The Reader : เต๋อ - ฉันทวิชช์ ธนะเสวี ความโรเเมนติกบนตัวหนังสือ : แรงบันดาลใจของคนทำหนัง

ที่มา : //www.happyreading.in.th/article/detail.php?id=115
ขอบคุณบทความจาก : รายการ The Library ห้องสมุดจุดฝัน




The Reader : เต๋อ-ฉันทวิชช์ ธนะเสวี ความโรแมนติกบนตัวหนังสือ :แรงบันดาลใจของคนทำหนัง




หนุ่มหล่อหน้าทะเล้น มาดกวน ที่มาเป็น The Reader ให้กับเราในวันนี้ โลดแล่นในวงการแสดงมายาวนาน ตั้งแต่ร่ำเรียนที่นิเทศศาสตร์จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ผ่านงานละครเวที จบมาแล้วก็อยู่เบื้องหลังทั้งเขียนบท ผู้ช่วยผู้กำกับ ตากล้อง และแอ็กติงโค้ช ก่อนจะมาอวดโฉมด้วยผลงานภาพยนต์ชื่อดังมากมาย จนเรื่องล่าสุด กวน มึน โฮ ที่เค้ามีบทบาทสำคัญทั้งในฐานะ นักแสดง และคนเขียนบท เต๋อ ฉันทวิชช์ ธนะเสวี บอกกับเราว่ามีวันนี้ได้ เพราะการอ่านครับ

“ก่อนหน้าที่ผมจะมาเป็นนักแสดง อาชีพของผมก็คือคนเขียนบท ผมรู้สึกว่าการเขียนบทของผมผมมีทักษะนี้สามารถที่จะคิดเรื่องราวนี้ได้ ส่วนหนึ่งถือว่าเป็นส่วนใหญ่เลยแหละมากจากการอ่าน การอ่านมันแบบเหมือนเป็นการสอนให้เราสร้างจินตนาการด้วยวิธีที่ง่ายที่สุด คือเหมือนกับว่าเราอ่านปุ๊ปมันก็มีตัวหนังสือที่บอกว่าเราว่ามีอะไรอยู่ตรงไหน มันจะทำให้เกิดการจินตนาการต่อยอด เราสร้างโลกของเรา เราสนุกไปกับโลกใบนั้น พอมาถึงการเขียนบทปุ๊ป เราไม่มีตัวหนังสือเราต้องสร้างตัวหนังสือตัวนั้นทักษะมันเหมือนกันเราต้องมีจินตนาการก่อน เราต้องมองเห็นภาพก่อนเพื่อจะถ่ายทอดสิ่งนั้นไปสู่คนอ่านได้ ดังนั้นผมจึงรู้สึกว่าการอ่านเป็นอะไรที่สำคัญมากในชีวิตของผม ถ้าผมไม่อ่านผมก็จะไม่มีทักษะทางด้านนี้เลย”

แม้เต๋อจะเริ่มต้นชีวิตในวัยเด็กด้วยการเที่ยวเล่นตามปะสา ไม่สนใจเรื่องการอ่านแม้แต่น้อย แต่ด้วยความที่มีคุณแม่เป็นนักอ่าน และคอยถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆเค้าฟังอย่างสม่ำเสมอ ความรักในตัวหนังสือจึงเริ่มต้นขึ้น ตามมาด้วยจินตนาการ และเมื่อเจอหนังสือเล่มสำคัญ ความใฝ่ฝันว่าวันนึงข้างหน้า เค้าจะต้องเขียนบทภาพยนตร์ให้ได้จึงก่อตัวขึ้น และในที่สุดชื่อของเต๋อ ก็ถูกขึ้นแท่น และบันทึกในเอนด์เครดิต ท้ายภาพยนต์ กวน มึน โฮ ว่าเค้าคือนักแสดงนำ และคนเขียนบท

