space
space
space
<<
พฤษภาคม 2566
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
space
space
3 พฤษภาคม 2566
space
space
space

เมโสหน้าใส คืออะไร ? กู้หน้าหมอง ปรับผิวหน้าใสเร็ว ภายใน 2 สัปดาห์จริงไหม ?

เมโสหน้าใส คืออะไร ? กู้หน้าหมอง ปรับผิวหน้าใสเร็ว ภายใน 2 สัปดาห์จริงไหม ?

เมโสหน้าใส
“ เมโสหน้าใส ” เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่อยากหน้าใส ผิวดูสุขภาพดี มีออร่าแบบเร่งด่วน เพราะการดูแลผิวหน้าในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องเจอทั้งฝุ่น PM 2.5 มลภาวะ รวมไปถึงรังสียูวีในแสงแดดที่มีความเข้มข้นมากขึ้นเรื่อย ๆ ต้องคอยหมั่นดูแลรักษาและบำรุงอย่างสม่ำเสมอ 

ในบทความนี้ เราจะมาอธิบายว่าเมโสหน้าใส คืออะไร ? ช่วยอะไรได้บ้าง ? เหมาะกับใคร ? อันตรายไหม ? แตกต่างจากเลเซอร์หน้าใสอย่างไร ? ควรใช้เมโสหน้าใสยี่ห้อไหนดี ? และหลังทำควรดูแลตัวเองอย่างไร ?

 
 

สาเหตุผิวหน้าหมองคล้ำ 

สาเหตุผิวหน้าหมองคล้ำ

ขอบคุณข้อมูลภาพ : V Square Clinic ปัจจัยที่เป็นสาเหตุให้หน้าหมองคล้ำ เป็นสิว ฝ้า กระ และจุดด่างดำ มีทั้งปัจจัยภายในและภายนอก ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 10 สาเหตุหลัก ๆ ดังนี้

  • อายุที่เพิ่มมากขึ้น ผิวสูญเสียคอลลาเจนและอิลาสติน ทำให้ผิวเสื่อมสภาพ เกิดความหมองคล้ำ เป็นฝ้า เกิดริ้วรอย รอยเหี่ยวย่น 
  • ความเครียด หากมีมาก จะทำให้ผิวเครียดตาม ทำให้ฮอร์โมนในร่างกายหลั่งผิดปกติ ส่งผลให้สภาพผิวหมองคล้ำลง ไม่สดใส เกิดสิว หรือริ้วรอยต่าง ๆ ตามมาได้
  • นั่งหน้าจอเป็นเวลานาน แสงจากหน้าจอมีคลื่นรังสี UVA1 , UV400 และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หากผิวหน้าได้รับนาน ๆ จะทำให้เซลล์ผิวเสื่อมเกิดเป็นฝ้า และทำให้หน้าหมองคล้ำได้
  • การพักผ่อนไม่เพียงพอ นอนดึก จะทำให้ไม่ได้รับฮอร์โมนเมลาโทนิน (Melatonin) ที่มีส่วนช่วยในการต้านสารอนุมูลอิสระ และซ่อมแซมฟื้นฟูผิว ที่ผลิตออกมาในช่วงที่นอนหลับ เมื่อไม่ได้รับฮอร์โมนนี้บ่อย ๆ จะทำให้หน้าหมอง ดูโทรม
  • การดื่มน้ำไม่เพียงพอ จะทำให้ผิวขาดน้ำ ผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น ส่งผลให้หน้าดูหมอง ไม่สดใส 
  • แสงแดด ประกอบไปด้วย รังสีอัลตร้าไวโอเลต เช่น รังสี UVA และรังสี UVB รังสิ UVA จะทำให้เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ ส่วนรังสี UVB จะทำให้ผิวคล้ำ แสบและคัน
  • สภาพอากาศและมลภาวะ บริเวณที่อาศัยหรือทำงานอยู่ เช่น หากทำงานในห้องที่มีแอร์เย็นนาน ๆ หรืออากาศร้อนนาน ๆ อากาศจะดูดซับความชุ่มชื้นจากผิว ทำให้ผิวขาดน้ำ ผิวแห้งกร้าน ผิวจึงหมองคล้ำลง
  • หลอดไฟ จะมีความร้อนอยู่มาก หากอยู่ใกล้นาน ๆ อาจทำให้ผิวสร้างเม็ดสีเมลานินเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ผิวคล้ำ เป็นฝ้า กระ ได้
  • ใช้สกินแคร์หลายตัว มีส่วนผสมซ้ำซ้อน จะส่งผลให้เซลล์ผิวถูกรบกวนมากเกินไป จนผิวเกิดการระคายเคือง อาจทำให้ผิวบางลง หมองคล้ำลง ผิวไวต่อแสงแดด
  • การสูบบุหรี่ ในบุหรี่จะมีสารนิโคติน ที่ทำให้เส้นเลือดตีบตัน จนส่งผลให้เลือดไม่ไหลเวียน คนที่สูบบุหรี่ผิวจึงแห้ง หยาบกร้าน มีริ้วรอยเหี่ยวย่น ผิวหมองคล้ำ 
 
