|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
บทที่ 2.
...ชื่อของทอล์คโชว์ กรุงไม่แตก ก็เลี้ยงไม่โต ต้องการจะบอกอะไรครับ เหมือนไม่เจ็บ ก็ไม่โต อย่างนั้นหรือเปล่าครับ ?
จะแปลอย่างนั้นก็ได้ครับ แต่วลีที่ว่า ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต หมายถึง พิการ นะครับ สังคมไทยพิการเพราะเราคิดว่าเราทำได้อย่างซีกโลกหนาวครับ ลอกทุกอย่างของเค้ามา รวมทั้งระบอบการปกครอง โดยลืมคิดไปว่าไม่มีนวัตกรรมของเราที่เค้าซื้อไปใช้เลย มีแต่นวัตกรรมของเค้าที่เราซื้อมาใช้ เพราะเราไม่มีนวัตกรรมไงครับ สิ่งของเครื่องใช้ในการอำนวยความสะดวกของชีวิตประจำวันประดิษฐ์คิดค้นโดย คนซีกโลกหนาวแทบทั้งหมด เพราะเราไม่กล้าคิด เรากลัวคนที่คิดไม่ออกจะทักท้วงเรา เพราะคนที่คิดไม่ออกรู้ดีว่าถ้าทักท้วงแล้วจะดูเหมือนชนะในสายตาคนรอบๆ ซึ่งก็คิดตื้นแบบเดียวกัน จึงไม่มีกระบวนการคิดเกิดขึ้นในแถบซีกโลกร้อนที่ช่างทักท้วงครับ
มหาบุรุษอย่าง เจ้าชายสิทธัตถะ และ มหาตมะคานธี เท่านั้นครับ ที่ฝ่าวงล้อมของนักทักท้วงได้สำเร็จ ด้วยจิตที่มั่นคง การทักท้วงโดยที่คิดเองก็ไม่ออกเป็นวัฒนธรรมซีกโลกร้อนทีอยู่ในสันดาน แก้ไม่ได้ครับ ทำให้เป็นประชาธิปไตยอย่างซีกโลกหนาวไม่ได้สักประเทศเดียว แต่ก็อยากจะเป็นประชาธิปไตยเพราะหลงตนกันครับ เหมือนการย้อมสีผมแล้วเป็นฝรั่ง
สังคมที่พิการเกิดจาก การแก้ปัญหาด้วยอารมณ์ ไม่นิยมเหตุผล แต่พี่เห็นพันธมิตรใช้เหตุผลแล้วก็ไม่ได้ผลนะครับ เพราะต่อให้ใช้เหตุผลรัฐบาลหน้าด้านก็ไม่ลาออกครับ เพราะรากหญ้าเลือกเค้ามาด้วยเสียงที่มากกว่าบัณฑิต ซึ่งเราก็เถียงระบอบไม่ได้ เพราะบัณฑิต 14 ตุลาเอาอำนาจ การตัดสินใจในเรื่องบ้านเมืองไปยัดให้รากหญ้า ซึงพวกเค้าไม่อยากได้ และ เล่นไม่ถนัด
แต่พี่ว่าพวกเค้าเล่นถูกแล้วนะ เพราะเค้าเลือกคนที่ให้เงินเค้า เพื่อตอบแทนบุญคุณ ซึ่งเป็นการกระทำที่ถูกต้องในสายตาพวกเค้าเอง คือ การมีกตเวทิตาครับ รากหญ้าหัวเราะเยาะพวกเราที่แห่กันไปเลือกพรรคนั้นพรรคนี้โดย ไม่ได้อะไรตอบแทนเลย พวกเราก็ดูโง่ในสายตาพวกเค้านะครับ
