ศิลปกรรมตะวันตกสมัยใหม่ระยะแรก

อธิบายขยายความจากกระทู้ target='_blank'>//topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2009/07/E8138590/E8138590.html






ช่วงคริสตศตวรรษที่18 เริ่มเข่าสู่ยุค modern art เป็นยุคที่ศิลปินไม่ต้องอยู่ภายใต้การชี้นำของใคร ไม่ต้องอยู่ภายใต้อุปถัมภ์ของใคร ดังนั้นผลงานสร้างสรรค์จะมีรูปแบบที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ภายใต้หลักสุนทรียภาพที่หลากหลาย ดังนั้นจึงไม่สามารถแบ่งช่วงงานศิลปะจากเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์หรือ ยุคสมัย ได้ จึงแบ่งเป็นแนวทางศิลปกรรมหลายแนวทางหรือ ลัทธิศิลปะ ต่างๆ ในระยะแรก ดังนี้
1 ศิลปกรรมลัทธินีโอ คลาสสิค
2 ศิลปกรรมลัทธิสัจนิยม
3 ศิลปกรรมลัทธิโรแมนติก

ศิลปกรรมลัทธินีโอคลาสสิก( Neo-classicism art)
เป็นศิลปกรรมที่หวนกลับไปนำเอาปรัชญาและหลักสุนทรียภาพแบบกรีกโบราณ เกิดในช่วง 1780-1840AD.ที่ฝรั่งเศส กระแสแห่งการหวนกลับไปสู่การปกครองแบบเสรีภาพ หลังจากถูกปกครองโดยกษัตริย์มานาน ประกอบกับการขุดค้นพบศิลปกรรมของเมืองโบราณปอมเปอี เออร์คูลาเนียม ที่ถูกลาวาภูเขาไฟทับถมปิดอยู่ กระแสแห่งปัจจัยด้านปัญญาและความคิดแห่งการปฏิวัติสังคมท้าทายอำนาจรัฐ เช่น จอห์น ล๊อค (1632-1804AD.) วอลแตร์ (1694-1778AD.)
มองเตสกิเออ(1689-1775AD.) ยังยาคส์ รุสโซ (1721-1778AD.) นักเศรษฐศาสตร์ที่สนับสนุนการคาเสรี อดัม สมิธ(1723-1790AD.) นักวิทยาศาสตร์ เซอร์ ไอแซค นิวตัน (1642-1727AD.) ส่งผลให้เกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรมและระบบสังคมประชาธิปไตย
ดาวิด (1748-1828AD.)เป็นผู้นำคนสำคัญของศิลปกรรมลัทธินี้ นำเอาศิลปะสมัยกรีกและโรมันมาพัฒนาให้สอดคล้องกับสภาพสังคมและปทัสถานของสังคมสมัยใหม่ มีความเชื่อว่า
1 การบันทึกเหตุการณ์เรื่องราวด้วยการวาดเขียน การระบายสีเป็นคุณค่าสูงสุดของศิลปะ
2 การถ่ายทอดศิลปะต้องสมบูรณ์ได้สัดส่วนทางด้านร่างกาย กล้ามเนื้อ และส่วนประกอบ
3 ศิลปะต้องสะท้อนสภาพที่แท้จริงของสังคม กระตุ้นให้เกิดการรักชาติ ความกล้าหาญ
4 ขนาดภาพมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าเนื้อหาของภาพ



Bonaparte crossing the st. Bernard pass 1801AD. ผลงานของดาวิด

จิตรกรที่สำคัญได้แก่ ดาวิด(1748-1828AD.) แองเกรอส์ (1780-1867AD.) และโกรส์ (1771-1835AD.)


ศิลปกรรมลัทธิสัจนิยม (Realism art)

ในช่วงกึ่งสตวรรษที่19 มีการสร้างกล้องถ่ายภาพของดาแกร์ (1789-1851AD.) การวาดภาพเหมือนเลยเสื่อมความนิยมไป การสร้างงานที่เป็นจริงตามธรรมชาติความเป็นอยู่ของมนุษย์จึงได้รับการสนใจเป็นอย่างยิ่ง โดยเน้นนำเสนอชีวิตของชนชั้นล่างของสังคม มีความเชื่อดังนี้
1 ศิลปินจะเขียนเรื่องราวที่ไม่เห็นด้วยตาไม่ได้ เพราะถือเป็นการเพ้อฝัน
2 ศิลปะต้องถ่ายทอดความเป็นอยู่ที่แท้จริงของสังคม
3 ศิลปะต้องมีส่วนช่วยเหลือสังคมให้สูงขึ้นทั้งทางตรงและทางอ้อม
4 ความงามและความจริงต้องถ่ายทอดให้ถูกต้องชัดเจน
ศิลปินที่สำคัญ อาทิ คัวเบท์ มิลเลต์ โกย่า โดเมียร์


3 พฤษภาคม 1808 เสนอความอัปลักษณ์ของสังคม เขียนโดย โกยา เมื่อปี คศ.1814



The gleaners by millet 1857AD.



ศิลปะลัทธิโรแมนติก ( Romanticism art)

ศิษย์ของอาจารย์ลัทธินีโอคลาสสิค แต่ค่อนข้างคำนึงถึงการเน้นอารมณ์ความรู้สึกของภาพโดยมุ่งตรงไปที่การกระตุ้นเร้าผู้ชมงานศิลปะให้มีอารมณ์ร่วมในภาพอย่างรุนแรง ลักษณะดังนี้
1 แสดงแสงและเงาตัดกันชัดเจน ใช้สีขัดแย้งกัน
2 เน้นการผจญภัย ตื่นเต้น เร้าใจ สะเทือนขวัญประชาชน
3 ท่าทางคนที่เขียนไม่ยึดติดกับรูปแบบเดิมๆของกรีกและโรมันเหมือนลัทธินีโอคลาสสิค
4 การจัดภาพไม่มีกฏเกณฑ์แน่นอนชัดเจน แต่เสนอแนะและอำพรางรูปให้ดูฉงนด้วยภาพที่ถูกคลุมด้วยเงาดำ
5 รอยแปรงให้ความรู้สึกเคลื่อนไหวสัมพันธ์กับรูปคนและเรื่องราว
ศิลปินที่สำคัญได้แก่ เจอริโคลต์( 1791-1824AD.) เดอลาครัว(1789-1863AD.)


The Raft of the "Medusa" ผลงานของเจอริโคลต์ 1818-1819



Liberty leads the people ผลงานของเดอลาครัว 1830AD.

Create Date : 30 กรกฎาคม 2552		1 comments
Last Update : 30 กันยายน 2552 22:52:02 น.
Counter : 19806 Pageviews.
Share Tweet