Group Blog
 
 
มีนาคม 2567
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
11 มีนาคม 2567
 
All Blogs
 
คนทั่วไปมักสั่งสอนกันเองว่า เมื่อคิดมาก ให้จงหยุดคิด แต่ถามว่ามันหยุดคิดได้จริงหรือ?

ฉันปรารภที่จะเขียนบทความนี้มาเพื่อให้เธอรู้ว่า ความคิดโดยตัวมันเอง มันหยุดไม่ได้หรอก ความคิดมันคือสิ่งหนึ่ง ไว้เรียนรู้ผ่านกระบวนการสังเคราะห์ ผ่านการเชื่อมต่อกับมิติต้นกำเนิดอื่นและจักรวาล การหยุดความคิด เป็นเรื่องโง่เขลา เป็นเรื่องไม่ควรหยุด แม้กระทั้งการภาวนาที่ลึกลงไป ก็มีความคิดผุดขึ้นมาเป็นระยะๆเพื่อให้รู้จักตนเองเชิงลึกมากขึ้น ภาวนาขั้นลึกจะใช้ความคิดเป็นเครื่องมือ ไม่ใช่ใช้ความคิดอยู่เหนือตัวตนของเรา

บางคนตกเป็นทาสความคิด ให้มันเป็นเจ้านายเรา แล้วเราก็เสาะหาว่า "ทำยังไงจะหยุดความคิด" ถึงแม้คนรอบข้างที่รู้จัก ก็สอนให้ปล่อยวางความคิด แต่ความคิดก็ผุดขึ้นมาต่อเนื่องเป็นระยะๆพร้อมกับความรู้สึกลบๆของตนเอง ฉะนั้น ขั้นตอนต่อไปนี้ จงอย่าฟังคนทั่วไปบอกสอน คำสอนคนทั่วไป เป็นคำสอนที่หยาบๆ ปัญญาถือว่าอยู่ในขั้นน้อย ไม่เข้าใจกลไกการทำงานของความคิด การที่จะเป็นอิสระจากความคิด เธอต้องรู้จักกลไกการทำงานของความคิด

ดูสิว่าความคิดหนึ่งที่ผุดขึ้นมา มันคือสาส์นอะไรจะบอกเธอ รวมถึงความรู้สึกของเธอ เช่น รู้สึกผิด รู้สึกหงุดหงิด รู้สึกไม่พอใจ ทุกอย่างบนโลกใบนี้ล้วนมีรหัสนัยเชื่อมโยงกับเราและทุกสรรพสิ่ง ก็เพราะแบบเนี้ยแหละ ที่เราในวงการชาวแสงบอกว่า เราคือหนึ่งเดียวกัน

กระบวนการทำงานของความคิด ทำไมมันผุดขึ้นมาบ่อยจัง ทำไมทุกข์จัง ทำไมเครียดตึงจัง จริงๆเธอจะสามารถหาสาเหตุและวิธีแก้ออกได้ ด้วยสติปัญญาที่จะหยั่งรู้ด้วยตนเอง เธอมิจำเป็นต้องเล่าเรียนหนังสือมามาก ไม่ต้องอ่านหนังสือจิตวิญญาณ ไม่ต้องเรียนรู้กับครูบาอาจารย์ ถ้าหากเราเริ่มต้นจากศูนย์หรือติดลบ สติปัญญาเท่านั้นที่จะแก้ไขได้ ปัญญาที่เห็นแจ้งโดยตัวมันเอง ถ้าหัดฟังเสียงปัญญาหยั่งรู้ภายใน เธออาจจะเรียนจบแค่ป.4 จริงๆเรื่องเหล่านี้ ปัญญาที่จะแก้ไขยังไงให้พ้นจากทุกข์นี้ ไม่ต้องอิงอาศัยความรู้ทางโลก

แต่ใช้ปัญญาจากจิตวิญญาณตนเอง เธอมิจำเป็นต้องเชื่อมต่อจิตวิญญาณหรือเข้าเส้นทางจิตวิญญาณก็หยั่งรู้ว่าแก้ยังไง ขนาดเด็กไม่กี่ขวบ ฉันเชื่อว่าพวกเขาจะหาทางออกยังไง? แต่เธอยิ่งเติบโตขึ้น จึงได้รับอิทธิพลความคิด ความเชื่อทางโลกค่อนข้างมาก การขจัดยางเหนียวที่ติดหนึบในพลังงานบริสุทธิ์ จึงต้องเป็นเรื่องที่ขัดเกลา จิตเด็กทุกคนใสบริสุทธิ์อยู่แล้ว แต่เมื่อเติบโตขึ้น ก็ล้วนต้องเจอปัญหาหรืออิทธิพลการเรียนรู้ครอบงำ จนจิตเราแข็งกระด้าง เพราะแบบเนี้ยแหละ เรายิ่งโตขึ้น เรายิ่งเป็นคนไร้ศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม

