|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
5 พฤศจิกายน 2549
|
|
|
|
The Prestige: ความกระหายในความจริงของความลับ
เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงต้องมีประสบการณ์ดูมายากลแล้วอยากจะรู้ให้ได้ว่าเขาทำได้อย่างไร มีวิธีอะไรที่ทำให้ภาพตรงหน้าเรามันเหมือนกับฝันไป
ยิ่งใครมีประสบการณ์ที่มีคนมาขายชุดมายากลหน้าโรงเรียนสมัยเด็ก ก็คงจะเคยมีวันนึงที่ไปยืนเฝ้าและจ้องดูเพื่อจับให้ได้ว่าเขาทำกันยังไง แต่เมื่อความจริงปรากฏ หรือเคล็ดลับถูกเฉลยออกไป ความสนุกก็จะหดหายไป เหลือพี่แต่ความเบื่อหน่ายและจำเจ
แต่ที่ The Prestige ผลงานล่าสุดจาก Christopher Nolan ที่เนรมิตเรื่องราวการแข่งขันมายากลระหว่างสองนักมายากลคู่ปรับ กลับไม่ได้ทำให้เรื่องราวสนุกน้อยลงเมื่อความลับถูกเปิดเผย แต่กลับสนุกยิ่งขึ้นเสียต่างหาก
เรื่องราวกับขับเขี่ยวของหนังเปิดเรื่องมาในช่วงเกือบท้ายของเรื่องราว เมื่อบอร์แดน (คริสเตียน เบล) กลายเป็นผู้ต้องหาฆาตกรรม เมื่อเขาเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ที่กลอัศจรรย์ของแองเจียร์ (ฮิวจ์ แจ็คแมน) นักมายากลคู่อริตลอดกาล เกิดผิดพลาดและทำให้ฝ่ายหลังตาย ระหว่างถูกดำเนินคดี บอร์แดนได้รับสมุดโน๊ตของแองเจียร์ที่เล่าชีวิตในช่วงที่ตัวเองพยายามไล่ล่าค้นหาปริศนาของบอร์แดนเกี่ยวกับโชว์มายากล "ย้ายร่าง" ที่เขาไม่สามารถเฉลยกลนั้นได้ จากนั้นหนังก็ใช้วิธีการกระโจนไปข้างหน้าทีหลังที สลับเหตุการณ์และลำดับเวลาของเรื่องราวทั้งหมด เพื่อเปิดเผยเรื่องราวบางอย่างที่เกิดที่คาดเดาของทั้งตัวละคร และผู้ชมเอง
จุดเด่นของหนังฉบับ Christopher Nolan คงไม่พ้นเทคนิคการเล่าเรื่องและการดำลึกลงไปในจิตใจตัวละครแต่ละคนที่ผูกปมปริศนาให้คนดูยากจะคาดเดา ดังที่เขาฝากไว้ในผลงานอันโด่งดัง Memento และยิ่งพล็อตเรื่งอของ The Prestige เปิดให้มีตัวละครเอกฟาดฟันบทบาทด้วยนักแสดงมากฝีมือถึงสองคน จึงให้เขาสร้างหนังที่รู้สึกได้ถึงความ "มันส์มือ" ของเขา
ในช่วงต้นเรื่อง หลาย ๆ ครั้งที่หนังเหมือนจะทิ้งด้วยความน่าเบื่อของเหตุการณ์ ที่เหมือนจะคาดเดาได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ทั้งนี้เพราะหนังเล่นเฉลยไปตั้งแต่ต้นเรื่องแล้วว่าชะตากรรมของใครเป็นอย่างไร จุดกลางเรื่องจึงเป็นเการเล่าว่าอะไรนำไปสู่เหตุการณ์นั้น ๆ ซึ่งก็เหมือนว่าจะเป็นปริศนาง่าย ๆ ที่คาดเดาได้ไม่ยาก ที่ออกจะใช้เวลามากไปสักหน่อย คือการปูเรื่องราวความขัดแย้งของสองนักมายากลที่นำไปสู่ชนวนของการผลัดกันบดขยี้อีกฝ่าย
แต่พอเครื่องยนต์ยี่ห้อ Nolan ติดเครื่องในช่วงกลางเรื่อง หนังก็เริ่มใช้ชั้นเชิงที่เหนือชั้นที่เริ่มทำให้คนดูพบว่าคำเฉลยง่าย ๆ ที่คาดเดาได้นั้น อาจจะมีคำเฉลยที่เหนือชั้นกว่าซ่อนอยู่เบื้องหลัง