“ในวัยเด็กก็จะมีความทรงจำเกี่ยวกับการอ่านหนังสือน้อยมาก เพราะเป็นเด็กขี้เกียจอ่านหนังสือ เวลาอยากรู้เรื่องอะไรอยากฟังนิทานก็มักจะให้แม่อ่านให้ฟัง แต่พอผมเริ่มโตขึ้นมาผมเริ่มได้รับรู้การอ่าน จากการอ่านหนังสือง่ายๆ ตอนนั้นจะเป็นคำกลอน และก็มาเป็นนิทานภาพ แล้วก็จนกระทั่งผมได้มาอ่านเรื่องสั้น เรื่องแรกที่ผมได้อ่านเป็นเรื่องของสรจักร ศิริบูรีรักษ์ เรื่องศพใต้เตียง แล้วพอได้อ่านรู้สึกมีการหักมุมมีเรื่องราวที่น่าสนใจทำให้เราวางไม่ลง และหลังจากนั้นก็เริ่มอ่านมาเรื่อย ๆ"

“แต่พอเราอ่านไปสักพักมันก็เหมือนสมองเราเริ่มเรียบเรียงอะไรบางอย่างแล้วมันก็ทำให้เราค่อย ๆ ตามเรื่องไป สร้างจินตนาการมันมีหนังสือเล่มหนึ่งครับซึ่งผมก็เตรียมมาด้วย นั่นก็คือเล่มนี้เอง “สองเราในเกาหลี” เป็นครั้งแรกที่ผมได้อ่านหนังสือบันทึกการเดินทางแบบนี้เป็นเรื่องราวโรแมนติคเรื่องแรกที่ผมอ่าน และมันทำให้ผมรู้สึกว่าบางครั้งผมเป็นคนที่เที่ยวบ่อยนะครับแต่ผมไม่ได้บันทึกอะไรเลย มากสุดคือรูปถ่ายซึ่งก็น้อยมากอยู่ดี พอได้อ่านเรื่องนี้ปุ๊ปเรารู้สึกว่ามันคือเรื่องราว ทุกที่ทุกสถานที่มันมีเรื่องราว การที่เราเดินทางไปที่นั้น เหมือนเราไปสร้างเรื่องราวของเราเองที่นั่นอย่างเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องของความโรแมนติค ซึ่งมันเปลี่ยนชีวิตผมมาก ๆ เป็นครั้งแรกที่ผมอ่านหนังสือแล้วบอกตัวเองว่าเฮ้ย เราจะต้องเขียนบทหนัง แล้วก็กลายเป็นบทหนังของเรื่องกวนมึนโฮมาถึงทุกวันนี้”
ความสำเร็จของเต๋อในวันนี้ เค้าพูดได้เต็มปากเต็มคำว่ามาจากการอ่าน เพราะไม่ว่าคนเราจะประกอบอาชีพอะไร การอ่านจะเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญของเรา จากหนึ่งประสบการณ์ ถูกถ่ายทอดต่อมาเป็นตัวอักษร และอักษรเหล่านี้จะมีอิทธิพลเป็นอย่างยิ่ง ที่จะสร้างฝันให้เป็นจริง

“อ๋อพูดได้เต็มปากเลยครับ อาชีพทุกอาชีพบนโลกใบนี้ล้วนแล้วแต่ใช้การอ่านเท่านั้นไม่ว่าจะเป็นการอ่านในรูปแบบไหน การอ่านบท หรืออ่านอะไรก็ตามแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดจะต้องมีจินตนาการต่อให้เป็นเลข บัญชีตัวเลขเยอะๆ ที่เราต้องอ่านแต่ละตัวมันก็ต้องมีจินตนาการว่าต่อไปจะเป็นอะไร เราจะจัดสรรตรงนี้ไปเป็นยังไง ทุกอย่างมันสร้างจินตนาการได้หมด และการที่ผมเป็นนักแสดงเป็นคนเขียนบท ต่อให้เป็นตากล้องเบื้องหลัง หรืออาจจะไปขายเหล็กอะไรก็ตาม การอ่านก็ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆสำหรับผมครับ”
วันนี้ เต๋อ ฉันทวิชช์ ธนะเสวี ไม่ได้แค่ฝากผลงานไว้ให้ทุกคนแค่ภาพยนตร์เรื่อง กวน มึนโฮ ให้กับคุณผู้ชมเท่านั้นครับ แต่ the reader คนเก่งของเรายังฝากมุมมองการอ่านที่น่าสนใจ ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวไกล เรียกได้ว่าอยากรู้อะไรเพียงแค่สัมผัสแค่ปลายนิ้วได้ และเค้าหวังว่าการอ่านจะทำให้ทุกคนๆได้ดำเนินชีวิตอย่างเต็มภาคภูมิ คว้าความฝันของแต่ละคนมาให้ได้