การมีความรู้มากมายแก้ไขปัญหาความคิดไม่ได้ ฉันมิได้ปฏิเสธความรู้ที่มีประโยชน์ที่สามารถใช้ประกอบอาชีพของเธอหรือทำสิ่งที่ตนเองรัก แต่ความรู้ที่มากเกินไป จนอัดแน่นสมอง เรียนแล้วก็จำ เอาไปสอบ จำโน่นจำนี่ แบบนี้ไม่เรียกว่าความรู้ ความรู้หมายถึงสามารถแก้ไขปัญหาชีวิตและจิตใจเราได้ เดี๋ยวนี้เรายิ่งรู้มาก เรายิ่งทุกข์ เคยสังเกตไหม? รู้โน่นรู้นี่ แต่ก็แก้ไขความทุกข์ของตนเองไม่ได้ คำถามก็คือ เราจะรู้ไปทำไม ในเมื่อทางออกของความทุกข์มันไม่ใช่มาจากการเล่าเรียนอบรมศึกษา แต่มันคือการใช้สติปัญญาตนเองที่มี เพื่อเรียนรู้กับความคิดที่มันผุดขึ้นมา

คราวนี้เธอเข้าใจแล้วหรือยัง เธอไม่ต้องหยุดคิดอะไรทั้งนั้น จงเอาความคิดที่ผุดขึ้นมา รับรู้เฉยๆ เฝ้าสังเกตด้วยใจเป็นกลาง การที่เราคิดกังวลกลัว หวาดวิตก เครียด มันก็แสดงให้เห็นว่าเราต้องเรียนรู้ความคิด เพื่อเอาความคิดนั้นประมวลสังเคราะห์เพื่อเรียนรู้การทำงานของมัน จากนั้น ปัญญามันจะเกิดขึ้นมา เราหยุดคิดไม่ได้ แต่เราเฝ้ามองดูกลไกของมัน เนี้ยแหละคือผู้มีปัญญาอย่างแท้จริง

ยิ่งดูอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดเท่าไหร่ ปัญญาและจิตวิญญาณเราจะเติบโตด้วย เพราะเห็นแล้วว่า ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาถึงแม้เป็นรหัสนัย มันก็ไม่เที่ยงแท้ มันเป็นช่วงเวลาหนึ่ง ที่เธอต้องรับรู้อารมณ์ความรู้สึกนึกคิดแบบนี้ ค่อยๆเรียนรู้ไป การเติบโตคือการเฝ้ามอง โดยที่เราไม่ทำอะไรกับความคิด ไม่ปรุงแต่งเพิ่ม แค่รับรู้ในแต่ละขณะตลอดเวลา นั้นแหละคือผู้มีสติปัญญาแล้ว

ขอบคุณที่ติดตามบทความดีๆด้วยนะ

ซุสุซึกิ โทโมะโยะ (เรนะ)
13/06/2022/23:46 น.


Create Date : 11 มีนาคม 2567
Last Update : 11 มีนาคม 2567 21:08:01 น. 0 comments
Counter : 20 Pageviews.
(โหวต blog นี้) 

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ซุสุซึกิ โทโมะโยะ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สวัสดีค่ะชาวบล็อคแก๊ง ขอต้อนรับการกลับของโทโมะโยะนะคะ ต่อไปนี้ให้เรียกชื่อเล่นว่า "เรนะ" ก็ได้นะคะ ขอขอบคุณตลอดสำหรับผู้อ่านหลายคน อยากบอกขอบคุณมากมาย เวลานี้คือยุคสมัยใหม่ ยุคสมัยใหม่ ก็คือยุคพลังงานใหม่ 🤗🌸🙏⛩🇹🇭🇯🇵

ยุคพลังงานใหม่ที่แตกต่างจากยุคพลังงานเก่า ขอต้อนรับทุกคนที่นี้จะรวมคำสอนของเรนะเพื่อเอามาเรียนรู้ได้ง่าย โดยส่วนตัวการค้นหาคำสอนเก่าๆอ่าน ที่บล็อคแก๊งจะทำได้ดีกว่าเฟสบุ๊ค ส่วนเฟสบุ๊คเข้าใจคนรุ่นใหม่มักไม่ค่อยเข้าไปอ่านย้อน ถ้าหากไม่ใช่แฟนคลับที่แท้จริง การเก็บคำสอนไว้ที่นี้ คงเป็นเรื่องที่ดีมากๆเลยค่ะ ถ้าหากเป็นไปได้ก็จะเขียนคำสอนใหม่ๆลงในที่นี้ด้วยค่ะ 🤗🌸🙏⛩🇹🇭🇯🇵

โลกของโซเชี่ยลค่อนข้างวุ่นวาย การเขียนคำสอนใหม่ๆลงที่นี้คงเป็นมิติใหม่ในสิ่งที่เรนะจะทำในอนาคตแน่นอนค่ะ ขอขอบคุณสำหรับพื้นที่ให้เรนะได้เขียนและลงบทความดีๆที่นี้นะคะ 🤗🌸🙏⛩🇹🇭🇯🇵

สำหรับใครอยากติดตามทางเฟสบุ๊คด้วย ติดตามได้ที่เพจศาสนา "รักและเมตตา" นะคะ ขอขอบพระคุณมากๆเลยค่ะ 🤍❤

ซุสุซึกิ โทโมะโยะ (เรนะ)
9/09/2022/14:08 น.
Friends' blogs
[Add ซุสุซึกิ โทโมะโยะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.