 

เมโสหน้าใส คืออะไร ?

เมโสหน้าใส คืออะไร
 
 

สิ่งที่ควรเลี่ยง หลังฉีดเมโสหน้าใส 

เมโสหน้าใส หรือ Mesotheraphy คือ กระบวนการบำรุงผิวแบบเร่งด่วน เห็นผลเร็ว ด้วยการใช้เข็มเล็ก ๆ ฉีดสารบำรุงผิว ที่มีคุณสมบัติหลากหลายลงไปในชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) โดยตรง เพื่อให้สารบำรุงผิวสามารถเข้าสู่เซลล์ได้อย่างรวดเร็ว ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและเซลล์ผิวหนังเพิ่มขึ้น ทำให้ผิวหน้าสวยกระจ่างใสขึ้น ลดรอยดำ ลดรอยสิว ลดฝ้าและจุดด่างดำ รวมถึงกระชับรูขุมขน ได้อย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาอันสั้น ไม่ต้องรอเห็นผลลัพธ์นานเหมือนการทาครีม
 

เมโสหน้าใส ช่วยอะไรได้บ้าง ?

เมโสหน้าใส ช่วยอะไรได้บ้าง
ผลลัพธ์ก่อน-หลังทำเมโสหน้าใส 
  • ช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมากระจ่างใส ดูสุขภาพดี 
  • ช่วยลดสิวอักเสบ รอยสิว สิวผดผื่น รอยดำ รอยแดง
  • ช่วยขับสารพิษออกจากผิว ฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง
  • ช่วยปรับสภาพผิวให้ดูสม่ำเสมอ ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ
  • ช่วยลดริ้วรอยใต้ตาเล็ก ๆ ให้ใต้ตากลับมาดูชุ่มชื้น มีชีวิตชีวา
 
 

เมโสหน้าใส เหมาะกับใคร ?

  • คนที่มีปัญหาในเรื่องคุณภาพผิว เช่น ผิวหมองคล้ำ รอยดำ 
  • คนที่มีปัญหาสิวเรื้อรัง ผื่นผิวหนัง เช่น สิวอักเสบ รอยแดง
  • คนที่มีปัญหาหน้าหมองคล้ำจากแสงแดด พักผ่อนไม่เพียงพอ
  • คนที่มีปัญหาผิวหมอง ผิวคล้ำ ใช้สกินแคร์หรือครีมแล้วก็ไม่ดีขึ้น
  • คนที่มีปัญหาเรื่องผิว ในระดับเริ่มต้น-ปานกลาง เช่น ผิวหน้ามีริ้วรอย ผิวหน้าแห้ง
  • คนที่ต้องการเพิ่มความกระจ่างใสให้กับใบหน้าแบบเร่งด่วน 
 
 

เมโสหน้าใส VS เลเซอร์หน้าใส ต่างกันอย่างไร ?