“ในปัจจุบันนี้นะครับมันมีเยอะ มันมีอินเตอร์เน็ต มีคอมพิวเตอร์ มีเฟซบุ๊ค มีทวิตเตอร์ มีอะไรเยอะแยะ ไปหมดมันเลยทำให้บางคร้งเราลืมสิ่งที่สำคัญที่สุดไป เพราะว่าการที่ความรู้ต่างๆ ประสบการณ์ต่าง ๆ จากอดีตมันถูกถ่ายทอดจนถึงปัจจุบัน และเกิดการต่อยอดสร้างเป็นเทคโนโลยี ก่อนที่จะเกิดเป็นสิ่งนั้น มันล้วนมากจากการอ่านก่อนผมว่านะ มันเหมือนว่าการอ่านเป็นการถ่ายทอดสิ่งหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งด้วยวิธีการที่ง่ายที่สุด ดังนั้นผมว่าหนังสือทุกเล่มที่ดีหรือไม่ดึก็ตามมันล้วนมีคุณค่าของมันเองมันสอนอะไรบางอย่างกับเรา แล้วหนังสือเป็นทรัพยากรความรู้ที่ไม่มีวันตายไป เราเก็บหนังสือไว้ตลอด อ่านเสร็จเราสามารถถ่ายทอดให้คนต่อไปได้ ดังนั้นอยากให้น้องๆ หันมารักการอ่าน เพราะการอ่านจะทำให้น้อง ๆ เก่งขึ้น ฉลาดขึ้นและที่สำคัญจะทำให้น้องๆ เป็นคนที่ได้รับการยอมรับ”


สองเงาในเกาหลี แรงบันดาลใจของคนทำหนัง




ถ้าเงาของเราเจอกันแล้ว เงาของคุณจะจำเงาของฉันได้มั้ย เสี้ยวหนึ่งจาก สองเงาในเกาหลี ที่สร้างความประทับใจให้กับ เต๋อ ฉันทวิช the reader ของเรา จนต้องหยิบปากกามาเขียนบทภาพยนตร์เรื่องดัง กวนมึน โฮ ที่เขา รับบทเป็นทั้งนักแสดงนำ และ คนเขียนบท

สองเงาในเกาหลี เป็นเบสต์เซลเลอร์ อันดับต้นๆของ 'ทรงกลด' บางยี่ขัน นักเขียนชื่อดัง นี่คือเรื่องจริงของเขาในวันที่ เลือกเดินทางไปเกาหลีเพียงคนเดียว ในขณะที่ผู้หญิงอีกคนก็กำลังเดินทางไปที่นั่นคนเดียวเช่นกัน พวกเขาเลือกพักเกสต์เฮ้าส์เดียวกัน และเลือกโปรแกรมทัวร์เหมือนกัน แล้วความบังเอิญก็ทำให้เงาของสองหนุ่มสาวชาวไทยซึ่งต่างที่มาที่ไป มาทาบทับอยู่ในแผ่นดินเกาหลีพร้อมกัน นี่คือจุดเริ่มต้นของการเดินทางที่ช่างโรแมนติก และทำให้บางอย่างกลับมีความหมายขึ้นมาอย่างที่หาไม่ได้จากการเดินทางเพียงคนเดียว

หนังสือเล่มนี้เป็นแรงดึงดูดให้หนุ่มสาวช่างฝัน มากมาย อยากเดินทาง แบกเป้ไปย่ำเกาหลี ให้ได้สักครั้งในชีวิต








한국안의 두 개의 그림자 สองเงาในเกาหลี ผู้เขียน ทรงกลด บางยี่ขัน

ชอบหนังสือเล่มนี้มาก เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง ยิ้มได้แบบอุ่นๆในหัวใจ "คนที่เหมือนกันจะถูกดึงดูดเข้าหากัน "

พอดูหนัง กวน มึน โฮ ได้อีกความรู้สึกนึง "บางอย่างก็ยากเกินอธิบาย"

Create Date : 18 มีนาคม 2554 Last Update : 18 มีนาคม 2554 21:52:29 น. Counter : 675 Pageviews.		0 comments
Share Tweet