เย็นลมพาพัดฉิวริ้วริ้วไหว
หล่นร่วงใบว่อนปลิวลิ่วรายถม
กระดิ่งสายไกวดังฟังระงม
คล้ายเสียงขรมไห้หมองของดวงแด
สถูปใหญ่ผ่านไปไหว้เคารพ
แสงอ่อนพลบมิพรางบังเงาแม้
บันไดโบสถ์เรียบรื่นชื่นตาแล
สงบแท้ยามก้าวเข้าสีมา
ดังองค์พระปฏิมาทอดตาเห็น
พระพักตร์เย็นการุณมองมาหา
พระโอษฐ์แย้มอวบอิ่มยิ้มเมตตา
ใจดั่งว่าพบที่หมายคลายร้อนรน
ทรุดสองเข่ามือพนมก้มลงกราบ
หน้าผากนาบแนบพื้นสะอื้นท้น
อกสะท้อนซ่อนน้ำตาเกินกว่าทน
รินหลั่งล้นเบื้องหน้าพระประธาน
ลูกขอพึ่งพระองค์ทรงโปรดด้วย
โปรดจงช่วยรับฟังคำลูกนำสาร
มิขอใดหนักหนากว่าควรการ
ลูกอัดอั้นร้าวรานนานเหลือเกิน
ลูกทำกรรมมากหรือไรในชาติก่อน
ชาตินี้ย้อนชีวันดั้นระเหิน
สำเร็จหมายช่างยากแท้แก้เผชิญ
ทางลูกเดินดุจลุยไปในไพรพง
ทั้งร้างเปลี่ยวเหลียวไหนไร้ใครข้าง
ชะแง้พลางร้องเพรียกเรียกเสียงหลง
เพียงเดียวดายเดินคว้างกลางดิบดง
เสียงสะท้อนคืนคงเสียงตนดัง
มองดูแสงนำทางก็พรางไม้
ตะวันไกลฟ้ากำหนดหมดสิ้นหวัง
ป่ารกชัฏหาทิศมืดมิดบัง
หวั่นประดังถมใจใกล้ราแรง
ขอยอมรับกรรมไว้ไม่ต่อต้าน
นายเวรท่านฟังหน่อยถ้อยแถลง
จงรับเถิดบุญอุทิศจิตสำแดง
ทุกคราแจ้งมอบให้ไม่ถือเอา
วอนพระท่านทานบุญจารหนุนสู่
เจ้ากรรมรู้รับได้ส่งให้เขา
อโหสิบ้างหนอพอบรรเทา
ทุกข์แลเศร้าแก่ลูกอย่าผูกเวร
ลูกมีเพียงสิบนิ้วมาบูชาท่าน
ไร้เทียนพานธูปดอกไม้นำไหว้เซ่น
ชีวิตลูกเหลือยังหวังประเคน
มอบเพื่อเป็น ข้าแห่งพุทธ ตราบสุดกรรม
*** ขอบคุณภาพจากโลกออนไลน์ค่ะ***