เมโสหน้าใส VS เลเซอร์หน้าใส ต่างกันอย่างไร
เมโสหน้าใส (Meso) คือ การฉีดวิตามิน หรือสารบำรุงผิว เข้าไปฟื้นฟูผิวและกระตุ้นเซลล์ ลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ เพื่อช่วยแก้ปัญหารอยสิว ริ้วรอย ผิวติดสารพิษ ฝ้า กระ จุดด่างดำ ให้ผิวดูกระจ่างใส ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ 
ข้อดี ข้อเสีย
  • บำรุงผิวได้ล้ำลึก ถึงผิวชั้นหนังแท้ 
  • เห็นผลไวตั้งแต่ทำครั้งแรก เร็วกว่าการทาครีม 
  • มีหลายสูตร แก้ปัญหาได้หลากหลาย
  • บำรุงผิวแข็งแรง สุขภาพดีอย่างปลอดภัย
  • ราคาไม่แพง
  • ไม่ต้องพักฟื้น
  • แต่งหน้าติดทนขึ้น
  • อยู่ได้ไม่ถาวร
  • ต้องทำอย่างต่อเนื่อง หากต้องการคงสภาพผิว
  • ต้องระมัดระวังในการเลือกคลินิกฉีดเมโสหน้าใส เพราะมีตัวยาเมโสปลอมจำหน่ายเป็นจำนวนมากบนอินเทอร์เน็ต

เมโสหน้าใส กับ เลเซอร์หน้าใส แตกต่างกันอย่างไร
เลเซอร์หน้าใส (Laser) คือ การใช้แสงเลเซอร์รักษาปัญหาผิวชั้นนอกตามปัญหาที่เป็น เช่น หากมีปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ เกิดจากผิวผลิตเม็ดสีออกมามากเกินไป สามารถใช้เลเซอร์ทำลายให้เม็ดสีเหล่านั้นหายไปได้ในผิวชั้นตื้น แต่จะไม่ได้ลงลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ 
ข้อดี ข้อเสีย 
  • แก้ไขปัญหาผิวหน้าคล้ำได้ตรงจุด
  • เห็นผลเร็วมากกว่าการทาครีม
  • แก้ปัญหารอยดำ รอยแดง เฉพาะจุดได้
  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่
  • เครื่องเลเซอร์ (บางเครื่อง) ไม่ทำให้ผิวลอกหรือตกสะเก็ด
  • มีเครื่องเลเซอร์ให้เลือกทำหลายแบบ
  • มีค่าใช้จ่ายในการทำแต่ละครั้งค่อนข้างสูง
  • ต้องทำอย่างต่อเนื่อง ถึงจะเห็นผล
  • ต้องทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง เพื่อเลือกคลื่นพลังงาน ให้ตรงกับปัญหาผิว
  • เจ็บร้อน หรือแสบผิวขณะทำ
  • ผิวลอกตกสะเก็ดหลังการทำ
  • ต้องใช้เวลาพักฟื้น
 

จะเห็นว่า ทั้งเลเซอร์หน้าใส และเมโสหน้าใส มีข้อดี ข้อเสีย แตกต่างกันไป ก่อนจะเลือกทำหัตถการใด ให้คำนึงถึงปัญหาและความต้องการของตัวเองเป็นหลักว่าเหมาะกับการแก้ไขแบบไหน หรือหากไม่แน่ใจ สามารถเข้าไปปรึกษาแพทย์ ก่อนเลือกทำเมโสหน้าใส หรือ เลเซอร์หน้าใส ได้ค่ะ

 
 

เมโสหน้าใส ยี่ห้อไหนดี ?  ราคาเท่าไหร่  ?

ตัวยาที่นำมาใช้สำหรับการฉีดเมโสหน้าใส เพื่อแก้ปัญหาต่าง ๆ บนผิวหน้า จะมีให้เลือกหลายยี่ห้อ หลายสูตร ขึ้นอยู่กับปัญหาและความต้องการที่มีแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล แพทย์จะเป็นผู้ประเมินและเลือกยี่ห้อที่เหมาะสมให้ตามปัญหาและความต้องการ เพื่อให้มีความคุ้มค่า และเห็นผลลัพธ์ที่ดีหลังฉีดเมโสหน้าใส

ตัวยาเมโสหน้าใส ยี่ห้อที่นิยมใช้ในปัจจุบัน
สหน้าใส ยี่ห้อที่นิยมใช้ในปัจจุบัน

1. Rejuran  เมโสหน้าใสยี่ห้อนี้ เป็นสารสกัดที่ได้มาจากชิ้นส่วน DNA Salmon ที่คล้ายกับ DNA มนุษย์ 98% ทำให้เข้ากันได้ดีที่สุดกับผิวหนังของมนุษย์ เมื่อนำมาใช้ฟื้นฟูผิว จะมีประสิทธิภาพอย่างมากในการช่วยให้ผิวแข็งแรง เพิ่มความยืดหยุ่น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ปรับสภาพสีผิวให้ดูฉ่ำวาว อิ่มน้ำ อย่างเร่งด่วน  

