ย้อนไปเมื่อตอนที่เจ้าของบล็อกยังเป็นเด็ก การเรียนภาษาอังกฤษคือการเรียนไวยากรณ์เสียเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งต้องบอกว่ามันผิดธรรมชาติของการเรียนรู้ภาษาที่เราฟังเสียงก่อนและแปลออกมาเป็นความหมาย หลังจากนั้นเราจึงเริ่มพูดแล้วจึงจะเขียน เจ้าของบล็อกเป็นเด็กที่ไม่มีใครดูแล จึงขึ้น ป.1 เมื่ออายุห้าขวบ เรียนงูๆปลาๆไป บทเรียนเล่มแรกคือ เล่มที่มีป้ากะปู่กู้อีจู้ ถือว่าเป็นบทเรียนภาษาไทยเล่มสุดท้ายก่อนเปลี่ยนมาเป็น มานี มานะ วีระ ปิติ ชูใจ อย่างไรก็ยังจำได้ว่าครูสอนให้อ่าน กอ อา กา แล้วค่อยพัฒนาเป็นสระอื่นๆ ในขณะที่ภาษาอังกฤษได้เรียนประโยคที่จำได้แม่นคือ This is a book. และตามมาด้วย This is a pen. These are pencils. Those are rulers. พร้อมหลักการใช้ this that these และ those การใช้ a แปลว่าหนึ่ง นำหน้าคำนาม คำนามนับได้ นับไม่ได้ วุ่นวายไปหมด นี่แค่ ป. 1 พอจบ ป.6 ครูที่สอนก็ฝังแกรมม่าให้ข้าพเจ้าแบบแน่นปึ๊ก (สำหรับเด็ก) ขึ้นมัธยมครูก็เน้นเรื่องหลักการใช้แกรมม่า (อีกแล้ว) มีสื่อสารนิดหน่อย ข้าพเจ้าได้รู้จัก Hi Hello /Nice to meet you.Good bye เพิ่มขึ้น
ปัญหามันมีอยู่ว่านึกคำศัพท์ที่พูดไม่ค่อยออก เอาล่ะ ลองดูสมมุติ นึกถึงคำว่า ครก ภาษาอังกฤษเรียกว่าอะไร คนไทยส่วนใหญ่ไม่ได้เรียนอินเตอร์หรือจบนอกต้องนึกนานกว่า สามสิบวินาทีแน่ๆ ก็ฝรั่งไม่ใช้ ครก นี่นา เออ ลองไปเปิดดิกชันนารีดูได้คำว่า mortar คนที่รู้ก็ไม่ค่อยจะมี นี่แค่คำนามแล้วถ้ามันเป็นประโยคที่มีคำหลายชนิดล่ะ เช่น ฉันหงุดหงิดมากเลยเอาดินสอฉันไปสองอัน คำแรกที่ต้องคิดหนักละคือ หงุดหงิด แค่คิดก็ยากแล้ว แกรมม่าท่าทางจะช่วยได้ยากนะงานนี้ จริงๆแล้วไม่ต้องถึงกับ หงุดหงิด ตรงตัวเป๊ะขนาดนั้น เราอาจใช้ unhappy angry คำที่ง่ายที่สุดคือ not fine /not o.k คนที่ไม่ได้มีประสบการณ์กับอังกฤษมากนักก็เอาอีกแล้ว สมมุติ ฉันหงุดหงิด คือ I'm not o.k แล้วมากเลย อีกล่ะ ก็คงจะเป็น very เอาดินสอฉันไปสองอัน take pencils i two each ตลกมากเลยคะ แต่ฝรั่งฟังแล้วรู้เรื่องนะ (ลองมาแล้ว) มาดูพี่กูเกิ้ลแปลให้เราบ้าง I very edgy เลย me to take two a pencil. ตลกพอๆกัน เจ้าของบล็อกเลยตัดสินใจทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่อง เทคนิคการพูดภาษาอังกฤษ ได้เทคนิคมานิดๆหน่อยๆ และอาจารย์ย้ำแล้วย้ำอีกว่า ให้เอาไปเผยแพร่บ้าง แต่นี่ก็สิบกว่าปีแล้ว ข้าพเจ้ายังมิได้เผยแพร่เป็นจริงเป็นจัง สำหรับข้าพเจ้าเองคิดว่ามันเวริ์คกว่าเมื่อก่อนที่ยังไม่ได้ใช้เทคนิคเหล่านี้คะ อ้อ แต่ขอบอกว่าเทคนิคเหล่านี้เหมาะกับคนไทยที่ไม่ได้ไปอยู่เมืองนอกนะคะ เพราะถ้าอยู่นอกก็คงจะคล่องปรื๋อไปเอง และสำนวนพูดก็เป็นแบบเอาตัวรอด ไว้เดี๋ยวมาเขียนให้อ่านคะ และยังอยากเขียนเทคนิคการใช้กูเกิ้ลแปลให้เป็นภาษาเราเองด้วย คือ ให้มันถูกกกว่าเดิม และใช้งานได้ในระดับเบื้องต้น ต่อบล็อกหน้ากันคะ ออ ลืมคะลืม เจ้าของบล็อกจะใช้ประโยค I'am very frustrated because he took 2 pencils of mine.คะ ชอบพูดยาวเฟื้อยเพราะติดประโยคที่อาจารย์สอนเน้นแกรมม่าคะ ฝรั่งบอกพอได้คะ
แนะนำให้ใช้ ดิกชันนารี่ อังกฤษ-อังกฤษ จะทำให้ทราบศัพท์เพิ่มขึ้น ใช้ อังกฤษ-ไทย ต่อเมื่อไม่รู้จริงๆว่าความหมายคืออะไร ดูหนังอย่าอ่าน subtitle ฟังเอาค่ะรู้บ้างไม่รู้บ้างช่างมันแล้วก็หัดสังเกตุสำเนียงและการออกเสียงด้วยค่ะ ภาษาอังกฤษแบบอังกฤษกับอเมริกันก็พูดต่างกันออกไปอีก เวลาอยู่คนเดียวที่บ้านก็หัดอ่านออกมาดังๆ ถ้ามีเทปก็อัดไว้แล้วฟังดูว่ามันพอจะเข้าท่าไหม ทุกอย่างอยู่ที่การฝึกฝนค่ะ ให้คิดดูว่าถ้าคนต่างชาติที่อยู่ในเมืองไทยยังพูดภาษาไทยได้ซึ่งเราเองเป็นคนไทยยังคิดว่ามันยาก แล้วภาษาอังกฤษที่เรียนมาตั้งแต่เล็กๆ ทำไมเราพูดไม่ได้
นี่เป็นเพียงข้อแนะนำเล็กๆน้อยๆที่จะให้ได้ ขอให้โชคดีและประสพความสำเร็จค่ะ