การโกงกินไม่ใช่สิ่งที่ผิดในสายตารากหญ้าครับ เพราะรอบหมู่บ้านเค้ามีแต่การโกงกินโดยผู้มีอำนาจมีฐานะ และมีคนยกย่องด้วยเพราะรวยนี่ เป็นที่พึ่งของทั้งหมู่บ้าน กลายเป็นเทพไปเลย แม้จะโกงมาก็ไม่ว่าเพราะทุกคนที่นั่นโกงแล้วได้ดีทั้งนั้น ทุกห้องแถวทั้งในกรุงและบ้านนอกก็ทำอาชีพซื้อถูกมาขายแพงโดยไม่เสียภาษีทั้งสิ้น ก็คือการโกงดีๆนี่เอง ไม่เห็นตำรวจจับนี่ เราเรียกร้องให้อุดหนุนร้านโชห่วยที่ไม่เสียภาษี และขับไล่ แมคโคร โลตัส คาฟู ที่เสียภาษี ทั้งๆที่ร้านโชห่วยก็เป็นของคนต่างด้าวเหมือนกัน บางร้านไม่พูดไทยด้วยซ้ำ เราเห็นว่าผิดแต่รากหญ้าเห็นว่าไม่ผิด เพราะเราดันยอมให้พวกที่คิดไม่เหมือนพวกเรามีสิทธิเลือกคนมาปกครองเราไงครับ เราต่างหากครับที่เป็นฝ่ายที่ทำผิดมาตลอด เรื่องอย่างนี้คนที่คิดได้เท่านั้นที่จะรู้ บางคนคิดไม่ได้ครับ คิดแล้วปวดหัวสลบเหมือดคาหลังควาย
ความไม่กล้าคิดทำให้ทุกสังคมพิการครับ สังคมที่พิการจะล่มแล้วล่มอีก ลุกกลับขึ้นมาได้ก็ป้อแป้ เดี๋ยวก็ล่มอีก โยนกก็ล่ม เชียงแสนก็ล่ม ล้านนาก็ล่ม ทวาราวดีก็ล่ม ศรีวิชัยก็ล่ม หริภุญชัยก็ล่ม สุโขทัยก็ล่ม อยุธยาก็ล่ม ธนบุรีก็ล่ม นี่ยังไม่รวม อ้ายลาว น่านจ้าว นะครับ เพราะนักวิชาการหลัง 14 ตุลาบอกว่า ไทยไม่ได้มาจาก อ้ายลาว น่านจ้าว เนื่องจากไม่ต้องการให้คนไทยคิดว่าเราโดนจีนรุกราน เพราะพวกเค้ากำลังจะเอาลูกจีนเข้าสภาปกครองคนไทย เราจึงเคยมีประธานสภาที่พูดไทยไม่ชัดมากันแล้ว หัวหน้าพรรคก็มาจากแซ่แทบทั้งนั้น พวกเขามาจากไหน ใยจึงมาปรารถนาดีต่อแผ่นดินที่ไม่ใช่ของบรรพบุรุษตน ช่างประหลาดเหลือล้ำ แวะมาปรารถนาดีต่อแผ่นดิน 4 ปีก็ดันมีคนลงคะแนนให้ เรียกว่า พิการหมู่ ครับ
ถึงเวลาต้องคิดระบอบใหม่กันแล้วครับ ถ้าไม่อยากให้อาณาจักรรัตนโกสินทร์ล่มอีก ถ้าคิดไม่ออกจงรู้จักฟังนะครับ ฟังแล้วก็ไม่ต้องคิดด้วยครับ เพราะเค้าคิดมาแล้วจะมาคิดทับอีกทำไม ช่วยกันคิดของใหม่ซิ่ครับ มาคิดทับกันอยู่นั่น คนไทยถนัดนักเรื่องคิดทับคนอื่น ฝรั่งเรียก ขโมยซีน ไทยเรียกว่า ไทยมุง หรือ รุมสกรัม หรือ หมาหมู่ นั่นเองครับ
Create Date : 22 ตุลาคม 2551 |
Last Update : 24 ตุลาคม 2551 11:13:32 น. |
|
0 comments
|
Counter : 182 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
Color Codes... Blog Codes...
"สัตว์ทั้งหลายย่อมเข้ากันได้โดยธาตุ คนที่มีศรัทธาย่อมเข้าได้กับคนที่ศรัทธา คนมีใจละอายบาปย่อมเข้ากันได้กับคนละอายบาป คนมีสติย่อมเข้ากันได้กับคนมีสติ คนมีปัญญาย่อมเข้ากันได้กับคนมีปัญญา คนมีอัธยาศัยดีย่อมเข้ากันได้กับคนมีอัธยาศัยดี ผู้มีอัธยาศัยเลวย่อมเข้ากันได้กับผู้มีอัธยาศัยเลว แม้ในอดีตนานไกล แม้ในอนาคตนานไกล และในปัจจุบันกาลก็เป็นอย่างนี้"
................. พระพุทธเจ้าสอนไว้อย่างนั้น
|
|
|
|
|
|
|