เหมาะกับ : คนที่ต้องการให้ผิวดูสุขภาพดี เต่งตึง สดชื่น  ดูกระจ่างใส ฉ่ำวาว และลดเลือนริ้วรอยให้ดูจางลง แบบเร่งด่วน  

ราคาเริ่มต้น  : 9,900.- / 2CC 
https://sv1.picz.in.th/images/2023/05/03/yowV8n.jpg

2. Made Collagen เมโสหน้าใสยี่ห้อนี้ จะเน้นลดสิว ลดผดผื่น ช่วยขับสารพิษที่อยู่ในผิวออกไป และฟื้นฟูให้ผิวแข็งแรง ดูกระจ่างใสขึ้น   

เหมาะกับ : คนที่ต้องการลดสิวอักเสบ ผิวหน้าติดสาร ผิวแพ้ง่าย ต้องการขับสารพิษ และบำรุงผิวให้ดูสุขภาพดีขึ้น   

ราคาเริ่มต้น :  2,500 / ครั้ง | 9,900 / 5 ครั้ง
เมโสหน้าใส ยี่ห้อไหนดี

3. Filorga (Revs/NCFS) เมโสหน้าใสยี่ห้อนี้ จะเน้นในการช่วยบำรุง ฟื้นฟูผิวให้ชุ่มชื้น ขาวใส อิ่มน้ำ  สามารถรักษาหลุมสิวขนาดเล็ก เพิ่มคอลลาเจน และปกป้องเซลล์ผิวจากอนุมูลอิสระ  

เหมาะกับ : คนที่มีปัญหาผิวแห้ง รูขุมขนกว้าง แต่งหน้าไม่ติด มีจุดด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ หน้าหมองคล้ำ หน้าโทรมเพราะพักผ่อนน้อย รวมถึงมีริ้วรอยใต้ตาเล็ก ๆ  

ราคาเริ่มต้น : 6,000 / ครั้ง | 25,000 / 5 ครั้ง

 เมโสหน้าใส ยี่ห้อไหนดีเมโสหน้าใส ยี่ห้อไหนดีเมโสหน้าใส ยี่ห้อไหนดี

4. Tensonez / Neo-Glutanex Glow / Alpha arbutin เมโสหน้าใส 3 ยี่ห้อนี้ จะมีสรรพคุณใกล้เคียงกัน เน้นการบำรุงให้ผิวขาวใส ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ฟื้นฟูให้ผิวแข็งแรง มีความชุ่มชื้น 

เหมาะกับ : คนที่มีปัญหาหน้าโทรม ใต้ตาคล้ำ  มีฝ้า กระ จุดด่างดำ สีผิวไม่เรียบเนียน ต้องการปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอกัน รวมถึงมีรอยสิว   

ราคาเริ่มต้น :  3,500 / ครั้ง | 15,000 / 5 ครั้ง  

 
 

  เมโสหน้าใส กี่วันเห็นผล ?

หลังฉีดเมโสหน้าใส จะเริ่มเห็นผลตั้งแต่ทำครั้งแรกภายใน 3 วันหลังฉีด และเห็นผลอย่างเต็มที่ภายใน 7 - 14 วัน  ผลลัพธ์ที่ได้จะแตกต่างกันไปตามปัญหาและประเภทของผิวหนังของแต่ละบุคคล ในช่วง 1 เดือนแรก แนะนำให้ฉีดอาทิตย์ละ 1 ครั้ง และหลังจากนั้นค่อยฉีดทุก ๆ 2 อาทิตย์ เพื่อให้เห็นผลลัพธ์เร็วขึ้นและคงสภาพผิว

 
 

เมโสหน้าใส อยู่ได้นานแค่ไหน  ?

เมโสหน้าใสอยู่ได้นานประมาณ 1-2 เดือน หากฉีดอย่างต่อเนื่องและมีวิธีการดูแลตัวเองที่ดี  จะช่วยยืดผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานมากยิ่งขึ้น 

 
 

เมโสหน้าใส ใช้กี่ CC ?

