรชยังเดินไปมาอยู่ที่ชายเลน
ไอ้เพรช ไอ้เพรช มาช่วยกูหน่อยซิหว่ะ มานะตะโกนเรียกเด็กชายเพรช แต่เด็กชายเพรชไม่มีทีท่าจะสนใจ ดูท่าจะโกรธจริง
ไอ้เพรช ไอ้เพรช มาช่วยกูหน่อยซิหว่ะ ไอ้สองคนนี้มันจับปูไม่เป็น มึงจับเก่ง มาช่วยกูหน่อยซิหว่ะ มานะร้องขอต่อ
เพรชเดินอมยิ้มมาแต่ไกล สีหน้าเหมือนผู้ชนะ ผมสังเกตได้ แล้วทั้งสี่ก็ช่วยกันเอาเชือกมัดปูได้สำเร็จ แล้วจับมันเอาใส่ถุงพลาสติก ไม่นานนัก มานะก็ตะโกนโหวกเหวกสั่งคนโน้น คนนี้ต่อ

ผมอดคิดถึงช่วงเวลาวัยเด็กไม่ได้ ช่วงอายุนั้นเรามักโกรธง่ายหายเร็ว งอน แต่มักไม่ได้นาน แต่พอยิ่งอายุมากขึ้น มีความรู้มากขึ้น มีความคิดมากขึ้น กลับไม่ยักติดนิสัยดีๆแบบเด็กๆมาด้วย นิสัยยอมหักไม่ยอมงอ นิสัยไม่ยอมลดลาวาศอก นิสัยหลงระเริงกับความเป็นตัวของตัวเอง ทิฐิมันหนาพอๆกับปัญญาที่คิดว่าเก่งกล้าขึ้น
Create Date : 12 กันยายน 2553 |
|
4 comments |
Last Update : 15 ตุลาคม 2553 12:43:41 น. |
Counter : 3223 Pageviews. |
|
 |
|
|
| |
โดย: pinezt 19 พฤศจิกายน 2553 16:03:44 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

|
บุคคลธรรมผู้เสียภาษีภงด.พอว่างจากงานก็หาเรื่องเที่ยวไม่ว่างก็ยังหาเรื่องเที่ยว ชอบ บ่นๆ เขียนๆวาดๆ ถ่ายรูป ไปเรื่อยแก้เบื่อ เอาอะไรดีไม่ได้ซักอย่าง...ชีวิต
|
|
|
|
|
|
|
น่าเศร้า..ที่เรามัวหลงในความเป็นผู้ใหญ่จนเกินพอดี
................
ได้อ่าน...แล้วชอบจังเลยคะ เรื่องราวดีดีแบบเนี๊ยะ