เมนูมั่ว ๆ ::: ตะลิงปลิง...บทเรียนจากอดีต
มีกะปิหวานอยู่ก็เลยอยากกินมะยม เพราะเริ่มเบื่อรสเปรี้ยวของมะม่วงเบาแล้ว อยากได้รสเปรี้ยว ๆ หอม ๆ แบบมะยมมาเปลี่ยนอารมณ์บ้างก็เลยไปตลาด ทั้งซุปเปอร์มาเกตและตลาดสดไม่มีมะยมขาย แม่ค้าที่ตลาดสดก็เลยยัดเยียด "ตะลิงปลิง" มาให้ บอกว่าเปรี้ยวเหมือนกัน ประมาณว่าตะลิงปลิงกับมะยมนี่พี่น้องกันเลย กลับถึงบ้านจัดการล้างแล้วเอาใส่กล่องแช่ตู้เย็นอย่างดี บ่าย ๆ นั่งดูซีรีส์เกาหลี "ศึกชิงบัลลังก์จอมนาง" ก็เลยเอาออกมาชิม ลองกัดกินเปล่า ๆ แบบไม่จิ้มกะปิหวานก่อนเพื่อรับรสชาติที่แท้จริง มันเปรี้ยวมาก...แล้วมีกลิ่นเฉพาะตัวแบบตะลิงปลิง คำที่สอง...จิ้มลงไปในกะปิหวาน แอบหวังนิด ๆ ว่ากลิ่นกะปิจะทำให้อร่อยขึ้น รสอร่อยขึ้น...แต่กลิ่นก็ยังไม่ได้...พอกลิ่นไม้คุ้นเคย ก็เลยหมดอารมณ์กินต่อ เอากลับคืนไปแช่ตู้เย็นอย่างเดิม...จนกระทั่งเย็น
เย็นนี้ผัดแขนงใส่น้ำมันงา ก็แขนงเหลือ ๆ นั่นล่ะ ยังไม่หมดสักที แต่...แต่...ช้า...แต่...ผัดแขนงน้ำมันงาไม่ใช่ประเด็นของเรา ประเด็นของเราอยู่ที่ "ต้มข่าไก่" ที่ทำไว้ตั้งแต่เช้านั่นต่างหาก เคยเห็นแม่ทุบพริกขี้หนูบีบมะนาวเทน้ำปลาลงในชามใบใหญ่แล้วค่อยตักต้มข่าไก่ใส่ลงไป กลายเป็นต้มยำข่าไก่รสแซ่บ เรียกความชุ่มคอได้ดีนักกับการปากเปียกปากแฉะบ่นลูกสาว ถ้าเราเอา "ตะลิงปลิง" ที่ไม่อยากกินใส่ลงในต้มข่าไก่ ต้มข่าไก่ของเราคงมีรสเปรี้ยว ๆ หอม ๆ ของตะลิงปลิงเป็นแม่นมั่น ว่าแล้วก็จัดการใช้มีดเล็กหั่นครึ่งตะลิงปลิงตามแนวยาว ของลูกขนาดเท่าหัวแม่มือ ความเปรี้ยวจะได้กระจายออกมาได้อย่างรวดเร็ว แล้วก็รอจนกระทั่งน้ำแกงเดือนอีกครั้ง ถึงตักชิม รสเปรี้ยวของตะลิงปลิงออกมาผสมกับรสอร่อยของต้มข่าไก่ได้อย่างเนียนนวล เหนือกว่าอื่นใดคือความชื่นใจในรสชาติแปลกใหม่ที่ค้นพบ
แล้ว "ตะลิงปลิง" เกี่ยวอะไรกับบทเรียนในอดีต บทเรียนที่ ๑ การเรียนรู้ที่ผ่านมาเรื่องต้มข่าไก่ของแม่ ทำให้เราไม่รีรอที่จะลองเอาตะลิงปลิงใส่ลงไปในหม้อแกง เราไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า...ประสบการณ์การเรียนรู้ที่ผ่านมา คือส่วนสำคัญในการช่วยให้เราตัดสินใจอะไรสักอย่าง เหมือนอย่างเราช่วงนี้ที่คุณชายกลับบ้านที่นครศรีธรรมราช บ้านคุณชายที่พรหมคีรีแทบไม่มีสัญญาณโทรศัพท์มือถือ สิ่งที่ตามมาจากนั้นคือการงอนเล็ก ๆ งอนตลอด งอนจนกลายเป็นทะเลาะกัน ด้วยข้อหาว่า "ไม่เอาใจใส่ความรู้สึก" ทั้ง ๆ ที่เค้าก็ยังโทรมาทุกวัน วันละ ๓ - ๔ รอบ เป็นปกติ เพียงแต่อาจไม่ตรงเป๊ะนัก เช่นเคยโทรมาเที่ยง ก็โทรมาตอนบ่ายสอง เพราะทำงานในสวนจนลืมเวลา หิวข้าวนั่นแหล่ะเลยเข้าบ้านและถึงได้โทรหา แต่เราก็ยังงอน...ไม่รู้งอนอะไรกันนักหนา หลาย ๆ วันที่ผ่านมา พอได้อยู่นิ่ง ๆ เงียบ ๆ เลยได้คิดว่า การงอนเวลาที่คุณชายไปอยู่ไกล ๆ นั้น สัมพันธ์โดยตรงกับบางเรื่องราวในอดีตของเราเอง การเลิกลากับคนรักเก่าเมื่อนานแสนนานมานั้น เรายังคงเก็บประสบการณ์ร้าย ๆ ที่ผ่านมา มาตัดสินผู้ชายอีกคน ...มาทำร้ายคนรักในปัจจุบันของเรา
พอระลึกรู้ตัวขนาดนั้น...ฉันเลยนิ่งมากขึ้น...สงบมากขึ้น...เข้าใจอะไรต่ออะไรได้มากขึ้น
แค่เพียง "ระลึกรู้" เท่านั้น เราก็จะไม่เจ็บปวดกับสิ่งที่ดำรงอยู่เนิ่นนานนัก!!!
Create Date : 01 ธันวาคม 2554 |
|
8 comments |
Last Update : 1 ธันวาคม 2554 21:03:14 น. |
Counter : 1069 Pageviews. |
|
|
|
ใน FB ไม่ค่อยได้พบเจอสำนวนแบบนี้
ยินดีที่ได้อ่านอีกค่ะ
B