เมโสหน้าใส สามารถฉีดได้ตั้งแต่ 4 CC - 10 CC ส่วนใหญ่นิยมฉีดแบบเหมาขวด ขึ้นอยู่กับยี่ห้อตัวยาเมโสที่ใช้ ซึ่งแต่ละยี่ห้อจะมีจำนวน CC ไม่เท่ากัน หรือบางยี่ห้อก็ผสมตัวยาหลายสูตร เช่น มาเด้คอลลาเจน ประกอบด้วย Made 2 CC และ Collagen 2 CC รวม 4 CC

 
 

  เมโสหน้าใส มีเทคนิคการฉีดอย่างไรบ้าง ?

เทคนิคการฉีดเมโสหน้าใส สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 เทคนิค ดังนี้ 
เทคนิคการฉีดเมโสหน้าใสแบบสะกิด

  1. เทคนิคฉีดเมโสสะกิดทั่วหน้า เป็นวิธีการฉีดเมโสแบบเดิม มีวิธีการทำโดยใช้เข็มสะกิดทั่วใบหน้า ปัจจุบันไม่ค่อยนิยมทำเพราะมีผลข้างเคียง หากฉีดไม่สะอาด  มีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายเกิดรอยผื่นแดงหรือรอยช้ำจากเข็ม อย่างไรก็ตาม หลายคลินิกก็ยังคงใช้วิธีการนี้อยู่ ขึ้นอยู่กับความถนัดของแพทย์
 เทคนิคการฉีดเมโสหน้าใส
  1. เทคนิคฉีดเมโสหน้าใส 16 จุด วิธีการนี้นิยมใช้มากในปัจจุบัน มีวิธีการทำโดยใช้เข็มฉีดตัวยาเมโสตามจุดฝังเข็ม 16 จุดทั่วใบหน้า ตามระบบไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลือง เพื่อช่วยให้ตัวยาออกฤทธิ์ได้ดี รวมถึงไปกระตุ้นการทำงานของระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้ผิวหน้าแข็งแรง ดูสุขภาพดี มีความปลอดภัย เป็นแผลน้อยกว่า เจ็บน้อยกว่า และอยู่ได้นานกว่า
 
 

  เมโสหน้าใส อันตรายไหม ?

เมโสหน้าใส ไม่อันตราย เพราะตัวยาที่ใช้ล้วนเป็นส่วนผสมที่มีประโยชน์ต่อผิว เช่น Vitamin A B C E, Transamin, Glutatione, คอลลาเจน และโคเอนไซม์ เป็นสารสกัดที่ได้จากธรรมชาติ หากมีการนำเข้าจากบริษัทตัวแทนจำหน่ายอย่างถูกต้อง ผ่านการรับรองจาก อย. ฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน ถูกสุขอนามัย ก็มีความปลอดภัยสูง ไม่ต้องกังวลในเรื่องผลข้างเคียงอันตรายค่ะ   

ตัวยาเมโสหน้าใสอันตรายที่ห้ามฉีด 

ตัวยาเมโสหน้าใสอันตรายที่ห้ามฉีด

ตัวยาเมโสหน้าใสอันตรายที่ห้ามฉีด คือ ตัวยาเมโสหน้าใสที่ลักลอบขายตามอินเทอร์เน็ต นิยมจำหน่ายผ่านช่องทาง Tiktok ,Facebook เป็นต้น   

ตัวยาพวกนี้มักเป็นยาหิ้ว ยาปลอม ที่ไม่ผ่านอย. มีส่วนผสมของสเตียรอยด์หรือฮอร์โมน   

หากนำมาฉีดผิดวิธี เช่น ซื้อมาฉีดเอง ไม่ว่าจะเป็นการใช้เข็มจิ้มบนใบหน้า หรือใช้ลูกกลิ้งเข็มไมโคร รวมถึง การไปฉีดกับหมอกระเป๋า จะทำให้มีโอกาสเกิดความเสี่ยง ดังนี้   