ถ้าจะเปรียบเทียบแล้ว หนังเล่นแง่กับคนดูได้อย่างเก๋ไก๋ที่ใช้การเล่าเรื่องชีวิตของตัวละครให้เหมือนกับปรัชญาของการเล่นมายากล ที่มีความลับ ซ่อนไว้ไม่ให้ผู้ชมได้รับรู้ สิ่งที่คนรู้ภายนอก คือโชว์และการแสดงอย่างหนึ่งเท่านั้น ความจริงหลังฉากหรือม่านการแสดง อาจจะทำให้ทุกอย่างกลับตาลปัตรเอาซะง่าย ๆ หากถูกเผยออกมา เช่นเดียวกับชีวิตตัวละครสองคนที่แก่งแย่งกันเพื่อพยายามค้นหาให้ได้ว่า กลของอีกฝ่าย
กลเม็ดการเล่าเรื่องตัดสลับไปมา และการเอาคำพูดในอดีตของอีกฝ่ายมาย้อนคือตัวคนพูดในอนาคต หรือการ "เอาคืน" ของตัวละครที่ห้ำหั่น ผลัดกันรุกผลัดกันรับ อาจจะเป็นกลวิธีที่เก๋ไก๋ตามที่กล่าวไป แต่ถ้าขาดการเชื่อมบทอย่างชาญฉลาด การหย่อนก้อนหินก่อนที่จะเดินกลับมาเก็บก็อาจจะกลายเป็นตลกปาหี่ไปได้ทันทีแบบที่ละครไทยหลาย ๆ เรื่องมักทำกัน แต่สำหรับ The Prestige แล้ว สอบผ่านชนิดเรียกว่าติด Top Class ก็ได้ ทั้งนี้เพราะเรียกได้ว่า หนังเก็บกันแทบทุกเม็ดที่หนังหย่อนปริศนาไว้ แม้กระทั่งบางอย่างที่คนดูไม่คิดว่าเป็นปริศนา ก็กลับกลายเป็นปริศนา แถมหนังยังแอบหลอกผู้ชมให้ตายใจว่าแก้ปริศนาได้แล้ว แต่จริง ๆ แล้วนั่นไม่ใช่ปริศนาเลย
ส่วนเสริมที่น่าชมเชยมากคือการแสดงของทั้งฮิวจ์ แจ็คแมนในบทของแองเจียร์ที่เต็มไปด้วยความกระหายชัยชนะเพื่อกลบความแค้นในอดีต ซึ่งตรงนี้เขาสอบผ่านได้คะแนนดี แม้ว่าอาจจะรู้สึกว่าความต้องการตัวละครน่าจะพุ่งไปมากกว่านี้ แต่หลายฉากที่แววตาและสีหน้าของเขาแสดงถึงความขรึมจนทำให้ตัวละครที่เต็มไปด้วยความแค้นดูขรึมเข้มและลึกล้ำลงตัวทีเดียว ขณะเดียวกันคริสเตียน เบลก็ดูโดดเด่นจากการตีบทคู่แข่งที่กัดไม่ปล่อย และการแสดงที่ "ซ้อนการแสดง" เข้าไปในใบหน้าจนเดาแทบไม่ได้ว่าที่ตัวละครพูดกันนั้น เป็นความจริงหรือความลวง จนทำให้บอร์แดนกลายเป็นตัวละครที่อาจจะไม่น่าเห็นใจ แต่เป็นตัวละครที่ทำให้คนดูเขียนคำว่า "ปริศนา" คาดไว้บนหน้าเขาทุกครั้งที่ขึ้นจอ
พูดมาถึงตรงนี้บางคนอาจจะเอาไปเทียบกับ Memento ว่าอะไรดีกว่ากัน โดยส่วนตัวแล้ว Memento เป็นเหมือนงานที่เหมือน "โชว์ของ" ซึ่งอาจจะดูดิบ ๆ แต่คมกริบและสุดโต่งหวือวา ขณะที่ The Prestige นั้นดูคมคายในบทสนทนาและโทนเรื่องที่เกลาให้เนียนใสมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็ต้องมีการเจียระไนส่วนที่กระด้างออกไป ถ้าใครชอบเพชรเจียระไนแล้ว เรื่องนี้อาจจะถูกใจมากกว่าเพชรเพิ่งขุดเจอแบบ Memento
Create Date : 05 พฤศจิกายน 2549 |
|
1 comments |
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2549 21:55:49 น. |
Counter : 551 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|
surviorx |
|
|
|
|