  • การอักเสบติดเชื้อ ลักษณะอาการคือ หน้าบวมแดงมากยิ่งขึ้น หลังฉีดไปแล้ว 3 วัน
  • การทำให้ผิวบาง เกิดฝ้า ผิวไวต่อแดด ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย 
  • การเกิดมะเร็งผิวหนัง ซึ่งเป็นสิ่งที่ร้ายแรงสุด ถึงแม้ว่าฉีดแรก ๆ จะเข้าใจผิดว่าเห็นผลไว ผิวขาวเนียนนุ่ม แต่เมื่อฉีดไปนาน ๆ จะเกิดผลข้างเคียงตามมา เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนัง
 
 

อาการหลังฉีดเมโสหน้าใส 

อาการหลังฉีดเมโสหน้าใสที่สามารถพบได้ มีดังนี้   
อาการหลังฉีดเมโสหน้าใส

อาการทั่วไปที่พบได้เป็นปกติ : รอยบวมจากเข็มบนใบหน้า ที่สามารถหายไปได้เอง ภายใน 1-3 วัน 
อาการอันตรายหลังฉีดเมโสหน้าใส

อาการอันตราย ต้องรีบพบแพทย์ : รอยผื่นแดง หน้าบวมแดง เกิน 24 ชม. หากมีอาการดังกล่าวหลังฉีดเมโสหน้าใส ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที  

 
 

  เมโสหน้าใส เจ็บไหม ?

ระหว่างฉีดเมโสหน้าใส จะมีความเจ็บ แต่เป็นความเจ็บเพียงเล็กน้อย สามารถทนได้ค่ะ หากกลัวเจ็บมาก ๆ ก่อนฉีดสามารถขอให้เจ้าหน้าที่แปะยาชา หรือฉีดยาชา ให้ก่อนได้ค่ะ   

 
 

  หลังทำเมโสหน้าใส ดูแลตัวเองอย่างไร ?

หลังทำเมโสหน้าใส ดูแลตัวเองอย่างไร

สิ่งที่ควรเลี่ยง หลังฉีดเมโสหน้าใส   

✖ หลีกเลี่ยงการกด นวด ผิว บริเวณที่ฉีดเมโสหน้าใส ในช่วง 1-2 คืนแรกหลังฉีด

✖ หลีกเลี่ยงแสงแดดที่ร้อนจัด หรือการเผชิญกับมลภาวะ เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคือง เกิดรอยแดงบริเวณรอยเข็ม

✖ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสุบบุหรี่ เพราะจะทำให้ผิวเสียความชุ่มชื้น และทำให้ผิวหมองคล้ำเร็ว

✖ งดอาหารหมักดอง ของมัน ของทอด อาหารรสหวานจัด เค็มจัด อาหารที่มีไขมันสูง รวมไปถึงน้ำอัดลม เพราะทำให้อาการอักเสบหายช้าลง

✖ ห้ามสครับผิวหรือทำทรีตเม้นท์  อย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคือง  

สิ่งที่ทำได้ หลังฉีดเมโสหน้าใส  

✔หลังฉีด 2-3 ชั่วโมง สามารถล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า หรือใช้โฟมล้างหน้าที่อ่อนโยนต่อผิวล้างเบา ๆ ได้

✔ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่ง กระจ่างใส สุขภาพดี

✔ทานยาแก้ปวดและประคบเย็นได้ (หากมีอาการปวด บวม ช้ำมาก ) ตามคำแนะนำของแพทย์

 
 

สรุป 

เมโสหน้าใส เป็นการบำรุงผิวอย่างล้ำลึก สามารถช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมาดูสดใส และแก้ปัญหาผิวหน้าได้หลากหลาย เห็นผลลัพธ์รวดเร็ว ภายในเวลาเพียง 2 สัปดาห์ ยิ่งหากมีการทำเมโสหน้าใสอย่างต่อเนื่องผลลัพธ์ผิวสวยที่ได้ก็จะคงอยู่ได้นานยิ่งขึ้น   

อย่างไรก็ตาม ก่อนฉีดควรพิจารณาการเลือกคลินิก เลือกแพทย์ และเลือกใช้ตัวยาเมโสหน้าใสแท้อย่างรอบคอบ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ค่ะ




Create Date : 03 พฤษภาคม 2566
Last Update : 27 กันยายน 2566 15:31:31 น. 0 comments
Counter : 494 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

สมาชิกหมายเลข 6948345
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 6948345's blog to your web]
space
space
space
space
space